เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกค่ะ ผิดพลาดประการใดช่วยแนะนำด้วยคร้าา
โดยขอเริ่มจากทริปประทับใจที่เพิ่งผ่านมานะคะ
ก่อนอื่นเรากับเพื่อนร่วมทริปครั้งนี้ วางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะไปสังขละบุรี ช่วงวันหยุดยาว เข้าพรรษา ค่ะ
เนื่องจาก พวกเราต้องทำงาน และหาวันหยุดยาก พวกเราเลยจัดการ จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 2 เดือน 555+ (หาดใหญ่ - กรุงเทพ)
ได้มาในราคา 600 กว่าบาท ไปกลับก็ประมาณ 1,200 ถูกกว่ารถทัวร์ อีกอ่ะแก... ไม่รอช้าค่ะ รีบจองตั๋วกับเพื่อนสนิทอีกคนทันที อิอิ (เพื่อนสนิทคนนี้ นางไปไหนไปกันค่ะ ไม่เคยปฏิเสธ แม้จะลางานบ่อย จนเจ้านายจะไล่ออกแล้วก็ตาม นางตามเราไปทุกทริปคร่ะ)
ปล.เจ้าของกระทู้ เป็นคนหาดใหญ่ คร้า ด้วยระยะทางที่ไกล การเดินทางครั้งนี้เลยต้องวางแผนซักนิด ^^ พอถึง กทม.ก็ค่อยว่ากันอีกที
เริ่มต้นการเดินทางของพวกเรา !! ไปกันเลยยย .. ลุยยย..
วันที่ 1 ของการเดินทาง ... เวลา 6 โมงเช้า ( 30 กรกฎาคม 2558 ตรงกับวัน อาสาฬหบูชา)
เราออกเดินทาง จาก สถานีรถไฟธนบุรี ตามแผน นั่งรถไฟฟรี มุ่งหน้า สถานีน้ำตก กาญจนบุรี เพื่อผ่านเส้นทางรถไฟสายมรณะ ..แต่...
รถไฟปิดปรับปรุงเส้นทางคร้าาา ... เอาไงละค๊ะ งง สิค๊ะทีนี้ 555 อ่านรีวิวในพันทิพมา เค้าไปกันแบบชิคๆคูลๆ แบบนี้นี่แก!!! ผิดแผนแบบนี้ ชั้นไปไม่ถูก..
โชคยังเข้าข้างพวกเราคร้าาา พี่ที่สถานีรถไฟ บอกให้เราไปลงที่ สถานีบ้านโป่ง ราชบุรี ได้ แล้วค่อยนั่งรถต่อไปเมืองกาญ
(เอาว๊า ..ไปก็ไป .. หลงก็ช่างมัน..)
คนเยอะมาก..แย่งกันขึ้นรถไฟฟรี ...
เพื่อนมันก็ บ่น ตลอดทางค่ะ ...ทำไมแกต้องมานั่งรถไฟด้วยเนียะ... -.- เลยตอบมันไปว่า ไม่นั่งรถไฟไม่ได้ฟิวววว แบบนี้นะแก 555+
9.30 น. เรามาถึง สถานีบ้านโป่งค่ะ ช้ากว่าเวลาที่กำหนด เกือบครึ่ง ชม. (ไปทางไหนต่อแก!! ... ถามเพื่อน มันบอก ก็มาด้วยกัน ชั้นจะรู้ได้ไง!!)
เพื่อนอีกคนเลยไปถามคนแถวนั้น เค้าบอกว่าให้พวกเราเดินไปขึ้นรถที่ หอนาฬิกา ค่ะ อีกประมาณ 500 ม. (จากที่เดินมาเราว่าประมาณ 1 กิโลค่ะ 555)
หลังจากเราเดินไปขึ้นรถ เมล์ ราชบุรี - เมืองกาญ ใช้เวลาเดินทางจากบ้านโป่งไม่นาน ก็ถึง บขส.กาญจนบุรี ประมาณ เกือบ เที่ยงพอดี
และ!!!! โชคเข้าข้างพวกเราอีกแล้ว เราไปทัน บัสแดง (ในตำนาน) เที่ยวสุดท้ายที่จะเดินทางไปสังขละพอดี 12.30 น.
ค่าตั๋วรถ 120 บาท ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง แม่จ้าววววว (รวมกับเมื่อเช้า เป็น 12 ชม. กทม.-สังขละบุรี)
การเดินทางครั้งนี้ มัน...avenger จริงๆนะแก
และแล้ว.... คนในรถก็ทยอยลงกันไปเรื่อยๆระหว่างทาง จนมาถึง อ.ทองผาภูมิ (จุดพักรถ) เหลือแค่ กลุ่มพวกเรา 4 คน ฝรั่ง 1 คน และพี่กระเป๋ารถเมล์กับคนขับ คร้าา
พี่กระเป๋ารถเมล์ อัธยาศัยดีมากค่ะ ชวนคุยตลอดทาง พี่เค้าถามพวกเราว่า : คิดไง นั่งรถแดงไปสังขละ ฮ่าๆ
พวกเราเลยตอบไปว่า : ถ้าไม่นั่งรถแดงก็ไม่ได้ฟิวววสังขละ ดิพี่ 555+
ปล. แนะนำสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปสังขละ ให้พกบัตรปชช. ไปด้วยนะคะ เพราะมีด่านตรวจ(ต่างด้าว) ตลอดทาง อิอิ
จุดพักรถ ทองผาภูมิ ..ใกล้ๆกันมี พระองค์ใหญ่ พวกเราจึงเดินไปไหว้ และถ่ายรูปกันค่ะ
พวกเรา นั่งรถแดง (ในตำนาน) ต่อไปอีก 60 กม. (แต่ใช้เวลานานมาก เกือบ 4 ชม. เพราะขึ้นเขา)
และแล้ววว... พวกเราก็มาถึงสังขละบุรี นั่งรถขึ้นเขาเกือบ6ชม. เจอบ้านหลังเล็กๆกลางน้ำในหุบเขา
อารมณ์ตอนนั้นโคตรดีใจเลยย หายเหนื่อยทันที
ต่อไปนี้ ...จะเป็นการรีวิว สังขละ อย่างเต็มรูปแบบ ในแบบฉบับของเราแระน๊าา อิอิ
เรามาถึง สังขละ ประมาณ 6 โมงเย็น ... และนั่งมอไซ รับจ้างเพื่อไปยังที่พักที่เราได้ติดต่อจองไว้ ล่วงหน้า
(เนื่องจากวันหยุดพวกเราไม่อยาก walk in เพราะที่อ่านรีวิวมาที่พักจะเต็มหมด)
ที่พักเรา ชื่อว่า Coffee Berry (คอฟฟี่เบอร์รี่ สังขละบุรี)
ราคาที่พัก 800 ถ้าช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ราคาอยู่ที่ คืนละ 1,000 บาท
ที่พักน่ารักสะดวกสบาย ใกล้สะพานมอญ ตลาดสังขละบุรี มี Wifi ให้ฟรีด้วย
ห้องน้ำเป็นแบบเปิดหลังคาได้ สัมผัสธรรมชาติสุดๆ
เราติดต่อที่พัก จากทาง FB ค่ะ :
https://www.facebook.com/Coffee-Berry-Sangklaburi-204531416241965/timeline/
วันที่ 2 @สังขละบุรี
ไปแว๊นส์ ในสังขละ กันเถอะ ...
เริ่มต้นวันใหม่ เช้าวันเข้าพรรษา เราเริ่มต้นลุยสังขละ ด้วยการเช่า รถมอไซ วันละ 300 บาท
(ปกติ วันละ200 แต่ด้วยที่เป็นวันหยุดยาว รถที่จะเช่าจึงหมด !! ทำไงละ ตามแผนมันต้องแว๊นส์มอไซนะ อิอิ
พวกเราจึงติดต่อ มอไซรับจ้างที่มาส่งเราเมื่อวาน 55+ ขอเช่ารถมอไซพี่เค้าซะเลย ตกลงราคากัน เสร็จ ก็ออกไปสัมผัส วิถีมอญ กันเล๊ยยย)
ภาพแรก ที่พวกเราเห็น สังขละ มันสวยมากเลยยแก ... คุ้มค่ากับที่นั่งรถเมื่อยตูดมาตั้งนาน
+++Backpack .. สังขละบุรี .. เสน่ห์เมืองมอญ+++
โดยขอเริ่มจากทริปประทับใจที่เพิ่งผ่านมานะคะ
ก่อนอื่นเรากับเพื่อนร่วมทริปครั้งนี้ วางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะไปสังขละบุรี ช่วงวันหยุดยาว เข้าพรรษา ค่ะ
เนื่องจาก พวกเราต้องทำงาน และหาวันหยุดยาก พวกเราเลยจัดการ จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 2 เดือน 555+ (หาดใหญ่ - กรุงเทพ)
ได้มาในราคา 600 กว่าบาท ไปกลับก็ประมาณ 1,200 ถูกกว่ารถทัวร์ อีกอ่ะแก... ไม่รอช้าค่ะ รีบจองตั๋วกับเพื่อนสนิทอีกคนทันที อิอิ (เพื่อนสนิทคนนี้ นางไปไหนไปกันค่ะ ไม่เคยปฏิเสธ แม้จะลางานบ่อย จนเจ้านายจะไล่ออกแล้วก็ตาม นางตามเราไปทุกทริปคร่ะ)
ปล.เจ้าของกระทู้ เป็นคนหาดใหญ่ คร้า ด้วยระยะทางที่ไกล การเดินทางครั้งนี้เลยต้องวางแผนซักนิด ^^ พอถึง กทม.ก็ค่อยว่ากันอีกที
เริ่มต้นการเดินทางของพวกเรา !! ไปกันเลยยย .. ลุยยย..
วันที่ 1 ของการเดินทาง ... เวลา 6 โมงเช้า ( 30 กรกฎาคม 2558 ตรงกับวัน อาสาฬหบูชา)
เราออกเดินทาง จาก สถานีรถไฟธนบุรี ตามแผน นั่งรถไฟฟรี มุ่งหน้า สถานีน้ำตก กาญจนบุรี เพื่อผ่านเส้นทางรถไฟสายมรณะ ..แต่...
รถไฟปิดปรับปรุงเส้นทางคร้าาา ... เอาไงละค๊ะ งง สิค๊ะทีนี้ 555 อ่านรีวิวในพันทิพมา เค้าไปกันแบบชิคๆคูลๆ แบบนี้นี่แก!!! ผิดแผนแบบนี้ ชั้นไปไม่ถูก..
โชคยังเข้าข้างพวกเราคร้าาา พี่ที่สถานีรถไฟ บอกให้เราไปลงที่ สถานีบ้านโป่ง ราชบุรี ได้ แล้วค่อยนั่งรถต่อไปเมืองกาญ
(เอาว๊า ..ไปก็ไป .. หลงก็ช่างมัน..)
คนเยอะมาก..แย่งกันขึ้นรถไฟฟรี ...
เพื่อนมันก็ บ่น ตลอดทางค่ะ ...ทำไมแกต้องมานั่งรถไฟด้วยเนียะ... -.- เลยตอบมันไปว่า ไม่นั่งรถไฟไม่ได้ฟิวววว แบบนี้นะแก 555+
9.30 น. เรามาถึง สถานีบ้านโป่งค่ะ ช้ากว่าเวลาที่กำหนด เกือบครึ่ง ชม. (ไปทางไหนต่อแก!! ... ถามเพื่อน มันบอก ก็มาด้วยกัน ชั้นจะรู้ได้ไง!!)
เพื่อนอีกคนเลยไปถามคนแถวนั้น เค้าบอกว่าให้พวกเราเดินไปขึ้นรถที่ หอนาฬิกา ค่ะ อีกประมาณ 500 ม. (จากที่เดินมาเราว่าประมาณ 1 กิโลค่ะ 555)
หลังจากเราเดินไปขึ้นรถ เมล์ ราชบุรี - เมืองกาญ ใช้เวลาเดินทางจากบ้านโป่งไม่นาน ก็ถึง บขส.กาญจนบุรี ประมาณ เกือบ เที่ยงพอดี
และ!!!! โชคเข้าข้างพวกเราอีกแล้ว เราไปทัน บัสแดง (ในตำนาน) เที่ยวสุดท้ายที่จะเดินทางไปสังขละพอดี 12.30 น.
ค่าตั๋วรถ 120 บาท ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 6 ชั่วโมง แม่จ้าววววว (รวมกับเมื่อเช้า เป็น 12 ชม. กทม.-สังขละบุรี)
การเดินทางครั้งนี้ มัน...avenger จริงๆนะแก
และแล้ว.... คนในรถก็ทยอยลงกันไปเรื่อยๆระหว่างทาง จนมาถึง อ.ทองผาภูมิ (จุดพักรถ) เหลือแค่ กลุ่มพวกเรา 4 คน ฝรั่ง 1 คน และพี่กระเป๋ารถเมล์กับคนขับ คร้าา
พี่กระเป๋ารถเมล์ อัธยาศัยดีมากค่ะ ชวนคุยตลอดทาง พี่เค้าถามพวกเราว่า : คิดไง นั่งรถแดงไปสังขละ ฮ่าๆ
พวกเราเลยตอบไปว่า : ถ้าไม่นั่งรถแดงก็ไม่ได้ฟิวววสังขละ ดิพี่ 555+
ปล. แนะนำสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปสังขละ ให้พกบัตรปชช. ไปด้วยนะคะ เพราะมีด่านตรวจ(ต่างด้าว) ตลอดทาง อิอิ
จุดพักรถ ทองผาภูมิ ..ใกล้ๆกันมี พระองค์ใหญ่ พวกเราจึงเดินไปไหว้ และถ่ายรูปกันค่ะ
พวกเรา นั่งรถแดง (ในตำนาน) ต่อไปอีก 60 กม. (แต่ใช้เวลานานมาก เกือบ 4 ชม. เพราะขึ้นเขา)
และแล้ววว... พวกเราก็มาถึงสังขละบุรี นั่งรถขึ้นเขาเกือบ6ชม. เจอบ้านหลังเล็กๆกลางน้ำในหุบเขา
อารมณ์ตอนนั้นโคตรดีใจเลยย หายเหนื่อยทันที
ต่อไปนี้ ...จะเป็นการรีวิว สังขละ อย่างเต็มรูปแบบ ในแบบฉบับของเราแระน๊าา อิอิ
เรามาถึง สังขละ ประมาณ 6 โมงเย็น ... และนั่งมอไซ รับจ้างเพื่อไปยังที่พักที่เราได้ติดต่อจองไว้ ล่วงหน้า
(เนื่องจากวันหยุดพวกเราไม่อยาก walk in เพราะที่อ่านรีวิวมาที่พักจะเต็มหมด)
ที่พักเรา ชื่อว่า Coffee Berry (คอฟฟี่เบอร์รี่ สังขละบุรี)
ราคาที่พัก 800 ถ้าช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ราคาอยู่ที่ คืนละ 1,000 บาท
ที่พักน่ารักสะดวกสบาย ใกล้สะพานมอญ ตลาดสังขละบุรี มี Wifi ให้ฟรีด้วย
ห้องน้ำเป็นแบบเปิดหลังคาได้ สัมผัสธรรมชาติสุดๆ
เราติดต่อที่พัก จากทาง FB ค่ะ :https://www.facebook.com/Coffee-Berry-Sangklaburi-204531416241965/timeline/
วันที่ 2 @สังขละบุรี
เริ่มต้นวันใหม่ เช้าวันเข้าพรรษา เราเริ่มต้นลุยสังขละ ด้วยการเช่า รถมอไซ วันละ 300 บาท
(ปกติ วันละ200 แต่ด้วยที่เป็นวันหยุดยาว รถที่จะเช่าจึงหมด !! ทำไงละ ตามแผนมันต้องแว๊นส์มอไซนะ อิอิ
พวกเราจึงติดต่อ มอไซรับจ้างที่มาส่งเราเมื่อวาน 55+ ขอเช่ารถมอไซพี่เค้าซะเลย ตกลงราคากัน เสร็จ ก็ออกไปสัมผัส วิถีมอญ กันเล๊ยยย)
ภาพแรก ที่พวกเราเห็น สังขละ มันสวยมากเลยยแก ... คุ้มค่ากับที่นั่งรถเมื่อยตูดมาตั้งนาน