จะเข้ามหาลัยแล้ว! แต่เบื่อมากค่ะ!!! (กระทู้ดราม่า)

สวัสดีค่ะ ตามหัวข้อเลยค่ะ กระทู้ดราม่า T^T
               ณ ตอนนี้เราเป็นเด็ก ม.6 คนนึง ที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับอะไรหลายๆอย่างเพื่อการเรียนต่อในระดับมหาลัย  เช็คโควต้าของมหาลัยเอย หาที่ติวเอย ไหนจะต้องอ่านหนังสือ ฝีกทำข้อสอบเพื่อเตรียมสอบ GAT PAT เอย
               แต่แล้วยังไงล่ะค่ะ คุณอาจคิดว่า "ก็ทำไปสิในเมื่อรู้ตัวอยู่ว่าจะต้องทำอะไร มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำน้ะ เราจะเรียนต่อมหาลัยนี่นา ดีกว่าเที่ยวเล่นไปวันๆไม่ได้กำหนดอนาคตให้ตัวเอง" ไม่เถียงเลยค่ะ ตอนนี้เราซื้อหนังสือมาเตรียมไว้แล้ว ทั้งติว GAT PAT ทั้งคณะที่อยากจะเรียน ทั้งโหลดข้อสอบปีก่อนๆมาเพื่อฝึกทำจะได้รู้เเนวของข้อสอบ แต่เชื่อไหมค่ะนี่แทบจะไม่ค่อยได้เเตะหนังสือที่ซื้อมาเลยค่ะ เรียกได้ว่าเหมือนซื้อมาประดับบ้าน  ข้อสอบที่โหลดมาก็ได้เปิดไปดูเเค่ไม่กี่ครั้ง เพราะอะไรเหรอ เราต้องทำการบ้านไงค้ะ T^T ที่กล่าวมานี่ ไม่ใช่ว่าจะแอนตี้การบ้านเลยนะค่ะ แต่ทุกวันนี้เราต้องทำการบ้านทุกวัน แทบจะไม่มีเวลาว่างเลย ตอนนี้พักจากทำโครงงานมาตั้งกระทู้ ขณะนี้ เวลา 4:00 น. นะค้ะ เวลานอนใช่ไหมล่ะ แต่เรายังทำการบ้านอยู่เลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้  ซึ่งการพักผ่อนเพียงพอว่ามันดีต่อสุขภาพน้ะ ควรนอนตั้งเเต่ช่วง 4 ทุ่มเเล้วล่ะค่ะ เคยอ่านผ่านๆ บอกว่า ช่วง ตี 1- ตี 4 เป็นช่วงที่สารอะไรสักอย่าง (ไม่แน่ใจว่าจะเป็นสารเดียวกับบทความที่สปอยมั้ย) จะหลั่งออกมา ถ้าช่วงนั้นเราตื่นหรือไม่ได้พักผ่อนเนี่ยสารจะไม่หลั่งออกมา ประมาณนี้ ยิ่งวัยเราเป้นวัยเจริญเติบโตด้วยค่ะ ควรพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอต่อร่างกาย แต่ก็ไม่ใช่จะโทษซะทีเดียวเลยว่า  " เพราะนังการบ้านนี่แหละ ทำให้ชั้นนอนไม่พอ " แต่รู้ค่ะ ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาน้ะ ที่นอนดึกเพราะการบ้านเพราะเรื่องเรียน เห็นรุ่นพี่เขาบอกว่าเรียนมหาลัยแทบไม่ได้หลับได้นอนเลยด้วยซ้ำ สำหรับอันนี้เข้าใจดีค่ะ
                 ประเด็นคือเราทำการบ้าน จนเราแทบไม่มีเวลาให้กับเจ้าหนังสือเจ้าข้อสอบเลย คือ ไม่โอเคเลยค่ะ คือไม่เข้าใจ อาจารเคยบอก "เดือนหน้าสอบแกะแพะเเล้วนะลูก อ่านหนังสือเยอะๆน้า ฝึกทำข้อสอบเยอะๆด้วย ม.6 เป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียน เป็นความหวังของโรงเรียน ถ้าทำข้อสอบได้คะเนนดีๆ ดีตั้งตัวลูก และทำชื่อเสียงเเก่โรงเรียนด้วย" คือจารย์คะ  T^T หนูก็อยากทำค่ะ อยากฝึกอ่านฝึกทำ แต่พวกอาจารย์ไม่ค่อยจะให้เวลาหนูเลยนะค้ะ  ตอนอาจารย์สั่งการบ้าน พวกหนูก็บ่น "หูยยยยยย รายงานอีกแล้วอ้าาา ไม่เอารายงานได้ม้อยย " อาจารย์ก็ฟัง แต่ไม่ได้ช่วยทุเลาการบ้านลงเลย บอก "อะไรกัน แค่รายงานเล่มเดียวเอง ไม่ถึง 50 หน้า" แล้วทำไมจารย์ไม่คิดบ้างอ่ะ ว่าหนูเรียนตั้งกี่วิชา รายงานมันมีแค่วิชาของอาจารย์เหรอคะ เศร้ามาก T^T
                 บันทึกการอ่านอีกค่ะ ปีที่แล้วอาจารย์ที่ปรึกษาบอก "เธอต้องทำน้ะ ฝึกนิสัยรักการอ่าน อีกอย่างมันจะเป็นคะแนนอ่าน เขียน คิด วิเคราะห์"  จารย์ไม่รู้อะไรซะเเล้ว จะบอกว่า นร. ถึง 10% รึเปล่าก็ไม่รู้ที่ว่าอ่านจริงๆแล้วนำมาสรุปและจดบันทึก เขาลอกๆกันมาทั้งนั้นแหละค่ะ (ลอกๆนี่คือลอกมาจากในหนังสือ แต่ไม่ได้ผ่านกระบวนการอ่านแล้วสรุปแต่อย่างใด ยอมรับ เราก็ทำ อิอิ) แต่ก็โอเค ไม่เป็นไร ตอนนั้น ม.5 ก็ทำได้ โอเคอยู่ พอมาปีนี้ มาอีกแล้วครับท่าน บันทึกการอ่าน คือเบื่อแบบเวรี่มากๆ "อะไรว้าาา นี่เด็ก ม.6 นะเว้ยยย ควรเอาเวลาไปตั้งใจอ่านหนังสือปะ" แต่อาจารย์ก็บอก  "อะไรกัน เเค่บันทึกการอ่าน ที่พวกเธอควรทำแค่บันทึกวันละเรื่องวันละหน้านี่มันสาหัสมากเหรอ " คือโอเคค่ะ ถ้าทำได้จริงวันละหน้าไม่กระอักเลือดแน่ค่ะ แต่พอมาทำเข้าจริงๆ วิชาอื่นๆต้องมาก่อนบันทึกการอ่านอยู่เเล้ว พอทำวิชาอื่นเสร็จก็ปาเข้าไปดึกทุกที ยังไงต่อเหรอ ก็นอนสิครับ ไม่ได้นึกเล้ยยย ว่า "เฮ้ย เอ็งยังนอนไม่ได้นะเว้ยยย ต้องทำบันทึกการอ่านนะเอ็ง" คือจะหลับอยู่เเล้วอ่ะ เพลียมาก ก็คิด "เอาวะ ไม่ทงไม่ทำมันล้ะ หัวถึงหมอนล่ะ พระอินทร์เรียกเข้าเฝ้าแล้ว จะนอนแล้วว้อยยย บันทึกการอ่านหน้าเดียวค่อยเขียนเอาพรุ่งนี้ก็ได้ 2 หน้าก็ยังไม่กระอักเลือด" ค่ะ เป็นแบบนี้ประจำเลยแหละ 555 จนสุดท้าย สะสมหมักหมมดินพอกหางกรูส์ สะสมมาครึ่งเดือน เวง 15 หน้า กระอักเลือดแน่ๆค่ะท่านผู้ชม และไม่ได้เป็นแบบนี้เเค่เรานะค้ะ พอใกล้วันส่งเป็นที่รู้ๆกันในห้องเลยค่ะ คืนนี้ไม่ต้องนอน ทำบันทึกการอ่านเลยจ้าาา แล้วก็คิด "เออมันสมควรรึยังวะ ที่ต้องมาอดหลับอดนอนเพราะบันทึกการอ่าน " คืออยากให้ตัดออกไปมากอ่ะ มันดีควรแล้วเหรอ ที่อดหลับอดนอนเพราะบันทึกการอ่านอ่ะ ควรเอาเวลาไปทำวิชาอื่นมากกว่านะ แต่ถ้าคุณจะบอก "อ้าว ก็ถ้าเอ็งทำวันละหน้ามันก็ไม่มีปัญหาแล้วนี่ แต่เอ็งไม่ทำอ่ะ เอ็งเลือกที่จะนอน" แบบนี้จนใจจริงๆค่ะ ให้ทำไงอ่า คนมันง่วงมันเพลียมาจากวิชาอื่นๆ
                 ขอย้ำอีกทีว่าเป็นความจริงค่ะ เหนื่อยมากๆเลยสำหรับการบ้าน บางคนบอก "อ้าว ก็มันแน่นอนอยู่เเล้ว การศึกษานี่นะ กว่าจะจบจะสำเร็จได้ มันก็ต้องเหนื่อยกันบ้างเป็นธรรมดา" ค่ะ แต่การบ้านแบบกองเท่าเจดีย์เงี๊ยะ วันๆทำแต่การบ้านไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ก็ไม่โอเคเลยน้ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
                เพื่อนๆจากโรงเรียนอื่น ถามมาว่า "อ้าว ม.6 รร.เธอยังมีการบ้านอยู่เหรอ รร.เราไม่ค่อยมีนะ เขาจะปล่อยให้เด็กอ่านหนังสือ หาที่ติว หาที่เรียนกันมากกว่าอะ"  ได้ฟังเเล้วหัวใจแทบแหลกสลาย รร.อื่นๆเป็นแบบเรารึเปล่าไม่รู้ แต่อยากจะดราม่าตรงนี้ว่า ขอเถอะ (แต่เขาคงไม่ให้ สายไปล้าววว ฮื่อออ!) ไม่ชอบอ่ะ อ่านหนังสือแป้ะไรล่ะ อีนังการบ้านมันเเย่งเวลาไปหมดแล้วววววว  
                เพื่อนเราคนนึง อยู่คนละจังหวัดกับเรา คือรู้จักและสนิทสนทกันทางเฟสบุ๊คค่ะ ไม่ได้มีซัมธิงอะไรหรอก แค่คุยกันถูกคอกันเพราะอยู่รุ่นเดียวกัน ปีนี้ก็ ม.6 เหมือนกัน เพื่อนมันก็ดีมากๆอ่ะ หาเว็ปติว ดึงเราเข้ากลุ่มเกี่ยวกับเตรียมสอบแกะแพะ กลุ่มเกี่ยวกับแนวทางเรียนต่อมหาลัย คือเขารู้อะไรมาเขาบอกเราหมดทุกอย่างอ่ะ เรารู้สึกขอบคุณเขามากๆดีใจที่มีเพื่อนดีๆ แต่เราไม่ค่อยได้โฟกัสสักเท่าไหร่เพราะช่วงนั้นต้นเทอม รู้ตัวว่าควรเริ่มสนใจอ่านหนังสือ หาที่ติว ตั้งเเต่ตอนนั้น แต่ทำไงได้ล่ะ เราต้องทำการบ้านนี่นา เราต้องทำโครงงานนะ จะให้ทิ้งโครงงานทิ้งการบ้านไปโฟกัสเเต่จุดอย่างเดียวมันก็คงไม่ได้ เรื่องเกรดเรื่องคะแนนก็สำคัญนะ มันเทอมสุดท้ายเเล้วต้องใช้ทำมาหากิน ทิ้งไม่ได้หรอก ขืนทิ้งได้รับประทานไข่ขึ้นมาล่ะอิ๊บอ๋ายกันพอดี แล้วเหมือนเขาจะรู้ว่าเราไม่ได้สนใจเท่าที่ควร คืนนั้นก็เลยทักเรามา ขณะที่เรากำลังพิมรายชื่อพืชที่สำรวจเจอของวิชาชีวะ มันทักมาว่า

ทหาร   : เอาแต่เล่นนะ OMGPieCe ถ้าสอบไม่ติดเดี๋ยวจะรู้
OMG   : กำ  ไหนใครเล่น  (คือตอนนั้นยังมีอารมณ์สุนทรีย์อยู่นะ พิมงานไป ฟังเพลงไป ก็พิมบอกเพื่อนไปแบบไม่ได้ซีเรียสเพราะไม่คิดว่าเพื่อนมันจะซีเรียส=w=)
ทหาร   : มันไม่เกี่ยวกับผมหรอกนะ (ประมาณว่าเรื่องของเอ็งแท้ๆ) แต่รู้จักกัน สอบปีเดียวกันก็อยากเตือนไว้
OMG   : (เราก็งงสิตอนนั้น ไม่สนใจไรวะ ก็นั่งทำการบ้านงกๆอยู่เนี่ย มันก็บอกทำนองว่า ตามใจละกัน เอาที่สบายใจเลย ผมขอบายยยย เราก็บอก) นี่ลุง เครียดไปปะ นี่ต้นเทอมนะ เวลายังพอดีเถอะ นี่ก็เรียนๆทำการบ้านทำโครงงาน ทำคะเนนเอาเกรดเก๋ๆ เทอมสองอ่านหนังสือ (คือหมายถึงเข้ามหาลัยอ่ะ เทอม 2 ลงมือแบบจริงๆจังๆ เราก็บอกเขาไปประมาณนี้)
ทหาร   : เอาเลยยยยยยยยยยยย PAT สอบตุลา ถ้าจะอ่านหนังสือเทอม 2  ก็เอาเลย ถ้าผมไม่ห่วงผมก็ไม่เตือนหรอกนะ (นาทียี้น้ำตาแทบไหลจริงๆค่ะ) แต่ก็ความคิดใครความคิดมัน เอาที่เจ๊คิดว่าดีอ่ะ ทำโครงงานไปเถอะ

และหลังจากนั้นนะค้ะ ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ตั้งแต่ ก.ค. จนถึงตอนนี้ ไม่มีอะไรมาบอกมากล่าวอีกเลย คือเสียใจว่ะ ให้ทำไงได้อ่ะ โครงงานจะให้ทิ้งเหรอ  บร้าาา ชั้นทำไม่ได้หรอกนะย้ะ สำคัญเหมือนกันนะเว้ย T^T (มีรูปอยู่นะคะ แต่ไม่กล้าลงกลัวเพื่อนมันมาเห็น คืออายดิวะ )



ปล. ใช้เวลาในการเรียบเรียง 1 ชม.กว่า แอะๆ ก็มาระบายอะ อัดอั้นตันใจ เครียดก็เครียดนะค้ะ กลัวสอบได้คะเเนนเลวไม่มีคณะไหน มหาลัยไหนรับเข้าเรียน เฮ้ออออออออออ!  FacepalmFacepalm

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่