ทำไมเจมจิ ไปเรียนเต้น เรียนการแสดงต่างประเทศอีกแล้ว ????? นานๆถึงจะรับละครที กว่าจะถ่าย กว่าจะออน

เรียนกับ หม่อมน้อย ครูเงาะ ไม่ได้หรอ
หรือจะเอาดีทางร้องเพลง ???
เป็นพระเอกดีกว่านะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เเล้วทำไมบางคนถึงส่งลูกเรียนต่างประเทศส่วนหนึ่งเพราะเงินเขาตัวเขา
เเละอยากให้มีประสบการณ์ที่เเตกต่างไปด้วยมั้ง
ไม่ได้ไปเรียนอย่างเดียวนะคะมีอะไรให้ทำหลายอย่างค่ะ
เรื่องละครได้ทีละเรื่องอยู่เเล้วเพราะยังเรียนมีกิจกรรมอย่างอื่นค่าก่อนไปก็ถ่ายในส่วนของเจมส์เสร็จเเล้วจ้าเหลือเเค่เก็บตกนิดหน่อย


สมมุตินะสมมุติคุณมีเงินมีเวลาเเล้วทำไปเเล้วไม่เดือดร้อนใคร
มีคนยื่นโอกาสดีๆมาให้จะทำไหมหรือไม่เอาอ่ะนอนนิ่งๆอยู่เฉยๆดีกว่า55555

เชิญอ่านทู้นี้เนอะเมื่อมีโอกาสใครบ้างจะไม่อยากทำ
ญี่ปุ่นทาบ‘เจมส์จิ’โปรโมทท่องเที่ยว
http://ppantip.com/topic/34161841
ความคิดเห็นที่ 11
เราว่าฟค.เจมส์จิเค้าเบื่อที่จะเข้ามาตอบกระทู้แบบนี้แล้วแหละ
เพราะคนมันจะไม่อยากเข้าใจ มันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
ความคิดทัศนคติในการดำเนินชีวิตมันต่างกัน
อันนี้เราพูดถึงทั่วๆไปไม่ใช่เจมส์คนเดียว

ในชีวิตการทำงานเราเอง มีโอกาสเราก็อยากไปศึกษาดูงานต่างประเทศ
ไปดูอะไรที่มันนอกเหนือจากที่เรามี ถามว่าเมืองไทยมีไหม มี
แต่ต่างประเทศมันก็มีอะไรที่แตกต่าง
จะดีกว่าหรือไม่ มันก็อยู่ที่เราเลือกมอง และเลือกรับเอามาประยุกต์ใช้กับตัว
แต่ไปแล้วจะได้อะไรกลับมาคุ้มค่ากับที่เสียไปไหม มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่อย่างน้อยๆเมื่อมีโอกาส เราว่ามันก็ดีที่จะคว้าไว้
ไม่ใช่คิดว่าอะไรๆก็เหมือนกัน ที่ไหนๆก็เหมือนกัน
แล้วใช้ชีวิตเป็นแค่กบในกะลา อยู่หน้าคีย์บอร์ดอะไรแบบนั้น
ความคิดเห็นที่ 21
ถ้าไม่ลองก้าวออกจากขอบเขตที่คุ้นเคย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าศักยภาพตัวเองจริงๆแล้วจะไปไกลได้สักแค่ไหน
ในชีวิตคุณ ถ้ามีคนหยิบยื่นโอกาสหรืองานชิ้นใหญ่ๆ ที่คุณรู้ว่า ถ้าเกิดพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว มันจะไม่มีทางกลับมาอีกบ้างรึเปล่า
ไม่ว่าจะรับแล้วทำสำเร็จ หรือไปได้ไม่สุดทาง หรือล้มไปเลย แต่ยังไงก็ดีกว่ามานั่งเสียดายไปตลอดชีวิตว่า 'ทำไมตอนนั้นเราไม่คว้าเอาไว้' แน่นอน

ถ้าเกิดว่ามีคนไทยกลุ่มแรกเข้าไปในตลาดญี่ปุ่นได้สำเร็จ ยังเป็นการปูทางให้รุ่นหลังๆ ได้ขยายโอกาสและทางเลือกของตัวเองอีก
ลองเทียบกับเกาหลีดูนะว่า ถ้าไม่มีซีรีย์เกาหลียุคแรกอย่างแดจังกึม หรือ kpop ยุคแรกๆ ที่ริเริ่มตีตลาดนอกประเทศ อุตสาหกรรมเกาหลีตอนนี้คงไม่โตขนาดที่สามารถส่งออกซีรีย์ไปจีนหรือไปจัดคอนเสิร์ตทั่วโลกได้หรอก
ถ้ามีโอกาสเข้ามาแล้ว เราจะมัวแต่คาดหวังให้นักแสดงอยู่แต่ในประเทศเหรอ แล้วเวลาเซ็นกับเอเจนซี่นี่คือ ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่ยินยอม คงตกลงเซ็นสัญญากันไม่ได้นะ แน่นอนว่าเอเจนซี่ญี่ปุ่นก็ต้องมองเห็นศักยภาพอะไรสักอย่างในตัวเจมส์ว่าเข้ากับตลาดญี่ปุ่นได้นั่นแหละ

อีกอย่าง ถ้าลองได้ทำงานกับคนต่างชาติเยอะๆจะรู้ว่า วัฒนธรรม ลักษณะการทำงานของแต่ละชาตินี่จะแตกต่างกันมาก
มุมมองของคนญี่ปุ่น คนเกาหลีกับคนไทยแตกต่างกันแน่นอน ลองจินตนาการกองถ่ายละคร สตูถ่ายนิตยสารของญี่ปุ่นกับของไทยดู การได้มีโอกาสสัมผัสทั้งสองรูปแบบ คือประสบการณ์ดีๆทั้งนั้น
ความคิดเห็นที่ 32
Orobianco เป็นผู้สนับสนุนการไปหาประสบการณ์
การบินไทยสนับสนุนการเดินทาง
เซ็นสัญญากับ Wood's Office 3 ปี มีโปรเจคทำเพลง 2 ซิงเกิ้ล, ถ่ายโฆษณา, ออกรายการทอล์คโชว์ ฯลฯ
รัฐบาลญี่ปุ่นติดต่อมาทางช่อง 3 ว่าอยากได้ตัวไปโปรโมทการท่องเที่ยว เพราะเห็นว่ามีแผนไปฝึกทักษะที่ญี่ปุ่น

เอาคร่าวๆ เท่านี้...ลองถามใจตัวเองดูค่ะว่าถ้าเป็นคนที่เรารักหรือศิลปินที่เราชื่นชอบ อยากให้เค้ารีบคว้าโอกาสดีๆ แบบนี้ไว้รึเปล่าคะ อมยิ้ม01
ความคิดเห็นที่ 18
ประสบการณ์แบบนี้หาซื้อที่ไหนไม่ได้นะคะ

แล้วโอกาสดีดีแบบนี้ไม่ได้ผ่านเข้ามาบ่อยๆ ถ้ามาถึงก็ต้องคว้าไว้แหละดีแล้ว

ทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว คอยพัฒนาทักษะในทุกๆด้าน พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆที่จะเผชิญเข้ามา

แถมยังได้รับประสบการณ์ชีวิตดีดีอีกด้วยนะคะ

บางทีการไปพัฒนาทักษะจากต่างประเทศ อาจมิได้แค่เป็นการต่อยอด แต่อาจจะจุดประกายอะไรใหม่ๆขึ้นมา

ทำให้เกิดมุมมองใหม่ๆในด้านต่างๆ และเป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้าค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่