สวัสดีค่าาา เทศกาล Work&Travel กลับมาอีกแล้วววววเน้ออ
หลายๆคนคงกำลังมองหางาน และเริ่มศึกษารายละเอียดต่างๆอยู่
สำหรับกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สองของเราแล้ว แน่นอนว่า
การไปเวิคครั้งนี้ ก็เป็นครั้งที่สองชองเราอีกเช่นกัน
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นอาทิ WAT คืออะไร
เราขอข้ามไปโนะ เพราะเราเคยเขียนไว้ในกระทู้แรกแล้ว
ขออนุญาติแนะนำให้อ่านกระทู้แรกของเราก่อน
เพราะกระทู้นั้นเราลงรายละเอียดทุกอย่างไว้แบบละเอียดยิบมากเลยจ้า
http://ppantip.com/topic/32975142
สำหรับการไปเวิค สิ่งที่เราอยากจะฝากถึงทุกๆคนที่กำลังจะไป
และมีแพลนว่าจะไป ว่า อันดัย 1 สิ่งที่เราควรจะโฟกัส
ควรเป็นงานค่ะ ย้ำาาาา ว่า งาน ไม่ใช่เอเจนซี่นะคะ
ขอร้องงงงงเลยยน้า เพราะจากประสบการณ์
เอเจนซี่ที่ไทย มีหน้าที่กำเนินการเรื่องเอกสารให้เราก่อนไปเท่าน้านนน
เรื่องอื่นๆ ในการใช้ชีวิตอยู่นู้น เราควรศึกษาข้อมูลไว้ดูแลตัวเองนะคะ
ขอร้องละค่ะ เลือกงานผิดตกม้าตายกันมาหลายรายแล้ว
เอาละค่ะ มาเข้าเรื่องดีกว่า คนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้
จากการอ่านหัวข้อกระทู้เราแล้ว คงมีคำถามในใจ
ว่าทำไม๊ทำไม คนที่เคยทำงานฟาสฟู้สอย่างเรา
ถึงระเห็ดระเหินมาทำงานเฮ้า ที่ใครๆก็ต่างบอกกันว่า
งานเฮ้านี่มันโหด หนัก ผู้หญิงตัวเล็กๆไม่น่าจะทำไหว
นั่นก็เป็นเพราะว่า อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เราเคยไปเวิคมาแล้ว
และการไปเวิคคราวก่อน ทำให้เราตระหนักได้ว่า
คำว่าทำงานแล้ว แท้จริงอาจจะหนักเบาพอๆกัน 5555
คงเพราะปีก่อนเราทำงานหนักมาก บ้าระห่ำสุดๆ
และเรารู้สึกว่า ถึงแม้ว่าเราจะทำงานและได้เงินมากมาย
แต่ชีวิตตอนนั้น เราไม่ค่อยมีความสุขเลย
ชีวิตเราวนไปวนมาอยู่ลูปเดิม ตลอดสามเดือนนั้น
ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ทำงานกลับบ้านๆๆ เป็นอยู่แบบนี้ทุกวัน
บางอาทิตย์เราทำงานจนไม่มีเดย์ออฟ
ทำอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 50 ชม
ฟังไม่ผิดค่ะ 50 ชมมมค่าาาา วันนึงทำ 12 ชม ก็มี
ร้านเปิดยันร้านปิด อดหลับอดนอนทำงานตลอดเวลา
เราเลยรู้สึกว่า งานเฮ้าคงไม่เกินความสามารถเราหรอก 555
อีกทั้งการเลือกงานในครั้งนี้ เราโฟกัสที่เมืองเป็นอันดับแรก
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนติดเที่ยว สายปาร์ตี้
แต่อย่างน้อยเราก็ขอเลือกเมืองที่การคมนาคม มันดีหน่อย 555
ไม่รกร้างกันดาลบัสไม่วิ่งเหมือนเมืองที่เราไปมาปีก่อน
เป้าจึงมาตกที่นี่ Reno,NEVADA
จริงๆเราไม่เคยรู้จักเมืองนี้มาก่อน
พี่ที่เอเจนซี่บอกว่ารีโน่เป็นเมืองคาสิโน
อารมณ์ลาสเวกัส แต่เล็กกว่าลาสเวกัส
แต่ที่น่าสนใจคือ อากาศค่ะ
อากาศที่นี้ไม่ร้อนเกินไป และหนาวเกินไป
ทำให้เราสนใจ และตัดสินใจว่า เอาที่นี่แหละ
หลังจากเลือกงานเสร็จสรรพ ถึงเวลาสัมภาษณ์
ก็เหมือนเดิม คำถามทั่วๆไป เหมือนปีก่อนเลย ย้อนกลับไปอ่านกระทู้เราได้
หลังจากจ็อบออฟเฟอร์ออก ถึงคราวสัมภาษณ์วีซ่า
คราวนี้ไม่เหมือนเดิมแหะ ทุกอย่างดูแปลกตา 555
ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่า เราไปเจอเค้าเตอร์์โหด
ผู้ชายเอเชียที่ใครๆก็บอกว่าโห๊ดโหด ปีที่แล้วกลัวมาก
ปีนี้เหมือนมั่นใจ หลังจากไปเวิคกลับมาเรากล้าพูดกล้าถามมากขึ้น
ตอนแรกก็แอบมีหวั่นๆนะ ว่าจะผ่านมั๊ย
เพราะคนก่อนหน้าเราโดนถามนานมากกกกกกกกก
โดนถามแม้กระทั่ง ชื่อจริงของคนนั้น แปลว่าอะไร
แบบความหมายอะไรงี้ เรานี่แบบ ละชื่อชั้นละะะ
พ่อแม่ไม่เคยบอกว่าแปลว่าไร นี่ถ้าเค้าถามจะตอบว่าไร
ก็กังวลไปแปปนึง ยังไม่ทันคิดไรก็ตาเรา
เริ่มแรกมานางก็ถามเลย จะให้ถามแบบฮอทๆไหม
หรือเอาแบบปกติ แหมคุณคะ ปกติเถอะค่ะ
สำหรับเราโดนถามแค่เรียนที่ไหน
แล้วก็เข้าเรื่องเลย ว่าเคยไปมาแล้วหรอ
ทำงานอะไร เป็นยังไงบ้าง
อย่างเราปีก่อนทำงานซับเวย์ ตานี่ก็มาเลย
ถ้าอยากกิน BLT ต้องทำยังไงบ้าง
แหม ง่ายๆ เราก็จัดแจงบอกทุกขั้นตอน
ใส่เบค่อนกี่ชิ้นอะไรยังไง 5555
พออธิบายเสร็จ เค้าก็แอบชมเราว่าภาษาเราดีแหะ
ตอนนั้นก็แอบพราวนิดนึง 55555555555
แต่คิดว่าถ้าถามอย่างอื่นคงตอบไม่ได้เหมือนกัน 5555
และแล้วก็ผ่านแบบดื้อๆ คนข้างหลังยัง งงๆว่าทำไมเราไวจัง
เพราะหลายคนก่อนหน้านี้เรานานมาก
แต่จากที่เราสังเกตุคือ คนที่นานๆนี่คือจะอึกอักซะเยอะค่ะ
และพออึกอักเค้าก็จะจี้เรื่อยๆ พูดย้ำๆ จนเราอาจจะแอบไปไม่ถูกสักครูนึง
แต่ถ้าใครที่ถามปุ๊ปตอบปั๊ป จะผิดจะถูก แก่ก็ปล่อยผ่านโลดจ้าาา
หลังจากทำวีซ่า ไม่นานนักก็ถึงวันที่เราบินค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการจองตั๋ว คราวนี้เราขอข้ามไป
เพราะเอเจ้นบังคับจอง อยากรู้รายละเอียดหลังไมค์มาได้ค่ะ
จริงๆเราหาเองได้ถูกกว่าเอเจ้นเกือบหมื่น -*-
WAT2015 กับงาน Housekeeping ในโรงแรมคาสิโนที่สุดแสนจะสบาย!! จากปากคนเคยทำงานฟาสฟู้ดดด :)
หลายๆคนคงกำลังมองหางาน และเริ่มศึกษารายละเอียดต่างๆอยู่
สำหรับกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สองของเราแล้ว แน่นอนว่า
การไปเวิคครั้งนี้ ก็เป็นครั้งที่สองชองเราอีกเช่นกัน
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นอาทิ WAT คืออะไร
เราขอข้ามไปโนะ เพราะเราเคยเขียนไว้ในกระทู้แรกแล้ว
ขออนุญาติแนะนำให้อ่านกระทู้แรกของเราก่อน
เพราะกระทู้นั้นเราลงรายละเอียดทุกอย่างไว้แบบละเอียดยิบมากเลยจ้า
http://ppantip.com/topic/32975142
สำหรับการไปเวิค สิ่งที่เราอยากจะฝากถึงทุกๆคนที่กำลังจะไป
และมีแพลนว่าจะไป ว่า อันดัย 1 สิ่งที่เราควรจะโฟกัส
ควรเป็นงานค่ะ ย้ำาาาา ว่า งาน ไม่ใช่เอเจนซี่นะคะ
ขอร้องงงงงเลยยน้า เพราะจากประสบการณ์
เอเจนซี่ที่ไทย มีหน้าที่กำเนินการเรื่องเอกสารให้เราก่อนไปเท่าน้านนน
เรื่องอื่นๆ ในการใช้ชีวิตอยู่นู้น เราควรศึกษาข้อมูลไว้ดูแลตัวเองนะคะ
ขอร้องละค่ะ เลือกงานผิดตกม้าตายกันมาหลายรายแล้ว
เอาละค่ะ มาเข้าเรื่องดีกว่า คนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้
จากการอ่านหัวข้อกระทู้เราแล้ว คงมีคำถามในใจ
ว่าทำไม๊ทำไม คนที่เคยทำงานฟาสฟู้สอย่างเรา
ถึงระเห็ดระเหินมาทำงานเฮ้า ที่ใครๆก็ต่างบอกกันว่า
งานเฮ้านี่มันโหด หนัก ผู้หญิงตัวเล็กๆไม่น่าจะทำไหว
นั่นก็เป็นเพราะว่า อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เราเคยไปเวิคมาแล้ว
และการไปเวิคคราวก่อน ทำให้เราตระหนักได้ว่า
คำว่าทำงานแล้ว แท้จริงอาจจะหนักเบาพอๆกัน 5555
คงเพราะปีก่อนเราทำงานหนักมาก บ้าระห่ำสุดๆ
และเรารู้สึกว่า ถึงแม้ว่าเราจะทำงานและได้เงินมากมาย
แต่ชีวิตตอนนั้น เราไม่ค่อยมีความสุขเลย
ชีวิตเราวนไปวนมาอยู่ลูปเดิม ตลอดสามเดือนนั้น
ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ทำงานกลับบ้านๆๆ เป็นอยู่แบบนี้ทุกวัน
บางอาทิตย์เราทำงานจนไม่มีเดย์ออฟ
ทำอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 50 ชม
ฟังไม่ผิดค่ะ 50 ชมมมค่าาาา วันนึงทำ 12 ชม ก็มี
ร้านเปิดยันร้านปิด อดหลับอดนอนทำงานตลอดเวลา
เราเลยรู้สึกว่า งานเฮ้าคงไม่เกินความสามารถเราหรอก 555
อีกทั้งการเลือกงานในครั้งนี้ เราโฟกัสที่เมืองเป็นอันดับแรก
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนติดเที่ยว สายปาร์ตี้
แต่อย่างน้อยเราก็ขอเลือกเมืองที่การคมนาคม มันดีหน่อย 555
ไม่รกร้างกันดาลบัสไม่วิ่งเหมือนเมืองที่เราไปมาปีก่อน
เป้าจึงมาตกที่นี่ Reno,NEVADA
จริงๆเราไม่เคยรู้จักเมืองนี้มาก่อน
พี่ที่เอเจนซี่บอกว่ารีโน่เป็นเมืองคาสิโน
อารมณ์ลาสเวกัส แต่เล็กกว่าลาสเวกัส
แต่ที่น่าสนใจคือ อากาศค่ะ
อากาศที่นี้ไม่ร้อนเกินไป และหนาวเกินไป
ทำให้เราสนใจ และตัดสินใจว่า เอาที่นี่แหละ
หลังจากเลือกงานเสร็จสรรพ ถึงเวลาสัมภาษณ์
ก็เหมือนเดิม คำถามทั่วๆไป เหมือนปีก่อนเลย ย้อนกลับไปอ่านกระทู้เราได้
หลังจากจ็อบออฟเฟอร์ออก ถึงคราวสัมภาษณ์วีซ่า
คราวนี้ไม่เหมือนเดิมแหะ ทุกอย่างดูแปลกตา 555
ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่า เราไปเจอเค้าเตอร์์โหด
ผู้ชายเอเชียที่ใครๆก็บอกว่าโห๊ดโหด ปีที่แล้วกลัวมาก
ปีนี้เหมือนมั่นใจ หลังจากไปเวิคกลับมาเรากล้าพูดกล้าถามมากขึ้น
ตอนแรกก็แอบมีหวั่นๆนะ ว่าจะผ่านมั๊ย
เพราะคนก่อนหน้าเราโดนถามนานมากกกกกกกกก
โดนถามแม้กระทั่ง ชื่อจริงของคนนั้น แปลว่าอะไร
แบบความหมายอะไรงี้ เรานี่แบบ ละชื่อชั้นละะะ
พ่อแม่ไม่เคยบอกว่าแปลว่าไร นี่ถ้าเค้าถามจะตอบว่าไร
ก็กังวลไปแปปนึง ยังไม่ทันคิดไรก็ตาเรา
เริ่มแรกมานางก็ถามเลย จะให้ถามแบบฮอทๆไหม
หรือเอาแบบปกติ แหมคุณคะ ปกติเถอะค่ะ
สำหรับเราโดนถามแค่เรียนที่ไหน
แล้วก็เข้าเรื่องเลย ว่าเคยไปมาแล้วหรอ
ทำงานอะไร เป็นยังไงบ้าง
อย่างเราปีก่อนทำงานซับเวย์ ตานี่ก็มาเลย
ถ้าอยากกิน BLT ต้องทำยังไงบ้าง
แหม ง่ายๆ เราก็จัดแจงบอกทุกขั้นตอน
ใส่เบค่อนกี่ชิ้นอะไรยังไง 5555
พออธิบายเสร็จ เค้าก็แอบชมเราว่าภาษาเราดีแหะ
ตอนนั้นก็แอบพราวนิดนึง 55555555555
แต่คิดว่าถ้าถามอย่างอื่นคงตอบไม่ได้เหมือนกัน 5555
และแล้วก็ผ่านแบบดื้อๆ คนข้างหลังยัง งงๆว่าทำไมเราไวจัง
เพราะหลายคนก่อนหน้านี้เรานานมาก
แต่จากที่เราสังเกตุคือ คนที่นานๆนี่คือจะอึกอักซะเยอะค่ะ
และพออึกอักเค้าก็จะจี้เรื่อยๆ พูดย้ำๆ จนเราอาจจะแอบไปไม่ถูกสักครูนึง
แต่ถ้าใครที่ถามปุ๊ปตอบปั๊ป จะผิดจะถูก แก่ก็ปล่อยผ่านโลดจ้าาา
หลังจากทำวีซ่า ไม่นานนักก็ถึงวันที่เราบินค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการจองตั๋ว คราวนี้เราขอข้ามไป
เพราะเอเจ้นบังคับจอง อยากรู้รายละเอียดหลังไมค์มาได้ค่ะ
จริงๆเราหาเองได้ถูกกว่าเอเจ้นเกือบหมื่น -*-