ล่าสุดที่ผ่านมา มีข่าวว่าจะมีการปรับให้ข้อสอบอัตนัยเพิ่มขึ้น
แน่นอนว่ามีนักเรียนโวยวายเรื่องสอบอัตนัยแน่ๆ เพราะเพื่อนของจขกท.โวยวายหนักมาก
แต่เรากลับเห็นด้วยกับการเพิ่มข้อสอบอัตนัย โดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์ สังคม บลาๆ
เพราะมันช่วยนักเรียนมากกว่าปรนัยซะอีก
มาพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าเกิดว่าข้อสอบทั้งหมดเป็นอัตนัยดู ไม่ว่าจะเป็นแกทแพท หรือการสอบ
เข้ามหาลัย
อันนี้คือความเห็นส่วนตัวนะคะ
- โรงเรียนกวดวิชาอาจจะลดลง? เพราะโรงเรียนกวดวิชาอาศัยการย่อสรุปหาวิธีในการพิชิตข้อสอบ
ปรนัย ที่ต้องอาศัยการคิดการตอบคำถามอันรวดเร็ว แล้วต้องถูกต้อง ถ้ารู้แนวข้อสอบ ทำได้ไม่ยาก
ดังนั้นถ้าเป็นอัตนัย โรงเรียนกวดวิชาอาจจะต้องเปลี่ยนแนวการสอน ซึ่งต้องทำให้เด็กวิเคราะห์โจทย์
ซึ่งมันยากไปอีก หรือจะสอนให้เด็กวิเคราะห์ไปทางเดียวกันมันก็ลำบาก คงต้องเปลี่ยนเป็นการอบรม
เพื่อให้เด็กวิเคราะห์มากขึ้น แล้วต้องเจอข้อสอบที่ให้แสดงความเห็นอีก
- การสอบส่วนกลางหายไป? คิดดูว่าถ้าการสอบส่วนกลางที่ถูกจัดสอบด้วยกระทรวงนู่นนี่ ต้องมาตรวจ
กระดาษคำตอบ ที่มีลายมือแสนสวยของนร.ดู กว่านร.จะทราบคะแนนคงนานมากๆ แล้วถ้าอ่านลายมือ
ไม่ออกละทำยังไง ดังนั้นมหาลัยอาจจะเป็นผู้จัดสอบเอง ซึ่งจะเร็วกว่าทำให้มหาลัยได้นักเรียนที่ตรง
กลุ่มตามที่ต้องการ
- การกั๊กที่? ถ้ามหาลัยจัดสอบไม่ตรงกันเด็กเก่งลายมือสวย คงกั๊กได้ทุกที่ แทบทุกคณะแต่อย่าลืมว่า
มันเป็นข้อสอบอัตนัย ถ้าเป็นข้อสอบวิเคราะห์ เด็กเรียนเก่งอาจวิเคราะห์สู้เด็กที่อ่านหนังสือเยอะ
แล้วความตั้งใจสูงกว่าไม่ได้ก็ได้ ดังนั้นความเก่งกาจสามารถท่องทุกคำในหนังสือ ก็จะไม่ใช่ทางในการตัดสิน
เข้ามหาลัยอีกต่อไป แต่จะเป็นการวัดความสามารถในการวิเคราะห์ จากความรู้ที่เราเรียนอีกต่างหาก
ซึ่งความสามารถในการวิเคราะห์ มันทำให้เด็กสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ได้ เพราะความรู้ในหนังสือ
จะมีประโยชน์เมื่อมันถูกประยุกต์ ไม่ใช่เป็นคำตอบในกระดาษคำตอบ
- นักเรียนค้นคว้าหาความรู้มากขึ้น? การตอบแบบวิเคราะห์มันไม่ง่าย ต้องมีความรู้ในเรียนที่จะตอบแล้ว
ยังต้องมีความรู้รอบตัวอีก ทุกวันนี้มีอินเทอร์เน็ตที่ถึงนักเรียนทุกคน แต่จริงๆแล้วมีกี่คนที่ค้นคว้าหาความรู้
เราคนหนึ่งที่จะสอบถึงค่อยอ่าน เพราะมันก็แค่จำ มันไม่มีอะไรจะมากไปกว่านั้น ยกเว้นวิชาที่ต้องฝึกคำนวน
ถึงจะมีการเตรียมตัวอย่างดี ที่เหลือรอใกล้สอบ เพราะต้องจำให้แม่นและเป๊ะทุกคำ
- การเรียนในโรงเรียนมันไม่น่าเบื่อ? เด็กทุกคนเบื่อที่ครูอ่านหนังสือ สอนนักเรียนค่ะ หรือไฮเทคหน่อยก็
เปิดสไลด์สอนนักเรียน อ่านให้ฟัง เด็กหลับแน่ๆค่ะโดยเฉพาะหลังคาบกินข้าว หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน
ครูต้องเปลี่ยนรูปแบบการสอน ให้เด็กสามารถวิเคราะห์ได้ ไม่ว่าจะต้องออกมายกตัวอย่าง เปิดให้เด็กออกมาลองทำ
เด็กออกมาวิเคราะห์ แต่ถึงอย่างนั้น การให้คะแนนในโรงเรียนมันก็จะเป็นเรื่องยาก
- การโกงข้อสอบน้อยลง? ถ้าคำตอบมีแค่ 24 ก.ไก่ ดวงอาทิตย์ โทมัส มอร์ E=1/2mv2 ส่งโพยง่ายค่ะ
แต่ลองข้อสอบอัตนัยดูสิคะที่ให้วิเคราะห์ยาวๆ นอกจากจะลอกไม่ได้ ยังวัดเด็กว่าเข้าใจจริงๆได้รึป่าว
ที่กล่าวมามันอาจจะเป็นด้านดีๆที่เราคิดค่ะแต่จริงๆเราคิดด้านแย่ๆไว้เช่นกัน เช่น
- คะแนนจะให้ยังไง
- ใช้เกณฑ์อะไรวัด
- ทำไงให้ได้คะแนนดี
- แล้วจะต้องตอบยังไงให้สอบผ่าน
- แล้วตอบยังไงถึงสอบตก
- แล้วการมาโรงเรียนสำคัญยังไง ถ้าเด็กสามารถเรียนเองและวิเคราะห์เองได้
- คุณครูจะให้คะแนนการตอบยังไง ถ้าเป็นข้อให้เปิดแสดงความเห็น
- ลายมือไม่สวยอ่านยากละทำยังไง
แต่สุดท้ายค่ะ เด็กไทยก็คือเด็กนักเรียนไทยค่ะ เมื่อไหร่ที่เราคิดว่าขอแค่รู้คำตอบเพื่อตอบในกระดาษก็พอ
ขอแค่เกรด3.5ขึ้น เพื่อให้มหาลัยยอมรับ เด็กก็ยังเห็นคุณค่าของความรู้แค่คำตอบของข้อสอบ
ส่วนคุณครูก็อาจจะยังมองเด็กนักเรียนแค่ สอนเพื่อให้ตอบได้ในห้องสอบ แล้วก็ทำงานมาส่งซะเพื่อให้ได้เกรด4
วัฏจักรแบบนี้ก็จะวนไปเรื่อยๆค่ะ เรียน ทำงานส่ง จำ สอบ จบ รับเกรด
หมายเหตุ วิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมีหรือวิชาคำนวนขอไม่พูดถึงนะคะ ยังไงมันก็ต้องคิดอยู่ดีค่ะ ._.
ขอแท็ก หว้ากอเพราะอยู่สายวิทย์ค่ะ
ขอเท็ก ศาลาประชาคม เพราะมองว่าเป็นปัญหาสังคมค่ะ
ถ้าข้อสอบระดับมัธยมมีแต่อัตนัย จะเกิดอะไรขึ้น
แน่นอนว่ามีนักเรียนโวยวายเรื่องสอบอัตนัยแน่ๆ เพราะเพื่อนของจขกท.โวยวายหนักมาก
แต่เรากลับเห็นด้วยกับการเพิ่มข้อสอบอัตนัย โดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์ สังคม บลาๆ
เพราะมันช่วยนักเรียนมากกว่าปรนัยซะอีก
มาพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าเกิดว่าข้อสอบทั้งหมดเป็นอัตนัยดู ไม่ว่าจะเป็นแกทแพท หรือการสอบ
เข้ามหาลัย
อันนี้คือความเห็นส่วนตัวนะคะ
- โรงเรียนกวดวิชาอาจจะลดลง? เพราะโรงเรียนกวดวิชาอาศัยการย่อสรุปหาวิธีในการพิชิตข้อสอบ
ปรนัย ที่ต้องอาศัยการคิดการตอบคำถามอันรวดเร็ว แล้วต้องถูกต้อง ถ้ารู้แนวข้อสอบ ทำได้ไม่ยาก
ดังนั้นถ้าเป็นอัตนัย โรงเรียนกวดวิชาอาจจะต้องเปลี่ยนแนวการสอน ซึ่งต้องทำให้เด็กวิเคราะห์โจทย์
ซึ่งมันยากไปอีก หรือจะสอนให้เด็กวิเคราะห์ไปทางเดียวกันมันก็ลำบาก คงต้องเปลี่ยนเป็นการอบรม
เพื่อให้เด็กวิเคราะห์มากขึ้น แล้วต้องเจอข้อสอบที่ให้แสดงความเห็นอีก
- การสอบส่วนกลางหายไป? คิดดูว่าถ้าการสอบส่วนกลางที่ถูกจัดสอบด้วยกระทรวงนู่นนี่ ต้องมาตรวจ
กระดาษคำตอบ ที่มีลายมือแสนสวยของนร.ดู กว่านร.จะทราบคะแนนคงนานมากๆ แล้วถ้าอ่านลายมือ
ไม่ออกละทำยังไง ดังนั้นมหาลัยอาจจะเป็นผู้จัดสอบเอง ซึ่งจะเร็วกว่าทำให้มหาลัยได้นักเรียนที่ตรง
กลุ่มตามที่ต้องการ
- การกั๊กที่? ถ้ามหาลัยจัดสอบไม่ตรงกันเด็กเก่งลายมือสวย คงกั๊กได้ทุกที่ แทบทุกคณะแต่อย่าลืมว่า
มันเป็นข้อสอบอัตนัย ถ้าเป็นข้อสอบวิเคราะห์ เด็กเรียนเก่งอาจวิเคราะห์สู้เด็กที่อ่านหนังสือเยอะ
แล้วความตั้งใจสูงกว่าไม่ได้ก็ได้ ดังนั้นความเก่งกาจสามารถท่องทุกคำในหนังสือ ก็จะไม่ใช่ทางในการตัดสิน
เข้ามหาลัยอีกต่อไป แต่จะเป็นการวัดความสามารถในการวิเคราะห์ จากความรู้ที่เราเรียนอีกต่างหาก
ซึ่งความสามารถในการวิเคราะห์ มันทำให้เด็กสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ได้ เพราะความรู้ในหนังสือ
จะมีประโยชน์เมื่อมันถูกประยุกต์ ไม่ใช่เป็นคำตอบในกระดาษคำตอบ
- นักเรียนค้นคว้าหาความรู้มากขึ้น? การตอบแบบวิเคราะห์มันไม่ง่าย ต้องมีความรู้ในเรียนที่จะตอบแล้ว
ยังต้องมีความรู้รอบตัวอีก ทุกวันนี้มีอินเทอร์เน็ตที่ถึงนักเรียนทุกคน แต่จริงๆแล้วมีกี่คนที่ค้นคว้าหาความรู้
เราคนหนึ่งที่จะสอบถึงค่อยอ่าน เพราะมันก็แค่จำ มันไม่มีอะไรจะมากไปกว่านั้น ยกเว้นวิชาที่ต้องฝึกคำนวน
ถึงจะมีการเตรียมตัวอย่างดี ที่เหลือรอใกล้สอบ เพราะต้องจำให้แม่นและเป๊ะทุกคำ
- การเรียนในโรงเรียนมันไม่น่าเบื่อ? เด็กทุกคนเบื่อที่ครูอ่านหนังสือ สอนนักเรียนค่ะ หรือไฮเทคหน่อยก็
เปิดสไลด์สอนนักเรียน อ่านให้ฟัง เด็กหลับแน่ๆค่ะโดยเฉพาะหลังคาบกินข้าว หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน
ครูต้องเปลี่ยนรูปแบบการสอน ให้เด็กสามารถวิเคราะห์ได้ ไม่ว่าจะต้องออกมายกตัวอย่าง เปิดให้เด็กออกมาลองทำ
เด็กออกมาวิเคราะห์ แต่ถึงอย่างนั้น การให้คะแนนในโรงเรียนมันก็จะเป็นเรื่องยาก
- การโกงข้อสอบน้อยลง? ถ้าคำตอบมีแค่ 24 ก.ไก่ ดวงอาทิตย์ โทมัส มอร์ E=1/2mv2 ส่งโพยง่ายค่ะ
แต่ลองข้อสอบอัตนัยดูสิคะที่ให้วิเคราะห์ยาวๆ นอกจากจะลอกไม่ได้ ยังวัดเด็กว่าเข้าใจจริงๆได้รึป่าว
ที่กล่าวมามันอาจจะเป็นด้านดีๆที่เราคิดค่ะแต่จริงๆเราคิดด้านแย่ๆไว้เช่นกัน เช่น
- คะแนนจะให้ยังไง
- ใช้เกณฑ์อะไรวัด
- ทำไงให้ได้คะแนนดี
- แล้วจะต้องตอบยังไงให้สอบผ่าน
- แล้วตอบยังไงถึงสอบตก
- แล้วการมาโรงเรียนสำคัญยังไง ถ้าเด็กสามารถเรียนเองและวิเคราะห์เองได้
- คุณครูจะให้คะแนนการตอบยังไง ถ้าเป็นข้อให้เปิดแสดงความเห็น
- ลายมือไม่สวยอ่านยากละทำยังไง
แต่สุดท้ายค่ะ เด็กไทยก็คือเด็กนักเรียนไทยค่ะ เมื่อไหร่ที่เราคิดว่าขอแค่รู้คำตอบเพื่อตอบในกระดาษก็พอ
ขอแค่เกรด3.5ขึ้น เพื่อให้มหาลัยยอมรับ เด็กก็ยังเห็นคุณค่าของความรู้แค่คำตอบของข้อสอบ
ส่วนคุณครูก็อาจจะยังมองเด็กนักเรียนแค่ สอนเพื่อให้ตอบได้ในห้องสอบ แล้วก็ทำงานมาส่งซะเพื่อให้ได้เกรด4
วัฏจักรแบบนี้ก็จะวนไปเรื่อยๆค่ะ เรียน ทำงานส่ง จำ สอบ จบ รับเกรด
หมายเหตุ วิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมีหรือวิชาคำนวนขอไม่พูดถึงนะคะ ยังไงมันก็ต้องคิดอยู่ดีค่ะ ._.
ขอแท็ก หว้ากอเพราะอยู่สายวิทย์ค่ะ
ขอเท็ก ศาลาประชาคม เพราะมองว่าเป็นปัญหาสังคมค่ะ