ปรับเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองธรรมชาติจ๋าอย่าง Interaken มาสู่เมืองที่เป็นเป้าหมายอันดับต้นๆของคนที่มาเยือนยุโรป Paris นอกจากนี้การมา Paris ยังถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ จขกท จะได้มีโอกาสได้เดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆโดยใช้ Metro เป็นส่วนใหญ่บ้าง หลังจากที่ต้องตรากตรำเดินไปมาเป็นสิบยี่สิบกิโลด้วยขาคู่นี้มาโดยตลอด
สำหรับใครที่พลาดอ่านกระทู้ตอนตอนอื่นๆไปก็ติดตามได้ผ่านลิ้งค์นี้เลยนะครับ :
ตอนที่ 1 : Overview --
http://ppantip.com/topic/34158754
ตอนที่ 2 : Aiesec --
http://ppantip.com/topic/34161587
ตอนที่ 3 : จาก Oslo สู่ Bergen--
http://ppantip.com/topic/34163330
ตอนที่ 4 : จาก Bergen สู่ Flam --
http://ppantip.com/topic/34163595
ตอนที่ 5 : จาก Flam สู่ Stockholm --
http://ppantip.com/topic/34165258
ตอนที่ 6 : จาก Stockholm สู่ Copenhagen --
http://ppantip.com/topic/34165570
ตอนที่ 7 : จาก Copenhagen สู่ Hamburg --
http://ppantip.com/topic/34166098
ตอนที่ 8 : จาก Hamburg สู่ Berlin --
http://ppantip.com/topic/34166782
ตอนที่ 9 : จาก Berlin สู่ Dresden --
http://ppantip.com/topic/34168521
อนที่ 10 : จาก Dresden สู่ Prague --
http://ppantip.com/topic/34169065
ตอนที่ 11 : จาก Prague สู่ Munich --
http://ppantip.com/topic/34169706
ตอนที่ 12 : จาก Munich สู่ Luzern --
http://ppantip.com/topic/34170042
ตอนที่ 13 : จาก Luzern สู่ Interalaken --
http://ppantip.com/topic/34172799
ตอนที่ 15 : จาก Paris สู่ Amsterdam --
http://ppantip.com/topic/34174824
Transportation
การเดินทางเข้าสู่ปารีสที่เป็นเส้นทางที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร เนื่องจากรถไฟที่เข้าสู่ปารีสส่วนใหญ่จะเป็นรถไฟ High speed train ที่บัตรเบ่งเราไม่สามารถครอบคลุมค่าตั๋วได้หมด โดยการเดินทางจาก Interlaken สู่ Paris จะแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนคือ Interlaken OST(Swiss) – Basel SBB(Swiss) ใช้เวลาประมาณ 2 ชมและขึ้นได้ฟรีเมื่อถือบัตรเบ่ง , Basel SBB – Paris Gare De Lyon(France) ใช้เวลาประมาณ 3 ชม โดยรถไฟที่ขึ้นจะเป็นรถไฟเร็ว TGV ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้จะมีบัตรเบ่งแต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจองที่นั่ง โดยราคาอยู่ที่ 35 Euro ต่อคน ปล.ขจกท จองก่อนเดินทางประมาณ 4-5 วัน , Paris Gare De Lyon(France) – Barbes Rochechouart (Metro ใกล้ที่พัก) จำเป็นต้องซื้อตั๋วรถ Metro ซึ่งราคาต่อ 1 เที่ยวจะตกอยู่ประมาณ 1.8 Euro แต่เนื่องด้วยการท่องเที่ยวใน Paris ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ จะให้ จขกท เดินด้วยเท้าคงจะไม่ไหว ดังนั้น จขกท จึงจำเป็นที่จะต้องซื้อตั๋ว Metro เพื่อเดินทางไปยังสถานที่สำคัญๆต่างๆ โดย จขกท ตัดสินใจซื้อตั๋วชุด(Single ticket 10 ใบ)ซึ่งมีราคาประมาณ 14.1 Euro หมายความว่า เฉลี่ยต่อตั๋วแล้วจะมีราคาถูกกว่าการซื้อตั๋วเที่ยวเพียงใบเดียว
Tips:
1.การเดินทางเข้าสู่ Paris นั้น ถ้าจำเป็นที่จำต้องขึ้นรถไฟเร็วเช่น TGV เราอาจมีการจองที่นั่งล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ซึ่งน่าจะถูกกว่าการจองก่อนวันเดินทางเพียงไม่กี่วัน แต่อย่างไรก็ตามค่าธรรมเนียมในการจองที่นั่งก็ยังถือว่าแพงอยู่ดี (ขั้นต่ำ 20 – 25 Euro) ดังนั้นถ้าใครมีเวลามากพอ การเดินทางเข้าสู่ปารีสโดยหลีกเลี่ยงรถไฟเร็วก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยระยะเวลาการเดินทางที่เพิ่มขึ้นกว่า 3-4 เท่าจากการเปลี่ยนสายรถไฟกว่า 6-7 ครั้งและความสุ่มเสี่ยงที่จะตกรถไฟ
2.สาเหตุที่ จขกท เลือกซื้อตั๋ว Metro แบบ Single ticket 10 ใบ เนื่องจากเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแบบ Day pass และที่สำคัญสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใน Paris นั้นอยู่ใน Zone 1 ซึ่งสามารถใช้ตั๋วใบนี้ขึ้นได้ อีกทั้งสถานที่เที่ยวหลายแห่งยังอยู่ไม่ห่างกันนัก ทำให้เราสามารถเดินเท้าไปได้ ปล.มีเพียงแค่ Versaille(Zone 4) ที่ตั๋ว Single ticket ครอบคลุมไม่ถึง ซึ่ง จขกท เลือกที่จะซื้อตั๋วแยกประมาณ 7 Euro (Return Ticket)
3.บัตร Single ticket (Ticket T+) สามารถขึ้นได้ทั้ง Metro(เหมือนรถไฟใต้ดิน-รถไฟฟ้าบ้านเราที่จอดแวะหลายสถานี) ,RER(คล้ายๆ Metro แต่จอดแวะน้อยกว่าทำให้เดินทางได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังมีเส้นทางออกไป Zone นอกๆ) , Bus และ Tram เป็นต้น สำหรับ จขกท เลือกเดินทางแค่ Metro กับ RER ซึ่งบัตร 1 ใบสามารถต่อ Metro หรือ RER ได้หลายครั้งจนกว่าเราจะออกจากสถานี(จากการถามคนที่อยู่ใน Paris) ปล.แต่ในบางครั้งเมื่อออกจากสถานีไปแล้ว จขกท ก็ยังสามารถใช้บัตรเดิมเข้ามาในสถานีได้อยู่ เช่น จขกท ได้นั่งMetro จากสถานี Champs Elysees Clemenceau ไปลง Invalidและออกจากสถานีไปถ่ายรูปประมาณ 15 นาที จากนั้นก็ใช้บัตรใบเดิมกลับเข้ามาเพื่อนั่ง Metro ต่อไปยังที่พัก ซึ่งก็แอบงงอยู่เหมือนกัน ดังนั้น แนะนำว่าเมื่อใช้บัตรไปแล้ว 1 ครั้งก็เก็บบัตรไว้ก่อนอย่าเพิ่งทิ้งเพราะเราอาจจะสามารถกลับมาขึ้น Metro ได้อีกครั้งโดยใช้บัตรใบเดิม
4.การใช้รถ Metro ใน Paris เราอาจจะเห็นหลายๆคนโกงโดยการกระโดดข้ามหรือให้เพื่อนแอบเปิดประตูทางออกโดยไม่ซื้อบัตรโดยเฉพาะตอนดึกๆ ซึ่ง จขกท ไม่แนะนำให้ทำเพราะอาจเจอการสุ่มตรวจบัตรแบบนี้ ซึ่งค่าปรับก็ไม่ใช่เล่นๆ รู้สึกจะเกือบ 50 Euro
5.การเดินทางใน Paris zone 1 โดยใช้ Metro เราสามารถใช้แอพ Paris Metro ซึ่งขอบอกว่าช่วยได้เยอะมาก ทั้งการเลือกเส้นทาง Metro ที่เปลี่ยนสายน้อยสุดหรือเร็วสุดและการเดินเท้าไปยังสถานที่สำคัญๆ
[CR] รีวิว Volunteer Aiesec 6 สัปดาห์+เที่ยวยุโรปครั้งแรกแบบประหยัด 1 เดือนเต็ม -- ตอนที่ 14 : จาก Interalaken สู่ Paris
สำหรับใครที่พลาดอ่านกระทู้ตอนตอนอื่นๆไปก็ติดตามได้ผ่านลิ้งค์นี้เลยนะครับ :
ตอนที่ 1 : Overview -- http://ppantip.com/topic/34158754
ตอนที่ 2 : Aiesec -- http://ppantip.com/topic/34161587
ตอนที่ 3 : จาก Oslo สู่ Bergen-- http://ppantip.com/topic/34163330
ตอนที่ 4 : จาก Bergen สู่ Flam -- http://ppantip.com/topic/34163595
ตอนที่ 5 : จาก Flam สู่ Stockholm -- http://ppantip.com/topic/34165258
ตอนที่ 6 : จาก Stockholm สู่ Copenhagen -- http://ppantip.com/topic/34165570
ตอนที่ 7 : จาก Copenhagen สู่ Hamburg -- http://ppantip.com/topic/34166098
ตอนที่ 8 : จาก Hamburg สู่ Berlin -- http://ppantip.com/topic/34166782
ตอนที่ 9 : จาก Berlin สู่ Dresden -- http://ppantip.com/topic/34168521
อนที่ 10 : จาก Dresden สู่ Prague -- http://ppantip.com/topic/34169065
ตอนที่ 11 : จาก Prague สู่ Munich -- http://ppantip.com/topic/34169706
ตอนที่ 12 : จาก Munich สู่ Luzern -- http://ppantip.com/topic/34170042
ตอนที่ 13 : จาก Luzern สู่ Interalaken -- http://ppantip.com/topic/34172799
ตอนที่ 15 : จาก Paris สู่ Amsterdam -- http://ppantip.com/topic/34174824
Transportation
การเดินทางเข้าสู่ปารีสที่เป็นเส้นทางที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร เนื่องจากรถไฟที่เข้าสู่ปารีสส่วนใหญ่จะเป็นรถไฟ High speed train ที่บัตรเบ่งเราไม่สามารถครอบคลุมค่าตั๋วได้หมด โดยการเดินทางจาก Interlaken สู่ Paris จะแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนคือ Interlaken OST(Swiss) – Basel SBB(Swiss) ใช้เวลาประมาณ 2 ชมและขึ้นได้ฟรีเมื่อถือบัตรเบ่ง , Basel SBB – Paris Gare De Lyon(France) ใช้เวลาประมาณ 3 ชม โดยรถไฟที่ขึ้นจะเป็นรถไฟเร็ว TGV ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้จะมีบัตรเบ่งแต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจองที่นั่ง โดยราคาอยู่ที่ 35 Euro ต่อคน ปล.ขจกท จองก่อนเดินทางประมาณ 4-5 วัน , Paris Gare De Lyon(France) – Barbes Rochechouart (Metro ใกล้ที่พัก) จำเป็นต้องซื้อตั๋วรถ Metro ซึ่งราคาต่อ 1 เที่ยวจะตกอยู่ประมาณ 1.8 Euro แต่เนื่องด้วยการท่องเที่ยวใน Paris ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ จะให้ จขกท เดินด้วยเท้าคงจะไม่ไหว ดังนั้น จขกท จึงจำเป็นที่จะต้องซื้อตั๋ว Metro เพื่อเดินทางไปยังสถานที่สำคัญๆต่างๆ โดย จขกท ตัดสินใจซื้อตั๋วชุด(Single ticket 10 ใบ)ซึ่งมีราคาประมาณ 14.1 Euro หมายความว่า เฉลี่ยต่อตั๋วแล้วจะมีราคาถูกกว่าการซื้อตั๋วเที่ยวเพียงใบเดียว
Tips:
1.การเดินทางเข้าสู่ Paris นั้น ถ้าจำเป็นที่จำต้องขึ้นรถไฟเร็วเช่น TGV เราอาจมีการจองที่นั่งล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ซึ่งน่าจะถูกกว่าการจองก่อนวันเดินทางเพียงไม่กี่วัน แต่อย่างไรก็ตามค่าธรรมเนียมในการจองที่นั่งก็ยังถือว่าแพงอยู่ดี (ขั้นต่ำ 20 – 25 Euro) ดังนั้นถ้าใครมีเวลามากพอ การเดินทางเข้าสู่ปารีสโดยหลีกเลี่ยงรถไฟเร็วก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยระยะเวลาการเดินทางที่เพิ่มขึ้นกว่า 3-4 เท่าจากการเปลี่ยนสายรถไฟกว่า 6-7 ครั้งและความสุ่มเสี่ยงที่จะตกรถไฟ
2.สาเหตุที่ จขกท เลือกซื้อตั๋ว Metro แบบ Single ticket 10 ใบ เนื่องจากเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแบบ Day pass และที่สำคัญสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใน Paris นั้นอยู่ใน Zone 1 ซึ่งสามารถใช้ตั๋วใบนี้ขึ้นได้ อีกทั้งสถานที่เที่ยวหลายแห่งยังอยู่ไม่ห่างกันนัก ทำให้เราสามารถเดินเท้าไปได้ ปล.มีเพียงแค่ Versaille(Zone 4) ที่ตั๋ว Single ticket ครอบคลุมไม่ถึง ซึ่ง จขกท เลือกที่จะซื้อตั๋วแยกประมาณ 7 Euro (Return Ticket)
3.บัตร Single ticket (Ticket T+) สามารถขึ้นได้ทั้ง Metro(เหมือนรถไฟใต้ดิน-รถไฟฟ้าบ้านเราที่จอดแวะหลายสถานี) ,RER(คล้ายๆ Metro แต่จอดแวะน้อยกว่าทำให้เดินทางได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังมีเส้นทางออกไป Zone นอกๆ) , Bus และ Tram เป็นต้น สำหรับ จขกท เลือกเดินทางแค่ Metro กับ RER ซึ่งบัตร 1 ใบสามารถต่อ Metro หรือ RER ได้หลายครั้งจนกว่าเราจะออกจากสถานี(จากการถามคนที่อยู่ใน Paris) ปล.แต่ในบางครั้งเมื่อออกจากสถานีไปแล้ว จขกท ก็ยังสามารถใช้บัตรเดิมเข้ามาในสถานีได้อยู่ เช่น จขกท ได้นั่งMetro จากสถานี Champs Elysees Clemenceau ไปลง Invalidและออกจากสถานีไปถ่ายรูปประมาณ 15 นาที จากนั้นก็ใช้บัตรใบเดิมกลับเข้ามาเพื่อนั่ง Metro ต่อไปยังที่พัก ซึ่งก็แอบงงอยู่เหมือนกัน ดังนั้น แนะนำว่าเมื่อใช้บัตรไปแล้ว 1 ครั้งก็เก็บบัตรไว้ก่อนอย่าเพิ่งทิ้งเพราะเราอาจจะสามารถกลับมาขึ้น Metro ได้อีกครั้งโดยใช้บัตรใบเดิม
4.การใช้รถ Metro ใน Paris เราอาจจะเห็นหลายๆคนโกงโดยการกระโดดข้ามหรือให้เพื่อนแอบเปิดประตูทางออกโดยไม่ซื้อบัตรโดยเฉพาะตอนดึกๆ ซึ่ง จขกท ไม่แนะนำให้ทำเพราะอาจเจอการสุ่มตรวจบัตรแบบนี้ ซึ่งค่าปรับก็ไม่ใช่เล่นๆ รู้สึกจะเกือบ 50 Euro
5.การเดินทางใน Paris zone 1 โดยใช้ Metro เราสามารถใช้แอพ Paris Metro ซึ่งขอบอกว่าช่วยได้เยอะมาก ทั้งการเลือกเส้นทาง Metro ที่เปลี่ยนสายน้อยสุดหรือเร็วสุดและการเดินเท้าไปยังสถานที่สำคัญๆ