นักวิจัยชี้พบเชื้อ HIVมีฤทธิ์อันตรายน้อยลง

นักวิจัยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดชี้พบเชื้อไวรัสHIV กำลังพัฒนาตัวเองให้มีฤทธิ์ร้ายแรงน้อยลง ผู้ป่วยโรคเอดส์มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น
ศ.ฟิลิป กูลเดอร์ และทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เปิดเผยผลวิจัยที่พบว่าเชื้อ HIV ซึ่งก่อให้เกิดโรคเอดส์ กำลังพัฒนาตัวเองให้มีฤทธิ์ร้ายแรงน้อยลง และแพร่พันธุ์ได้ช้าลง จนเป็นไปได้ว่าในอนาคต เชื้อนี้จะแทบไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อีกต่อไป
ศ.ฟิลิป กูลเดอร์ กล่าวว่า โดยปกติเชื้อ HIV ได้รับการยอมรับว่ามีศักยภาพสูงในการกลายพันธุ์เพื่อแอบซ่อนตัวจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีบ่อยครั้งที่เชื้อเข้าไปสู่ร่างกายของคนที่มีภูมิคุ้มกันสูงมาก ทำให้ไวรัส HIV ต้องทำงานหนักในการหลบหลีกจากการถูกภูมิคุ้มกันทำลาย ด้วยการปรับตัวให้มีศักยภาพในการขยายพันธุ์ในร่างกายมนุษย์ได้ช้าลง ซึ่งส่งผลให้เชื้อที่กลายพันธุ์แบบนี้ ต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการทำให้ผู้ติดเชื้อเกิดอาการของโรคเอดส์
นอกจากนี้ ยาต้านไวรัสที่ใช้กับผู้ป่วยโรคเอดส์ในปัจจุบัน ยังส่งผลให้ไวรัสพัฒนาตนเองให้มีความรุนแรงน้อยลง เพราะยาส่วนใหญ่จะทำลายเฉพาะเชื้อชนิดที่มีความร้ายแรงที่สุดเท่านั้น แต่ปล่อยเชื้อชนิดที่อ่อนกว่าไว้ ทำให้ไวรัสต้องพัฒนาตัวเองให้มีความร้ายแรงน้อยลงเพื่อความอยู่รอด
นักวิจัยพบว่าพัฒนาการของไวรัส HIV จากทั้ง 2 ปัจจัยนี้ ทำให้ปัจจุบันเกิดการขยายพันธุ์ของเชื้อ HIV ชนิดอ่อนในหลายประเทศที่พบการระบาดของเอดส์มานานแล้ว โดยมีการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบ 2 ประเทศในแอฟริกา ได้แก่เซาท์แอฟริกา และบอตสวานา โดยเซาท์แอฟริกาพบการระบาดของโรคเอดส์ช้ากว่าบอตสวานา 10 ปี ปรากฏว่าเชื้อไวรัส HIV ในบอตสวานามีอัตราความเร็วในการแบ่งตัวต่ำกว่าเชื้อ HIV ในเซาท์แอฟริกาถึงร้อยละ 10
นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่าผู้ติดเชื้อ HIV ในบอตสวานาในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา มีอายุต่อไปได้โดยเฉลี่ยอีกถึง 12.5 ปี ต่างจาก 20 ปีก่อน ที่ผู้ป่วยอยู่ได้โดยเฉลี่ยเพียง 10 ปี ซึ่งแนวโน้มนี้ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่ามนุษย์ในอนาคตอาจรับเชื้อ HIV เข้าไปในร่างกายได้โดยไม่แสดงอาการใดๆนานหลายสิบปี เนื่องจากเชื้ออ่อนแอและแบ่งตัวได้ช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเชื้อ HIV ชนิดที่อ่อนแอลงนี้จะไม่อันตราย เพราะ HIV ยังก่อให้เกิดโรคเอดส์ได้
ขณะที่นักไวรัสวิทยาคนอื่นๆจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟและนอตติงแฮมของอังกฤษ ก็ให้ความเห็นสอดคล้องกับผลวิจัยนี้ โดยยืนยันว่าหากเชื้อ HIV พัฒนาตัวเองไปในทิศทางนี้อย่างต่อเนื่อง ก็เป็นไปได้สูงว่าต่อไป เชื้อ HIV จะติดต่อได้ยากขึ้น และแทบจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อีกต่อไป รวมถึงจะสามารถรักษาผู้ป่วยเอดส์ให้หายขาดได้
“กว่าเชื้อ HIV จะพัฒนาไปถึงขั้นที่อ่อนแรงจนไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ก็จะต้องใช้เวลานานมาก เพราะฉะนั้นการรณรงค์ป้องกันการระบาดของโรคเอดส์ และการส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ จึงยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับโรคเอดส์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อกว่า 35 ล้านคนทั่วโลก” นักไวรัสวิทยา กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก TNN24

Report : LIV Capsule
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่