จะขายแล้วค่ะ คนซื้อวางมัดจำแล้ว ที่เราขายเพราะเราเบื่อคนเเช่ามาก ไม่ยอมออก ไม่ยอมจ่าย แต่เราก็สงสารเค้าอีก เค้าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว คือแต่ก่อนเค้าก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะเค้าอยู่ร่วมกันกับน้องเขย แต่พอน้องเขยเค้าไปมีเมียน้อย ย้ายไปอยู่กับเมียน้อย น้องสะใภ้เค้าก็ย้ายออก เราเห็นปัญหาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ก็บอกว่าให้เค้าออกไป เพราะคงไม่ไหวหรอก ทำงาเย็บผ้า (เค้าทำงานเย็บผ้าที่บ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านเรา) เค้าก็ขอร้องว่าขอเถอะนะ ลูกเค้าเรียนที่เตรียมน้อม แล้วเค้าก็ทำงานที่นี่ เค้าอยู่ที่นี่มานานมาก (เค้าเคยผ่อนบ้านกับพี่สะใภ้ น้องเขย แต่พี่สะใภ้ ไม่ยอมเอาเงินไปจ่ายจนบ้านถูกยึด บ้านข้างๆเรานะคะไม่ไช่บ้านเรา)
เค้าก็อยู่ไปได้หลายเดือนเกือบปีเหมือนกัน ไม่มีปัญหาอะไรจ่ายตรงกำหนด แต่พอมาพ่อเค้าป่วย ก็ต้องไปดูแลพ่อ ทำให้ไม่มีเงินจ่ายเรา เราก็สงสารอีกตามเคย ให้ติดๆๆ จนพ่อเค้าเสียไป เค้าก็กลับมาทำงาน ก็ส่งตรงนะ แต่ของเก่าก็ยังติดอยู่
จนมาอีกไม่กี่เดือนแม่ก็มาไม่สบาย ก็เหมือนเดิมอีกแล้วติดอีก ไม่นานแม่เค้าก็เสีย ก็กลับมา แต่ตอนนี้เรื่องยาวคือ เค้ามาเป็นมะเร็งอีก ไปผ่าออกข้างนึงแล้ว จนตอนนี้ก็ไปผ่าตัดอีกข้าง ที่ตจว. ลูกเค้าเริ่มไปเรียนราม เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เค้าก็ส่งเงินกับแม่คนละครึ่งจ่ายเรา
เราให้เค้าติดมาเรื่อยค่ะ เกือบ 30,000 แล้ว ไม่มีทีท่าจะได้คืน จนตอนนี้ลูกทำงานคนเดียว เพราะแม่เค้าต้องไปผ่าตัดที่ โรงพยาบาลที่เค้ามีบัตรอยู่ แต่น้องเค้าดีมากเลยนะคะ บอกว่าของเก่าน้าไม่ต้องกลัวนะ ผมจะหาเงินมาใช้แน่นอน เค้าทำงานทุกวันค่ะเสาร์อาทิตย์ออกต่างจังหวัดด้วย ให้เราอาทิตย์ละ 1,000 แต่ต้องส่งแม่ด้วย
เราก็เลยตัดใจประกาศขายดีกว่า ทั้งที่ไม่อยากเลยนะคะ แต่หนีปัญหาเพราะเราก็สงสารเค้า ระหว่างขายเค้าก็ขออยู่ต่อ เราก็สงสารล่ะนะ อยู่กันมานานเอาวะ เค้าบอกว่าเค้าขออยู่ต่อแต่ลดค่าเช่าให้เค้าซัก 1,000 เพราะอยู่คนเดียว เราก็ตกลง
ต่อมาไม่ถึงสองอาทิตย์เราก็ขายได้เลยไปบอกให้เค้าย้ายออก น้องเค้าก็บอกไม่มีปัญหา พร้อมกับบอกว่าจะโอนเงินให้เราอีก 1,000 นะครับ (เค้าบอกโอนก็โอน เราว่าเด็กคนนี้รับผิดชอบมาก เหมือนตอนน้องเขยแม่เค้าเลย คือคำไหนคำนั้น รับปากแล้ว)
เราเพิ่งมารู้ว่าชีวิตบัดซบกว่านั้นอีก คือ ข้างบ้านน่ะเป็นป้าของเด็กคนนี้แท้ๆ ไม่เคยคิดช่วยเหลือเลย แต่อย่างว่านะ เอ็นดูเค้าเอ็นเราขาด เราขายบ้านไปพร้อมความเสียดาย ไม่ได้กำไรเลย แต่เราเบื่อทวง
ขายบ้านหนีคนเช่า
เค้าก็อยู่ไปได้หลายเดือนเกือบปีเหมือนกัน ไม่มีปัญหาอะไรจ่ายตรงกำหนด แต่พอมาพ่อเค้าป่วย ก็ต้องไปดูแลพ่อ ทำให้ไม่มีเงินจ่ายเรา เราก็สงสารอีกตามเคย ให้ติดๆๆ จนพ่อเค้าเสียไป เค้าก็กลับมาทำงาน ก็ส่งตรงนะ แต่ของเก่าก็ยังติดอยู่
จนมาอีกไม่กี่เดือนแม่ก็มาไม่สบาย ก็เหมือนเดิมอีกแล้วติดอีก ไม่นานแม่เค้าก็เสีย ก็กลับมา แต่ตอนนี้เรื่องยาวคือ เค้ามาเป็นมะเร็งอีก ไปผ่าออกข้างนึงแล้ว จนตอนนี้ก็ไปผ่าตัดอีกข้าง ที่ตจว. ลูกเค้าเริ่มไปเรียนราม เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เค้าก็ส่งเงินกับแม่คนละครึ่งจ่ายเรา
เราให้เค้าติดมาเรื่อยค่ะ เกือบ 30,000 แล้ว ไม่มีทีท่าจะได้คืน จนตอนนี้ลูกทำงานคนเดียว เพราะแม่เค้าต้องไปผ่าตัดที่ โรงพยาบาลที่เค้ามีบัตรอยู่ แต่น้องเค้าดีมากเลยนะคะ บอกว่าของเก่าน้าไม่ต้องกลัวนะ ผมจะหาเงินมาใช้แน่นอน เค้าทำงานทุกวันค่ะเสาร์อาทิตย์ออกต่างจังหวัดด้วย ให้เราอาทิตย์ละ 1,000 แต่ต้องส่งแม่ด้วย
เราก็เลยตัดใจประกาศขายดีกว่า ทั้งที่ไม่อยากเลยนะคะ แต่หนีปัญหาเพราะเราก็สงสารเค้า ระหว่างขายเค้าก็ขออยู่ต่อ เราก็สงสารล่ะนะ อยู่กันมานานเอาวะ เค้าบอกว่าเค้าขออยู่ต่อแต่ลดค่าเช่าให้เค้าซัก 1,000 เพราะอยู่คนเดียว เราก็ตกลง
ต่อมาไม่ถึงสองอาทิตย์เราก็ขายได้เลยไปบอกให้เค้าย้ายออก น้องเค้าก็บอกไม่มีปัญหา พร้อมกับบอกว่าจะโอนเงินให้เราอีก 1,000 นะครับ (เค้าบอกโอนก็โอน เราว่าเด็กคนนี้รับผิดชอบมาก เหมือนตอนน้องเขยแม่เค้าเลย คือคำไหนคำนั้น รับปากแล้ว)
เราเพิ่งมารู้ว่าชีวิตบัดซบกว่านั้นอีก คือ ข้างบ้านน่ะเป็นป้าของเด็กคนนี้แท้ๆ ไม่เคยคิดช่วยเหลือเลย แต่อย่างว่านะ เอ็นดูเค้าเอ็นเราขาด เราขายบ้านไปพร้อมความเสียดาย ไม่ได้กำไรเลย แต่เราเบื่อทวง