สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ
เรื่องมีอยุ่ว่า เมื่อวันที่ 10/9/58 ตอนบ่ายแก่ๆ เราและพ่อได้ตั้งใจไปเปิด บช.ที่ธนาคารรูปดอกบัว
พนง.คนที่1 : มาทำอะไรค่ะ ?
เรา : มาเปิด บช.ค่ะ
พนง.คนที่1: เป็นชื่อพ่อใช่มั้ยค่ะ?
เรา : ใช่ค่ะ
พนง.คนที่1: ตอนนี้บัตร atm ของเราเหลือแต่บัตรที่เป็นประกันอุบัติเหตุนะคะ ปีละ 599 ค่ะ
เรา : ไม่มีบัตร ธรรมดาหรอคะ ?
พนง.คนที่1: ตอนนี้บัตรธรรมดาของเราหมดค่ะ
เรา : อ่อค่ะ (แล้วพนักงานคนที่1ก้อเดินหายไปพร้อม พนง.คนที่2เดินออกมา)
พนง.คนที่2: เอาบัตรนี้นะครับ?
เรา : ถ้าบัตรไม่มีงั้นแค่เปิด บช. เฉยๆก่อนก็ได้ค่ะ เพราะว่าเเค่มาเปิดเพราะต้องการหน้าบุ๊คแบงค์เท่านั้นค่ะ atm ยังไม่ได้ใช้ ถ้าแบบธรรมดามาค่อยมาทำใหม่เอาค่ะ..
พนง.คนที่2 : ทำไปเลยครับ เก็บค่าธรรมเนียมเเค่ 599 ต่อปีเอง มีประกัน บราๆๆๆ พร้อมได้ร่วมธรรมบุญกับ รพ.ศิริราชด้วยนะครับ ถือว่าช่วยๆกัน
พนง.คนที่3 (นั่งเค้าเตอร์ข้างๆ): ทำไปเลยค่ะ ถ้าบัตรธรรมดา ก็เสีย300ละนะ
เรา : ค่ะ
พนง.คนที่ 2 : ต้องการ sms เเจ้งเตือนเงินเข้าออกมั้ยครับ
เรา : ไม่ค่ะ
พ่อเรา : sms อะไรหรอ
เรา: sms เเจ้งเงินเข้าออกเฉยๆ เดือนหนึ่ง เงินเข้าแค่ครั้งเดียว ไม่ต้องเอาหรอก ถ้าอยากรู้ก็ไปเช็คดูที่ตู้เอาก็ได้ เสียดายตังค่า sms
พนง.คนที่2 : เดือนละ 10บาท.เองนะครับ(ยิ้มแบบไม่เต็มใจ แบบเงินเเค่นี้เอง)
เรา : ค่ะ ไม่เอา..
ปล.ข้องใจค่ะ
1.ทำไมธนาคารถึงยัดเยีอดให้เราเอาบัตรประกันขนาดนั้นค่ะทั้งๆที่เราไม่ได้ต้องการมัน หรือว่า ธ. ต้องการทำยอดเปิด บช.ค่ะ?
2. ทำบุญควรทำด้วยความสมัครใจไม่ใช่หรอคะ เหมือนกับ ธ.เอามาเป็นข้ออ้างให้เราเท่านั้น
3. ทาง ธ.กดดันเรามาก ตัวพ่อเราก้อไม่รู้เรื่องเราจัดการหมด
4.บ้านเราอยู่ใกล้ที่กดตังค่ะ ไม่รุ้จะเอาsms ไปทำไม รู้สึกว่ามันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เเต่ไม่ชอบสีหน้า พนง.ชายคนนั้นเลย หน้าตาดี เเต่มองเราเเบบ...
เราโมโหมากค่ะ ครั้งเดียวก้อเป็นได้
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ กระทู้แรกของเราค่ะ
เปิดบัญชีธนาคารดอกบัวที่มีชื่อเมืองหลวงเป็นชื่อธนาคาร
เรื่องมีอยุ่ว่า เมื่อวันที่ 10/9/58 ตอนบ่ายแก่ๆ เราและพ่อได้ตั้งใจไปเปิด บช.ที่ธนาคารรูปดอกบัว
พนง.คนที่1 : มาทำอะไรค่ะ ?
เรา : มาเปิด บช.ค่ะ
พนง.คนที่1: เป็นชื่อพ่อใช่มั้ยค่ะ?
เรา : ใช่ค่ะ
พนง.คนที่1: ตอนนี้บัตร atm ของเราเหลือแต่บัตรที่เป็นประกันอุบัติเหตุนะคะ ปีละ 599 ค่ะ
เรา : ไม่มีบัตร ธรรมดาหรอคะ ?
พนง.คนที่1: ตอนนี้บัตรธรรมดาของเราหมดค่ะ
เรา : อ่อค่ะ (แล้วพนักงานคนที่1ก้อเดินหายไปพร้อม พนง.คนที่2เดินออกมา)
พนง.คนที่2: เอาบัตรนี้นะครับ?
เรา : ถ้าบัตรไม่มีงั้นแค่เปิด บช. เฉยๆก่อนก็ได้ค่ะ เพราะว่าเเค่มาเปิดเพราะต้องการหน้าบุ๊คแบงค์เท่านั้นค่ะ atm ยังไม่ได้ใช้ ถ้าแบบธรรมดามาค่อยมาทำใหม่เอาค่ะ..
พนง.คนที่2 : ทำไปเลยครับ เก็บค่าธรรมเนียมเเค่ 599 ต่อปีเอง มีประกัน บราๆๆๆ พร้อมได้ร่วมธรรมบุญกับ รพ.ศิริราชด้วยนะครับ ถือว่าช่วยๆกัน
พนง.คนที่3 (นั่งเค้าเตอร์ข้างๆ): ทำไปเลยค่ะ ถ้าบัตรธรรมดา ก็เสีย300ละนะ
เรา : ค่ะ
พนง.คนที่ 2 : ต้องการ sms เเจ้งเตือนเงินเข้าออกมั้ยครับ
เรา : ไม่ค่ะ
พ่อเรา : sms อะไรหรอ
เรา: sms เเจ้งเงินเข้าออกเฉยๆ เดือนหนึ่ง เงินเข้าแค่ครั้งเดียว ไม่ต้องเอาหรอก ถ้าอยากรู้ก็ไปเช็คดูที่ตู้เอาก็ได้ เสียดายตังค่า sms
พนง.คนที่2 : เดือนละ 10บาท.เองนะครับ(ยิ้มแบบไม่เต็มใจ แบบเงินเเค่นี้เอง)
เรา : ค่ะ ไม่เอา..
ปล.ข้องใจค่ะ
1.ทำไมธนาคารถึงยัดเยีอดให้เราเอาบัตรประกันขนาดนั้นค่ะทั้งๆที่เราไม่ได้ต้องการมัน หรือว่า ธ. ต้องการทำยอดเปิด บช.ค่ะ?
2. ทำบุญควรทำด้วยความสมัครใจไม่ใช่หรอคะ เหมือนกับ ธ.เอามาเป็นข้ออ้างให้เราเท่านั้น
3. ทาง ธ.กดดันเรามาก ตัวพ่อเราก้อไม่รู้เรื่องเราจัดการหมด
4.บ้านเราอยู่ใกล้ที่กดตังค่ะ ไม่รุ้จะเอาsms ไปทำไม รู้สึกว่ามันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เเต่ไม่ชอบสีหน้า พนง.ชายคนนั้นเลย หน้าตาดี เเต่มองเราเเบบ...
เราโมโหมากค่ะ ครั้งเดียวก้อเป็นได้
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ กระทู้แรกของเราค่ะ