การกางเต็นท์นอนเป็นอะไรที่เริ่มนิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ
• ประหยัด ในอุทยานแห่งชาติ ก็เสียค่ากางคนละ 30 บาท รีสอร์ททั่วไปก็ประมาณ 50-100 บาท
• ทำเลสวยกว่า ในอุทยานแห่งชาติ ส่วนมากลานกางเต็นท์มักจะเป็นทำเลที่สวยงามกว่าบ้านพักหรือรีสอร์ททั่วไป เราสามารถเลือกจุดที่จะกางเต็นท์ในทำเลที่ใกล้ชิดธรรมชาติ และสวยงามมากๆ ได้
• บ้านพักเต็ม ในช่วงเทศกาลวันหยุด สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามหลายๆ แห่ง จะมีบ้านพักน้อย ทำให้ไม่เพียงพอกับความต้องการ ผมเคยเจอกับคุณตำรวจกองปราบที่เขาใหญ่ เล่าให้ฟังว่า ไปเที่ยวสวนผึ้ง แล้วจะหาบ้านพัก หาไม่ได้ บ้านพักเต็ม ไม่ว่างเลย ทั้งๆ ที่มีเงิน แพงแค่ไหนก็พร้อมจะจ่าย แต่ก็หาไม่ได้ วันนี้เลยจัดเต็มอุปกรณ์ยี่ห้อดังจากเมืองนอก ผมคะเนดู รวมๆ แล้วไม่น่าจะน้อยกว่า 5 หมื่นบาทเลยครับ
• อุปกรณ์สำหรับการใช้ชีวิตกลางแจ้งเริ่มมีมากขึ้น ทำให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น นักท่องเที่ยวจึงหันมากางเต็นท์กันมากขึ้น แต่หากราคาถูกกว่านี้ ผมคิดว่าน่าจะได้รับความนิยมมากกว่านี้นะครับ แต่ถึงแม้อุปกรณ์โดยเฉพาะของยี่ห้อดังๆ จากเมืองนอกจะมีราคาแพง หากแต่เราค่อยๆ ทยอยซื้อทริปละชิ้นสองชิ้น ก็น่าจะใช้ได้คุ้มค่าครับ
• ขาดประสบการณ์ หรือการเตรียมพร้อมในการนอนเต็นท์ ทำให้มีปัญหาหลายๆ อย่าง จนเข็ด ไม่ประทับใจ เช่น นอนไม่สบาย ปวดหลัง หรือทนนอนหนาวไม่ได้ หรือทนร้อนไม่ไหว หรือหนวกหูพวกที่ส่งเสียงเอะอะเสียงดังตอนดึกดึกดื่นดื่น หรือจะปลอดภัยไหม เป็นต้น
ต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ของผม ในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เจอเมื่อกางเต็นท์ รวมถึงการเตรียมการต่างๆ เพื่อให้การนอนเต็นท์มีความสะดวกสบายเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้มีความสุขเต็มที่เท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งแน่นอน ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น รสนิยมของแต่ละท่าน พาหนะที่ใช้ในการเดินทาง กำลังทรัพย์ที่มี จำนวนคนที่เดินทางไปด้วย เป็นต้น
หากมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ชอบกางเต็นท์ หรือนักกางเต็นท์มือใหม่บ้าง ก็จะดีใจมากๆ ครับ โดยผมจะทยอยลงเป็นตอน ๆ ไปเรื่อยๆ ตามความอยากและเสียงเรียกร้อง (หากมี) ครับ และขอเชิญชวนพี่ๆ เพื่อนๆ มาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ในการนอนเต็นท์ เพื่อให้เพื่อนๆ มีความสุขในราคาประหยัดที่ทุกคนสัมผัสได้ครับ
หมายเหตุ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม หากผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
1.สมอบกของฉันอยู่ไหน
เวลาผมกางเต็นท์ จะพบสมอบกของคนที่กางมาก่อนอยู่เสมอๆ เพราะเวลาเก็บเต็นท์หรือฟลายชีทแล้วหาสมอบกไม่เจอ ลองใช้เทปผ้าสีสดๆ พันที่หัวสมอบกซิครับ จะช่วยให้เราเห็นและหาได้ง่ายขึ้น
2.สมอบกงออีกแล้ว เซ็งวุ้ย
บ่อยครั้งที่สมอบกจะงอ เพราะใช้ค้อนเหล็กหรือหินแข็ง ๆ ทุบ ลองใช้ค้อนยางร้าน 20 บาทดูสิครับ คราวนี้งอยากหน่อย เพราะไม่แข็งมากเหมือนค้อนเหล็ก และถึงงอก็ตีดัดกลับมาได้ครับ คราวที่แล้วกางที่ผาเก็บตะวัน ผมได้มา 2 ตัวแน่ะ เพราะมันงอ เจ้าของเลยทิ้ง
3.ปึ๋ง! ใครสะดุดเชือกตรูอีกแล้ว (วะ)
เคยไหมครับโดยเฉพาะเวลากลางคืน จะมีคนเดินมาสะดุดเชือกเต็นท์ บางครั้งถึงกับเชือกขาดเลยทีเดียว บางท่านต้องเอาถุงก็อบแก๊บมาผูกกับเชือก ลองใช้เชือกสีขาวแทนซิครับ จะได้มองเห็นง่าย ไม่มีใครเดินมาสะดุดเชือกอีก (เคยเดินหาซื้อที่คลองถมได้ เส้นละ 10 เมตร 20 บาท 3 เส้น 50 บาท)
4.ไม่รู้จะผูกอย่างไร ผูกเงื่อนตายไปเลย
เมื่อผมกางเต็นท์ใหม่ๆ ผมไม่รู้ว่า ไอ้ตัวนี้มันเอาไว้ทำอะไร กว่าจะมารู้ อ๋อ มันคือตัวรั้งเชือกนั่นเอง ซึ่งสำคัญมากสำหรับการกางเต็นท์และฟลายชีท เพราะมันจะช่วยให้เราร่นเชือกได้สั้นยาวเท่าที่ต้องการ ทำให้เราไม่ต้องแกะเชือกมาผูกใหม่ แต่ปัญหาคือ หากจะหาซื้อเพิ่มนั้น ไม่มีแบบ 3 รูขาย มีแต่ 2 รูที่ไม่ค่อยเวิร์ค
ลองใช้เงื่อนผูกรั้งแทนสิครับ ไม่ต้องง้อใครอีกแล้ว (เอาไว้จะแนะนำวิธีผูกให้ครับ หรือท่านใดใจร้อน เข้ายูทูบดูได้ครับ)
5.เชือกเส้นนี้ผูกกับอะไร และยาวกี่เมตร
เชือกที่ยาวไม่เท่ากัน ลองใช้เทปผ้าพันวงละ 1 เมตรบอกความยาวดู คราวนี้ไม่ต้องคอยวัดความยาวแล้ว และใช้สีที่แตกต่างกัน เพื่อแยกแยะว่า เส้นนี้ผูกกับอะไร
6.เวลาจะใช้เชือก พันกันนุงนัง หงุดหงิดจุง
แยกแยะเชือกแต่ละเส้น แต่ละประเภทใส่ถุงเอาไว้ คราวนี้จะใช้ก็ง่าย ไม่เสียเวลา ไม่หงุดหงิดแล้ว
7.น้ำซึมหยดจากฟลายชีท
เวลาฝนตกหนักๆ หรือตกนานๆ รวมถึงบางที่ในหน้าหนาวที่มีน้ำค้างลงหนักๆ น้ำอาจจะซึมฟลายชีทเข้ามาตามรอยตะเข็บได้ ลองใช้เทปผ้าปิดทับรอยตะเข็บดูสิครับ รับรองไม่มีหยดซึมเข้ามาด้านในอีกแน่นอน
8.ฝนสาดเข้ามา ทำงัยดี
ถึงจะมีฟลายชีทแล้ว แต่ฝนก็อาจจะสาดเข้ามาด้านหน้าจั่วได้ ใช้ฟลายชีทอีกผืนปิดด้านหน้าจั่วแบบนี้สิครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะสาดเข้ามาเปียกอีกแล้ว
เวลาหยุดตก ก็เอาขึ้นมาได้ ไม่อึดอัด หรือม้วนเก็บแล้วเอาดับเบิ้ลคลิปหนีบกับฟลายชีทใหญ่ก็ได้
9.ฟลายชีทขาด ทำงัยดี
ฟลายชีทที่ขาด หากปล่อยทิ้งไว้ มีโอกาสที่จะฉีกขาดมากขึ้น
ใช้เทปผ้าปิดทับแล้วค่อยเย็บด้วยด้าย ไม่ต้องกลัวขาดอีกต่อไป
10.ลมพัดฟลายชีทขาดกระจุย งานเข้าเลย
ใครเคยกางที่ภูทับเบิก เขาแหลมหญ้า พะเนินทุ่ง เนินช้างศึก ลานฮ.บ้านอีต่อง มอหินขาว หน้าฝน จะรู้ว่าลมมันแรงแค่ไหน ผมเคยถูกลมพัดฟลายชีทขาดกระจุยมาแล้ว โดยเฉพาะตรงรูของฟลายชีทที่บอบบางมาก ใช้เทปผ้าปิดแล้วเย็บรอบ ๆ รูฟลายชีทและมุมทุกมุม คราวนี้ไม่ต้องกลัวลมกระชากรูฟลายชีทขาดแล้วครับ
11.ลมพัดฟลายชีทหลุดปลิว
หน้าฝน ลมแรงมากๆ จะพัดฟลายชีทปลิว เราต้องยึดด้วยสมอบกให้แน่น แทนที่จะใช้สมอบกตัวเดียว ใช้สมอบกเพิ่มอีกตัว ตอก และกางให้เตี้ย ยิ่งลมแรงแค่ไหนยิ่งกางให้เตี้ยมากที่สุด และตีสมอบกให้จมดินไปเลยก็ได้ครับ
12.เสาเต็นท์ทำไมมันแพงจัง
อันละสามสี่ร้อยบาท ลองหันมาใช้ไม้ไผ่ดูสิครับ ลำนี้ 4 บาทเท่านั้นครับ
13.เดินไม่ไหว ไม่ไปแล้ว
ใครเคยเดินขึ้นยอดดอยผ้าห่มปก 3.5 กม.จะรู้ดีว่า ตอนเดินขึ้นมี 300-400 คน แต่ถึงยอดเขาได้ซักครึ่งหนึ่ง ที่ขึ้นไม่ได้ เพราะเดินไม่ไหว หากมีไม้เท้าจะช่วยให้เราเดินขึ้นเขาหรือเที่ยวป่าไกลๆ ได้ง่ายขึ้น และไม่จำเป็นต้องซื้อแพงๆ อันละเป็นพัน ๆ บาท อันนี้ที่ผมใช้ ลำละ 4 บาท ก็ใช้ได้ดีไม่แพ้กันมากนัก
14.หนาวจังเลย ไม่อาบน้ำดีกว่า
เที่ยวหน้าหนาว อุณหภูมิต่ำๆ จะรู้ว่า น้ำมันเย็นแค่ไหน แน่นอนบางคนขอประหยัดน้ำดีกว่า ต้มน้ำร้อนซิครับ ใส่ถังเอาไปผสมน้ำเย็น แค่นี้เราก็ได้น้ำอุ่นอาบแล้วครับ
แล้วพบกันใหม่ ในตอนที่ 2 นะครับ เกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ในการปรุงอาหารครับ
ขอบคุณที่ติดตามทุกท่านครับ
มากางเต็นท์นอนกันเถอะ ตอนที่ 1
• ประหยัด ในอุทยานแห่งชาติ ก็เสียค่ากางคนละ 30 บาท รีสอร์ททั่วไปก็ประมาณ 50-100 บาท
• ทำเลสวยกว่า ในอุทยานแห่งชาติ ส่วนมากลานกางเต็นท์มักจะเป็นทำเลที่สวยงามกว่าบ้านพักหรือรีสอร์ททั่วไป เราสามารถเลือกจุดที่จะกางเต็นท์ในทำเลที่ใกล้ชิดธรรมชาติ และสวยงามมากๆ ได้
• บ้านพักเต็ม ในช่วงเทศกาลวันหยุด สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามหลายๆ แห่ง จะมีบ้านพักน้อย ทำให้ไม่เพียงพอกับความต้องการ ผมเคยเจอกับคุณตำรวจกองปราบที่เขาใหญ่ เล่าให้ฟังว่า ไปเที่ยวสวนผึ้ง แล้วจะหาบ้านพัก หาไม่ได้ บ้านพักเต็ม ไม่ว่างเลย ทั้งๆ ที่มีเงิน แพงแค่ไหนก็พร้อมจะจ่าย แต่ก็หาไม่ได้ วันนี้เลยจัดเต็มอุปกรณ์ยี่ห้อดังจากเมืองนอก ผมคะเนดู รวมๆ แล้วไม่น่าจะน้อยกว่า 5 หมื่นบาทเลยครับ
• อุปกรณ์สำหรับการใช้ชีวิตกลางแจ้งเริ่มมีมากขึ้น ทำให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น นักท่องเที่ยวจึงหันมากางเต็นท์กันมากขึ้น แต่หากราคาถูกกว่านี้ ผมคิดว่าน่าจะได้รับความนิยมมากกว่านี้นะครับ แต่ถึงแม้อุปกรณ์โดยเฉพาะของยี่ห้อดังๆ จากเมืองนอกจะมีราคาแพง หากแต่เราค่อยๆ ทยอยซื้อทริปละชิ้นสองชิ้น ก็น่าจะใช้ได้คุ้มค่าครับ
• ขาดประสบการณ์ หรือการเตรียมพร้อมในการนอนเต็นท์ ทำให้มีปัญหาหลายๆ อย่าง จนเข็ด ไม่ประทับใจ เช่น นอนไม่สบาย ปวดหลัง หรือทนนอนหนาวไม่ได้ หรือทนร้อนไม่ไหว หรือหนวกหูพวกที่ส่งเสียงเอะอะเสียงดังตอนดึกดึกดื่นดื่น หรือจะปลอดภัยไหม เป็นต้น
ต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ของผม ในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เจอเมื่อกางเต็นท์ รวมถึงการเตรียมการต่างๆ เพื่อให้การนอนเต็นท์มีความสะดวกสบายเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้มีความสุขเต็มที่เท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งแน่นอน ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น รสนิยมของแต่ละท่าน พาหนะที่ใช้ในการเดินทาง กำลังทรัพย์ที่มี จำนวนคนที่เดินทางไปด้วย เป็นต้น
หากมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ชอบกางเต็นท์ หรือนักกางเต็นท์มือใหม่บ้าง ก็จะดีใจมากๆ ครับ โดยผมจะทยอยลงเป็นตอน ๆ ไปเรื่อยๆ ตามความอยากและเสียงเรียกร้อง (หากมี) ครับ และขอเชิญชวนพี่ๆ เพื่อนๆ มาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ในการนอนเต็นท์ เพื่อให้เพื่อนๆ มีความสุขในราคาประหยัดที่ทุกคนสัมผัสได้ครับ
หมายเหตุ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม หากผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
1.สมอบกของฉันอยู่ไหน
เวลาผมกางเต็นท์ จะพบสมอบกของคนที่กางมาก่อนอยู่เสมอๆ เพราะเวลาเก็บเต็นท์หรือฟลายชีทแล้วหาสมอบกไม่เจอ ลองใช้เทปผ้าสีสดๆ พันที่หัวสมอบกซิครับ จะช่วยให้เราเห็นและหาได้ง่ายขึ้น
2.สมอบกงออีกแล้ว เซ็งวุ้ย
บ่อยครั้งที่สมอบกจะงอ เพราะใช้ค้อนเหล็กหรือหินแข็ง ๆ ทุบ ลองใช้ค้อนยางร้าน 20 บาทดูสิครับ คราวนี้งอยากหน่อย เพราะไม่แข็งมากเหมือนค้อนเหล็ก และถึงงอก็ตีดัดกลับมาได้ครับ คราวที่แล้วกางที่ผาเก็บตะวัน ผมได้มา 2 ตัวแน่ะ เพราะมันงอ เจ้าของเลยทิ้ง
3.ปึ๋ง! ใครสะดุดเชือกตรูอีกแล้ว (วะ)
เคยไหมครับโดยเฉพาะเวลากลางคืน จะมีคนเดินมาสะดุดเชือกเต็นท์ บางครั้งถึงกับเชือกขาดเลยทีเดียว บางท่านต้องเอาถุงก็อบแก๊บมาผูกกับเชือก ลองใช้เชือกสีขาวแทนซิครับ จะได้มองเห็นง่าย ไม่มีใครเดินมาสะดุดเชือกอีก (เคยเดินหาซื้อที่คลองถมได้ เส้นละ 10 เมตร 20 บาท 3 เส้น 50 บาท)
4.ไม่รู้จะผูกอย่างไร ผูกเงื่อนตายไปเลย
เมื่อผมกางเต็นท์ใหม่ๆ ผมไม่รู้ว่า ไอ้ตัวนี้มันเอาไว้ทำอะไร กว่าจะมารู้ อ๋อ มันคือตัวรั้งเชือกนั่นเอง ซึ่งสำคัญมากสำหรับการกางเต็นท์และฟลายชีท เพราะมันจะช่วยให้เราร่นเชือกได้สั้นยาวเท่าที่ต้องการ ทำให้เราไม่ต้องแกะเชือกมาผูกใหม่ แต่ปัญหาคือ หากจะหาซื้อเพิ่มนั้น ไม่มีแบบ 3 รูขาย มีแต่ 2 รูที่ไม่ค่อยเวิร์ค
ลองใช้เงื่อนผูกรั้งแทนสิครับ ไม่ต้องง้อใครอีกแล้ว (เอาไว้จะแนะนำวิธีผูกให้ครับ หรือท่านใดใจร้อน เข้ายูทูบดูได้ครับ)
5.เชือกเส้นนี้ผูกกับอะไร และยาวกี่เมตร
เชือกที่ยาวไม่เท่ากัน ลองใช้เทปผ้าพันวงละ 1 เมตรบอกความยาวดู คราวนี้ไม่ต้องคอยวัดความยาวแล้ว และใช้สีที่แตกต่างกัน เพื่อแยกแยะว่า เส้นนี้ผูกกับอะไร
6.เวลาจะใช้เชือก พันกันนุงนัง หงุดหงิดจุง
แยกแยะเชือกแต่ละเส้น แต่ละประเภทใส่ถุงเอาไว้ คราวนี้จะใช้ก็ง่าย ไม่เสียเวลา ไม่หงุดหงิดแล้ว
7.น้ำซึมหยดจากฟลายชีท
เวลาฝนตกหนักๆ หรือตกนานๆ รวมถึงบางที่ในหน้าหนาวที่มีน้ำค้างลงหนักๆ น้ำอาจจะซึมฟลายชีทเข้ามาตามรอยตะเข็บได้ ลองใช้เทปผ้าปิดทับรอยตะเข็บดูสิครับ รับรองไม่มีหยดซึมเข้ามาด้านในอีกแน่นอน
8.ฝนสาดเข้ามา ทำงัยดี
ถึงจะมีฟลายชีทแล้ว แต่ฝนก็อาจจะสาดเข้ามาด้านหน้าจั่วได้ ใช้ฟลายชีทอีกผืนปิดด้านหน้าจั่วแบบนี้สิครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะสาดเข้ามาเปียกอีกแล้ว
เวลาหยุดตก ก็เอาขึ้นมาได้ ไม่อึดอัด หรือม้วนเก็บแล้วเอาดับเบิ้ลคลิปหนีบกับฟลายชีทใหญ่ก็ได้
9.ฟลายชีทขาด ทำงัยดี
ฟลายชีทที่ขาด หากปล่อยทิ้งไว้ มีโอกาสที่จะฉีกขาดมากขึ้น
ใช้เทปผ้าปิดทับแล้วค่อยเย็บด้วยด้าย ไม่ต้องกลัวขาดอีกต่อไป
10.ลมพัดฟลายชีทขาดกระจุย งานเข้าเลย
ใครเคยกางที่ภูทับเบิก เขาแหลมหญ้า พะเนินทุ่ง เนินช้างศึก ลานฮ.บ้านอีต่อง มอหินขาว หน้าฝน จะรู้ว่าลมมันแรงแค่ไหน ผมเคยถูกลมพัดฟลายชีทขาดกระจุยมาแล้ว โดยเฉพาะตรงรูของฟลายชีทที่บอบบางมาก ใช้เทปผ้าปิดแล้วเย็บรอบ ๆ รูฟลายชีทและมุมทุกมุม คราวนี้ไม่ต้องกลัวลมกระชากรูฟลายชีทขาดแล้วครับ
11.ลมพัดฟลายชีทหลุดปลิว
หน้าฝน ลมแรงมากๆ จะพัดฟลายชีทปลิว เราต้องยึดด้วยสมอบกให้แน่น แทนที่จะใช้สมอบกตัวเดียว ใช้สมอบกเพิ่มอีกตัว ตอก และกางให้เตี้ย ยิ่งลมแรงแค่ไหนยิ่งกางให้เตี้ยมากที่สุด และตีสมอบกให้จมดินไปเลยก็ได้ครับ
12.เสาเต็นท์ทำไมมันแพงจัง
อันละสามสี่ร้อยบาท ลองหันมาใช้ไม้ไผ่ดูสิครับ ลำนี้ 4 บาทเท่านั้นครับ
13.เดินไม่ไหว ไม่ไปแล้ว
ใครเคยเดินขึ้นยอดดอยผ้าห่มปก 3.5 กม.จะรู้ดีว่า ตอนเดินขึ้นมี 300-400 คน แต่ถึงยอดเขาได้ซักครึ่งหนึ่ง ที่ขึ้นไม่ได้ เพราะเดินไม่ไหว หากมีไม้เท้าจะช่วยให้เราเดินขึ้นเขาหรือเที่ยวป่าไกลๆ ได้ง่ายขึ้น และไม่จำเป็นต้องซื้อแพงๆ อันละเป็นพัน ๆ บาท อันนี้ที่ผมใช้ ลำละ 4 บาท ก็ใช้ได้ดีไม่แพ้กันมากนัก
14.หนาวจังเลย ไม่อาบน้ำดีกว่า
เที่ยวหน้าหนาว อุณหภูมิต่ำๆ จะรู้ว่า น้ำมันเย็นแค่ไหน แน่นอนบางคนขอประหยัดน้ำดีกว่า ต้มน้ำร้อนซิครับ ใส่ถังเอาไปผสมน้ำเย็น แค่นี้เราก็ได้น้ำอุ่นอาบแล้วครับ
แล้วพบกันใหม่ ในตอนที่ 2 นะครับ เกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ในการปรุงอาหารครับ
ขอบคุณที่ติดตามทุกท่านครับ