เมื่อร้านขายของเล็กๆ โดนห้างบีบให้ย้ายออก เพราะกลัวเกะกะ Starbucks

ร้านของเราเปิดอยู่ในห้าง แห่งหนึ่งย่าน ศรีนครินทร๋์ มาประมาน 5 ปีแล้ว
แต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 เราได้ย้ายร้านของเราจากเป็นห้องมาเป็นลักษณะ บูธ หรือ Kiosk เพราะคิดว่าลูกค้าน่าจะเข้าถึงง่ายมากกว่าแบบเดิมที่เป็นห้อง
ซึ่งทางห้างได้เสนอพื้นที่ตรงหน้า Starbucks ให้เรา เราก็ตัดสินใจอยู่นานมาก และทำการส่งแบบก่อสร้าง แก้ไขแบบหลายรอบ เพราะห้างเค้าไม่ให้ทำสูง และไม่ให้รกเกะกะร้านใหญ่เค้า เราก็เข้าใจก็ให้คนออกแบบของร้านเราคุยกับฝ่ายสถาปนิกของห้างและส่งแบบยืนยันกันหลายรอบ จนลงตัว สั่งทำเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งร้านใหม่จนเสร็จเสียตังค์ค่าทำไปหลักแสน และร้านเก่าเราก็ทำการลื้อคืนห้างอยู่ ซึ่งก็เสียค่าลื้อเกือบแสนเหมือนกัน
พอเปิดร้านได้ สองวันก็มีการคอมเพลนจากห้างว่า Starbucks เค้าว่ามาว่าร้านเราบังร้านเค้า ให้เราจัดร้านดีๆไม่วางขอเกะกะ เราก็ทำตาม เพราะเราก็ไม่อยากมีปัญหากับใคร
เราอยู่หน้าร้านเค้า เราก็อุดหนุนของเค้าตลอดถึงเราจะไม่ดืมกาแฟ ก็กินชาเขียว โกโก้ไป
อาทิตย์ต่อมา ทางห้างเรียกเราไปคุย บอกว่าจะนัดคุนเรื่องระเบียบการจัดร้านนิดหน่อย แต่พอถึงวันที่เราไปคุย ห้างบอกมาง่ายๆว่า ร้านเราต้องย้ายออกทันที
ในลักษณะการพูดคือเหมือนเราผิดเองที่ไปอยู่ตรงนั้น โดยบอกว่าผู้ใหญ่มาดูแล้วไม่โอเค เพราะสินค้าเราไม่เหมาะกับอยู่ตรงนั้น สินค้าเราชิ้นใหญ่ไปบังหน้าร้าน และเราก็คงไม่ได้เสียค่าตกแต่งอะไรเยอะ
แต่คือก่อนที่เราจะไปอยู่ตรงนั้นได้ มันไม่ใช่ว่าเราย้ายไปอยู่เองนะ คือห้างเสนอพื้นที่มาเอง มีการตกลง แก้แบบ อะไรกันยกใหญ่ เราเป็นร้านที่ลูดค้าส่วนมาเป็นออนไลน์ เราก็ประกาศย้ายร้านล่วงหน้าเป็นเดือน สั่งทำ ป้ายย้ายร้าน ทำนามบัตรใหม่แก้ไขที่ตั้งร้าน ประกาศในเว็บในเพจ เพราะกลัวลูกค้าหาเราไม่เจอ เพราะอยู่ที่เดิมมาหลายปี
แต่อยู่ที่ใหม่ได้แค่9วัน ก็โดนไล่ให้ไปที่อื่นอย่างกับหมูกับหมา โดยไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ กลับทำเหมือนเป็นความผิดเรา แล้วบอกว่าจะช่วย หาที่ใหม่ตามซอกหลืบให้เร้านเราไปอยู่ชั่วคราว และจะมาช่วยยกของย้ายให้ แต่คงต้องย้ายภายใน 1 อาทิตย์นี้
คือใช้คำว่าซอกหลืบจริงๆ มันใช่หรอ สถานะการณ์มันควรจะเป็นว่า ห้างแสดงความรับผิดชอบโดยการขอให้เราย้ายไปที่ใหม่โดยเสนอที่ที่เราโอเค แล้วจึงย้ายไม่ใช่หรอ แต่นี่คือ เค้าบอกว่าถ้าเราไม่โอเคกับที่ที่เค้าเสนอ เราก็ไม่มีทางเลือก เค้าหาให้ได้แค่นั้น  ถ้าไม่โอเคก็ย้ายออกไป จบ
เข้าใจนะว่า Starbucks เนี้ยะเจ้าใหญ่ต้องเอาใจ แต่ห้างถึงขนาดปฎิบัติกับเราแบบนี้เลยหรอ นึกจะไล่ก็ไล่ เราก็เสียค่าเช่านะ ถึงจะไม่ได้แพงเท่า Starbucks แต่สำหรับคนทำมาหากินแบบเรา ตรงนี้คือที่ทำกินเรามันไม่ใช่นึกจะย้ายก็ย้ายตามใจ
กว่าจะทำร้านย้ายร้านมันเหนื่อยมากนะคะ ลงทุน ลงแรง อยู่เฝ้าตั้งแต่เช้า ยัน 10 โมงเช้าของอีกวัน จัดของย้ายของข้ามคืนอดหลับอดนอน เพิ่งจะจัดร้านให้เข้าที่ได้ก็จะมาไล่เราไปไว้ในซอกหลืบ
นีคือไม่ได้เล่นขายของนะคะ ทำมาหากินสุจริต ถ้าหาคนผิดไม่ได้ก็ไม่ควรโยนความผิดมาให้เราไม่ใช่หรอ
ตอนนี้คิดไม่ออกคะว่าเราผิดอะไร เราได้แต่รอดูว่าพื้นที่ที่เค้าจะให้เราย้ายไปอยู่ในรูไหน...
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
อ่านเรื่องราวของเจ้าของกระทู้แล้วเหมือนส่องกระจกโดนตัวผมเองเลยครับ   ผมโดนที่ the mall ครับ สาขาบางกะปิ
ยอดขายผมถือว่าดี แบ่งยอดขายให้ห้างเป็น % แถม % เราเสนอให้ห้างสูงกว่าแบรนด์คู่แข่งอีก เรามีคู่แข่งทางการค้า 6 แบรนด์ ยอดขายเราติด 1 ใน 3 ตลอด ไม่เคยชะล่าใจเลยว่าจะกระเด็นออกจากพื้นที่เฉยๆ โดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมาเช่นกันครับ
     ห้างแจ้งว่าไม่มีพื้นที่สำหรับเรา และนโยบายคือเน้นสินค้านำเข้าเป็นอันดับแรก (ผู้บริหารเขาสั่งมา) การเปลี่ยนแปลงเขามั่นใจว่าลูกค้าไม่ไปไหน แบรนด์ที่เหลือจะเป็นคำตอบให้ลูกค้าเอง
      ซึ่งถ้าเขาแจ้งเราถึงนโยบายนั้นเราจะสนองทันที (ซึ่งปกติเรายึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก คิดตลอดว่าถ้ายอดดีห้างชอบแน่ ยอดขายไม่มีปัญหา)  
     ห้างไม่ให้เวลาใดๆทั้งสิ้นคับ แจ้งออกสิ้นเดือน ทั้งที่เรามีภาระพนักงาน  ไม่คิดเผื่อเราว่าจะไปอยู่ไหน ไม่มีความเห็นใจหรือรับฟัง หรือให้ต่อรองใดๆทั้งสิ้น  ผมถึงกับฟูมฟายไม่เหลือศักดิ์ศรี นั่นคือที่ทำกินของเรา และตอนนั้นเราก็ไม่มีทางไป บทสรุปคือ  ไล่แล้วต้องไป
     เห็นใจเจ้าของกระทู้มาก เราตัวเล็กจริงๆ ห้างใหญ่ไม่สนใจเสียงเรา ทั้งๆที่เฉลี่ยแล้วผลกำไรห้างได้จากร้านเล็กๆรวมกันเยอะมาก มากกว่าร้านใหญ่ถ้าเทียบตารางพื้นที่ ขออะไรมาเรายินดีร่วมมือตลอด
     ผมโชคดีอย่างนึงคือไปซบแบรนด์ central  Robinson ได้ทันเวลา ถึงแม้จะใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองนานถึง 2-3 ปีกว่าจะเข้าร่วมเป็นส่วนนึงของห้างเขาได้  อย่างน้อยห้างเครือที่ผมอยู่ ก็ไม่มีนโยบายไล่คู่ค้าที่ทำกำไรให้ห้างออกเด็ดขาด ฝ่ายจัดซื้อเขาก็ดูตรงไปตรงมา ไม่ไล่กินใต้โต๊ะขูดรีดเหมือน the mall  เท่าที่ผมทราบ paradise  เครือthe mall  ก็เซ้งมาจากเสรีเก่า  แต่นิสัยการบริหารไม่เปลี่ยนจริงๆ  
     ผมไม่ทราบว่าผู้บริหารระดับสูงจะทราบหรือไม่ ว่าเหล่าฝ่ายจัดซื้อโขก ซัพพลายเอ่อร์ขนาดไหน  ก้าวให้ทัน central เถอะ  ทุกวันนี้เขาดักทุกจุด ที่the mall จะไปลง  ซัพพลายเอ่อร์เขาก็คุยกัน   อยู่กับthe mall แล้วนับวันยิ่งไม่เห็นหัว  ทำอะไรไม่คิด  ค่าทำเฟอร์ทุกอย่างซัพจ่ายเองหมด ยังไม่ทันไรสั่งเปลี่ยน แถมมันไม่ให้เราไปทำเองด้วย มันทำหมดแล้วมาเก็บเงิน ทำข้างนอก 5 หมื่นได้อย่างหรู มันคิดเงินมาเก็บที 2-3 แสน  กินนอกกินในกัน  คนทำมาหากินเขาจะตาย ขายยังไม่ได้กำไรต้องมาทำตามคำสั่งทุกอย่าง  ไม่ทำก็ไล่
ความคิดเห็นที่ 27
คาดว่าถ้า จขกท ไม่มาเขียนลงที่นี่ ก็คงได้ไปอยู่หลืบแน่นอน

ขอร้องว่าอย่าแก้ไขและลบข้อความครับ คนที่เข้ามาอ่านทีหลังจะได้เข้าใจที่มาที่ไปทั้งหมด
ความคิดเห็นที่ 13
จขกท เองนะคะ
วันนี้ได้มีการประชุมกับทางห้างแล้วค่ะ โดยรองกรรมการผู้จัดการ (คุณสหัพย์ภัค โชควิจิตรกุล) และพี่โก้ฝ่ายขายที่ดูแลเรามาตลอด ได้มาคุยกับเราโดยตรงเลย และได้ทำการปรับความเข้าใจแล้วค่ะ ว่า ทางร้านกาแฟไม่ได้มีการว่าอะไรมา และทางผู้ใหญ่ของห้างเองก็ไม่ได้สั่งให้ย้ายร้านทันที แต่มีการแจ้งให้ปรับปรุงเพื่อความสวยงามและภาพลักษณ์ห้าง
แต่ตอนสื่อสารกับเราผ่านมาหลายทอดทำให้ข้อมูลมันผิดพลาด เพราะทางห้างไม่ได้มีเจตนาที่จะบีบบังคับให้เราไม่มีทางเลือก
ตอนนี้เราได้ทำความเข้าใจและตกลงกับทางห้างแล้วว่าเราจะอยู่ที่จุดเดิมไปก่อน 3 เดือน และลองปรับปรุงภูมิทัศน์ การจัดวางร้านดู ถ้ามันไม่เหมาะสมจะอยู่ตรงนั้นจริงๆ ทางห้างจะเสนอพื้นที่ใหม่ให้แล้วมาตกลงกันอีกทีค่ะ ซึ่งเป็นทางออกที่ดีกับทุกๆฝ่ายค่ะ
เราต้องขออภัยที่พูดถึง Starbucks ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยนะคะ
และต้องขอโทษด้วยที่รับข้อมูลมาผิดๆ ทำให้คนที่อ่านกระทู้นี้พลอยเข้าใจห้าง ผิดไปด้วย
ทั้งนี้เราอาจจะไม่ได้อธิบายในรายละเอียดตอนแรกว่าก่อนหน้านี้ ฝ่ายขายที่ดูแลเราช่วยเหลือเราดีมากๆ ทั้งคุณอ้อ คุณโก้ ซึ่งการไปคุยกันในวันนี้ให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้นว่าที่ที่เราอยู่ตอนนี้ฝ่ายขายพยายามช่วยให้เราได้ที่ทำเลดี แต่ปกติทางห้างจะไม่ได้ปล่อยพื้นที่นี้ให้เช่า
สุดท้ายนี้เราต้องขอขอบพระคุณตัวแทนศูนย์การค้า Paradise Park ที่สละเวลามาคุยกับเราเพื่อช่วยเราแก้ไขปัญหาและรับฟังเสียงจากร้านเล็กๆของเราด้วย
เราคงจะเปิดร้านที่ห้างนี้ไปอีกนานๆเลยค่ะ ^^
ความคิดเห็นที่ 14
สงสัยผู้บริหารเข้ามาอ่านกระทู้นี้แน่เลย
ยังไงก็ดีใจกับ จขกท. ด้วยนะคะ
ที่ทุกอย่างลงเอยด้วยดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่