สวัสดีค่ะ พอดีเราจะระบายเกี่ยวกับเรื่อง การผ่อนดาวน์คอนโดนิดนึงค่ะ
พอดีเราไปดาวน์คอนโดทีนึงไว้ในเครือของ AP เราซื้อดาวน์ต่อจากอีกคนนึง ซึงวางเงินดาวน์ไปทั้งหมด 130,000 จนตอนนี้เรามานั่งคิดไปคิดมาว่า ถ้ากู้ไม่ผ่านละ จะเป็นอย่างไร? (เหตุที่คิดว่ามีโอกาสไม่ผ่านเพราะว่า กรณีเรา เอาสามีต่างชาติที่ทำงานในไทยมาคํ้าค่ะ) จนเราทนไม่ไหว โทรไปถามกับทางเซลล์โครงการ เขาบอกว่า กรณีถ้ากู้ไม่ผ่าน เขาจะยึดเงินจองและเงินดาวน์ของเราหมดเลย โอ้ววว!!! ช๊อคสิค่ะ แล้วที่ช๊อคไปกว่านั้น ห้องเราราคาไม่ใช่ถูกๆค่ะ ถ้าถึงวันโอนแล้ว แล้วถ้าเกิดกู้ไม่ผ่าน ป่านนั้นเราดาวน์ไปถึง 500,000บาทแล้ว เท่ากับว่าเราต้อทิ้งเงิน 500,000บาทไปเลย #นี่เงินเก็บเกือบทั้งชีวิตเลยนะนั่น และคอนโดอันนี้ยังสร้างไม่แล้วเสร็จค่ะ กว่าจะเสร็จก็ต้นปี 60ค่ะ เราว่า มันอีกนาน แล้วเราต้องเครียดนานไปขนาดนี้เลยหรอค่ะ ToT
ทางคอนโดยืนกรานว่า ยังไงก็ไม่คืนค่ะ เขาให้คำตอบว่า ก่อนซื้อ ผู้ซื้อต้องรู้ความสามารถของตนเองก่อนซื้ออยู่แล้ว แต่อะไรอะไรมันก็ไม่แน่นอนนิค่ะ เพราะระยะเวลาผ่อนดาวน์ก่อนโอนมันนานเกินไป ถ้าวันนึงเราตกงาน เป็นอะไรขึ้นมา ทำยังไงล่ะค่ะ เพราะเราไม่รู้อนาคตข้างหน้า
สำหรับเรา เรารู้สึกว่า กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคมันน้อยไปค่ะ แต่เราก็เข้าใจนะค่ะว่า เขาป้องกันพวกนักซื้อเกร็งกำไร แล้วทางผู้ขายก็ต้องเสียโอกาศในการขาย อันนี้เราเข้าใจ แต่เราว่า ควรที่จะยึดได้ แต่น่าจะยึดเป็นเปอร์เซนต์ หรือคนละครึ่ง เพื่อความเท่าเทียมนะค่ะ หรือไม่ก็ก่อนที่จะจอง ทางโครงการน่าจะมีมาตรการการ Pre approve หรือที่ปรึกษาด้านการเงิน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหานะค่ะ
คือตอนนี้เราดาวน์คอนโด เดือนละ 15,000 เรารู้สึกว่าไม่มีกำลังใจในการดาวน์เดือนต่อๆไปเลยค่ะ รู้สึกเหมือนทุกเดือนนี้เอาเงินไปทิ้งยังไงไม่รู้ ขอแค่กำลังใจ ในทุกๆเดือนที่เราต้องผ่อนไปอีกปีกว่าค่ะ
ปล>ทุกคนคงว่าดิฉันโง่ ทำไมก่อนซื้อไม่ศึกษาก็ได้ค่ะ เพราะเป็นความจริง เราคิดน้อยค่ะ อีกอย่างเรายังอ่อนประสบการณ์ในการซื้อคอนโด และความรอบคอบ เราอายุ27เองค่ะ และยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนคู่คิดไม่มีค่ะ เพราะสามีต่างชาติ ดังนั้นสามีไม่สามารถเตือนสติได้ค่ะ 555
ขอบคุณค่ะ
ปรึกษาเรื่องดาวน์คอนโด กู้ไม่ผ่านโดนยึดเงินดาวน์ค่ะ
พอดีเราไปดาวน์คอนโดทีนึงไว้ในเครือของ AP เราซื้อดาวน์ต่อจากอีกคนนึง ซึงวางเงินดาวน์ไปทั้งหมด 130,000 จนตอนนี้เรามานั่งคิดไปคิดมาว่า ถ้ากู้ไม่ผ่านละ จะเป็นอย่างไร? (เหตุที่คิดว่ามีโอกาสไม่ผ่านเพราะว่า กรณีเรา เอาสามีต่างชาติที่ทำงานในไทยมาคํ้าค่ะ) จนเราทนไม่ไหว โทรไปถามกับทางเซลล์โครงการ เขาบอกว่า กรณีถ้ากู้ไม่ผ่าน เขาจะยึดเงินจองและเงินดาวน์ของเราหมดเลย โอ้ววว!!! ช๊อคสิค่ะ แล้วที่ช๊อคไปกว่านั้น ห้องเราราคาไม่ใช่ถูกๆค่ะ ถ้าถึงวันโอนแล้ว แล้วถ้าเกิดกู้ไม่ผ่าน ป่านนั้นเราดาวน์ไปถึง 500,000บาทแล้ว เท่ากับว่าเราต้อทิ้งเงิน 500,000บาทไปเลย #นี่เงินเก็บเกือบทั้งชีวิตเลยนะนั่น และคอนโดอันนี้ยังสร้างไม่แล้วเสร็จค่ะ กว่าจะเสร็จก็ต้นปี 60ค่ะ เราว่า มันอีกนาน แล้วเราต้องเครียดนานไปขนาดนี้เลยหรอค่ะ ToT
ทางคอนโดยืนกรานว่า ยังไงก็ไม่คืนค่ะ เขาให้คำตอบว่า ก่อนซื้อ ผู้ซื้อต้องรู้ความสามารถของตนเองก่อนซื้ออยู่แล้ว แต่อะไรอะไรมันก็ไม่แน่นอนนิค่ะ เพราะระยะเวลาผ่อนดาวน์ก่อนโอนมันนานเกินไป ถ้าวันนึงเราตกงาน เป็นอะไรขึ้นมา ทำยังไงล่ะค่ะ เพราะเราไม่รู้อนาคตข้างหน้า
สำหรับเรา เรารู้สึกว่า กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคมันน้อยไปค่ะ แต่เราก็เข้าใจนะค่ะว่า เขาป้องกันพวกนักซื้อเกร็งกำไร แล้วทางผู้ขายก็ต้องเสียโอกาศในการขาย อันนี้เราเข้าใจ แต่เราว่า ควรที่จะยึดได้ แต่น่าจะยึดเป็นเปอร์เซนต์ หรือคนละครึ่ง เพื่อความเท่าเทียมนะค่ะ หรือไม่ก็ก่อนที่จะจอง ทางโครงการน่าจะมีมาตรการการ Pre approve หรือที่ปรึกษาด้านการเงิน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหานะค่ะ
คือตอนนี้เราดาวน์คอนโด เดือนละ 15,000 เรารู้สึกว่าไม่มีกำลังใจในการดาวน์เดือนต่อๆไปเลยค่ะ รู้สึกเหมือนทุกเดือนนี้เอาเงินไปทิ้งยังไงไม่รู้ ขอแค่กำลังใจ ในทุกๆเดือนที่เราต้องผ่อนไปอีกปีกว่าค่ะ
ปล>ทุกคนคงว่าดิฉันโง่ ทำไมก่อนซื้อไม่ศึกษาก็ได้ค่ะ เพราะเป็นความจริง เราคิดน้อยค่ะ อีกอย่างเรายังอ่อนประสบการณ์ในการซื้อคอนโด และความรอบคอบ เราอายุ27เองค่ะ และยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนคู่คิดไม่มีค่ะ เพราะสามีต่างชาติ ดังนั้นสามีไม่สามารถเตือนสติได้ค่ะ 555
ขอบคุณค่ะ