รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยสงครามกลางเมืองในประเทศแถบตะวันออกกลางเยอะเป็นพิเศษ
จริงๆ ปัญหานี้เกิดและสะสมมานานแล้ว ข่าวก็นำเสนออยู่เรื่อยๆ แต่ตัวจขกท. รับรู้เพียงแค่ผ่านๆ
เพิ่งจะมาสนใจ และย้อนอ่านจริงจังเมื่อวานนี้เอง อ่านแล้วก็ได้แต่สะท้อน สะเทือนใจ
หลังจากที่ตามอ่านข่าว บทความ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีคนจำนวนมากแสดงความคิดเห็นในเชิงที่ว่า
แม้ประเทศไทยจะมีคนที่ไม่เป็นระเบียบ ชุ่ย มักง่าย เห็นแก่ตัว คนในประเทศคอยแต่จะทะเลาะ หาผลประโยชน์
บ้านเมืองไม่พัฒนา การจราจรแออัด เต็มไปด้วยมลพิษ ขยะ อาชญากรรม ค่าแรงต่ำ ค่าครองชีพแพง รวยกระจุกจนกระจาย
.
.
.
.
แต่ ถ้าสามารถเลือกที่จะไปอยู่ประเทศใดๆ ที่แห่งใดก็ได้บนโลกนี้
ก็ยังคงยืนยันที่จะอยู่ในประเทศไทยเหมือนเดิม
สำหรับเรา คิดว่าแม้ประเทศไทยจะเต็มไปด้วยปัญหา จุดบกพร่อง ความไม่เป็นระเบียบ
แต่หลายๆ สิ่งที่ดีๆ ที่ประเทศไทยมี ประเทศอื่นๆ ก็ไม่มีเช่นกัน
บางครั้งการหาข้อดี หรือมองโลกในแง่ดีของจุดด้อย ก็ทำให้เราสบายใจขึ้นนะ
*** ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนให้กระทำผิด หรือทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน
ถ้าสามารถจัดการให้อยู่ในระบบระเบียบ ขอบเขตได้ ยิ่งดี... แต่ในเมื่อตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้
การที่เราหัวเสียทุกครั้งที่เห็นสิ่งที่ขัดตา ขัดใจ มันก็ไม่ช่วยเนาะ (หมายถึงบ่นอย่างเดียวไม่ลงมือทำ)
ดังนั้น ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะปรับปรุง พัฒนา ระหว่างนั้นก็มาหาข้อดีของมันไปพรางๆ กันก่อนดีกว่า ตัวอย่างเช่น
ร้านอาหารที่ตั้งเกะกะ ริมฟุตบาท ไม่เป็นระเบียบริมถนน แต่อย่างน้อยผู้คนก็ยังประกอบอาชีพ และคนทั่วไปหาของกินง่าย
(ถ้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น แทถบจะหาร้านอาหารหลังสี่ห้าทุ่มไม่ได้เลย)
เจอมนุษย์ป้าเนียนแซงคิวเพื่อซื้อ หรือทำอะไรบางอย่าง แต่อย่างน้อยก็ไม่มีการต่อสู้ แย่งชิงให้ได้มา
คนส่วนมากก้มหน้า เล่นสมาร์ทโฟน ไม่สนใจคนรอบข้าง มนุษยสัมพันลดลง แต่อย่างน้อยก็ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
(ไม่นับพวกก้มหน้าแล้วเดินเอื่อย เกะกะขวางทาง ขวางบันได หรือจนข้ามถนนไม่ระมัดระวังนะ)
โซเชียลถูกใช้เป็นเครื่องมือประจารคน ส่วนผู้อ่านบางคนแม้ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ขอมีส่วนร่วมด่าไว้ก่อน
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ก็ใช้ประโยชน์จากโซเชียลที่ว่าช่วยกันตามหา หรือประกาศบอกต่อ
ป่าไม้ถูกบุกรุก ลักลอบตัด โดนทำลาย จนทำให้พื้นที่ป่า พื้นที่สีเขียวลดน้อยลง สัตว์ป่าไม่มีที่อยู่อาศัย
แต่อย่างน้อยก็ไม่ค่อยมีปัญหาไฟป่า ที่เมื่อเกิดแต่ละครั้งกินวงกว้าง และสร้างความเสียหายมากมาย
หน้าฝนน้ำท่วม หน้าแล้งน้ำขาด คนทำการเกษตรต่างได้รับผลกระทบ ขาดทุนไปตามๆ กัน
แต่บ้านเราก็ยังมีน้ำดื่ม น้ำกินไม่ขาด และสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ไม่แพง
มีพระ(ที่ไม่รู้ว่าปลอม ไม่ปลอม) มีฆารวาสออกมาหากิน เรี่ยไรเงิน โดยอ้างศาสนาพุทธ
แต่ก็ไม่เคยมีการอ้างคำสอนของศาสนาพุทธ เพื่อแบ่งแยก รบราฆ่าฟัน หรือทำสงคราม
มีคนต่างด้าวมากมายในเมืองไทย (ที่มาทั้งแบบถูกกฏหมาย และลักลอบ) จนว่าแห่งเป็นเมืองของเค้าขนาดย่อมๆ
แต่พวกเขาเหล่านั้น ยังคงทำงาน ทำมาหากิน ไม่ได้เข้ามาเพื่อเรียกร้อง สร้างภาระ หรือรับความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว
****************************************
****************************************
จากตัวอย่างข้างต้น มันเป็นปัญหาที่เราๆ คนไทยรับรู้ เห็น ได้ยิน ประสบกันมานาน
ซึ่งบางเรื่องก็ชวนให้หงุดหงิด หัวเสีย พาลไม่สบอารมณ์อยู่บ่อยๆ จนมีคำพูดที่ว่า เพราะที่นี่ ประเทศไทย
แต่ในข้อเสีย ก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย (Positive Thinking เข้าไว้ดีกว่าเนาะ)
แล้วคุณๆ ล่ะคะ รัก ประเทศไทยที่ตรงไหน เพราะอะไรกันบ้าง
รัก... ประเทศไทยตรงไหน เพราะอะไรกันบ้างคะ (มาหาข้อดีของ Thailand Only กันเถอะ)
จริงๆ ปัญหานี้เกิดและสะสมมานานแล้ว ข่าวก็นำเสนออยู่เรื่อยๆ แต่ตัวจขกท. รับรู้เพียงแค่ผ่านๆ
เพิ่งจะมาสนใจ และย้อนอ่านจริงจังเมื่อวานนี้เอง อ่านแล้วก็ได้แต่สะท้อน สะเทือนใจ
หลังจากที่ตามอ่านข่าว บทความ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีคนจำนวนมากแสดงความคิดเห็นในเชิงที่ว่า
แม้ประเทศไทยจะมีคนที่ไม่เป็นระเบียบ ชุ่ย มักง่าย เห็นแก่ตัว คนในประเทศคอยแต่จะทะเลาะ หาผลประโยชน์
บ้านเมืองไม่พัฒนา การจราจรแออัด เต็มไปด้วยมลพิษ ขยะ อาชญากรรม ค่าแรงต่ำ ค่าครองชีพแพง รวยกระจุกจนกระจาย
.
.
.
.
แต่ ถ้าสามารถเลือกที่จะไปอยู่ประเทศใดๆ ที่แห่งใดก็ได้บนโลกนี้
ก็ยังคงยืนยันที่จะอยู่ในประเทศไทยเหมือนเดิม
สำหรับเรา คิดว่าแม้ประเทศไทยจะเต็มไปด้วยปัญหา จุดบกพร่อง ความไม่เป็นระเบียบ
แต่หลายๆ สิ่งที่ดีๆ ที่ประเทศไทยมี ประเทศอื่นๆ ก็ไม่มีเช่นกัน
บางครั้งการหาข้อดี หรือมองโลกในแง่ดีของจุดด้อย ก็ทำให้เราสบายใจขึ้นนะ
*** ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนให้กระทำผิด หรือทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน
ถ้าสามารถจัดการให้อยู่ในระบบระเบียบ ขอบเขตได้ ยิ่งดี... แต่ในเมื่อตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้
การที่เราหัวเสียทุกครั้งที่เห็นสิ่งที่ขัดตา ขัดใจ มันก็ไม่ช่วยเนาะ (หมายถึงบ่นอย่างเดียวไม่ลงมือทำ)
ดังนั้น ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะปรับปรุง พัฒนา ระหว่างนั้นก็มาหาข้อดีของมันไปพรางๆ กันก่อนดีกว่า ตัวอย่างเช่น
ร้านอาหารที่ตั้งเกะกะ ริมฟุตบาท ไม่เป็นระเบียบริมถนน แต่อย่างน้อยผู้คนก็ยังประกอบอาชีพ และคนทั่วไปหาของกินง่าย
(ถ้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น แทถบจะหาร้านอาหารหลังสี่ห้าทุ่มไม่ได้เลย)
เจอมนุษย์ป้าเนียนแซงคิวเพื่อซื้อ หรือทำอะไรบางอย่าง แต่อย่างน้อยก็ไม่มีการต่อสู้ แย่งชิงให้ได้มา
คนส่วนมากก้มหน้า เล่นสมาร์ทโฟน ไม่สนใจคนรอบข้าง มนุษยสัมพันลดลง แต่อย่างน้อยก็ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
(ไม่นับพวกก้มหน้าแล้วเดินเอื่อย เกะกะขวางทาง ขวางบันได หรือจนข้ามถนนไม่ระมัดระวังนะ)
โซเชียลถูกใช้เป็นเครื่องมือประจารคน ส่วนผู้อ่านบางคนแม้ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ขอมีส่วนร่วมด่าไว้ก่อน
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ก็ใช้ประโยชน์จากโซเชียลที่ว่าช่วยกันตามหา หรือประกาศบอกต่อ
ป่าไม้ถูกบุกรุก ลักลอบตัด โดนทำลาย จนทำให้พื้นที่ป่า พื้นที่สีเขียวลดน้อยลง สัตว์ป่าไม่มีที่อยู่อาศัย
แต่อย่างน้อยก็ไม่ค่อยมีปัญหาไฟป่า ที่เมื่อเกิดแต่ละครั้งกินวงกว้าง และสร้างความเสียหายมากมาย
หน้าฝนน้ำท่วม หน้าแล้งน้ำขาด คนทำการเกษตรต่างได้รับผลกระทบ ขาดทุนไปตามๆ กัน
แต่บ้านเราก็ยังมีน้ำดื่ม น้ำกินไม่ขาด และสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ไม่แพง
มีพระ(ที่ไม่รู้ว่าปลอม ไม่ปลอม) มีฆารวาสออกมาหากิน เรี่ยไรเงิน โดยอ้างศาสนาพุทธ
แต่ก็ไม่เคยมีการอ้างคำสอนของศาสนาพุทธ เพื่อแบ่งแยก รบราฆ่าฟัน หรือทำสงคราม
มีคนต่างด้าวมากมายในเมืองไทย (ที่มาทั้งแบบถูกกฏหมาย และลักลอบ) จนว่าแห่งเป็นเมืองของเค้าขนาดย่อมๆ
แต่พวกเขาเหล่านั้น ยังคงทำงาน ทำมาหากิน ไม่ได้เข้ามาเพื่อเรียกร้อง สร้างภาระ หรือรับความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว
****************************************
****************************************
จากตัวอย่างข้างต้น มันเป็นปัญหาที่เราๆ คนไทยรับรู้ เห็น ได้ยิน ประสบกันมานาน
ซึ่งบางเรื่องก็ชวนให้หงุดหงิด หัวเสีย พาลไม่สบอารมณ์อยู่บ่อยๆ จนมีคำพูดที่ว่า เพราะที่นี่ ประเทศไทย
แต่ในข้อเสีย ก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย (Positive Thinking เข้าไว้ดีกว่าเนาะ)
แล้วคุณๆ ล่ะคะ รัก ประเทศไทยที่ตรงไหน เพราะอะไรกันบ้าง