รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วย อยากทราบระยะเวลาการพิจารณาคดีที่อยู่ในชั้นฎีกาค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า แม่ได้ฟ้องคดีผู้บริโภคกับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุของพ่อซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปี 2551
แต่มีบริษัทที่ฟ้องร้องเพียงบริษัทเดียวที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากประกันอุบัติเหตุอันนี้เป็นประกันอุบัติเหตุหมู่ทำโดยสหกรณ์ออมทรัพย์ที่พ่อเป็นสมาชิก
ในปี 2552 แม่จึงแต่งตั้งทนายความฟ้องบริษัท
ต่อสู้กันในศาลชั้นต้น ทีแรกโต้แย้งกันกันในประเด็นว่าผู้เอาประกันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจริงหรือไม่ ซึ่งทางเรามีเอกสารชันสูตรจากนิติเวชเป็นหลักฐานประกอบกับสืบพยานบุคคล
ต่อมา มีการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาก่อนมีคำพิพากษา และนัดฟังคำพิพากษา เรากับแม่ก็ไปตามหมายนัด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยก่อนอ่านคำพิพากษา ศาลได้ไกล่เกลี่ยโดยให้ทางเราตกลงกับทนายจำเลย ยอมรับเงินจำนวนน้อยกว่าวงเงินเอาประกัน และบอกว่าหากไม่ยอมรับ แล้วศาลยกฟ้อง ทางเราจะไม่ได้อะไรเลย แม่เราตัดสินใจไม่รับคำเสนอนั้นค่ะ
และเป็นไปตามคาด ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากเป็นอุบัติเหตุหมู่ ทางสหกรณ์ฯต้องฟ้องเอง แต่สหกรณ์ฯไม่ได้ฟ้องให้ค่ะ อ้างว่าพ่อไม่มีหนี้ค้างกับสหกรณ์แล้ว ให้เราดำเนินการฟ้องกันเอง
(แต่เราแอบงงค่ะ ถ้าแม่เราไม่มีอำนาจฟ้อง แล้วทำไมทนายความบริษัทประกันถึงเสนอจ่ายเงินให้แก่แม่จำนวน 35% ของยอดเงินที่ยื่นฟ้อง และศาลก็ไกล่เกลี่ยให้แม่เรารับข้อเสนอของทนายบริษัทด้วย เหตุการณ์นี้เราอยู่ในบัลลังก์นั้นด้วยค่ะ เมื่อฟังคำไกล่เกลี่ยและคำพูดของอีกฝ่ายแล้ว เจ็บปวดมากจริงๆ)
ทางเราจึงยื่นอุทธรณ์ เมื่อกลางปี 2555 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพาษาศาลชั้นต้น ให้บริษัทประกันจ่ายสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยแก่แม่
แต่บริษัทไม่ยอมจ่าย จึงให้ทนายยื่นฎีกา ซึ่งเป็นการฏีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีการับเรื่องไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2556
อยากทราบว่า ในชั้นฎีกานี้ ศาลจะใช้เวลาในการพิจารณานานแค่ไหนคะ
และกรณีแบบเรายื่นฟ้องนี้ จะมีโอกาสชนะคดีมาก-น้อยแค่ไหน
คดีที่ยื่นฎีกาแล้ว ศาลจะใช้เวลาพิจารณานานแค่ไหน
เรื่องมีอยู่ว่า แม่ได้ฟ้องคดีผู้บริโภคกับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุของพ่อซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปี 2551
แต่มีบริษัทที่ฟ้องร้องเพียงบริษัทเดียวที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากประกันอุบัติเหตุอันนี้เป็นประกันอุบัติเหตุหมู่ทำโดยสหกรณ์ออมทรัพย์ที่พ่อเป็นสมาชิก
ในปี 2552 แม่จึงแต่งตั้งทนายความฟ้องบริษัท
ต่อสู้กันในศาลชั้นต้น ทีแรกโต้แย้งกันกันในประเด็นว่าผู้เอาประกันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจริงหรือไม่ ซึ่งทางเรามีเอกสารชันสูตรจากนิติเวชเป็นหลักฐานประกอบกับสืบพยานบุคคล
ต่อมา มีการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาก่อนมีคำพิพากษา และนัดฟังคำพิพากษา เรากับแม่ก็ไปตามหมายนัด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยก่อนอ่านคำพิพากษา ศาลได้ไกล่เกลี่ยโดยให้ทางเราตกลงกับทนายจำเลย ยอมรับเงินจำนวนน้อยกว่าวงเงินเอาประกัน และบอกว่าหากไม่ยอมรับ แล้วศาลยกฟ้อง ทางเราจะไม่ได้อะไรเลย แม่เราตัดสินใจไม่รับคำเสนอนั้นค่ะ
และเป็นไปตามคาด ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากเป็นอุบัติเหตุหมู่ ทางสหกรณ์ฯต้องฟ้องเอง แต่สหกรณ์ฯไม่ได้ฟ้องให้ค่ะ อ้างว่าพ่อไม่มีหนี้ค้างกับสหกรณ์แล้ว ให้เราดำเนินการฟ้องกันเอง
(แต่เราแอบงงค่ะ ถ้าแม่เราไม่มีอำนาจฟ้อง แล้วทำไมทนายความบริษัทประกันถึงเสนอจ่ายเงินให้แก่แม่จำนวน 35% ของยอดเงินที่ยื่นฟ้อง และศาลก็ไกล่เกลี่ยให้แม่เรารับข้อเสนอของทนายบริษัทด้วย เหตุการณ์นี้เราอยู่ในบัลลังก์นั้นด้วยค่ะ เมื่อฟังคำไกล่เกลี่ยและคำพูดของอีกฝ่ายแล้ว เจ็บปวดมากจริงๆ)
ทางเราจึงยื่นอุทธรณ์ เมื่อกลางปี 2555 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพาษาศาลชั้นต้น ให้บริษัทประกันจ่ายสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยแก่แม่
แต่บริษัทไม่ยอมจ่าย จึงให้ทนายยื่นฎีกา ซึ่งเป็นการฏีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีการับเรื่องไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2556
อยากทราบว่า ในชั้นฎีกานี้ ศาลจะใช้เวลาในการพิจารณานานแค่ไหนคะ
และกรณีแบบเรายื่นฟ้องนี้ จะมีโอกาสชนะคดีมาก-น้อยแค่ไหน