หลับในชนป้าย ดับ3ศพ
http://www.thairath.co.th/content/523944
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุรถกระบะ 4 ประตูแต่งซิ่งพุ่งชนเสาป้ายบอกทางเตือนเข้าด่านชั่งน้ำหนักบางไผ่ ริมถนน 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ด้านฝั่งขาเข้า กม.78-79 พื้นที่ม.8 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีชายเสียชีวิตคาที่ 3 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดเวลา 23.00 น. วันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
ปรากฏว่า พบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุสามารถจับภาพวินาทีขณะเกิดเหตุได้อย่างน่าประหลาดใจ โดยพบว่า รถกระบะขับมาบนถนนทางตรงในช่องทางด้านขวาสุด จากช่องทางด้านขาเข้า 2 ช่องทาง และขาออก 2 ช่องทาง ซึ่งในภาพพบว่า รถคันเกิดเหตุได้หักหลบอะไรบางอย่าง และหันหน้ารถพุ่งออกมาจากช่องทางด้านขวาสุด ก่อนที่จะพุ่งออกมายังข้างทางด้านซ้าย และชนเข้ากับเสาป้ายเตือนเข้าด่านอย่างแรง โดยที่ไม่มีรถยนต์ หรือสิ่งใดตัดหน้ารถ เพราะเป็นรถที่ขับวิ่งมาตามเส้นทางตรงเลนขวาแต่เพียงลำพังเท่านั้น ก่อนที่รถจะพุ่งออกมาจากเส้นทาง และตัดหน้ารถบรรทุกที่ขับวิ่งมาอย่างช้าๆ บนช่องทางด้านซ้าย แล้วประสบอุบัติเหตุสยองดังกล่าวขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดตัวเดียวกันที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ทำนองเดียวกันได้อีกเมื่อช่วงเวลา 14.22 น. วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรถกระบะขับมาตามเส้นทางตรง และอยู่บนช่องทางด้านในตำแหน่งเดียวกัน ได้หักรถพุ่งออกมาจากเส้นทางตรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ และตกลงไปยังข้างทางอย่างรวดเร็วคล้ายกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน
แต่โชคดีที่เหตุการณ์นั้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต เนื่องจากรถได้พุ่งเฉียดเสาป้ายเตือนบอกทางเข้าด่านชั่งต้นเดียวกันนี้ไปอย่างเฉียดฉิวเท่านั้น ซึ่งรถคันเกิดเหตุได้ตกถนนลงไปจอดนอนแน่นิ่งยังข้างทาง ตรงบริเวณในตำแหน่งของจุดที่พบชุดเพลาล้อหลัง พร้อมเพลาขับของรถคันเกิดเหตุรายล่าสุด หลุดกระเด็นไปตกเมื่อคืนวันวานที่ผ่านมาในตำแหน่งเดียวกัน
จากเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน เกิดขึ้นคล้ายกัน และในตำแหน่งเดียวกัน คล้ายกับพฤติการณ์การทำซ้ำในครั้งนี้ ได้สร้างความประหลาดใจต่อผู้ที่ได้พบเห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ประจำด่านชั่งน้ำหนักที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ โดยมีหลายรายระบุว่า ถนนสาย 304 บริเวณด่านชั่งน้ำหนักแห่งนี้มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายอย่างต่อเนื่อง ทั้งบริเวณก่อนถึงทางเบี่ยงเข้าสู่ด่าน และบริเวณหน้าด่านชั่ง ตลอดจนบริเวณหลังจากผ่านเลยด่านชั่งไปแล้ว ล้วนเคยมีเหตุการณ์อุบัติเหตุชนสยองเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น
จนท.ประจำด่านชั่งน้ำหนักรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทุกคนในด่านชั่งน้ำหนักแห่งนี้ต่างพากันประหลาดใจไปตามกัน พราะเป็นเหตุบังเอิญแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นแบบเดียวกัน และซ้ำกันถึง 2 ครั้ง ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน ห่างกันเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
สำหรับอุบัติเหตุบริเวณด่านชั่งน้ำหนักแห่งนี้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งจริง โดยผู้ที่ผ่านไปมาสามารถสังเกตเห็นได้จากอุปกรณ์ประจำด่าน ที่อยู่ด้านหน้าปากทางเบี่ยงก่อนเข้าสู่ตัวด่านแห่งนี้ที่ถูกวางกองเรียงรายอยู่กับพื้นสภาพพังเสียหายอย่างยับเยิน ทั้งป้ายบอกเตือนเข้าด่าน กรวยยางสะท้อนแสง แท่งแบริเออร์พลาสติกขนาดใหญ่ ล้วนเกิดจากการถูกรถพุ่งเฉี่ยวชนจนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น แต่โชคดีที่ยังไม่เคยมีรถพุ่งเข้ามาชนด่าน
ทั้งที่ตามเส้นทางก่อนถึงตัวด่านนั้นได้มีแผ่นป้ายบอกทางขนาดใหญ่ เตือนบอกก่อนถึงทางเข้าด่านชั่งน้ำหนักอยู่เป็นระยะกว่า 1 กม.ก็ตาม ส่วนมุมมองด้านไสยศาสตร์นั้น จนท.ต่างรู้สึกเคยชินจนเป็นเรื่องปกติแล้ว และก็ไม่เคยมีสิ่งลี้ลับใดๆ มารบกวน ซึ่งในแต่ละคืนนั้นจะมีประจำด่านผลัดละ 4 คน ก็ยังไม่เคยมีใครเคยพบเห็นเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น ทั้งกับตนเอง และเพื่อนร่วมงานแต่อย่างใด
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000102118
เผยคลิป วินาทีสยอง 3 ศพ หน้าด่านชั่งอาถรรพ์เมืองแปดริ้ว
http://www.thairath.co.th/content/523944
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุรถกระบะ 4 ประตูแต่งซิ่งพุ่งชนเสาป้ายบอกทางเตือนเข้าด่านชั่งน้ำหนักบางไผ่ ริมถนน 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ด้านฝั่งขาเข้า กม.78-79 พื้นที่ม.8 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีชายเสียชีวิตคาที่ 3 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดเวลา 23.00 น. วันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
ปรากฏว่า พบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุสามารถจับภาพวินาทีขณะเกิดเหตุได้อย่างน่าประหลาดใจ โดยพบว่า รถกระบะขับมาบนถนนทางตรงในช่องทางด้านขวาสุด จากช่องทางด้านขาเข้า 2 ช่องทาง และขาออก 2 ช่องทาง ซึ่งในภาพพบว่า รถคันเกิดเหตุได้หักหลบอะไรบางอย่าง และหันหน้ารถพุ่งออกมาจากช่องทางด้านขวาสุด ก่อนที่จะพุ่งออกมายังข้างทางด้านซ้าย และชนเข้ากับเสาป้ายเตือนเข้าด่านอย่างแรง โดยที่ไม่มีรถยนต์ หรือสิ่งใดตัดหน้ารถ เพราะเป็นรถที่ขับวิ่งมาตามเส้นทางตรงเลนขวาแต่เพียงลำพังเท่านั้น ก่อนที่รถจะพุ่งออกมาจากเส้นทาง และตัดหน้ารถบรรทุกที่ขับวิ่งมาอย่างช้าๆ บนช่องทางด้านซ้าย แล้วประสบอุบัติเหตุสยองดังกล่าวขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดตัวเดียวกันที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ทำนองเดียวกันได้อีกเมื่อช่วงเวลา 14.22 น. วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรถกระบะขับมาตามเส้นทางตรง และอยู่บนช่องทางด้านในตำแหน่งเดียวกัน ได้หักรถพุ่งออกมาจากเส้นทางตรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ และตกลงไปยังข้างทางอย่างรวดเร็วคล้ายกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน
แต่โชคดีที่เหตุการณ์นั้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต เนื่องจากรถได้พุ่งเฉียดเสาป้ายเตือนบอกทางเข้าด่านชั่งต้นเดียวกันนี้ไปอย่างเฉียดฉิวเท่านั้น ซึ่งรถคันเกิดเหตุได้ตกถนนลงไปจอดนอนแน่นิ่งยังข้างทาง ตรงบริเวณในตำแหน่งของจุดที่พบชุดเพลาล้อหลัง พร้อมเพลาขับของรถคันเกิดเหตุรายล่าสุด หลุดกระเด็นไปตกเมื่อคืนวันวานที่ผ่านมาในตำแหน่งเดียวกัน
จากเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน เกิดขึ้นคล้ายกัน และในตำแหน่งเดียวกัน คล้ายกับพฤติการณ์การทำซ้ำในครั้งนี้ ได้สร้างความประหลาดใจต่อผู้ที่ได้พบเห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ประจำด่านชั่งน้ำหนักที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ โดยมีหลายรายระบุว่า ถนนสาย 304 บริเวณด่านชั่งน้ำหนักแห่งนี้มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายอย่างต่อเนื่อง ทั้งบริเวณก่อนถึงทางเบี่ยงเข้าสู่ด่าน และบริเวณหน้าด่านชั่ง ตลอดจนบริเวณหลังจากผ่านเลยด่านชั่งไปแล้ว ล้วนเคยมีเหตุการณ์อุบัติเหตุชนสยองเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น
จนท.ประจำด่านชั่งน้ำหนักรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทุกคนในด่านชั่งน้ำหนักแห่งนี้ต่างพากันประหลาดใจไปตามกัน พราะเป็นเหตุบังเอิญแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นแบบเดียวกัน และซ้ำกันถึง 2 ครั้ง ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน ห่างกันเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
สำหรับอุบัติเหตุบริเวณด่านชั่งน้ำหนักแห่งนี้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งจริง โดยผู้ที่ผ่านไปมาสามารถสังเกตเห็นได้จากอุปกรณ์ประจำด่าน ที่อยู่ด้านหน้าปากทางเบี่ยงก่อนเข้าสู่ตัวด่านแห่งนี้ที่ถูกวางกองเรียงรายอยู่กับพื้นสภาพพังเสียหายอย่างยับเยิน ทั้งป้ายบอกเตือนเข้าด่าน กรวยยางสะท้อนแสง แท่งแบริเออร์พลาสติกขนาดใหญ่ ล้วนเกิดจากการถูกรถพุ่งเฉี่ยวชนจนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น แต่โชคดีที่ยังไม่เคยมีรถพุ่งเข้ามาชนด่าน
ทั้งที่ตามเส้นทางก่อนถึงตัวด่านนั้นได้มีแผ่นป้ายบอกทางขนาดใหญ่ เตือนบอกก่อนถึงทางเข้าด่านชั่งน้ำหนักอยู่เป็นระยะกว่า 1 กม.ก็ตาม ส่วนมุมมองด้านไสยศาสตร์นั้น จนท.ต่างรู้สึกเคยชินจนเป็นเรื่องปกติแล้ว และก็ไม่เคยมีสิ่งลี้ลับใดๆ มารบกวน ซึ่งในแต่ละคืนนั้นจะมีประจำด่านผลัดละ 4 คน ก็ยังไม่เคยมีใครเคยพบเห็นเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น ทั้งกับตนเอง และเพื่อนร่วมงานแต่อย่างใด
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000102118