เจ้าของร้านที่เกิดเหตุเรื่องที่ว่า พ.ต.ท.เบ่งกินฟรีที่โคราช ยืนยันไม่มีการยอมความตามข่าวที่ออกไป
ส่วนเด็กเสิร์ฟที่โดนชกดั้งหักก็ไปแจ้งความไว้แล้ว
เท่ากับพ.ต.ท.ที่ก่อเหตุทั้งถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ถูกสอบวินัย และถูกดำเนินคดีอาญา
ล่าสุดยังเก็บตัวเงียบ...
จากกรณีที่มีนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ทราบชื่อคือ พ.ต.ท.ปราการ กอปรศิริพัฒน์ หรือสารวัตรต้น ตำแหน่ง สว.สส.สภ.คง จ.นครราชสีมา
มีพฤติกรรมไปเบ่งกินฟรีทั้งอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ร้าน ส.สุนทร ตั้งอยู่ถนนช้างเผือกในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา
จนมีการกระทบกระทั่งถึงขั้นทำร้ายร่างกายพนักงานในร้านจนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหัก
และมีผู้นำภาพคลิปวิดีโอ จากกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.43 น. วันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผบช.ภ.3 ได้รับรายงาน จึงตรวจสอบข้อเท็จจริง
ก่อนจะสั่งการให้ พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.นครราชสีมา ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด
ลงนามในคำสั่งจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่ 986/2558
ให้ พ.ต.ท.ปราการ กอปรศิริพัฒน์ ตำแหน่ง สว.สส. สภ.คง จ.นครราชสีมา ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมให้ดำเนินการเอาผิดทางวินัย กับนายตำรวจคนดังกล่าวเฉียบขาด
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อบ่ายวันที่ 7 ก.ย. นายสุนทร แพงไพรี เจ้าของร้าน ส.สุนทร ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า
หลังจากที่ พ.ต.ท.ปราการ ทำร้ายร่างกายชกหน้านายอภิวัฒน์ พิจิตร อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านตน
จนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหัก และมีรอยเขียวช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ขณะนี้ยังนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ป.แพทย์ นครราชสีมา
ตนขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด
และไม่อยากให้ประชาชนสับสนกับข่าวที่ว่า มีการยอมความกันแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่เป็นความจริง
นายสุนทร กล่าวด้วยว่า คดีนี้ นายอภิวัฒน์ ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองนครรราชสีมา ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนเรื่องให้นายตำรวจคนดังกล่าวออกจากราชการนั้น ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดดำเนินการเอง ไม่เกี่ยวกับตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ปราการ ยังคงเก็บตัวเงียบ ขณะที่เพื่อนตำรวจพยายามติดต่อไปเพื่อให้กำลังใจ
และเกรงว่าจะเกิดความเครียด หรือคิดสั้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถูกให้ออกจากราชการดังกล่าว ซึ่งพ.ต.ท.ปราการ กอปรศิริพัฒน์ เรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 52.
ภาพนายตำรวจคนดังกล่าวจากไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/523580
จากกรณี พ.ต.ท.ปราการ กอปรศิริพัฒน์ เบ่งกินฟรี-ชกหน้าเด็กเสิร์ฟจนดั้งหัก นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล มีข้อมูลอัพเด็ดล่าสุด
ส่วนเด็กเสิร์ฟที่โดนชกดั้งหักก็ไปแจ้งความไว้แล้ว
เท่ากับพ.ต.ท.ที่ก่อเหตุทั้งถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ถูกสอบวินัย และถูกดำเนินคดีอาญา
ล่าสุดยังเก็บตัวเงียบ...
จากกรณีที่มีนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ทราบชื่อคือ พ.ต.ท.ปราการ กอปรศิริพัฒน์ หรือสารวัตรต้น ตำแหน่ง สว.สส.สภ.คง จ.นครราชสีมา
มีพฤติกรรมไปเบ่งกินฟรีทั้งอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ร้าน ส.สุนทร ตั้งอยู่ถนนช้างเผือกในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา
จนมีการกระทบกระทั่งถึงขั้นทำร้ายร่างกายพนักงานในร้านจนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหัก
และมีผู้นำภาพคลิปวิดีโอ จากกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.43 น. วันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผบช.ภ.3 ได้รับรายงาน จึงตรวจสอบข้อเท็จจริง
ก่อนจะสั่งการให้ พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.นครราชสีมา ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด
ลงนามในคำสั่งจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่ 986/2558 ให้ พ.ต.ท.ปราการ กอปรศิริพัฒน์ ตำแหน่ง สว.สส. สภ.คง จ.นครราชสีมา ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมให้ดำเนินการเอาผิดทางวินัย กับนายตำรวจคนดังกล่าวเฉียบขาด
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อบ่ายวันที่ 7 ก.ย. นายสุนทร แพงไพรี เจ้าของร้าน ส.สุนทร ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า
หลังจากที่ พ.ต.ท.ปราการ ทำร้ายร่างกายชกหน้านายอภิวัฒน์ พิจิตร อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านตน
จนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหัก และมีรอยเขียวช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ขณะนี้ยังนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ป.แพทย์ นครราชสีมา
ตนขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด
และไม่อยากให้ประชาชนสับสนกับข่าวที่ว่า มีการยอมความกันแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่เป็นความจริง
นายสุนทร กล่าวด้วยว่า คดีนี้ นายอภิวัฒน์ ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองนครรราชสีมา ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนเรื่องให้นายตำรวจคนดังกล่าวออกจากราชการนั้น ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดดำเนินการเอง ไม่เกี่ยวกับตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ปราการ ยังคงเก็บตัวเงียบ ขณะที่เพื่อนตำรวจพยายามติดต่อไปเพื่อให้กำลังใจ
และเกรงว่าจะเกิดความเครียด หรือคิดสั้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถูกให้ออกจากราชการดังกล่าว ซึ่งพ.ต.ท.ปราการ กอปรศิริพัฒน์ เรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 52.
ภาพนายตำรวจคนดังกล่าวจากไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/523580