พอดีเมื่อเดือนที่แล้ว เฟสบุ๊คมันส่งพวกข้อความ+รูปเก่าๆเมื่อปีที่แล้วมาให้ดูค่ะ ตอนเช้าๆยังตื่นไม่ค่อยเต็มตาเลยเล่นมือถือให้ตาสว่างสักหน่อยค่อยลุกไปอาบน้ำ เลื่อนไปเลื่อนมา....คิดถึงช่วงเวลาตอนนั้นแหะ ไม่เคยรับปริญญามาก่อน ตอนนั้นตื่นเต้นมากค่ะ
*ขออภัยก่อนเลยถ้ารูปไฟล์ไม่ชัด รูปไม่เยอะพอ เพราะตอนนั้นไม่คิดว่าจะเอารูปไปแชร์ที่ไหนนอกจากเฟสส่วนตัวค่ะ*
เริ่มจากออกเดินทางก่อนเลย ครอบครัวพัชไปด้วยกันทั้งสิ้น 5 คนค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตพัชเลยที่ทั้งครอบครัวได้ไปเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตา ณ ตอนนั้นดีใจมากๆเลยค่ะ
ก่อนหน้าวันรับปริญญาประมาณ 2 เดือนทางมหาวิทยาลัยก็ส่งเอกสารมาให้เรากรอกค่ะ ซึ่งโดยรวมมันค่อนข้างสำคัญมากนะ ชื่อสะกดตัวเรา วิธีการที่จะรับใบประกาศ รวมถึงการอธิบายชุดที่เราจะต้องใส่ในวันงาน ตอนนั้นสารภาพตามตรงค่ะว่าเครียดมาก ทุกอย่างทำออนไลน์ทั้งหมด กลัวว่าถ้าชื่อเราตกไปจะเกิดอะไรขึ้น จะได้รับใบประกาศมั้ย แต่ด้วยที่ตัวเราอยู่ไทย ณ ตอนนั้น ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าอีเมล์และโทรศัพท์แล้วค่ะ
รีบออกเดินทางกันก่อนวันรับ 2 วันค่ะ เผื่อทางมหาวิทยาลัยจะเรียกไปซ้อม ปรากฏว่าเงียบ...ไม่มีอะไรทั้งสิ้น มีแต่อีเมล์นัดหมาย ให้ไปเจอกันที่Hallวันที่ 8 สิงหาคม 2014 ตอน 14:30pm และคนที่จะเข้าไปชมการรับปริญญาเราได้ จะต้องมีตั๋ว ซึ่งบัณฑิตแต่ละคนจะได้ตั๋วเข้างานแค่ 2 ใบค่ะ (ถ้าอยากได้ซื้อเพิ่มใบละ NZD 10.00 หรือประมาณ 250-260 บาท)
ส่วนชุดครุยก็...อธิบายรายละเอียดผ่านอีเมล์ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นจะต้องมีก็คือ เสื้อคลุมสีดำ หมวกปริญญา และแถบสีประจำคณะ งานก็งอกอีกเช่นเคย...คณะเราสีอะไรว้า เรียนมาเกือบ4ปี ไม่เคยเห็นมีใครพูดถึง แต่ ณ จุดๆนั้นก็แก้ปัญหาด้วยการเข้าไปดูเฟสของเพื่อนที่รับปริญญาไปก่อนหน้านี้ค่ะ
เลยรอดตัวไป ชุดครุยพัชใช้วิธีเช่าเอาค่ะ (ณ ตอนนี้ยังเสียดายทำไมไม่ซื้อ ครั้งหนึ่งในชีวิตแท้ๆ ถ้ามีโอกาสกลับไปคงซื้อค่ะ) ค่าใช้จ่ายสำหรับชุดครุยโดยประมาณแล้ว 2,300 บาท
ตอนช่วงเช้ามหาวิทยาลัยจะมีจัดให้นักเรียนทุกคณะมาเดินขบวนแห่รอบเมือง โดยมีวงปี่สก็อตเป่านำขบวน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยไม่บังคับค่ะว่าจะต้องไปร่วมมั้ย และที่สำคัญแทบจะไม่มีพิธีอะไรเลยค่ะ แค่เดินและสนุกไปกับเพื่อนๆและชาวเมืองเฉยๆ ซึ่งวันนั้นทุกคนที่อยู่ริมถนนต่างพากันยิ้มให้เราทั้งหมดเลย (ร่วมแสดงความยินดี)
ความฝันของมะม้าคืออยากเห็นปี่สก็อตสักครั้งก็เป็นจริงขึ้นมาค่ะ มะม้าตื่นเต้นมากๆเลย ม้าบอกว่าเคยอ่านจากการ์ตูนเรื่องอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ แล้วก็จำมาโดยตลอด
ชุดครุยของแต่ละdegreeก็จะไม่เหมือนกันค่ะ ริมขวาสุดสองคนจะเป็นของ Diploma (อนุปริญญา) ส่วนที่เหลือจะเป็นของ Bachelor (ปริญญาตรี)
เดินไปสักพักคุณพ่อของพัชก็เข้ามาแจมขบวนด้วย 55555
มะม้าก็ขอด้วย :3
พวกลูกโป่ง สายสะพาย มงกุฎดอกไม้ ที่เห็นนี่เตรียมกันไปเองจากที่ไทยนะคะ นิวซีแลนด์ไม่มีขายค่ะแบบที่อลังการๆที่เราใช้ๆกัน พี่ๆน้าๆที่เดินทางไปด้วยกันอุตส่าห์แบกไปเพื่อเซอร์ไพร์โดยเฉพาะ
ร้านขายลูกโป่งที่นิวซีแลนด์ก็น้อยมากๆค่ะ สรุปคือหาซื้อแก๊สฮีเลี่ยมกันไม่ได้ น้าๆอาๆเลยต้องพากันสูบมือเอา (ขอบคุณมากค่า)
ชุดด้านในก็จะใส่เป็นชุดอะไรก็ได้ แล้วแต่เราเลย ทีแรกพัชจะใส่ชุดไทยไปแล้วแต่กลัวทำชุดเค้าเสียหาย และกลัวขากลับน้ำหนักเกินเลยไม่ได้เอาไปค่ะ
วิธีการขึ้นรับก็คือ เค้าจะแบ่งเราเป็นแถวๆ และแจกบัตรคิว ให้ยืนดูวีดีโอสาธิตการรับซึ่งมีความยาวประมาณ 3-4 นาที แล้วก็...ขึ้นเวทีจริงเลย (เฮ้ย ไม่ถามหน่อยหรอว่าจะลืมมั้ย)
อาจารย์ออกมาพูดก่อนเหล่าบัณฑิตเดินขึ้นเวทีว่า ถ้ารู้สึกตื่นเต้น ดีใจ จะร้อง จะกรี๊ด จะเฮ อะไรออกมาก็ได้ เอาให้เต็มที่ -o- ! แถมมีscreenจอใหญ่ๆถ่ายทางเดินเข้ามาใน Hall ด้วย
เค้าจะเรียกเรียงตามนามสกุลค่ะ ซึ่งของพัชก็คือตัว W อื้อหือ นั่งจนเกือบจบ 5555 แต่ไม่นานค่ะ ประมาณ30-40นาทีก็ได้ขึ้นไปรับแล้ว
ตอนรับนี่พัชจำได้แค่ว่า "ตะโกนให้เต็มที่" พอได้ใบจบมาปุ๊บก็กรี๊ดลั่นเวที 55555 ปะป๊าพัชก็ตะโกนขึ้นมาจากที่นั่งคนดูด้วยว่า Thailand โอ้โห บรรยากาศในนั้นคึกคักมากๆ บางคนขึ้นไปก็เต้นฮักก้าก็มี(การเต้นแบบชาวเมารี) ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดได้สนั่นหอประชุมเลย
ใบประกาศนีย์บัตรใส่ซองกระดาษสีขาวมาค่ะ พอได้รับแล้วก็ให้กลับมานั่งตรงที่เดิมก่อน รอให้ทุกคนรับกันครบหมดประธานจึงออกมากล่าวแสดงความยินดี ซึ่งกินเวลาไม่มากนัก หลังจากนั้นก็สามารถออกจากห้องประชุมได้
ทางมหาวิทยาลัยยังใจดีนะคะ จัดหาorganizerมาถ่ายรูปตอนเรารับปริญญาได้ด้วย ซึ่งเราสามารถออกไปจ่ายเงินและซื้อกรอบได้จากทางด้านนอกของหอประชุมเลย รูปเราจะได้รับประมาณ 3 อาทิตย์หลังจากวันนั้น
ค่ารูปรวมกรอบและวีดีโอแล้วประมาณ 4,500 บาท
รูปก็เลือกไม่ได้ เสี่ยงดวงละค่า
ที่พัชถืออยู่เป็นกล่องใส่ DVD วันรับปริญญา ซึ่งเราสามารถรับได้เลยวันนั้น
หลังจากนั้นพี่ที่พัชฝากให้ส่งรูปรับปริญญาของพัชก็เอากลับมาให้ที่ไทยค่ะ (ทางบริษัทถ่ายรูปบอกว่าถ้าส่งต่างประเทศไม่รับประกันว่าจะแตกมั้ย เลยไม่เสี่ยงค่ะ) ปรากฎว่า หูยถ่ายมุมช้อน 555555555 เหนียงนี่มาเต็ม
จบแล้วค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยคาดหวังมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในชีวิต และแปลกมากด้วยเพราะส่วนตัวคิดว่า จะต้องเป็นทางการ ห้ามส่งเสียงดัง ที่ไหนได้ตรงกันข้ามหมดเลย 55555 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ
จริงๆตอนแรกแอบน้อยใจนะคะ ทำไมเราไม่ได้แต่งหน้า ทำผม มีเพื่อนๆมาร่วมแสดงความยินดีเยอะๆแบบที่ไทย (น้อยใจอยู่ไม่กี่วิเองค่ะ 555) แต่มีสิ่งนึงที่พัชเห็นเค้าทำกันที่ไทยและเห็นว่าไม่แปลก และไม่น่าอายที่จะทำให้คนหลายๆเชื้อชาติที่นิวซีแลนด์ได้เห็นบ้าง ตอนพูดไปน้ำหูน้ำตาไหลไป พูดรัวเป็นปืนกลเลย ตอนนี้กลับมานั่งนึกก็ขำตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้จะรัวไปไหน
จากเด็กต่างจังหวัดคนนึงที่ภาษาอังกฤษแทบจะติดลบ แต่ดันมีโอกาสได้รับปริญญาที่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก จะขอบคุณใครอื่นไม่ได้นอกจากสองคนนี้ค่ะ
จบมาทีแรกก็เคว้งๆค่ะ นี่เราต้องเผชิญโลกจริงแล้วหรอ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ว่าที่บัณฑิตอีกหลายๆคนด้วยนะคะ
ถ้าอยากรู้จักกันมากขึ้นกดดูที่ spoil ได้เลยค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Website: www.tinypach.com
Facebook: www.facebook.com/foodie.tinychef
Instagram: @tinypach
แบ่งปันประสบการณ์การรับปริญญาของเด็กไทยที่ต่างแดน
*ขออภัยก่อนเลยถ้ารูปไฟล์ไม่ชัด รูปไม่เยอะพอ เพราะตอนนั้นไม่คิดว่าจะเอารูปไปแชร์ที่ไหนนอกจากเฟสส่วนตัวค่ะ*
เริ่มจากออกเดินทางก่อนเลย ครอบครัวพัชไปด้วยกันทั้งสิ้น 5 คนค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตพัชเลยที่ทั้งครอบครัวได้ไปเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตา ณ ตอนนั้นดีใจมากๆเลยค่ะ
ก่อนหน้าวันรับปริญญาประมาณ 2 เดือนทางมหาวิทยาลัยก็ส่งเอกสารมาให้เรากรอกค่ะ ซึ่งโดยรวมมันค่อนข้างสำคัญมากนะ ชื่อสะกดตัวเรา วิธีการที่จะรับใบประกาศ รวมถึงการอธิบายชุดที่เราจะต้องใส่ในวันงาน ตอนนั้นสารภาพตามตรงค่ะว่าเครียดมาก ทุกอย่างทำออนไลน์ทั้งหมด กลัวว่าถ้าชื่อเราตกไปจะเกิดอะไรขึ้น จะได้รับใบประกาศมั้ย แต่ด้วยที่ตัวเราอยู่ไทย ณ ตอนนั้น ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าอีเมล์และโทรศัพท์แล้วค่ะ
รีบออกเดินทางกันก่อนวันรับ 2 วันค่ะ เผื่อทางมหาวิทยาลัยจะเรียกไปซ้อม ปรากฏว่าเงียบ...ไม่มีอะไรทั้งสิ้น มีแต่อีเมล์นัดหมาย ให้ไปเจอกันที่Hallวันที่ 8 สิงหาคม 2014 ตอน 14:30pm และคนที่จะเข้าไปชมการรับปริญญาเราได้ จะต้องมีตั๋ว ซึ่งบัณฑิตแต่ละคนจะได้ตั๋วเข้างานแค่ 2 ใบค่ะ (ถ้าอยากได้ซื้อเพิ่มใบละ NZD 10.00 หรือประมาณ 250-260 บาท)
ส่วนชุดครุยก็...อธิบายรายละเอียดผ่านอีเมล์ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นจะต้องมีก็คือ เสื้อคลุมสีดำ หมวกปริญญา และแถบสีประจำคณะ งานก็งอกอีกเช่นเคย...คณะเราสีอะไรว้า เรียนมาเกือบ4ปี ไม่เคยเห็นมีใครพูดถึง แต่ ณ จุดๆนั้นก็แก้ปัญหาด้วยการเข้าไปดูเฟสของเพื่อนที่รับปริญญาไปก่อนหน้านี้ค่ะ เลยรอดตัวไป ชุดครุยพัชใช้วิธีเช่าเอาค่ะ (ณ ตอนนี้ยังเสียดายทำไมไม่ซื้อ ครั้งหนึ่งในชีวิตแท้ๆ ถ้ามีโอกาสกลับไปคงซื้อค่ะ) ค่าใช้จ่ายสำหรับชุดครุยโดยประมาณแล้ว 2,300 บาท
ตอนช่วงเช้ามหาวิทยาลัยจะมีจัดให้นักเรียนทุกคณะมาเดินขบวนแห่รอบเมือง โดยมีวงปี่สก็อตเป่านำขบวน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยไม่บังคับค่ะว่าจะต้องไปร่วมมั้ย และที่สำคัญแทบจะไม่มีพิธีอะไรเลยค่ะ แค่เดินและสนุกไปกับเพื่อนๆและชาวเมืองเฉยๆ ซึ่งวันนั้นทุกคนที่อยู่ริมถนนต่างพากันยิ้มให้เราทั้งหมดเลย (ร่วมแสดงความยินดี)
ความฝันของมะม้าคืออยากเห็นปี่สก็อตสักครั้งก็เป็นจริงขึ้นมาค่ะ มะม้าตื่นเต้นมากๆเลย ม้าบอกว่าเคยอ่านจากการ์ตูนเรื่องอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ แล้วก็จำมาโดยตลอด
ชุดครุยของแต่ละdegreeก็จะไม่เหมือนกันค่ะ ริมขวาสุดสองคนจะเป็นของ Diploma (อนุปริญญา) ส่วนที่เหลือจะเป็นของ Bachelor (ปริญญาตรี)
เดินไปสักพักคุณพ่อของพัชก็เข้ามาแจมขบวนด้วย 55555
มะม้าก็ขอด้วย :3
พวกลูกโป่ง สายสะพาย มงกุฎดอกไม้ ที่เห็นนี่เตรียมกันไปเองจากที่ไทยนะคะ นิวซีแลนด์ไม่มีขายค่ะแบบที่อลังการๆที่เราใช้ๆกัน พี่ๆน้าๆที่เดินทางไปด้วยกันอุตส่าห์แบกไปเพื่อเซอร์ไพร์โดยเฉพาะ ร้านขายลูกโป่งที่นิวซีแลนด์ก็น้อยมากๆค่ะ สรุปคือหาซื้อแก๊สฮีเลี่ยมกันไม่ได้ น้าๆอาๆเลยต้องพากันสูบมือเอา (ขอบคุณมากค่า)
ชุดด้านในก็จะใส่เป็นชุดอะไรก็ได้ แล้วแต่เราเลย ทีแรกพัชจะใส่ชุดไทยไปแล้วแต่กลัวทำชุดเค้าเสียหาย และกลัวขากลับน้ำหนักเกินเลยไม่ได้เอาไปค่ะ
วิธีการขึ้นรับก็คือ เค้าจะแบ่งเราเป็นแถวๆ และแจกบัตรคิว ให้ยืนดูวีดีโอสาธิตการรับซึ่งมีความยาวประมาณ 3-4 นาที แล้วก็...ขึ้นเวทีจริงเลย (เฮ้ย ไม่ถามหน่อยหรอว่าจะลืมมั้ย)
อาจารย์ออกมาพูดก่อนเหล่าบัณฑิตเดินขึ้นเวทีว่า ถ้ารู้สึกตื่นเต้น ดีใจ จะร้อง จะกรี๊ด จะเฮ อะไรออกมาก็ได้ เอาให้เต็มที่ -o- ! แถมมีscreenจอใหญ่ๆถ่ายทางเดินเข้ามาใน Hall ด้วย
เค้าจะเรียกเรียงตามนามสกุลค่ะ ซึ่งของพัชก็คือตัว W อื้อหือ นั่งจนเกือบจบ 5555 แต่ไม่นานค่ะ ประมาณ30-40นาทีก็ได้ขึ้นไปรับแล้ว
ตอนรับนี่พัชจำได้แค่ว่า "ตะโกนให้เต็มที่" พอได้ใบจบมาปุ๊บก็กรี๊ดลั่นเวที 55555 ปะป๊าพัชก็ตะโกนขึ้นมาจากที่นั่งคนดูด้วยว่า Thailand โอ้โห บรรยากาศในนั้นคึกคักมากๆ บางคนขึ้นไปก็เต้นฮักก้าก็มี(การเต้นแบบชาวเมารี) ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดได้สนั่นหอประชุมเลย
ใบประกาศนีย์บัตรใส่ซองกระดาษสีขาวมาค่ะ พอได้รับแล้วก็ให้กลับมานั่งตรงที่เดิมก่อน รอให้ทุกคนรับกันครบหมดประธานจึงออกมากล่าวแสดงความยินดี ซึ่งกินเวลาไม่มากนัก หลังจากนั้นก็สามารถออกจากห้องประชุมได้
ทางมหาวิทยาลัยยังใจดีนะคะ จัดหาorganizerมาถ่ายรูปตอนเรารับปริญญาได้ด้วย ซึ่งเราสามารถออกไปจ่ายเงินและซื้อกรอบได้จากทางด้านนอกของหอประชุมเลย รูปเราจะได้รับประมาณ 3 อาทิตย์หลังจากวันนั้น
ค่ารูปรวมกรอบและวีดีโอแล้วประมาณ 4,500 บาท รูปก็เลือกไม่ได้ เสี่ยงดวงละค่า
ที่พัชถืออยู่เป็นกล่องใส่ DVD วันรับปริญญา ซึ่งเราสามารถรับได้เลยวันนั้น
หลังจากนั้นพี่ที่พัชฝากให้ส่งรูปรับปริญญาของพัชก็เอากลับมาให้ที่ไทยค่ะ (ทางบริษัทถ่ายรูปบอกว่าถ้าส่งต่างประเทศไม่รับประกันว่าจะแตกมั้ย เลยไม่เสี่ยงค่ะ) ปรากฎว่า หูยถ่ายมุมช้อน 555555555 เหนียงนี่มาเต็ม
จบแล้วค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยคาดหวังมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในชีวิต และแปลกมากด้วยเพราะส่วนตัวคิดว่า จะต้องเป็นทางการ ห้ามส่งเสียงดัง ที่ไหนได้ตรงกันข้ามหมดเลย 55555 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ จริงๆตอนแรกแอบน้อยใจนะคะ ทำไมเราไม่ได้แต่งหน้า ทำผม มีเพื่อนๆมาร่วมแสดงความยินดีเยอะๆแบบที่ไทย (น้อยใจอยู่ไม่กี่วิเองค่ะ 555) แต่มีสิ่งนึงที่พัชเห็นเค้าทำกันที่ไทยและเห็นว่าไม่แปลก และไม่น่าอายที่จะทำให้คนหลายๆเชื้อชาติที่นิวซีแลนด์ได้เห็นบ้าง ตอนพูดไปน้ำหูน้ำตาไหลไป พูดรัวเป็นปืนกลเลย ตอนนี้กลับมานั่งนึกก็ขำตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้จะรัวไปไหน
จากเด็กต่างจังหวัดคนนึงที่ภาษาอังกฤษแทบจะติดลบ แต่ดันมีโอกาสได้รับปริญญาที่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก จะขอบคุณใครอื่นไม่ได้นอกจากสองคนนี้ค่ะ
จบมาทีแรกก็เคว้งๆค่ะ นี่เราต้องเผชิญโลกจริงแล้วหรอ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ว่าที่บัณฑิตอีกหลายๆคนด้วยนะคะ
ถ้าอยากรู้จักกันมากขึ้นกดดูที่ spoil ได้เลยค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้