ขอเกริ่นก่อนนะค่ะ ว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ตื่นเต้นมากๆ แอบดูของคนอื่นมานานหลายปี...ข้อมูลต่างๆที่ทุกคนเอามาลงเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ค่อนข้างมีประโยชน์มากๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหารอร่อยๆ ถ้าอยากไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ข้อมูลที่จะเข้ามาหาคือที่นี่ค่ะ ^^

จขกท.ได้มีโอกาส ได้ไปร่วมทริปกิจกรรมที่สำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดขึ้น ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดปี "ล่องแก่งแม่น้ำปาย ชมป่าสักนวมินทรราชินี" รอบสื่อมวลชนและผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว



เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยว จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพราะปกติจะไปเที่ยวแต่ปายอย่างเดียว จ.แม่ฮ่องสอน ยังมีความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมาก อากาศดีและเย็นสบายตลอดปี สมกับที่เป็นเมืองในสามหมอก ถ้าใครที่ยังไม่เคยไป หรือว่าเมารถมากๆ แนะนำให้กินยาแก้เมาเตรียมไว้ได้เลย มีเคล็ดลับดีๆแอบมาบอกว่า ถ้าไม่อยากเมามาก เพราะโค้งมีเยอะเหลือเกิน ให้ใช้พลาสเตอร์ปะปวดแปะตรงสะดือ จะช่วยได้มากค่ะ เคล็ดลับนี้ไกด์เค้ากระซิบมาว่าชาวต่างชาติยังแอบงงว่า ใช้ได้ดีจริงๆ ^^

สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีมากมายค่ะ จะให้ดีต้องมาเที่ยวช่วงใกล้ฤดูหนาว อากาศจะเย็นสบาย เผลอๆแอบหนาวด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้ใครที่มีหมวก เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ น่ารักๆที่แอบเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเป็นชาติก็ขนมาใส่กันได้เลย ใส่ถ่ายรูปชิวๆกันได้ค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวเก๋ๆอันซีนๆ ก็มีอยู่หลายที่ค่ะ รับรองถ่ายรูปกันไม่หวาดไม่ไหว

ซูตองเป้ สะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างจากแรงศรัทธาของพระและคณะศรัทธาต่างๆ สถานที่นี้ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ ครั้งนี้..จขกท.ได้มีโอกาสไปปลูกต้นไผ่ เพื่อเอาไว้ใช้สร้างสะพานด้วย


























"ซูตองเป้" เป็นสถานที่ที่สวยงาม เงียบสงบ ถ้ามาช่วงที่ปลูกข้าวจะสวยงามมากค่ะ เดินถ่ายภาพจนเพลินเลย  ถือเป็นโชคดีของ จขกท.เองด้วยที่ช่วงที่ไปต้นข้าวเขียวขจีและท้องฟ้าปลอดโปร่ง ซึ่งหลังจากกลับมาจากทริปไม่กี่วันก็ทราบข่าวว่านาข้าวที่นี่โดนน้ำป่าท่วม (เอาใจช่วยให้ที่นี่กลับมาสวยงามดังเดิมไวๆค่ะ)

จากนั้นเราได้เข้าพักยัง โรงแรมอิมพีเรียลธาราแม่ฮ่องสอน บรรยากาศดีค่ะ ที่พักสะอาดกว้างขวาง สงบ ร่มรื่น มีสระว่ายน้ำ เสียดายว่าไปถึงค่ำแล้ว เลยไม่มีโอกาสได้เก็บภาพที่นี่ (แต่คอนเฟิร์มว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยค่ะ ^^) ตอนค่ำมีงานเลี้ยงเปิดพิธี "ล่องแก่งแม่น้ำปายนวมินทรราชินี" จากผู้ว่าแม่ฮ่องสอน มีการแสดงจากน้องๆหลายชนเผ่าและมีการมอบประกาศนียบัตรที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม และแจกของที่ระลึกเป็นกระเป๋าสะพาย เล็กๆน่ารักค่ะ






เช้าตื่นขึ้นมาด้วยความแจ่มใสหรือเปล่า ^^ เพราะเมื่อคืนผ่านการดริ้งมานิดหน่อย(หุหุ) แต่ก็พร้อมสำหรับการล่องแก่ง งานนี้ไกด์บอกว่าต้องใส่กางเกงขาสั้น ขอแก้นิดนึงนะค่ะ สำหรับคนที่ไม่เคยล่องแก่งเหมือน จขกท.ว่าควรใส่กางเกงขายาวและเสื้อแขนยาว หรือไม่ก็ปลอกแขนดีกว่าค่ะ เพราะแดดจัดมาก อาจเผาผิวสาวๆอย่างเราจนเกรียมได้ เพราะการล่องแก่ง แต่ละจุดค่อนข้างจะใช้เวลาเนิ่นนาน เช่นที่ จขกท.ประสบมา ล่องแก่งระยะทางกว่า 45 กิโล ใช้เวลา เกือบๆ 6 ชั่วโมง(ไม่ให้ผิวลอกให้มันรู้ไป 55) การล่องแก่งครั้งแรก ทั้งกลัว ตื่นเต้น และสนุก
(ต้องบอกก่อนนะค่ะว่า รูปล่องแก่งแทบไม่มี เพราะไม่กล้าเสี่ยงเอากล้องลงน้ำ)เลยได้ภาพบนบกก่อนลงน้ำมานิดหน่อยค่ะ





การล่องแก่งครั้งนี้ทำให้รู้ว่า เราควรจะจ้ำพายไปอย่างพร้อมเพรียงกัน และควรฟังคำสั่งจากกัปตันดีๆ เพราะไม่งั้นอาจจะเป็นเหมือน "แก๊งแพนกวิน" ของ จขกท.ได้ กัปตันสั่งให้ขวา(ขวานี่คือพายทวนน้ำด้านขวา ซ้ายคือพายทวนน้ำด้านซ้าย..หรือเปล่าชักงง 555) ทุกคนสตั๊นไป 5 วิ... คืออึ้ง งง หลงทิศไปแป๊บ 555

การล่องแก่งชมธรรมชาติและผ่านแก่งต่างๆ จากแก่งระดับเล็กๆ ไปจนถึงแก่งละดับ 4+ การล่องแก่งถ้าเราเจอคลื่นใหญ่ๆ เราควรที่จะเอนตัวเข้ามาด้านในเรือและสอดเท้าเข้าไปในช่องกลางที่นั่งลึกๆค่ะ และที่ควรทำตามอย่างเคร่งครัดคือ คำสั่งจากกัปตันค่ะ สำคัญมากๆ สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่ต้องกลัวนะค่ะ เพราะเค้าจะมีเสื้อชูชีพและหมวกให้เรา ก่อนที่เราจะลงเรือจะมีการบรีฟ เล็กๆค่ะ ถ้าในกรณีที่เราตกเรือ เราควรที่จะกลั้นหายใจ ก่อนที่ตัวเราจะโผล่พ้นน้ำ จากนั้นก็ปล่อยให้ตัวไหลไปตามน้ำ แลัวทำมือส่งสัญญาณ และกัปตันจะเข้าไปช่วยเรา....ในส่วนนี้ จขกท.โดนใครบางคนใช้พายพลักตกเรือ เพื่อแก้แค้นเล็กๆ แอบเคืองอยู่เหมือนกันเพราะกินน้ำไปหลายอึก แถมน้ำยังไหลเร็วมาก ก็เป็นประสบการณ์หนึ่งที่จะไม่มีวันลืมเลือน

ไฮไลท์พิเศษของการล่องแก่งครั้งนี้คือ การเดินชมป่าต้นสัก ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ ซึ่งมีต้นสักกว่า 1,700,000 ต้น(คร่าวๆนะค่ะ) ซึ่งงานนี้ จขกท.ก็ได้เดินไปดูด้วย แต่เดินได้นิดหน่อย เพราะโดนตัวอะไรไม่รู้กัด เดินกลับลงมาก่อน แต่ดันลงทางซะได้ เดินไปเจอรอยเท้าหมูป่าฝูงใหญ่ แอบเสียวอยู่เหมือนกัน รีบเดินเลาะตามลำน้ำจนเจอเรือ....ค่อยโล่งอกไปที ^^

สรุปการล่องแก่งครั้งนี้ประทับใจมากค่ะ สนุกดี ถึงจะมีอุปสรรคแต่การร่วมมือกันของคนในเรือก็ทำให้ผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ค่ะ

หลังจากนั้นเราก็เข้าพัก ณ ชาสารักไทย หมู่บ้านรักไทย บรรยากาศที่นี่ เหมือนเราหลุดมายังเมืองจีน อากาศดีมาก เย็นสบายจนต้องแอบหยิบเสื้อหนาวมาใส่(อิอิ) อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ก็มีหลายเมนูค่ะ แต่ จขกท.ไม่ได้ถ่ายภาพมา เพราะมันค่อนข้างมืดแล้วหิวมากกก 555

อาหารอร่อยมี ยำใบชา,ขาหมู ทานคู่กับหมั่นโถว ,หมูพันปี ,เครื่องดื่มที่นี่จะเสริฟชาร้อน ดื่มแล้วคล่องคอเหมาะกับอากาศเย็นๆ
















มีกิจกรรมประกวดมิสและมิสเตอร์ป่าสัก แต่ละคนก็งัดความสามารถพิเศษ ออกมาแสดงกัน ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง หรือ เล่าเรื่องความประทับใจที่ได้พบประสบมา และพาร์กเลียนเสียง(จอมยุทธ)หนังฮาๆและจบแบบงงๆ แต่ฟังแล้วก็ประทับใจมาก...บรรยากาศโดยรวมที่พักที่นี่ถือว่าดีมากๆค่ะ เจ้าของใจดีและบริการดี ห้องพักกว้างขวาง เห็นวิวทะเลสาบของหมู่บ้าน ห้องพักมีโต๊ะหินอ่อนไว้ให้นั่งเล่น ชมวิวหรือจะนั่งดริ้งก็ได้ไม่ว่ากัน

ตื่นมาเช้าวันใหม่ พร้อมกับอากาศหนาวๆ ได้ข้าวต้มทรงเครื่องพร้อมชาร้อนๆ และที่พิเศษไปกว่านั้น คือหมั่นโถวทอดจิ้มกับนมข้นหวาน กรอบนอกนุ่มใน อร่อยมากๆ เสียดายกินไปได้อันเดียว นึกถึงทีไรอยากกลับไปกินอีก......



หลังจากนั้นคณะเราก็ได้เดินทางไปยังถ้ำปลา ปลาที่นี่ตัวอ้วนปุ๊กกันทุกตัว ปลาที่นี่เชื่อว่าเป็นปลาศักดิ์สิทธิ์ ถ้าใครจับไปกินจะมีอันเป็นไป จขกท.ได้อ่านเรื่องราวของที่นี่มานิดหน่อย คือ ปลาที่นี่เค้ากินลูกอะไรสักอย่างที่ขึ้นที่นี่ ซึ่งลูกนี้มีพิษแต่ไม่ใช่กับปลา แต่พิษนี้จะอยู่ในเลือดของปลา มนุษย์เอามากินก็จะเสียชีวิตได้... ปลาที่นี่ฉลาดมากๆค่ะ ถ้าคนเดินมา มันจะกรูเข้ามาขออาหารเลย และของที่ชอบกินเป็นพิเศษก็คือ จักจั่นที่ตายแล้ว













สุดท้ายนี้หวังว่า ที่ จขกท.มารีวิวนี้อาจจะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยนะค่ะ ^^
ขอบคุณผู้ว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอบคุณพี่อร พี่หลิน(เจ้านาย) ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปดีๆทุกคนและทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมที่ทำให้การเดินทางในทริปนี้สมบูรณ์ค่ะ
(ภาพอาจจะไม่สวยงามเท่าไหร่นะค่ะ และ จขกท.เองที่ขี้เกียจใส่เครดิตภาพ..อิอิ)