ขอพูดถึงถนนวิภาวดีรังสิตที่ผมใช้เป็นประจำ
ฝั่งตะวันออกถูกรั้วของสนามบินเบียดเข้ามา ทำให้ถนนกว้างแค่ 4 เลน ขยายไม่ได้ ในขณะที่ช่วงอื่นๆมีทั้งช่องทางหลัก+คู่ขนานรวมกันเป็น 5-6 เลน
บริเวณกองทัพอากาศก็มี ramp อะไรไม่รู้ขนาด 2 เลน ลงมาเบียดถนนหลักให้หายไป 2 เลน
แล้วยังมีเสาของ ramp ทางเข้าสนามบินมาตั้งเด่กลางจุดที่ควรจะเป็นช่องทางที่ 4 จุดๆนี้มีรถเบียด-ปาดกันมากที่สุดของประเทศไทย
ฝั่งตะวันตกก็ไม่ปรับภูมิทัศน์ เก็บท้องร่องน้ำเอาไว้ดูเพื่อระลึกอดีตหรืออย่างไร ทั้งๆที่เอามาขยายเพิ่มผิวจราจรได้
เวลาวิ่งฝั่งขาออกอยู่ดีๆ ทาง 4 เลนก็กลายเป็น 2 เลนเสียอย่างนั้น ต้องเบียดเข้าแทบไม่ทัน ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปเบียดกับรถข้างนอกที่วิ่งช้ากว่า
แล้วทางหลักก็ถูกขโมยช่องทางไปเป็น ramp วิ่งเข้าสนามบิน ทั้งๆที่มีรถวิ่งในช่องทางหลักมากกว่าที่รถจะเข้า ramp ของสนามบิน
สมัยก่อน คนที่ออกแบบถนนวิภาวดีรังสิตช่วงดอนเมืองคงจะมักง่ายและไม่มีวิสัยทัศน์เอามากๆเลย
ทั้งๆที่สมัยก่อนมีทุ่งโล่งๆเยอะแยะ กลับไม่ใช้พื้นที่เหล่านั้นเตรียมเอาไว้ขยายทาง ไม่สร้าง ramp ให้ห่างจากทางหลัก
ถนนรังสิต-นครนายก
จากฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตถึงถนนกาญจนาภิเษก มีระยะทางแค่ 12 กม. แต่มีจุดกลับรถถึง 7 จุด ขับด้วยความเร็วเฉลี่ย 15 กม./ชม ในชั่วโมงเร่งด่วน
เนื่องจากมีซอยจำนวนมากบนถนนเส้นนี้ รถแต่ละคันต้องการจะเข้าซอยโดยที่ไม่อยากจะกลับรถไกลๆ
แต่ความจริงกลับพบว่า แต่ละจุดมีจำนวนรถที่ต้องการกลับรถไม่มากเมื่อเทียบกับทางหลัก
ผลก็คือการเสียช่องจราจรไปถึง 2 ช่องหรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของพื้นที่ถนนเพื่อให้รถตีโค้ง
การปล่อยให้มีจุดกลับรถมากมายเช่นนี้ ทำให้เกิดคอขวด รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำตลอดระยะทาง 12 กม.
และไม่ได้ทำให้กลับถึงบ้านเร็วขึ้น แม้ว่าจะได้กลับรถใกล้ๆก็ตาม แล้วจะมีจุดกลับรถมากๆไปเพื่ออะไร
ควรมีการก่อสร้างสะพานกลับรถดีๆสักแห่งในช่วงก่อนถึงถนนกาญจนาภิเษก เพียง 1 หรือ 2 แห่งจะดีกว่า
จะประหยัดเวลาทุกคน คนที่ต้องการเข้าซอยก็อ้อมขึ้นอีกนิด ส่วนคันที่ต้องการขับผ่านไปจะได้ไม่ต้องรับผลกระทบไปด้วย
เมื่อไรจะมีการแก้ปัญหาคอขวดบริเวณกรุงเทพ-ปทุมธานีเสียที
ฝั่งตะวันออกถูกรั้วของสนามบินเบียดเข้ามา ทำให้ถนนกว้างแค่ 4 เลน ขยายไม่ได้ ในขณะที่ช่วงอื่นๆมีทั้งช่องทางหลัก+คู่ขนานรวมกันเป็น 5-6 เลน
บริเวณกองทัพอากาศก็มี ramp อะไรไม่รู้ขนาด 2 เลน ลงมาเบียดถนนหลักให้หายไป 2 เลน
แล้วยังมีเสาของ ramp ทางเข้าสนามบินมาตั้งเด่กลางจุดที่ควรจะเป็นช่องทางที่ 4 จุดๆนี้มีรถเบียด-ปาดกันมากที่สุดของประเทศไทย
ฝั่งตะวันตกก็ไม่ปรับภูมิทัศน์ เก็บท้องร่องน้ำเอาไว้ดูเพื่อระลึกอดีตหรืออย่างไร ทั้งๆที่เอามาขยายเพิ่มผิวจราจรได้
เวลาวิ่งฝั่งขาออกอยู่ดีๆ ทาง 4 เลนก็กลายเป็น 2 เลนเสียอย่างนั้น ต้องเบียดเข้าแทบไม่ทัน ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปเบียดกับรถข้างนอกที่วิ่งช้ากว่า
แล้วทางหลักก็ถูกขโมยช่องทางไปเป็น ramp วิ่งเข้าสนามบิน ทั้งๆที่มีรถวิ่งในช่องทางหลักมากกว่าที่รถจะเข้า ramp ของสนามบิน
สมัยก่อน คนที่ออกแบบถนนวิภาวดีรังสิตช่วงดอนเมืองคงจะมักง่ายและไม่มีวิสัยทัศน์เอามากๆเลย
ทั้งๆที่สมัยก่อนมีทุ่งโล่งๆเยอะแยะ กลับไม่ใช้พื้นที่เหล่านั้นเตรียมเอาไว้ขยายทาง ไม่สร้าง ramp ให้ห่างจากทางหลัก
ถนนรังสิต-นครนายก
จากฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตถึงถนนกาญจนาภิเษก มีระยะทางแค่ 12 กม. แต่มีจุดกลับรถถึง 7 จุด ขับด้วยความเร็วเฉลี่ย 15 กม./ชม ในชั่วโมงเร่งด่วน
เนื่องจากมีซอยจำนวนมากบนถนนเส้นนี้ รถแต่ละคันต้องการจะเข้าซอยโดยที่ไม่อยากจะกลับรถไกลๆ
แต่ความจริงกลับพบว่า แต่ละจุดมีจำนวนรถที่ต้องการกลับรถไม่มากเมื่อเทียบกับทางหลัก
ผลก็คือการเสียช่องจราจรไปถึง 2 ช่องหรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของพื้นที่ถนนเพื่อให้รถตีโค้ง
การปล่อยให้มีจุดกลับรถมากมายเช่นนี้ ทำให้เกิดคอขวด รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำตลอดระยะทาง 12 กม.
และไม่ได้ทำให้กลับถึงบ้านเร็วขึ้น แม้ว่าจะได้กลับรถใกล้ๆก็ตาม แล้วจะมีจุดกลับรถมากๆไปเพื่ออะไร
ควรมีการก่อสร้างสะพานกลับรถดีๆสักแห่งในช่วงก่อนถึงถนนกาญจนาภิเษก เพียง 1 หรือ 2 แห่งจะดีกว่า
จะประหยัดเวลาทุกคน คนที่ต้องการเข้าซอยก็อ้อมขึ้นอีกนิด ส่วนคันที่ต้องการขับผ่านไปจะได้ไม่ต้องรับผลกระทบไปด้วย