เมื่อย่างเข้าสู่หน้าฝนในประเทศไทยเราถือว่าเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่เจอกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม น้ำขังการระบายน้ำไม่ทัน ถึงแม้ว่าในปีนี้ฝนบ้านเราจะมาช้ากว่าปกติแต่ถือถือว่ามาหนักพอสมควร และยังมาพร้อมกับลมที่แรงจนทำให้เกิดพายุได้เลยที่เดียว ปัญหาอีกอย่างที่เจอกันเป็นประจำสำหรับบ้านเรือนก็คือน้ำขัง น้ำรั่วซึม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับบ้านจัดสรรค์ ทาวเฮ้าท์ วันนี้เรามี 10 วิธีการดูแลบ้านเพื่อต้อนรับหน้าฝนกัน มีอะไรบ้านเราไปดูกันเลย
1.
หลังคาบ้าน ฝ้า ผนัง 3 สิ่งนี้ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้าน ก่อนอื่นเราต้องมาตรวจสอบกันก่อนเพราะถือว่าเป็นสิ่งที่คำคัญที่สุดของบ้านกันเลยทีเดียว เพราะส่วนใหญ่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วเราถึงจะมาทราบทีหลังว่าได้เกิดปัญหากับบ้านของเรา แต่ก่อนที่จะให้ปัญหามันเกิดเราต้องมาตรวจสอบหลังคาบ้าน ฝ้า ผนัง ด้วยวิธีง่ายๆ นั้นก็คือ เราต้องหมั่นสังเกตุรอยแตกร้าว รอยรั่วต่างๆ ของบ้านหรือรอยต่อของวัสดุต่างๆ ว่ามีรอยแตกหรือรอยแยกหรือไม่ โดนส่วนใหญ่ถ้าตรงไหนมีรอยแตกรอยแยกเรามักจะพบกับคราบรอยของน้ำ เมื่อเราพบปัญหาเหล่านี้เราต้องรีบซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะถ้าเราทิ้งไว้นานอาจจะมีปัญหาตามมาอีกมากมายจนทำให้บ้านของเราเสียหายเพิ่มมากขึ้น อาจจะไม่ใช่แค่รอยแยก แตกร้าวเท่านั้น
2.
รางน้ำฝน รางน้ำฝนเป็นส่วนประกอบของบ้านอีกอย่างที่สำคัญ การทำความสะอาดรางน้ำฝนในช่วงฤดูฝนนั้นจำเป็นมาก เพราะตามรางน้ำฝนส่วนใหญ่มักจะพบเศษใบไม้ กิ่งไม้ ที่ไหลลงมากองรวมกันจนเป็นการปิดกั้นทางเดินของน้ำฝนที่จะมาในช่วงฤดูฝน เพราะถ้าหากเกิดปัญหาเหล่านั้นแล้ว นั้นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำฝนไม่ไหลไปในทางที่ต้องการ แต่น้ำฝนจะไหลย้อยหรือหยดจนเป็นสาเหตุให้น้ำฝนไหลเข้าบ้านเราได้ นั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำใหบ้านเราเกิดความเสียหายตามมา
3.
ท่อระบายน้ำ ท่อระบายน้ำภายในบ้านนั้นมีหลายแบบทั้งท่อระบายน้ำภายในบ้าน ท่อระบายน้ำออกข้างบ้าน หน้าบ้าน เราควรทำความสะอาดเพราะท่อระบายน้ำเหล่านั้นมักจะมีเศษของใบไม้ หรือโคลนสะสมจนทำให้ท่อระบายน้ำเกิดการอุดตัน เราควรที่จะตักเศษดินเศษโคลนออกจากบ่อหรือท่อเพื่อเป็นทางเดินระบายน้ำ และที่สำคัญอีกส่วนของบ้านคือระเบียงหรือเฉลียงควรที่จะล้างและทำความสะอาดด้วยเพื่อป้องกันการอุดตันของท่อ
4.
พื้น พื้นบ้านมักจะมาพร้อมกับคราบน้ำ คราบตะไคร่ เมื่อมีฝนตก เมื่อมีน้ำเจิงนอง นั้นเป็นจึงสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะทำความสะอาดพื้นที่มีคราบตะไคร่น้ำเหล่านี้โดยการขัดทำความสะอาด เพราะอาจจะทำให้เราลื่นล้มจนเป็นสาเหตุหนึ่งของการการอุบัติเหตุได้
5.
ย้ายเฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ที่กล่าวนี้หมายถึงเฟอร์นิเจอร์สนาม เช่นโต๊ะนั่งที่สนามหญ้า หรือเฟอร์นิเจอร์สนามที่ต้องตากแดด ตากฝนบ่อยๆ ถึงแม้ว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะสามารถทนทานต่อแสงแดด สายฝน แต่เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เมื่อโดยฝน เปียกน้ำเป็นเวลานานๆ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้เสื่อมสภาพและเสียหายเร็วกว่ากำหนด ดังนั้นเพื่อป้องกันการเสียหายเราควรที่จะย้ายเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้เพื่อหลบฝนก่อนในฤดูฝนที่จะมาถึง หรืออาจจะใช้วิธีของการหาผ้าใบมาคลุมเมื่อฝนตกก็ได้ แค่นี้เราก็สามารถยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์สุดสวยของเราได้อีกวิธีหนึ่งในฤดูฝน
6. การต่อเติมชายคากัดสาด การต่อเติมชายคาหรือกันสาดนั้นเราสามารถทำได้กับประตูบ้าน หน้าต่าง ผนังบ้าน หรือส่วนใดก็ตามที่ฝนสามารถสาดเข้าไปถึง เพราะนั้นจะเป็นสาเหตุของการเกิดตะไคร่น้ำ หรือคราบเหลืองที่เกิดจากน้ำฝน หรืออาจจะทำให้อุปกรณ์ภายในบ้านเราเสียหาย การต่อเติมกัดสาดถือว่าเป็นอีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญเพื่อป้องกันการเสียหายที่จะตามมา
7.
กิ่งไม้ใหญ่ การสังเกตุกิ่งไม้ใหญ่หรือต้นไม้ที่อยู่ติดกับหลังคาบ้าน ตัวบ้าน เพราะกิ่งไม้ใหญ่ๆ เหล่านี้อาจจะเป็นปัญหาให้กับตัวบ้านของเรา เพราะเมื่อเกิดพายุ ลมแรง กิ่งไม้เหล่านี้อาจจะหัก หรือโค่นล้มลงมาทับหรือฟาดกับตัวบ้านจนเกิดความเสียหายได้ ฉะนั้นเราควรที่จะจัดการกับกิ่งไม้ใหญ่เหล่านี้โดนการ ตัด ทอน ให้กิ่งไม้เหล่านั้นไม่เป็นปัญหหาให้กับบ้านเราเมื่อมีพายุหรือลมแรง
8.
การปลูกต้นไม้ใหม่ เมื่อเราดูแลตัวบ้านเรียบร้อยแล้วเราก็ต้องมาดูแลต้นไม้กันมั่ง เพราะในช่วงฤดูฝนจะเป็นช่วงเวลาและโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกต้นไม้ใหม่ การย้ายต้นไม้จากกระถางลงดิน เพราะพื้นดินที่ได้รับน้ำฝนจะมีความชุ่มชื้นและยังมีน้ำฝนมาให้ความชุ่มฉ่ำกับต้นไม้ ทำให้ต้นไม้มีโอกาสรอดสูงเพราะใบไม้จะไม่มีการระเหยของน้ำมากนัก การปลูกต้นไม้และย้ายต้นไม้ถือว่าเหมาะสมมากกับฤดูฝน
9.
ไม้ค้ำยันต้นไม้ เมื่อเราปลูกต้นไม้ใหม่เรียบร้อยแล้วแน่นอนว่าต้นไม้เหล่านั้นยังไม่แข็งแรงพอที่จะยืนต้นได้ดีมากนัก เพราะถ้าเกิดฝนตก ลมแรง นั่นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นไม้ที่เราปลูกใหม่โค้นล้มลงได้เพราะรากยังไม่ยึดติดกับดิน การที่เราทำไม้ค้ำยันให้กับต้นไม้ใหม่ถือว่าสำคัญมากๆ เพราะนั้นจะเป็นการช่วยพยุงต้นไม้ให้ต้นไม่แข็งแรง เราจึงต้องทำไม้ค้ำยันเอาไว้
10.
การคว่ำภาชนะที่ขังน้ำฝน สิ่งสุดท้ายที่เราต้องตรวจสอบนั้นคือภาชนะที่ทำให้เกิดการขังของน้ำ เช่น กระถางต้นไม้ที่ไม่ใช้ เราควรที่จะตรวจสอบรอบๆ บ้าน ว่ามีภาชนะที่เราไม่ใช้แต่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการขังของน้ำ ที่จะเป็นแหล่งการเพาะพันธุ์ของยุงลายได้ ดังนั้นในช่วงฤดูฝนเราควรที่จะคว่ำภาชนะเหล่านั้นให้หมดเพื่อป้องกันการเพาะพันธุ์ของยุงลายที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไข้เลือดออกได้
ทั้งหมดนี้เป็น 10 เคล็ดลับง่ายๆ ที่เราได้นำมาฝากเพื่อต้อนรับหน้าฝนที่เข้ามาในประเทศไทยของเรา เพราะปัญหาของฟ้าฝนลมพายุอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายของบ้านเราได้ การดูแลบ้านให้สะอาดน่าอยู่ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญมาก ถึงแม้ว่าหน้าฝนจะนำความเสียหายมาสู่ตัวบ้านเราแต่ถ้าเราดูแลอย่างถูกวิธีก็จะทำให้บ้านเราไม่เกิดความเสียหายและน่าอยู่ยิ่งขึ้น แค่นี้ฤดูฝนก็ไม่ใช่ปัญหาของบ้านเราอีกต่อไป
10 วิธีการดูแลบ้านเพื่อรับหน้าฝน
เมื่อย่างเข้าสู่หน้าฝนในประเทศไทยเราถือว่าเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่เจอกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม น้ำขังการระบายน้ำไม่ทัน ถึงแม้ว่าในปีนี้ฝนบ้านเราจะมาช้ากว่าปกติแต่ถือถือว่ามาหนักพอสมควร และยังมาพร้อมกับลมที่แรงจนทำให้เกิดพายุได้เลยที่เดียว ปัญหาอีกอย่างที่เจอกันเป็นประจำสำหรับบ้านเรือนก็คือน้ำขัง น้ำรั่วซึม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับบ้านจัดสรรค์ ทาวเฮ้าท์ วันนี้เรามี 10 วิธีการดูแลบ้านเพื่อต้อนรับหน้าฝนกัน มีอะไรบ้านเราไปดูกันเลย
1.หลังคาบ้าน ฝ้า ผนัง 3 สิ่งนี้ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้าน ก่อนอื่นเราต้องมาตรวจสอบกันก่อนเพราะถือว่าเป็นสิ่งที่คำคัญที่สุดของบ้านกันเลยทีเดียว เพราะส่วนใหญ่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วเราถึงจะมาทราบทีหลังว่าได้เกิดปัญหากับบ้านของเรา แต่ก่อนที่จะให้ปัญหามันเกิดเราต้องมาตรวจสอบหลังคาบ้าน ฝ้า ผนัง ด้วยวิธีง่ายๆ นั้นก็คือ เราต้องหมั่นสังเกตุรอยแตกร้าว รอยรั่วต่างๆ ของบ้านหรือรอยต่อของวัสดุต่างๆ ว่ามีรอยแตกหรือรอยแยกหรือไม่ โดนส่วนใหญ่ถ้าตรงไหนมีรอยแตกรอยแยกเรามักจะพบกับคราบรอยของน้ำ เมื่อเราพบปัญหาเหล่านี้เราต้องรีบซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะถ้าเราทิ้งไว้นานอาจจะมีปัญหาตามมาอีกมากมายจนทำให้บ้านของเราเสียหายเพิ่มมากขึ้น อาจจะไม่ใช่แค่รอยแยก แตกร้าวเท่านั้น
2.รางน้ำฝน รางน้ำฝนเป็นส่วนประกอบของบ้านอีกอย่างที่สำคัญ การทำความสะอาดรางน้ำฝนในช่วงฤดูฝนนั้นจำเป็นมาก เพราะตามรางน้ำฝนส่วนใหญ่มักจะพบเศษใบไม้ กิ่งไม้ ที่ไหลลงมากองรวมกันจนเป็นการปิดกั้นทางเดินของน้ำฝนที่จะมาในช่วงฤดูฝน เพราะถ้าหากเกิดปัญหาเหล่านั้นแล้ว นั้นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำฝนไม่ไหลไปในทางที่ต้องการ แต่น้ำฝนจะไหลย้อยหรือหยดจนเป็นสาเหตุให้น้ำฝนไหลเข้าบ้านเราได้ นั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำใหบ้านเราเกิดความเสียหายตามมา
3.ท่อระบายน้ำ ท่อระบายน้ำภายในบ้านนั้นมีหลายแบบทั้งท่อระบายน้ำภายในบ้าน ท่อระบายน้ำออกข้างบ้าน หน้าบ้าน เราควรทำความสะอาดเพราะท่อระบายน้ำเหล่านั้นมักจะมีเศษของใบไม้ หรือโคลนสะสมจนทำให้ท่อระบายน้ำเกิดการอุดตัน เราควรที่จะตักเศษดินเศษโคลนออกจากบ่อหรือท่อเพื่อเป็นทางเดินระบายน้ำ และที่สำคัญอีกส่วนของบ้านคือระเบียงหรือเฉลียงควรที่จะล้างและทำความสะอาดด้วยเพื่อป้องกันการอุดตันของท่อ
4.พื้น พื้นบ้านมักจะมาพร้อมกับคราบน้ำ คราบตะไคร่ เมื่อมีฝนตก เมื่อมีน้ำเจิงนอง นั้นเป็นจึงสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะทำความสะอาดพื้นที่มีคราบตะไคร่น้ำเหล่านี้โดยการขัดทำความสะอาด เพราะอาจจะทำให้เราลื่นล้มจนเป็นสาเหตุหนึ่งของการการอุบัติเหตุได้
5.ย้ายเฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ที่กล่าวนี้หมายถึงเฟอร์นิเจอร์สนาม เช่นโต๊ะนั่งที่สนามหญ้า หรือเฟอร์นิเจอร์สนามที่ต้องตากแดด ตากฝนบ่อยๆ ถึงแม้ว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะสามารถทนทานต่อแสงแดด สายฝน แต่เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เมื่อโดยฝน เปียกน้ำเป็นเวลานานๆ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้เสื่อมสภาพและเสียหายเร็วกว่ากำหนด ดังนั้นเพื่อป้องกันการเสียหายเราควรที่จะย้ายเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้เพื่อหลบฝนก่อนในฤดูฝนที่จะมาถึง หรืออาจจะใช้วิธีของการหาผ้าใบมาคลุมเมื่อฝนตกก็ได้ แค่นี้เราก็สามารถยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์สุดสวยของเราได้อีกวิธีหนึ่งในฤดูฝน
6. การต่อเติมชายคากัดสาด การต่อเติมชายคาหรือกันสาดนั้นเราสามารถทำได้กับประตูบ้าน หน้าต่าง ผนังบ้าน หรือส่วนใดก็ตามที่ฝนสามารถสาดเข้าไปถึง เพราะนั้นจะเป็นสาเหตุของการเกิดตะไคร่น้ำ หรือคราบเหลืองที่เกิดจากน้ำฝน หรืออาจจะทำให้อุปกรณ์ภายในบ้านเราเสียหาย การต่อเติมกัดสาดถือว่าเป็นอีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญเพื่อป้องกันการเสียหายที่จะตามมา
7.กิ่งไม้ใหญ่ การสังเกตุกิ่งไม้ใหญ่หรือต้นไม้ที่อยู่ติดกับหลังคาบ้าน ตัวบ้าน เพราะกิ่งไม้ใหญ่ๆ เหล่านี้อาจจะเป็นปัญหาให้กับตัวบ้านของเรา เพราะเมื่อเกิดพายุ ลมแรง กิ่งไม้เหล่านี้อาจจะหัก หรือโค่นล้มลงมาทับหรือฟาดกับตัวบ้านจนเกิดความเสียหายได้ ฉะนั้นเราควรที่จะจัดการกับกิ่งไม้ใหญ่เหล่านี้โดนการ ตัด ทอน ให้กิ่งไม้เหล่านั้นไม่เป็นปัญหหาให้กับบ้านเราเมื่อมีพายุหรือลมแรง
8.การปลูกต้นไม้ใหม่ เมื่อเราดูแลตัวบ้านเรียบร้อยแล้วเราก็ต้องมาดูแลต้นไม้กันมั่ง เพราะในช่วงฤดูฝนจะเป็นช่วงเวลาและโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกต้นไม้ใหม่ การย้ายต้นไม้จากกระถางลงดิน เพราะพื้นดินที่ได้รับน้ำฝนจะมีความชุ่มชื้นและยังมีน้ำฝนมาให้ความชุ่มฉ่ำกับต้นไม้ ทำให้ต้นไม้มีโอกาสรอดสูงเพราะใบไม้จะไม่มีการระเหยของน้ำมากนัก การปลูกต้นไม้และย้ายต้นไม้ถือว่าเหมาะสมมากกับฤดูฝน
9. ไม้ค้ำยันต้นไม้ เมื่อเราปลูกต้นไม้ใหม่เรียบร้อยแล้วแน่นอนว่าต้นไม้เหล่านั้นยังไม่แข็งแรงพอที่จะยืนต้นได้ดีมากนัก เพราะถ้าเกิดฝนตก ลมแรง นั่นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นไม้ที่เราปลูกใหม่โค้นล้มลงได้เพราะรากยังไม่ยึดติดกับดิน การที่เราทำไม้ค้ำยันให้กับต้นไม้ใหม่ถือว่าสำคัญมากๆ เพราะนั้นจะเป็นการช่วยพยุงต้นไม้ให้ต้นไม่แข็งแรง เราจึงต้องทำไม้ค้ำยันเอาไว้
10.การคว่ำภาชนะที่ขังน้ำฝน สิ่งสุดท้ายที่เราต้องตรวจสอบนั้นคือภาชนะที่ทำให้เกิดการขังของน้ำ เช่น กระถางต้นไม้ที่ไม่ใช้ เราควรที่จะตรวจสอบรอบๆ บ้าน ว่ามีภาชนะที่เราไม่ใช้แต่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการขังของน้ำ ที่จะเป็นแหล่งการเพาะพันธุ์ของยุงลายได้ ดังนั้นในช่วงฤดูฝนเราควรที่จะคว่ำภาชนะเหล่านั้นให้หมดเพื่อป้องกันการเพาะพันธุ์ของยุงลายที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไข้เลือดออกได้
ทั้งหมดนี้เป็น 10 เคล็ดลับง่ายๆ ที่เราได้นำมาฝากเพื่อต้อนรับหน้าฝนที่เข้ามาในประเทศไทยของเรา เพราะปัญหาของฟ้าฝนลมพายุอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายของบ้านเราได้ การดูแลบ้านให้สะอาดน่าอยู่ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญมาก ถึงแม้ว่าหน้าฝนจะนำความเสียหายมาสู่ตัวบ้านเราแต่ถ้าเราดูแลอย่างถูกวิธีก็จะทำให้บ้านเราไม่เกิดความเสียหายและน่าอยู่ยิ่งขึ้น แค่นี้ฤดูฝนก็ไม่ใช่ปัญหาของบ้านเราอีกต่อไป