วันหยุดทั้งทีไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน แต่อยากไปแบบประหยัดที่ไหนก็ได้แบบว่าสามารถไปเช้า เย็นกลับได้ จึงคิดว่าน้ำตกที่กาญจนบุรีนี่แหละตอบโจทย์ที่สุดล่ะ ดังนั้นจึงเริ่มถามสมาชิกว่าพร้อมไหมกับวันหยุดนี้ เท่านั้นแหละเริ่มเลย++
เริ่มต้นด้วยการเดินทางโดยรถไฟฟรี เพื่อนสามารถขึ้นที่สถานีต้นทางธนบุรีได้เลยนะ แต่ จกขท ขอไปขึ้นที่สถานีชุมทางตลิ่งชันใกล้ๆบ้านดีกว่า
ขบวนรถไฟไปสถานีน้ำตกมีเพียง 1 รอบต่อวันเท่านั้น เวลา 7.50-12.35 น. ซึ่งใช้เวลาเดินทางนานพอสมควรประมาณ 6 ชม.ได้ แต่ถ้าได้แลกกับวิวข้างทางและได้ถ่ายรูปสวยๆมันฟินมากๆเลยนะ ยอมค่ะยอม 6 ชม. สู้ตาย !!!!
กว่าจะถึงกาญจนบุรี ต้องผ่านจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี และถึงจะเข้ากาญจนบุรี คิดดูสินั่งรถไฟ 6 ชม. ได้เที่ยวตั้งหลายจังหวัด 5555
และต่อไปนี้เป็นรูปภาพระหว่างเดินทางบนรถไฟค่ะ
นาบแบบจำเป็นค่ะ
เพื่อนร่วมเดินทางรถไฟเดียวกันค่ะ จขกทสังเกตเห็นชูชีพพี่เค้าเลยแปลกใจ สงสัยกลัวจมน้ำบนรถไฟ 555
เริ่มหิวข้าว จนมีแม่ค้าเดินขายข้าวกระทงหน้าตาน่ากินจัดมา 1 กระทงพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง อันนี้คือแบบเดินทางบนรถไฟต้องได้กิน เพียงอย่างละ 10 บาท ต้องลอง ถูกและอร่อยต้องบนรถไฟที่เดียวเท่านั้น
ทางรถไฟสายมรณะเป็นทางที่น่ากลัวและตื่นเต้นที่สุด จขกท ก็กลัวว่าจะหล่นลงไปมั๊ยมันสูงมากเลยนะ
ผ่านสถานีถ้ำกระแซ นักท่องเที่ยวชอบมากที่สุดเพราะวิวสวย สามารถเข้าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์ได้ภายในถ้ำ สามารถนั่งเรือข้ามฟากไปอีกฝ่งของรีสอร์ทได้
ถึงแล้ว สถานีนำ้ตก แต่ยังไม่ถึงน้ำตกจริงๆต้องต่อรถสองแถวไปอีกคนละ 20 บาทจร้า
เที่ยวเพลินจนลืมไปว่าตั้งแต่มาถึงยังไม่ได้กินข้าวเลย จัดไปซะ ข้าวผัดหมู ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก แถมด้วยขนมอบกรอบที่แม้ค้าให้ชิมฟรี
อิ่มละเที่ยวต่อได้ ที่น้ำตกไทรโยคน้อยนี้มีทางขึ้นไปข้างบนที่สามารถไปดูต้นน้ำของนำ้ตกได้ด้วยนะ ข้างบนบรรยากาศดีมาก ลืมบอกไปตอนไปถึงมีฝนตกลงมาสักพัก ทำให้บรรยากาศนั้นสดชื่น รับกลิ่นโอโซนกันไปเต็มๆ แถมได้ถ่ายรูปสวยๆมาเยอะเลย ซึ่งตอนที่ จขกท ขึ้นไปถึงไม่ค่อยมีคนล่ะเหมือนอยู่กะเพื่อนแค่สองคน
ถ่ายรูปจนเพลินดูเวลาใกล้กลับบ้านได้ล่ะ อย่างที่เคยบอกไว้ว่ารถไฟมีเพียงวันละรอบเท่านั้น จขกทกะเพื่อนเลยต้องหารถกลับแทน เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องไปขึ้นรถบัสแดงฝั่งเดียวกะน้ำตกไปที่ตัวเมืองกาญจนบุรี คนละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 1.30 ชม.
จากนั้นต่อรถบัสปรับอากาศ บขส. กลับเข้ากทม. ค่ารถคนละ 100 บาท จขกทได้รถรอบหกโมงพอดี ถึงกทม.ประมาณ 21.00 น. กลับบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ ***รถบัสเข้ากทม.รอบสุดท้าย 20.00น.ค่ะ ระวังตกรถล่ะ***
สรุปค่าใช้จ่าย 2 คนนะค่ะ
1. ค่าข้าวกระทงบนรถไฟ 10 บาท
2. ค่าก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง 3 ห่อ 30 บาท
3. ค่ารถสองแถวจากสถานีน้ำตก ไปไทรโยค คนละ 20 บาท = 40 บาท
4. ค่าข้าวกลางวัน 75 บาท พร้อมขนมฟรี อิๆ
5. ค่าของฝากกลับบ้าน 100 บาท
6. ค่ารถบัสแดงเข้าตัวเมืองกาญ คนละ 40 บาท = 80 บาท
7. ค่ารถปรับอากาศ บขส เข้ากทม. คนละ 100 บาท = 200 บาท
8. อื่นๆค่าน้ำ กาแฟ ขนม 80 บาท
ดังนั้นทั้งหมด 615 บาท หารคนละครึ่งเหลือเพียง สามร้อยกว่าบาทเท่านั้น
จบทริปวันเดินทางในวันหยุดเพียงสามร้อยกว่าบาทก็สามารถเที่ยวต่างจังหวัดสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ ดีกว่าไปเดินเที่ยวห้างแพงๆแล้วแค่ถ่ายรูปอัพสเตตัส จขกท คิดว่าแบบนั้นมันยังไม่ได้ความสุขที่แท้จริง
[CR] แบกเป้ สูดอากาศบริสุทธิ์ รับโอโซน @ น้ำตก กาญจนบุรี เพียง 300 บาท
เริ่มต้นด้วยการเดินทางโดยรถไฟฟรี เพื่อนสามารถขึ้นที่สถานีต้นทางธนบุรีได้เลยนะ แต่ จกขท ขอไปขึ้นที่สถานีชุมทางตลิ่งชันใกล้ๆบ้านดีกว่า
ขบวนรถไฟไปสถานีน้ำตกมีเพียง 1 รอบต่อวันเท่านั้น เวลา 7.50-12.35 น. ซึ่งใช้เวลาเดินทางนานพอสมควรประมาณ 6 ชม.ได้ แต่ถ้าได้แลกกับวิวข้างทางและได้ถ่ายรูปสวยๆมันฟินมากๆเลยนะ ยอมค่ะยอม 6 ชม. สู้ตาย !!!!
กว่าจะถึงกาญจนบุรี ต้องผ่านจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี และถึงจะเข้ากาญจนบุรี คิดดูสินั่งรถไฟ 6 ชม. ได้เที่ยวตั้งหลายจังหวัด 5555
และต่อไปนี้เป็นรูปภาพระหว่างเดินทางบนรถไฟค่ะ
นาบแบบจำเป็นค่ะ
เพื่อนร่วมเดินทางรถไฟเดียวกันค่ะ จขกทสังเกตเห็นชูชีพพี่เค้าเลยแปลกใจ สงสัยกลัวจมน้ำบนรถไฟ 555
เริ่มหิวข้าว จนมีแม่ค้าเดินขายข้าวกระทงหน้าตาน่ากินจัดมา 1 กระทงพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง อันนี้คือแบบเดินทางบนรถไฟต้องได้กิน เพียงอย่างละ 10 บาท ต้องลอง ถูกและอร่อยต้องบนรถไฟที่เดียวเท่านั้น
ทางรถไฟสายมรณะเป็นทางที่น่ากลัวและตื่นเต้นที่สุด จขกท ก็กลัวว่าจะหล่นลงไปมั๊ยมันสูงมากเลยนะ
ผ่านสถานีถ้ำกระแซ นักท่องเที่ยวชอบมากที่สุดเพราะวิวสวย สามารถเข้าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์ได้ภายในถ้ำ สามารถนั่งเรือข้ามฟากไปอีกฝ่งของรีสอร์ทได้
ถึงแล้ว สถานีนำ้ตก แต่ยังไม่ถึงน้ำตกจริงๆต้องต่อรถสองแถวไปอีกคนละ 20 บาทจร้า
เที่ยวเพลินจนลืมไปว่าตั้งแต่มาถึงยังไม่ได้กินข้าวเลย จัดไปซะ ข้าวผัดหมู ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก แถมด้วยขนมอบกรอบที่แม้ค้าให้ชิมฟรี
อิ่มละเที่ยวต่อได้ ที่น้ำตกไทรโยคน้อยนี้มีทางขึ้นไปข้างบนที่สามารถไปดูต้นน้ำของนำ้ตกได้ด้วยนะ ข้างบนบรรยากาศดีมาก ลืมบอกไปตอนไปถึงมีฝนตกลงมาสักพัก ทำให้บรรยากาศนั้นสดชื่น รับกลิ่นโอโซนกันไปเต็มๆ แถมได้ถ่ายรูปสวยๆมาเยอะเลย ซึ่งตอนที่ จขกท ขึ้นไปถึงไม่ค่อยมีคนล่ะเหมือนอยู่กะเพื่อนแค่สองคน
ถ่ายรูปจนเพลินดูเวลาใกล้กลับบ้านได้ล่ะ อย่างที่เคยบอกไว้ว่ารถไฟมีเพียงวันละรอบเท่านั้น จขกทกะเพื่อนเลยต้องหารถกลับแทน เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องไปขึ้นรถบัสแดงฝั่งเดียวกะน้ำตกไปที่ตัวเมืองกาญจนบุรี คนละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 1.30 ชม.
จากนั้นต่อรถบัสปรับอากาศ บขส. กลับเข้ากทม. ค่ารถคนละ 100 บาท จขกทได้รถรอบหกโมงพอดี ถึงกทม.ประมาณ 21.00 น. กลับบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ ***รถบัสเข้ากทม.รอบสุดท้าย 20.00น.ค่ะ ระวังตกรถล่ะ***
สรุปค่าใช้จ่าย 2 คนนะค่ะ
1. ค่าข้าวกระทงบนรถไฟ 10 บาท
2. ค่าก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง 3 ห่อ 30 บาท
3. ค่ารถสองแถวจากสถานีน้ำตก ไปไทรโยค คนละ 20 บาท = 40 บาท
4. ค่าข้าวกลางวัน 75 บาท พร้อมขนมฟรี อิๆ
5. ค่าของฝากกลับบ้าน 100 บาท
6. ค่ารถบัสแดงเข้าตัวเมืองกาญ คนละ 40 บาท = 80 บาท
7. ค่ารถปรับอากาศ บขส เข้ากทม. คนละ 100 บาท = 200 บาท
8. อื่นๆค่าน้ำ กาแฟ ขนม 80 บาท
ดังนั้นทั้งหมด 615 บาท หารคนละครึ่งเหลือเพียง สามร้อยกว่าบาทเท่านั้น
จบทริปวันเดินทางในวันหยุดเพียงสามร้อยกว่าบาทก็สามารถเที่ยวต่างจังหวัดสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ ดีกว่าไปเดินเที่ยวห้างแพงๆแล้วแค่ถ่ายรูปอัพสเตตัส จขกท คิดว่าแบบนั้นมันยังไม่ได้ความสุขที่แท้จริง