สวัสดีค่าาาาาา
ครั้งแรกของการแชร์ประสบการณ์เที่ยวที่นี่
<<ถ้าใครมีคำถามอะไร สอบถามได้เพิ่มเติมได้เลยนะค๊า>>
ถ้าใครที่รักทะเลล่ะไม่อยากเดินทางไกล แนะนำให้
ถอดรองเท้าส้นสูง ถอดรองเท้าหนังโก้หรู
ถอดสูทออก ถอดชุดฟอร์ม
มาใส่แตะ เสิ้อยืด ขาสั้น หรือเดินเท้าเปล่าสัมผัสกับเม็ดทราย เตะน้ำทะเล ที่เกาะล้านกันเต๊อะ !!!
เดินทางจากกรุงเทพแค่ 2 ชม.เอง
(บางวันเดินทางภายในกทม ยังติดมากกว่านี้เบย เอิ้กๆ)
วันนี้ท้องฟ้าเป็นใจเหมาะกับการเที่ยวทะเลมาก
เห็นรถทัวร์จีนอีก 3 คัน
<เราก็ไม่หวั่น แค่แอบกริ๊ดเบาๆในใจ เกาะจะแตกไหม>
เราถึงที่ท่าเรือเที่ยงตรง แดดนี่เปรี้ยงๆ เลย
กว่าจะหาที่จอดรถอีก
สรุปเสียไป 200 บาทต่อวัน+ค่ามอไซ 50 บาท
เพราะพี่มอไซต้องนำทางพาเราขึ้นเขาไปที่จอดรถ
(ห่างจากท่าเรือประมาณ 10 กว่าโล)
ถึงล่ะค่าาาาาาาาา เกาะล้าน ภาพนี้เน้นว่า nofilter***
ค่าโดยสารเรือใหญ่ 30 บ./คน
ใช้เวลาประมาณ 40 นาที (จากพัทยามาท่าเรือหน้าบ้าน)
แวะดูแผนที่ทั้งเกาะ + ตารางเวลาเดินเรือ + ค่ามอไซ กันตรงนี้สักนิด อยู่ทางขวามือ ตรงข้ามกับศาลาค่ะ
---------------------------
เนื่องจากเพื่อนยังไม่ได้กินไรมาแต่เช้า ขึ้นจากท่าเรือ
ก็เจอร้านนี้ก่อนร้านอื่นเลย "ครัวชลิตา"
ป้าย 50 บาทไปงั้นแหละ เข้าไปจริงๆ แล้วราคาขึ้นอยู่กับแต่ละเมนู มีตั้งแต่อาหารจานเดียว ถึง ซีฟู้ดปิ้งย่าง
แต่มี
ไวไฟให้ใช้ฟรีนะจ๊ะ
เมนูที่พวกเราสั่งคือ
1.บะหมี่ต้มยำไข่+เกี๊ยว :
รสชาติคือหวาน จืดนำ ส่วนปริมาณปานกลาง
2. ข้าวผัดต้มยำกุ้ง :
เปรี้ยวนำ เผ็ดพอประมาณ น้อยไปนิด
เครื่องดื่ม มีสั่งสตรอเบอรี่ปั่น น้ำมะนาวปั่น น้ำเปล่า
น้ำแข็ง รวมทุกอย่าง 280 บาท
สรุปสำหรับเราร้านนี้คือ
พอรองท้องไปได้อ่ะ ไม่ได้อร่อย ราคารับได้
------------------------------
พออิ่มท้องกันแล้ว
ก็ไปที่พักกันเล้ยยยยยยยยยยย
ถึงแล้วค่าาา บ้านริมน้ำ
เดินจากท่าเรือตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้าย
จะเจอเซเว่น เดินอีกประมาณ 100-200 เมตร
จะมีป้ายเล็กๆ บอกบ้านริมน้ำ
เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยอีกนิด ก็จะถึงกับที่พักติดทะเลลลลลลลลลลล ~~~ วู้ฮู้
ภูมิใจนำเสนอที่นี่มากค่ะ เพราะเป้าหมายของเราพวกเราสำหรับทริปนี้คือ
ที่พักติดทะเล
ขออธิบายก่อนนะคะ ที่พักโซน
ท่าเรือหน้าบ้าน
จะไม่มีติดทะเลแบบที่เราลงไปเล่นได้
เนื่องจาก
ไม่มีหาดค่ะ และน้ำทะเลก็สูง
แต่มีความสะดวกเพราะเป็นท่าเรือ มีเซเว่น ตู้กดเงิน
ท่ารถสองแถว ที่เช่ามอไซ ตลาด
เราก็จะเลือกที่พักแบบยื่นไปในทะเล
แล้วนอนรับลมฟังเสียงคลื่นแทนค่าาา
กริ๊ดดังๆ พร้อมเพื่อน เพราะ การตกแต่งห้องน่าร๊าก โดนใจเจ้ๆมากค่ะ ทะเล๊ทะเล ทั้งโทนสี
เตียง ของตกแต่ง อยากจะบอกว่า
ห้องกว้างและยาวมากค่ะ
คือ เรารวมอยู่กัน 4 คนในห้องเดียวกัน
ห้องยังมีพื้นที่เหลืออีกอ่ะ
เห็นแบบนี้ ต้องทิ้งตัวนอนเล่นก่อนค่ะ !!!!
เอาจริงๆ เราเองก็แย่งกับเพื่อนนอนตรงนี้ คือมันเหมาะกับการหมกตัวอยู่ในผ้าห่มแล้วนอนเล่นมือถือมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง :
เตียงใหญ่ 1 เตียงเล็กข้างเตียง 1 โต๊ะวางของข้างเตียง
ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ ชั้นวาง
ตู้เย็น (มีน้ำทิพย์ให้ฟรี 2 ขวด)
ตู้เสื้อผ้าแบบราวขนาดปานกลาง (มีผ้าเช็ดตัว)
กระจก ชั้นวางของ (มีไดร์เป่าผม)
ผนังเป็นสีขาวล้วนทุกด้าน
ส่วนห้องน้ำก็กว้างขวางค่ะ ขอเน้นนะคะ ว่า
สะอาด ดูใหม่สำหรับทุกอย่าง
ประทับใจมากค่ะ
ยังไม่หมดค่ะ ความประทับใจระดับสุดยอดเรายังไม่หมดแค่นี้ เพราะห้องพักที่พวกเราเลือกมีดาดฟ้า !!!
รีบเปิดประตูออกทางข้างหลัง
แล้วขึ้นบันไดตามมาเล้ย
ข้างบนนี้ลมเย็นมากๆ ค่าาาาาา
บอกกับตัวเองว่านี่ คือเตียงของเราในคืนนี้เพราะ
พรุ่งนี้เช้าจะได้ลืมตาแล้วเห็นท้องฟ้ายามเช้าเลย
Selfie&Groufie จนลืมถ่ายรูปวิวด้านหน้าให้ดูเลยค่ะ
~~ ขอสรุปค่าใช้จ่ายสำหรับที่พักนะคะ~~
เนื่องจากเราไป 4 คนอยากนอนด้วยกัน
แต่เท่าที่โทรศัพท์ถามที่พักที่อื่นๆ โซนท่าเรือหน้าบ้าน
จะกำหนดห้องละไม่เกิน 2 คน
หรืออย่างมากก็เพิ่มเตียงเสริมได้แค่ 1
ใช้เวลาหาที่พักล่วงหน้าเกือบ 1 เดือนก็ได้ที่นี่มาค่ะ
โดย
เงื่อนไขของที่นี่คือ ห้องละไม่เกิน 2 คน
เราเลยต้องจำใจจอง 2 ห้องติดกัน คือ R15 R16
(มีดาดฟ้า) แต่ไม่ใช่แถวหน้าสุดที่ติดทะเล
เพราะแถวนั้นจะราคาสูงกว่านี้ค่ะ
สรุปค่าห้องคืนละ 2,000 บ./ห้อง
(รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน)
ป้าที่ดูแลเราแกใจดีนะคะแต่แบบให้ความเป็นส่วนตัว
ตอนเราไปถึงที่พัก แค่แจ้งชื่อแล้วให้กุญแจเลย
และบอกเวลาเรื่องอาหารเช้า
ไม่มีการขาย แพคเกจเรือเที่ยวหรือรถใดๆทั้งสิ้น
-----------------------------
เอาล่ะค่ะ นี่ก็บ่าย 3 กว่าๆแล้ว ถึงเวลาทิ้งกระเป๋า
ทิ้งโลกโซเชียลสักพัก
แล้วออกไปดื่มด่ำกับสายลม ทะเล และหาดทรายกับพวกเรากัน !
ออกจากที่พัก ก็เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆค่ะ
เพื่อมุ่งหน้าไปทางวัด
จากภาพเป็น minimart อยู่ใกล้ๆกับวัดค่ะ
จริงๆ มาที่นี่ใครๆก็บอกให้เช่ามอเตอร์ไซต์
แล้วตะลุยเที่ยวให้ทั่วเกาะ
แต่สำหรับความสามารถในการขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ของพวกเราไม่มี
เราเลยไปซิ่งกับลุงสองแถวแทนค่ะ
ดูจากเวลา เราเลือกเที่ยวแค่ 2 หาดค่ะ
คือ หาดตาแหวน กับ หาดแสมค่ะ
ค่ารถแค่ 20 บาท/คนค่ะ (หน้าวัดไปตาแหวน)
แถม โชคดีมากๆ มีผู้โดยสารขึ้นพร้อมๆเราอีก 5-6 คน
คุณลุงสองแถวก็ออกรถเลย ไม่ต้องรอนาน อิอิ
จุด Landmark
<เราคิดเองนะ เพราะเห็นหาดนี้คนเยอะตลอดทุกครั้งที่มา>
น้ำใส หาดทรายขาวยาว มีร้านอาหาร
มีเตียงผ้าใบให้เช่า มีกิจกรรมทางน้ำ
ทั้งสกี บานาน่าโบ้ท
และยังเป็นท่าเรือด้วย วันนั้นคนเยอะพอสมควร
ท้องฟ้าแอบอึมครึม แต่โชคดีฝนไม่ตก
แถมวิวอาหารตาดีมากด้วย 555+
เรานั่งเล่น เดินเล่นที่นี่ไม่นาน ไม่ค่อยชอบคนเยอะ
ก็เดินออกมาถามๆ หารถสองแถวที่จะพาเราไปหาดแสมค่ะ
ลุงคิด 40 บ./คนค่ะ แถมไม่คนอื่นเลย
เหมือนเราเหมาทั้งคัน 4 คน
ที่ถ่ายรูปรถเก็บไว้เพราะคุณลุงขับซิ่งมากค่ะ
ขึ้นเขาลงเขา พวกเรานี่ต้องหาที่จับกันเลย
** แนะนำให้นั่งริม ๆ ค่ะ
เพราะจะได้มองเห็นวิวระหว่างทาง
จะได้เห็นทะเลจากมุมสูง มุมต่ำ สลับกันไป
(เพราะเกาะล้านมีภูเขา) แล้วก็รับลมระหว่างนั่งสองแถว
<หลับตาจินตาการตามดูค๊า> **
ถึงหาดแสมแล้วค่าาาาาาาาาาา
ไม่รู้ว่าเพราะเราไปถึงเย็นแล้วหรือเปล่า
แต่คนน้อยมากค่ะ ค่อนข้างไปทางเงียบเหงาเลย
เราก็เตรียมกริ๊ดค่ะกริ๊ด
มโนไปว่าวันนี้เรามีหาดทรายส่วนตัว
บรรยากาศค่า
ขอเสริมนิดนึงค่า หาดแสมสีน้ำจะไม่ใสฟ้าเท่าหาดตาแหวนนะคะ แต่สงบและมีมุมสะพานไม้ทอดยาวมากค่ะ
ไปทางด้านซ้ายมือของหาดจะมี เป็นสะพาน
ทำจากแกลอนพลาสติกมั้งนะ ยื่นไปในทะเล
โห่บอกตรงๆ นั่งลงตรงนี้กับเพื่อนแล้วฟินมาก
ลมเย็นมากค่ะ โดยเฉพาะจังหวะไม่มีคนเดินแล้วนอน
ทิ้งตัวสุดๆ
แต่เวลาเดินต้องระวังนิดนึงนะคะเพราะรูปทรงสะพานนี้จะตามคลื่นทะเล
พอคลื่นมาก้เหมือน
เราเล่น surfboard เบาๆไปในตัว 555+
ต้องไปลองค่ะ !
มนุษย์เงินเดือนทั้ง 3 ขอพักแล้วกลับไปสู้ต่อค่าาา ฮึ้บๆ
ทะเลที่หาดแสมค่ะ
เราจะเดินไปที่บ้านหลังนั้นกันค่ะ
เพื่อไปสะพานไม้กันต่อ
แอบถ่ายคู่รักหน่อยค่ะ
โรแมนติกซะเกินจะทนเก็บไว้ดูคนเดียว
พวกเราผู้หญิงมากัน 4 คนเห็นภาพนี้แล้วเหงากันเล้ยค้าาา
เดินมาสุดทางจะเป็นลักษณะคล้ายๆถ้ำค่ะ
แต่ว่าสะพานไม้พังเลยเดินไปต่อไม่ได้
ถึงเวลาเดินกลับแล้วค่า จะ 6 โมงเย็นแล้ว
ระยะทางยาวพอสมควรค่ะ
คนมาตรงนี้น้อยมาก
นอกจากพวกเราแล้วก็มีแค่คู่รัก 2 คนค่ะ
มีโมบายก้อนหินด้วย
ขอเลือกเก็บภาพนี้ไว้เติมเต็มความเป็นทะเล ซะโหน่ย
ชิงช้าไม้ ไม่กล้านั่งค่าา ดูแล้วแข็งแรงไม่พอ
ไม่รู้ใครแกล้งน้องหมา เอาเมจิคดำไปวาดซะขนาดนั้น แต่ก็อดขำไม่ได้ ตลกอ่า 555
จริงๆพวกเราตั้งใจจะเดินขึ้นไปจุดชมวิวที่หาดแสมด้วย
อยู่ขวามือของหาดค่ะ
เดินไปเรื่อยๆจะมีทางบันไดปูนค่ะ
แต่ระหว่างเดินไปเห็นสองแถวจอดอยู่ เลยแวะถาม
คุณลุงสองแถวบอกว่ารถเที่ยวสุดท้ายแล้ว
เราเลยต้องจำใจกลับ
ค่ารถ 30 บ./คนค่ะ (แสมไปหน้าวัด)
ลุงแวะมารับคนเพิ่มที่หาดเทียนค่ะ
ขับจากหาดแสมมาหาดเทียนแค่ 5-10 นาทีค่ะ
แถมน้ำทะเลที่นี่ยังสวยมากด้วย
ความสวยงามของทะเลขอจบเพียงเท่านี้ค่า
ติดตามมื้อเย็นพวกเราที่ครัวเฉลียงลมกันต่อนะค๊า
[CR] หัวใจต้องการทะเล ~~ We need Vitamin *SEA* ~~ เกาะล้าน พัทยาใต้ ฉบับ 2 วัน 1 คืน
ครั้งแรกของการแชร์ประสบการณ์เที่ยวที่นี่
<<ถ้าใครมีคำถามอะไร สอบถามได้เพิ่มเติมได้เลยนะค๊า>>
ถ้าใครที่รักทะเลล่ะไม่อยากเดินทางไกล แนะนำให้
ถอดรองเท้าส้นสูง ถอดรองเท้าหนังโก้หรู
ถอดสูทออก ถอดชุดฟอร์ม
มาใส่แตะ เสิ้อยืด ขาสั้น หรือเดินเท้าเปล่าสัมผัสกับเม็ดทราย เตะน้ำทะเล ที่เกาะล้านกันเต๊อะ !!!
เดินทางจากกรุงเทพแค่ 2 ชม.เอง
(บางวันเดินทางภายในกทม ยังติดมากกว่านี้เบย เอิ้กๆ)
วันนี้ท้องฟ้าเป็นใจเหมาะกับการเที่ยวทะเลมาก
เห็นรถทัวร์จีนอีก 3 คัน
<เราก็ไม่หวั่น แค่แอบกริ๊ดเบาๆในใจ เกาะจะแตกไหม>
เราถึงที่ท่าเรือเที่ยงตรง แดดนี่เปรี้ยงๆ เลย
กว่าจะหาที่จอดรถอีก
สรุปเสียไป 200 บาทต่อวัน+ค่ามอไซ 50 บาท
เพราะพี่มอไซต้องนำทางพาเราขึ้นเขาไปที่จอดรถ
(ห่างจากท่าเรือประมาณ 10 กว่าโล)
ถึงล่ะค่าาาาาาาาา เกาะล้าน ภาพนี้เน้นว่า nofilter***
ค่าโดยสารเรือใหญ่ 30 บ./คน
ใช้เวลาประมาณ 40 นาที (จากพัทยามาท่าเรือหน้าบ้าน)
แวะดูแผนที่ทั้งเกาะ + ตารางเวลาเดินเรือ + ค่ามอไซ กันตรงนี้สักนิด อยู่ทางขวามือ ตรงข้ามกับศาลาค่ะ
เนื่องจากเพื่อนยังไม่ได้กินไรมาแต่เช้า ขึ้นจากท่าเรือ
ก็เจอร้านนี้ก่อนร้านอื่นเลย "ครัวชลิตา"
ป้าย 50 บาทไปงั้นแหละ เข้าไปจริงๆ แล้วราคาขึ้นอยู่กับแต่ละเมนู มีตั้งแต่อาหารจานเดียว ถึง ซีฟู้ดปิ้งย่าง
แต่มีไวไฟให้ใช้ฟรีนะจ๊ะ
เมนูที่พวกเราสั่งคือ
1.บะหมี่ต้มยำไข่+เกี๊ยว :
รสชาติคือหวาน จืดนำ ส่วนปริมาณปานกลาง
2. ข้าวผัดต้มยำกุ้ง :
เปรี้ยวนำ เผ็ดพอประมาณ น้อยไปนิด
เครื่องดื่ม มีสั่งสตรอเบอรี่ปั่น น้ำมะนาวปั่น น้ำเปล่า
น้ำแข็ง รวมทุกอย่าง 280 บาท
สรุปสำหรับเราร้านนี้คือ
พอรองท้องไปได้อ่ะ ไม่ได้อร่อย ราคารับได้
พออิ่มท้องกันแล้ว
ก็ไปที่พักกันเล้ยยยยยยยยยยย
ถึงแล้วค่าาา บ้านริมน้ำ
เดินจากท่าเรือตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้าย
จะเจอเซเว่น เดินอีกประมาณ 100-200 เมตร
จะมีป้ายเล็กๆ บอกบ้านริมน้ำ
เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยอีกนิด ก็จะถึงกับที่พักติดทะเลลลลลลลลลลล ~~~ วู้ฮู้
ภูมิใจนำเสนอที่นี่มากค่ะ เพราะเป้าหมายของเราพวกเราสำหรับทริปนี้คือ
ที่พักติดทะเล
ขออธิบายก่อนนะคะ ที่พักโซนท่าเรือหน้าบ้าน
จะไม่มีติดทะเลแบบที่เราลงไปเล่นได้
เนื่องจากไม่มีหาดค่ะ และน้ำทะเลก็สูง
แต่มีความสะดวกเพราะเป็นท่าเรือ มีเซเว่น ตู้กดเงิน
ท่ารถสองแถว ที่เช่ามอไซ ตลาด
เราก็จะเลือกที่พักแบบยื่นไปในทะเล
แล้วนอนรับลมฟังเสียงคลื่นแทนค่าาา
กริ๊ดดังๆ พร้อมเพื่อน เพราะ การตกแต่งห้องน่าร๊าก โดนใจเจ้ๆมากค่ะ ทะเล๊ทะเล ทั้งโทนสี
เตียง ของตกแต่ง อยากจะบอกว่า
ห้องกว้างและยาวมากค่ะ
คือ เรารวมอยู่กัน 4 คนในห้องเดียวกัน
ห้องยังมีพื้นที่เหลืออีกอ่ะ
เห็นแบบนี้ ต้องทิ้งตัวนอนเล่นก่อนค่ะ !!!!
เอาจริงๆ เราเองก็แย่งกับเพื่อนนอนตรงนี้ คือมันเหมาะกับการหมกตัวอยู่ในผ้าห่มแล้วนอนเล่นมือถือมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง :
เตียงใหญ่ 1 เตียงเล็กข้างเตียง 1 โต๊ะวางของข้างเตียง
ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ ชั้นวาง
ตู้เย็น (มีน้ำทิพย์ให้ฟรี 2 ขวด)
ตู้เสื้อผ้าแบบราวขนาดปานกลาง (มีผ้าเช็ดตัว)
กระจก ชั้นวางของ (มีไดร์เป่าผม)
ผนังเป็นสีขาวล้วนทุกด้าน
ส่วนห้องน้ำก็กว้างขวางค่ะ ขอเน้นนะคะ ว่า
สะอาด ดูใหม่สำหรับทุกอย่าง
ประทับใจมากค่ะ
ยังไม่หมดค่ะ ความประทับใจระดับสุดยอดเรายังไม่หมดแค่นี้ เพราะห้องพักที่พวกเราเลือกมีดาดฟ้า !!!
รีบเปิดประตูออกทางข้างหลัง
แล้วขึ้นบันไดตามมาเล้ย
ข้างบนนี้ลมเย็นมากๆ ค่าาาาาา
บอกกับตัวเองว่านี่ คือเตียงของเราในคืนนี้เพราะ
พรุ่งนี้เช้าจะได้ลืมตาแล้วเห็นท้องฟ้ายามเช้าเลย
Selfie&Groufie จนลืมถ่ายรูปวิวด้านหน้าให้ดูเลยค่ะ
~~ ขอสรุปค่าใช้จ่ายสำหรับที่พักนะคะ~~
เนื่องจากเราไป 4 คนอยากนอนด้วยกัน
แต่เท่าที่โทรศัพท์ถามที่พักที่อื่นๆ โซนท่าเรือหน้าบ้าน
จะกำหนดห้องละไม่เกิน 2 คน
หรืออย่างมากก็เพิ่มเตียงเสริมได้แค่ 1
ใช้เวลาหาที่พักล่วงหน้าเกือบ 1 เดือนก็ได้ที่นี่มาค่ะ
โดยเงื่อนไขของที่นี่คือ ห้องละไม่เกิน 2 คน
เราเลยต้องจำใจจอง 2 ห้องติดกัน คือ R15 R16
(มีดาดฟ้า) แต่ไม่ใช่แถวหน้าสุดที่ติดทะเล
เพราะแถวนั้นจะราคาสูงกว่านี้ค่ะ
สรุปค่าห้องคืนละ 2,000 บ./ห้อง
(รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน)
ป้าที่ดูแลเราแกใจดีนะคะแต่แบบให้ความเป็นส่วนตัว
ตอนเราไปถึงที่พัก แค่แจ้งชื่อแล้วให้กุญแจเลย
และบอกเวลาเรื่องอาหารเช้า
ไม่มีการขาย แพคเกจเรือเที่ยวหรือรถใดๆทั้งสิ้น
เอาล่ะค่ะ นี่ก็บ่าย 3 กว่าๆแล้ว ถึงเวลาทิ้งกระเป๋า
ทิ้งโลกโซเชียลสักพัก
แล้วออกไปดื่มด่ำกับสายลม ทะเล และหาดทรายกับพวกเรากัน !
ออกจากที่พัก ก็เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆค่ะ
เพื่อมุ่งหน้าไปทางวัด
จากภาพเป็น minimart อยู่ใกล้ๆกับวัดค่ะ
จริงๆ มาที่นี่ใครๆก็บอกให้เช่ามอเตอร์ไซต์
แล้วตะลุยเที่ยวให้ทั่วเกาะ
แต่สำหรับความสามารถในการขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ของพวกเราไม่มี
เราเลยไปซิ่งกับลุงสองแถวแทนค่ะ
ดูจากเวลา เราเลือกเที่ยวแค่ 2 หาดค่ะ
คือ หาดตาแหวน กับ หาดแสมค่ะ
ค่ารถแค่ 20 บาท/คนค่ะ (หน้าวัดไปตาแหวน)
แถม โชคดีมากๆ มีผู้โดยสารขึ้นพร้อมๆเราอีก 5-6 คน
คุณลุงสองแถวก็ออกรถเลย ไม่ต้องรอนาน อิอิ
จุด Landmark
<เราคิดเองนะ เพราะเห็นหาดนี้คนเยอะตลอดทุกครั้งที่มา>
น้ำใส หาดทรายขาวยาว มีร้านอาหาร
มีเตียงผ้าใบให้เช่า มีกิจกรรมทางน้ำ
ทั้งสกี บานาน่าโบ้ท
และยังเป็นท่าเรือด้วย วันนั้นคนเยอะพอสมควร
ท้องฟ้าแอบอึมครึม แต่โชคดีฝนไม่ตก
แถมวิวอาหารตาดีมากด้วย 555+
เรานั่งเล่น เดินเล่นที่นี่ไม่นาน ไม่ค่อยชอบคนเยอะ
ก็เดินออกมาถามๆ หารถสองแถวที่จะพาเราไปหาดแสมค่ะ
ลุงคิด 40 บ./คนค่ะ แถมไม่คนอื่นเลย
เหมือนเราเหมาทั้งคัน 4 คน
ที่ถ่ายรูปรถเก็บไว้เพราะคุณลุงขับซิ่งมากค่ะ
ขึ้นเขาลงเขา พวกเรานี่ต้องหาที่จับกันเลย
** แนะนำให้นั่งริม ๆ ค่ะ
เพราะจะได้มองเห็นวิวระหว่างทาง
จะได้เห็นทะเลจากมุมสูง มุมต่ำ สลับกันไป
(เพราะเกาะล้านมีภูเขา) แล้วก็รับลมระหว่างนั่งสองแถว
<หลับตาจินตาการตามดูค๊า> **
ถึงหาดแสมแล้วค่าาาาาาาาาาา
ไม่รู้ว่าเพราะเราไปถึงเย็นแล้วหรือเปล่า
แต่คนน้อยมากค่ะ ค่อนข้างไปทางเงียบเหงาเลย
เราก็เตรียมกริ๊ดค่ะกริ๊ด
มโนไปว่าวันนี้เรามีหาดทรายส่วนตัว
บรรยากาศค่า
ขอเสริมนิดนึงค่า หาดแสมสีน้ำจะไม่ใสฟ้าเท่าหาดตาแหวนนะคะ แต่สงบและมีมุมสะพานไม้ทอดยาวมากค่ะ
ไปทางด้านซ้ายมือของหาดจะมี เป็นสะพาน
ทำจากแกลอนพลาสติกมั้งนะ ยื่นไปในทะเล
โห่บอกตรงๆ นั่งลงตรงนี้กับเพื่อนแล้วฟินมาก
ลมเย็นมากค่ะ โดยเฉพาะจังหวะไม่มีคนเดินแล้วนอน
ทิ้งตัวสุดๆ
แต่เวลาเดินต้องระวังนิดนึงนะคะเพราะรูปทรงสะพานนี้จะตามคลื่นทะเล
พอคลื่นมาก้เหมือน
เราเล่น surfboard เบาๆไปในตัว 555+
ต้องไปลองค่ะ !
มนุษย์เงินเดือนทั้ง 3 ขอพักแล้วกลับไปสู้ต่อค่าาา ฮึ้บๆ
ทะเลที่หาดแสมค่ะ
เราจะเดินไปที่บ้านหลังนั้นกันค่ะ
เพื่อไปสะพานไม้กันต่อ
แอบถ่ายคู่รักหน่อยค่ะ
โรแมนติกซะเกินจะทนเก็บไว้ดูคนเดียว
พวกเราผู้หญิงมากัน 4 คนเห็นภาพนี้แล้วเหงากันเล้ยค้าาา
เดินมาสุดทางจะเป็นลักษณะคล้ายๆถ้ำค่ะ
แต่ว่าสะพานไม้พังเลยเดินไปต่อไม่ได้
ถึงเวลาเดินกลับแล้วค่า จะ 6 โมงเย็นแล้ว
ระยะทางยาวพอสมควรค่ะ
คนมาตรงนี้น้อยมาก
นอกจากพวกเราแล้วก็มีแค่คู่รัก 2 คนค่ะ
มีโมบายก้อนหินด้วย
ขอเลือกเก็บภาพนี้ไว้เติมเต็มความเป็นทะเล ซะโหน่ย
ชิงช้าไม้ ไม่กล้านั่งค่าา ดูแล้วแข็งแรงไม่พอ
ไม่รู้ใครแกล้งน้องหมา เอาเมจิคดำไปวาดซะขนาดนั้น แต่ก็อดขำไม่ได้ ตลกอ่า 555
จริงๆพวกเราตั้งใจจะเดินขึ้นไปจุดชมวิวที่หาดแสมด้วย
อยู่ขวามือของหาดค่ะ
เดินไปเรื่อยๆจะมีทางบันไดปูนค่ะ
แต่ระหว่างเดินไปเห็นสองแถวจอดอยู่ เลยแวะถาม
คุณลุงสองแถวบอกว่ารถเที่ยวสุดท้ายแล้ว
เราเลยต้องจำใจกลับ
ค่ารถ 30 บ./คนค่ะ (แสมไปหน้าวัด)
ลุงแวะมารับคนเพิ่มที่หาดเทียนค่ะ
ขับจากหาดแสมมาหาดเทียนแค่ 5-10 นาทีค่ะ
แถมน้ำทะเลที่นี่ยังสวยมากด้วย
ความสวยงามของทะเลขอจบเพียงเท่านี้ค่า
ติดตามมื้อเย็นพวกเราที่ครัวเฉลียงลมกันต่อนะค๊า