สวัสดีค่า แนตนะคะ วันนี้จะมารีวิวรองพื้น ซึ่งเป็นรองพื้นที่ได้รับมาจากกิจกรรมที่ทางแบรนด์ Laura Mercier
ได้เปิดโอกาสให้สาวๆได้มาร่วมพิสูจน์รองพื้นในขนาดจริงถึง 100 คน
(ขนาด 30 ml. ราคา 1790 บาท)
และด้วยคำเคลมจากทางแบรนด์ที่ว่า รองพื้นรุ่นนี้ เบาบาง และสบายผิวที่สุด
แต่ให้การปกปิดในระดับ Medium Coverage พร้อมควบคุมความมันระหว่างวัน
ให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
โดยรองพื้นรุ่นนี้มีจำหน่ายในประเทศไทย 15 สี จาก 24 สี ซึ่งครอบคลุมในทุกๆระดับผิว
และ มีทุกอันเดอร์โทน
สีที่ได้เลือกมาคือสี Vanillé ค่ะ ซึ่งเป็นสี Very fair with neutral/slightly warm undertone
TIPS
ถ้าต้องการการปกปิดแบบสูงสุด ให้ทาแป้งผสมรองพื้นทับหลังรองพื้น
ใช้ Foundation Primer ในจุดที่เห็นรูขุมขนชัดเจน เช่น จมูก
*อย่าลืม* เขย่าขวดทุกครั้งก่อนใช้ เพื่อให้เนื้อรองพื้นเข้ากันได้ดี
จากการใช้จริง เปิดฝาขวดขึ้นมาก่อนค่ะ แล้วเอานิ้วอุดรูไว้ แล้วค่อยเขย่า
ถ้าเขย่าทั้งๆที่ปิดฝาอยู่ เลอะเทอะหมดค่ะ
มา Swatch สีรองพื้นกันนะคะ
จะเห็นได้ว่า รองพื้นมีเนื้อที่ค่อนข้างเหลว และ บางเบามากกกกก
ทีนี้เรามาลองกับหน้าดูกันนะคะ
ด้านซ้าย คือ หน้าสด จะเห็นได้ว่า มีรอยสิวบริเวณหน้าผากเล็กน้อย
ด้านขวา คือลงรองพื้นด้วยมือเรียบร้อยแล้ว
จะเห็นได้ว่า หลังลงรองพื้น หน้าจะมีความแมท ดูเรียบเนียน
สว่างมากขึ้น รอยสิวบนหน้าผากก็จางลง
หลังทารองพื้นแล้วก็แต่งหน้าเพิ่มนิดหน่อย
ก่อนจะปิดท้ายด้วยการลงแป้งฝุ่นบริเวณทีโซน ซึ่งเป็นจุดที่มันมากเป็นพิเศษ
ถ้าใครหน้าแห้งก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยค่ะ
จะเห็นได้ว่า Finish look ของรองพื้นตัวนี้จะให้ความเป็นธรรมชาติมากกกกก
ใครที่มีส่วนต้องการปกปิดเป็นพิเศษ ก็สามารถใช้คอนซีลเลอร์ช่วยได้
ทีนี้เรามาดูเรื่องของการคุมมันนะคะ
ด้านซ้ายคือ กระดาษซับหน้ามันในส่วนจมูก
ด้านขวาคือ กระดาษซับหน้ามันในส่วนหน้าผาก
หลังจากผ่านไปห้าชั่วโมง
แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ !!! ถึงแม้ว่าจะมีน้ำมันออกมาจากผิวเยอะขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า สีของรองพื้นก็ไม่เปลี่ยน และที่สำคัญที่สุดคือ รองพื้นตัวนี้หลุดออกจากหน้าเล็กน้อย ทารองพื้นตอนแปดโมงเช้า เช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งตอนสองทุ่ม ถึงไม่ได้เติมแป้งทั้งวัน ก็ยังมีรองพื้นก็หลุดออกมาอยู่ค่ะ
ข้อดี :
รองพื้นตัวนี้ เหมาะกับการเป็น everyday look มากกก ทาแล้วดูเป็นหน้าสดที่มีสุขภาพดี
ด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกถึง 15 เฉดสี หมดกังวลเรื่องหน้าลอย
ด้วยเนื้อรองพื้นแบบ liquid to powder จึงไม่ต้องรอรองพื้นเซตตัวเป็นเวลานาน
รองพื้นตัวนี้ไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำระหว่างวัน แม้จะมีความมันมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด รักเลย<3
ข้อเสีย : ยังไม่เจออะไรนะคะ
ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นไอเทมกันตายไปแล้ว ถ้าหมดแล้ว ซื้อต่อแน่นอนค่ะ : )
ปล. ผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ที่ได้อาจจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพผิวของแต่ละคน
ยังไงก็ต้องไปลองทดสอบได้ที่เคาเตอร์ Laura Mercier กันดูนะคะ
สวัสดีค่า <3
รูปทั้งหมดในรีวิวถ่ายด้วย Nikon D5100 ไม่ได้ผ่านการปรับแสงแต่อย่างใดค่ะ
#lauramercierthailand
#smoothflawlessfluid
#thebestfoudation
[SR] REVIEW: LAURA MERCIER SMOOTH FLAWLESS FLUID :)
ได้เปิดโอกาสให้สาวๆได้มาร่วมพิสูจน์รองพื้นในขนาดจริงถึง 100 คน
และด้วยคำเคลมจากทางแบรนด์ที่ว่า รองพื้นรุ่นนี้ เบาบาง และสบายผิวที่สุด
แต่ให้การปกปิดในระดับ Medium Coverage พร้อมควบคุมความมันระหว่างวัน
ให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
โดยรองพื้นรุ่นนี้มีจำหน่ายในประเทศไทย 15 สี จาก 24 สี ซึ่งครอบคลุมในทุกๆระดับผิว
และ มีทุกอันเดอร์โทน
สีที่ได้เลือกมาคือสี Vanillé ค่ะ ซึ่งเป็นสี Very fair with neutral/slightly warm undertone
ถ้าต้องการการปกปิดแบบสูงสุด ให้ทาแป้งผสมรองพื้นทับหลังรองพื้น
ใช้ Foundation Primer ในจุดที่เห็นรูขุมขนชัดเจน เช่น จมูก
*อย่าลืม* เขย่าขวดทุกครั้งก่อนใช้ เพื่อให้เนื้อรองพื้นเข้ากันได้ดี
จากการใช้จริง เปิดฝาขวดขึ้นมาก่อนค่ะ แล้วเอานิ้วอุดรูไว้ แล้วค่อยเขย่า
ถ้าเขย่าทั้งๆที่ปิดฝาอยู่ เลอะเทอะหมดค่ะ
จะเห็นได้ว่า รองพื้นมีเนื้อที่ค่อนข้างเหลว และ บางเบามากกกกก
ด้านซ้าย คือ หน้าสด จะเห็นได้ว่า มีรอยสิวบริเวณหน้าผากเล็กน้อย
ด้านขวา คือลงรองพื้นด้วยมือเรียบร้อยแล้ว
สว่างมากขึ้น รอยสิวบนหน้าผากก็จางลง
หลังทารองพื้นแล้วก็แต่งหน้าเพิ่มนิดหน่อย
ก่อนจะปิดท้ายด้วยการลงแป้งฝุ่นบริเวณทีโซน ซึ่งเป็นจุดที่มันมากเป็นพิเศษ
ถ้าใครหน้าแห้งก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยค่ะ
ใครที่มีส่วนต้องการปกปิดเป็นพิเศษ ก็สามารถใช้คอนซีลเลอร์ช่วยได้
ทีนี้เรามาดูเรื่องของการคุมมันนะคะ
ด้านซ้ายคือ กระดาษซับหน้ามันในส่วนจมูก
ด้านขวาคือ กระดาษซับหน้ามันในส่วนหน้าผาก
หลังจากผ่านไปห้าชั่วโมง
รองพื้นตัวนี้ เหมาะกับการเป็น everyday look มากกก ทาแล้วดูเป็นหน้าสดที่มีสุขภาพดี
ด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกถึง 15 เฉดสี หมดกังวลเรื่องหน้าลอย
ด้วยเนื้อรองพื้นแบบ liquid to powder จึงไม่ต้องรอรองพื้นเซตตัวเป็นเวลานาน
รองพื้นตัวนี้ไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำระหว่างวัน แม้จะมีความมันมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด รักเลย<3
ข้อเสีย : ยังไม่เจออะไรนะคะ
ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นไอเทมกันตายไปแล้ว ถ้าหมดแล้ว ซื้อต่อแน่นอนค่ะ : )
ปล. ผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ที่ได้อาจจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพผิวของแต่ละคน
ยังไงก็ต้องไปลองทดสอบได้ที่เคาเตอร์ Laura Mercier กันดูนะคะ
สวัสดีค่า <3
รูปทั้งหมดในรีวิวถ่ายด้วย Nikon D5100 ไม่ได้ผ่านการปรับแสงแต่อย่างใดค่ะ
#lauramercierthailand
#smoothflawlessfluid
#thebestfoudation