สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆชาว pantip ค่ะ วันนี้เรามีเรื่องอยากถาม
คือคุณพ่อเรา มีบ้านพร้อมที่ดินอยู่ที่ปากน้ำ แต่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี40 ธุรกิจคุณพ่อเราย่ำแย่ จนถึงขั้นจะโดนฟ้องล้มละลาย
เพื่อป้องกันการถูกยึดบ้าน คุณพ่อเราจึงทำการโอนบ้านพร้อมที่ดินผืนนี้ ไปเป็นชื่อพี่สาวคนโต สมมุติพี่สาวชื่อคุณA
จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ราวๆ 7-8 ปี คุณAได้ทำการขออนุญาติคุณพ่อ นำโฉนดบ้านพร้อมที่ดินที่ปากน้ำไปจำนองกับธนาคาร
เพื่อนำเงินมาซื้อที่ดินและสร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่หัวหิน โดยคุณAตั้งใจจะสร้างไว้เพื่อขายชาวต่างชาติ คุณAบอกกับคุณพ่อว่า
หากขายได้เมื่อไหร่ จะนำเงินก้อนมาไถ่ฉโนดที่ปากน้ำมาคืนให้คุณพ่อ
ณ.ปัจจุบันนี้..คุณพ่อเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนมาปลูกบ้านใหม่ จึงต้องการได้ฉโนดคืนและได้ถามไถ่ไปยังคุณAว่า
สะดวกจะไถ่ถอนฉโนดออกมาให้ตอนนี้หรือไม่ เพราะเห็นว่าบ้านพักตากอากาศก็สร้างเสร็จนานแล้ว ทางคุณAก็ได้แจ้งว่า
บ้านยังขายไม่ได้ ตอนนี้ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเช่าเป็นรายวัน พ่อเราจึงบอกให้ทางคุณAนำฉโนดที่หัวหินไปจำนอง เพื่อไถ่ฉโนดที่ปากน้ำมาคืน
แต่ทางคุณAแจ้งว่า..ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะตอนเอาฉโนดที่ปากน้ำไปจำนอง ตนก็ได้เอาฉโนดที่หัวหินมาจำนองด้วย
สรุปคือว่า คุณAเค้าเอาฉโนด 2 ที่มารวมกัน เพื่อนำเงินมาปลูกบ้านขาย หากจะไถ่ ก็ต้องไถ่ออกมาพร้อมกัน
เรื่องทั้งหมดนี้คือคุณพ่อเค้ามาปรึกษาเรา คือเค้ากลุ้มใจมาก ไม่รู้ต้องรอไปอีกนานแค่ไหน ตัวแกก็แก่มากแล้ว สุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรง
ที่ดินที่ปากน้ำผืนนั้น เดิมทีไม่มีใครอาศัยอยู่ ก็ตั้งใจจะขายและนำเงินเก็บไว้ให้ลูกๆตั้งตัว (คือตั้งใจจะแบ่งให้ทุกคนเท่าๆกัน)
ความจริงเราไม่อยากคิดอะไรในแง่ร้าย..แต่พี่สาวคนโตของเรา..กลับมีท่าทีแปลกๆ ถ้าเอาตามความเข้าใจของเรา
เราคิดว่า..พี่สาวเค้าคงไม่คิดจะไถ่มาคืน เค้าคงคิดว่า พ่อแก่มากแล้ว..คงอยู่ได้อีกไม่นาน วันนึงถ้าพ่อเป็นอะไรไป
ที่ดินก็ตกเป็นของเค้าคนเดียว ไม่มีใครมีสิทธิ์โต้แย้งแน่นอน แล้วอีกอย่างนึงคือเราเป็นพี่น้องที่ไม่ได้ผูกพันธ์กันมากนัก
คุณพ่อมีลูก 3 คน พี่สาวคนโตแยกไปอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดตั้งแต่เด็กๆ จะมีแค่เรา น้องสาว และคุณพ่อที่อยู่ด้วยกันมา
เหตุผลที่คุณพ่อเลือกโอนที่ให้พี่สาวในตอนนั้น เพราะพี่สาวบรรลุนิติภาวะคนเดียว
เกริ่นยาวไปหน่อย เรียบเรียงประโยคไม่ค่อยเก่ง ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ขอเริ่มถามเลยนะคะ
-ในกรณีที่คุณAบอกว่า นำฉโนด 2 ที่ (ที่ปากน้ำ,หัวหิน) มารวมกันแล้วนำไปจำนอง
เวลาไถ่ถอน ก็ต้องไถ่ออกมาพร้อมกัน เพราะธนาคารถือเป็นหนี้ก้อนเดียวกัน
ข้อนี้จริงหรือไม่คะ?
-ถ้าคุณพ่อเราต้องการขายที่ดินที่ปากน้ำ ในขณะที่ฉโนดติดจำนอง (โดยพาพี่สาวไปทำเรื่องขาย) สามารถทำได้หรือไม่คะ
-สมมุติว่าขายได้แล้วเหลือส่วนต่าง ธนาคารจะถือว่าเงินส่วนนี้ เป็นเงินที่จะต้องหักไปชำระรวมกับยอดหนี้ที่หัวหินด้วยหรือไม่
เพราะพี่สาวย้ำเสมอว่า มันเป็นหนี้ก้อนเดียวกัน
-รบกวนหลังไมค์แนะนำนายหน้าหรือนายทุนที่ต้องการที่ดินย่านนั้นให้ทีนะคะ (ถ.ท้ายบ้าน จ.สมุทรปราการ)
สอบถามเรื่องการไถ่ถอนที่ดิน
คือคุณพ่อเรา มีบ้านพร้อมที่ดินอยู่ที่ปากน้ำ แต่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี40 ธุรกิจคุณพ่อเราย่ำแย่ จนถึงขั้นจะโดนฟ้องล้มละลาย
เพื่อป้องกันการถูกยึดบ้าน คุณพ่อเราจึงทำการโอนบ้านพร้อมที่ดินผืนนี้ ไปเป็นชื่อพี่สาวคนโต สมมุติพี่สาวชื่อคุณA
จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ราวๆ 7-8 ปี คุณAได้ทำการขออนุญาติคุณพ่อ นำโฉนดบ้านพร้อมที่ดินที่ปากน้ำไปจำนองกับธนาคาร
เพื่อนำเงินมาซื้อที่ดินและสร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่หัวหิน โดยคุณAตั้งใจจะสร้างไว้เพื่อขายชาวต่างชาติ คุณAบอกกับคุณพ่อว่า
หากขายได้เมื่อไหร่ จะนำเงินก้อนมาไถ่ฉโนดที่ปากน้ำมาคืนให้คุณพ่อ
ณ.ปัจจุบันนี้..คุณพ่อเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนมาปลูกบ้านใหม่ จึงต้องการได้ฉโนดคืนและได้ถามไถ่ไปยังคุณAว่า
สะดวกจะไถ่ถอนฉโนดออกมาให้ตอนนี้หรือไม่ เพราะเห็นว่าบ้านพักตากอากาศก็สร้างเสร็จนานแล้ว ทางคุณAก็ได้แจ้งว่า
บ้านยังขายไม่ได้ ตอนนี้ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเช่าเป็นรายวัน พ่อเราจึงบอกให้ทางคุณAนำฉโนดที่หัวหินไปจำนอง เพื่อไถ่ฉโนดที่ปากน้ำมาคืน
แต่ทางคุณAแจ้งว่า..ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะตอนเอาฉโนดที่ปากน้ำไปจำนอง ตนก็ได้เอาฉโนดที่หัวหินมาจำนองด้วย
สรุปคือว่า คุณAเค้าเอาฉโนด 2 ที่มารวมกัน เพื่อนำเงินมาปลูกบ้านขาย หากจะไถ่ ก็ต้องไถ่ออกมาพร้อมกัน
เรื่องทั้งหมดนี้คือคุณพ่อเค้ามาปรึกษาเรา คือเค้ากลุ้มใจมาก ไม่รู้ต้องรอไปอีกนานแค่ไหน ตัวแกก็แก่มากแล้ว สุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรง
ที่ดินที่ปากน้ำผืนนั้น เดิมทีไม่มีใครอาศัยอยู่ ก็ตั้งใจจะขายและนำเงินเก็บไว้ให้ลูกๆตั้งตัว (คือตั้งใจจะแบ่งให้ทุกคนเท่าๆกัน)
ความจริงเราไม่อยากคิดอะไรในแง่ร้าย..แต่พี่สาวคนโตของเรา..กลับมีท่าทีแปลกๆ ถ้าเอาตามความเข้าใจของเรา
เราคิดว่า..พี่สาวเค้าคงไม่คิดจะไถ่มาคืน เค้าคงคิดว่า พ่อแก่มากแล้ว..คงอยู่ได้อีกไม่นาน วันนึงถ้าพ่อเป็นอะไรไป
ที่ดินก็ตกเป็นของเค้าคนเดียว ไม่มีใครมีสิทธิ์โต้แย้งแน่นอน แล้วอีกอย่างนึงคือเราเป็นพี่น้องที่ไม่ได้ผูกพันธ์กันมากนัก
คุณพ่อมีลูก 3 คน พี่สาวคนโตแยกไปอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดตั้งแต่เด็กๆ จะมีแค่เรา น้องสาว และคุณพ่อที่อยู่ด้วยกันมา
เหตุผลที่คุณพ่อเลือกโอนที่ให้พี่สาวในตอนนั้น เพราะพี่สาวบรรลุนิติภาวะคนเดียว
เกริ่นยาวไปหน่อย เรียบเรียงประโยคไม่ค่อยเก่ง ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ขอเริ่มถามเลยนะคะ
-ในกรณีที่คุณAบอกว่า นำฉโนด 2 ที่ (ที่ปากน้ำ,หัวหิน) มารวมกันแล้วนำไปจำนอง
เวลาไถ่ถอน ก็ต้องไถ่ออกมาพร้อมกัน เพราะธนาคารถือเป็นหนี้ก้อนเดียวกัน
ข้อนี้จริงหรือไม่คะ?
-ถ้าคุณพ่อเราต้องการขายที่ดินที่ปากน้ำ ในขณะที่ฉโนดติดจำนอง (โดยพาพี่สาวไปทำเรื่องขาย) สามารถทำได้หรือไม่คะ
-สมมุติว่าขายได้แล้วเหลือส่วนต่าง ธนาคารจะถือว่าเงินส่วนนี้ เป็นเงินที่จะต้องหักไปชำระรวมกับยอดหนี้ที่หัวหินด้วยหรือไม่
เพราะพี่สาวย้ำเสมอว่า มันเป็นหนี้ก้อนเดียวกัน
-รบกวนหลังไมค์แนะนำนายหน้าหรือนายทุนที่ต้องการที่ดินย่านนั้นให้ทีนะคะ (ถ.ท้ายบ้าน จ.สมุทรปราการ)