คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
การเรียน นิติศาสตร์ ม.ราม ให้จบโดยใช้เวลาน้อยที่สุด
- ตอบแบบง่ายๆ ก็คือเรียนอัดเทอมละ 24 หน่วยกิต + ซัมเมอร์ 12 หน่วยกิต แล้วสอบให้ผ่านให้หมด
ถ้าทำได้จริง 2 ปีครึ่ง ก็เรียนจบได้ครับ
1 ปีการศึกษา (2 เทอม + ซัมเมอร์ 1 เทอม จะได้ 60 หน่วยกิต)
2 ปีการศึกษา เก็บได้ 120 หน่วยกิต
ปี 3 เทอม 1 ลงเต็ม 24 หน่วยกิต ก็เกิน 140 หน่วยกิตตามหลักสูตรแล้ว
ถ้าทำได้ก็จบ 2 ปีครึ่งครับ ไม่ต้องรอถึง 3 - 4 ปี
ลำดับการลงวิชาเรียน
ลองดูแผนการเรียนของหลักสูตรครับ ตามลิงค์นี้
http://www.ru.ac.th/th/center_study_plan/9/1390792376_Law_1_57.pdf
จะเห็นว่ามีแผนการลงวิชาเรียนไว้แล้ว ในหน้าที่ 2 - 3 ของไฟล์ น้องก็ลงไปตามนั้นก็ได้ครับ
แต่ถ้าน้องอยากจบเร็วหน่อย น้องก็เอาวิชาของเทอมถัดๆไป
มาลงในเทอมที่น้องเรียน ให้เต็ม 24 หน่วยกิตสำหรับเทอมปกติ (เทอม 1, เทอม 2)
และลงได้ 12 หน่วยกิต สำหรับซัมเมอร์
หรือเฉพาะเทอมสุดท้ายที่ขอจบจะลงได้เต็มที่ 30 หน่วยกิตครับ
(เทอมปกติ คือ เทอมต้น กับ เทอมปลาย จะลงได้มากสุด 24 หน่วยกิต เทอมซัมเมอร์จะลงได้มากสุด 12 หน่วยกิตครับ
สำหรับวิชาพื้นฐาน (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทย์ ฯลฯ) น้องก็ลงไล่ไปตามแผนการเรียนก็ได้
สำหรับวิชากฎหมาย (LAW ต่างๆ) แนะนำว่าควรลงตามรหัสวิชาไปครับ จากน้อยไปมาก
เช่น LAW1001 > LAW1002 > LAW1003 .... ไปจนครบหน่วยกิตในแต่ละเทอมครับ
เพราะมหาวิทยาลัย จะเรียงลำดับรหัสตามเนื้อหามาอยู่แล้ว จะได้เรียนต่อเนื่องกันไปครับ
แต่เคล็ดลับคือ เวลาเลือกรายวิชาลงทะเบียน
ต้องดูวันสอบเป็นหลักครับ อย่าให้วันสอบติดกันมาก
ม.ราม จะประกาศวันสอบออกมาก่อนวันลงทะเบียนครับ
วิธีคือ เราเอารายวิชาที่ควรจะลงในเทอมนั้นๆ มาลงรายการไว้
แล้วมาลงรายละเอียดของวันสอบในรายวิชาที่ควรจะลงนั้น
จากนั้นเอามาจัดตารางที่จะลงทะเบียน โดยอิงวันสอบเป็นหลัก
(วันเรียนไม่ต้องไปดูเลยครับ เพราะเราจะเข้าเรียนหรือไม่เรียนก็ได้)
เช่น วิชา LAW1001 สอบวันที่ 1/6/58
LAW1002 สอบวันที่ 2/6/58
LAW1003 สอบวันที่ 3/6/58
LAW1004 สอบวันที่ 4/6/58
LAW1005 สอบวันที่ 5/6/58
อาจจะเลือกลงแค่ LAW1001, LAW1002, LAW1004, LAW1005 ก็ได้
ข้ามวิชา LAW1003 เก็บไว้ไปลงเทอมถัดๆไปก็ได้ เพราะเทอมนี้สอบติดกันเกิน จะทบทวนไม่ทัน เป็นต้น
เคล็ดอีกอย่างนึงคือ ลงไปให้เต็ม 24 หน่วยกิตเลยครับ ไม่ต้องกลัวจะหนักเกินไป
เพราะ ม.ราม มีสอบซ่อมได้ คือถ้าเราสอบตก หรือขาดสอบ
สามารถลงทะเบียนวิชาที่สอบตกหรือขาดสอบนั้นได้อีกทีในรอบสอบซ่อมของเทอมนั้นๆ
ถ้าสอบผ่านก็ได้เกรดตามที่เราผ่าน เกรดไปรวมกับเทอมปกติเลย
ถ้าสอบไม่ผ่านก็ไม่ติด F จะถือว่าเราไม่ได้ลงทะเบียนเรียนวิชานั้นเลยครับ เกรดรวมไม่เสีย
สมมุติว่าลง 10 วิชา เราก็แบ่งเลยว่า สอบแบบปกติ 5 วิชา ไปสอบซ่อม 5 วิชา
ถ้าแบบนี้ก็จะสอบไม่หนักมากครับ มีเวลาทบทวนเยอะ
แต่อย่าลืมว่าถ้าเราไปพลาดวิชาที่เราสอบซ่อม จะไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้ว ต้องลงใหม่นะ
เพราะฉะนั้นควรสอบในช่วงปกติไปก่อน หากไม่ไหวจริงๆค่อยลงสอบซ่อมครับ
เพราะว่าถ้าเกิดวันสอบซ่อมติดธุระอะไรทำให้สอบไม่ได้ หรือไม่ได้ทบทวนอ่านหนังสือ
แล้วเราจะเสียโอกาสเก็บรายวิชานั้นไปเลย ต้องไปลงเทอมถัดๆไป
จึงควรพยายามสอบแบบปกติให้ได้ก่อน ถ้าจำเป็นถึงต้องขาดสอบแล้วค่อยไปสอบซ่อมเอา
ที่สำคัญจริงๆนอกจากวิธีการลงทะเบียนเรียนแล้ว
คือการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบครับ
เพราะแม้จะลงตามแผนที่ว่าจริงๆ คืออัดเต็มที่เลย
แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน การลงทะเบียนก็ไม่มีความหมายครับ
- ตอบแบบง่ายๆ ก็คือเรียนอัดเทอมละ 24 หน่วยกิต + ซัมเมอร์ 12 หน่วยกิต แล้วสอบให้ผ่านให้หมด
ถ้าทำได้จริง 2 ปีครึ่ง ก็เรียนจบได้ครับ
1 ปีการศึกษา (2 เทอม + ซัมเมอร์ 1 เทอม จะได้ 60 หน่วยกิต)
2 ปีการศึกษา เก็บได้ 120 หน่วยกิต
ปี 3 เทอม 1 ลงเต็ม 24 หน่วยกิต ก็เกิน 140 หน่วยกิตตามหลักสูตรแล้ว
ถ้าทำได้ก็จบ 2 ปีครึ่งครับ ไม่ต้องรอถึง 3 - 4 ปี
ลำดับการลงวิชาเรียน
ลองดูแผนการเรียนของหลักสูตรครับ ตามลิงค์นี้
http://www.ru.ac.th/th/center_study_plan/9/1390792376_Law_1_57.pdf
จะเห็นว่ามีแผนการลงวิชาเรียนไว้แล้ว ในหน้าที่ 2 - 3 ของไฟล์ น้องก็ลงไปตามนั้นก็ได้ครับ
แต่ถ้าน้องอยากจบเร็วหน่อย น้องก็เอาวิชาของเทอมถัดๆไป
มาลงในเทอมที่น้องเรียน ให้เต็ม 24 หน่วยกิตสำหรับเทอมปกติ (เทอม 1, เทอม 2)
และลงได้ 12 หน่วยกิต สำหรับซัมเมอร์
หรือเฉพาะเทอมสุดท้ายที่ขอจบจะลงได้เต็มที่ 30 หน่วยกิตครับ
(เทอมปกติ คือ เทอมต้น กับ เทอมปลาย จะลงได้มากสุด 24 หน่วยกิต เทอมซัมเมอร์จะลงได้มากสุด 12 หน่วยกิตครับ
สำหรับวิชาพื้นฐาน (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทย์ ฯลฯ) น้องก็ลงไล่ไปตามแผนการเรียนก็ได้
สำหรับวิชากฎหมาย (LAW ต่างๆ) แนะนำว่าควรลงตามรหัสวิชาไปครับ จากน้อยไปมาก
เช่น LAW1001 > LAW1002 > LAW1003 .... ไปจนครบหน่วยกิตในแต่ละเทอมครับ
เพราะมหาวิทยาลัย จะเรียงลำดับรหัสตามเนื้อหามาอยู่แล้ว จะได้เรียนต่อเนื่องกันไปครับ
แต่เคล็ดลับคือ เวลาเลือกรายวิชาลงทะเบียน
ต้องดูวันสอบเป็นหลักครับ อย่าให้วันสอบติดกันมาก
ม.ราม จะประกาศวันสอบออกมาก่อนวันลงทะเบียนครับ
วิธีคือ เราเอารายวิชาที่ควรจะลงในเทอมนั้นๆ มาลงรายการไว้
แล้วมาลงรายละเอียดของวันสอบในรายวิชาที่ควรจะลงนั้น
จากนั้นเอามาจัดตารางที่จะลงทะเบียน โดยอิงวันสอบเป็นหลัก
(วันเรียนไม่ต้องไปดูเลยครับ เพราะเราจะเข้าเรียนหรือไม่เรียนก็ได้)
เช่น วิชา LAW1001 สอบวันที่ 1/6/58
LAW1002 สอบวันที่ 2/6/58
LAW1003 สอบวันที่ 3/6/58
LAW1004 สอบวันที่ 4/6/58
LAW1005 สอบวันที่ 5/6/58
อาจจะเลือกลงแค่ LAW1001, LAW1002, LAW1004, LAW1005 ก็ได้
ข้ามวิชา LAW1003 เก็บไว้ไปลงเทอมถัดๆไปก็ได้ เพราะเทอมนี้สอบติดกันเกิน จะทบทวนไม่ทัน เป็นต้น
เคล็ดอีกอย่างนึงคือ ลงไปให้เต็ม 24 หน่วยกิตเลยครับ ไม่ต้องกลัวจะหนักเกินไป
เพราะ ม.ราม มีสอบซ่อมได้ คือถ้าเราสอบตก หรือขาดสอบ
สามารถลงทะเบียนวิชาที่สอบตกหรือขาดสอบนั้นได้อีกทีในรอบสอบซ่อมของเทอมนั้นๆ
ถ้าสอบผ่านก็ได้เกรดตามที่เราผ่าน เกรดไปรวมกับเทอมปกติเลย
ถ้าสอบไม่ผ่านก็ไม่ติด F จะถือว่าเราไม่ได้ลงทะเบียนเรียนวิชานั้นเลยครับ เกรดรวมไม่เสีย
สมมุติว่าลง 10 วิชา เราก็แบ่งเลยว่า สอบแบบปกติ 5 วิชา ไปสอบซ่อม 5 วิชา
ถ้าแบบนี้ก็จะสอบไม่หนักมากครับ มีเวลาทบทวนเยอะ
แต่อย่าลืมว่าถ้าเราไปพลาดวิชาที่เราสอบซ่อม จะไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้ว ต้องลงใหม่นะ
เพราะฉะนั้นควรสอบในช่วงปกติไปก่อน หากไม่ไหวจริงๆค่อยลงสอบซ่อมครับ
เพราะว่าถ้าเกิดวันสอบซ่อมติดธุระอะไรทำให้สอบไม่ได้ หรือไม่ได้ทบทวนอ่านหนังสือ
แล้วเราจะเสียโอกาสเก็บรายวิชานั้นไปเลย ต้องไปลงเทอมถัดๆไป
จึงควรพยายามสอบแบบปกติให้ได้ก่อน ถ้าจำเป็นถึงต้องขาดสอบแล้วค่อยไปสอบซ่อมเอา
ที่สำคัญจริงๆนอกจากวิธีการลงทะเบียนเรียนแล้ว
คือการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบครับ
เพราะแม้จะลงตามแผนที่ว่าจริงๆ คืออัดเต็มที่เลย
แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน การลงทะเบียนก็ไม่มีความหมายครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำแนวทางการเรียนในคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ให้ได้ผลหน่อยครับ