แนะว่าขึ้นศาลตามฟ้องครับ
ถ้าเราโอตามก็คือเกินไป   เก็บหลักฐานข้อตกลงต่างๆ ให้พร้อม  
กรณีนี้ตามสัญญาเช่าซื้อแน่นอนเราผิด  แต่ได้ตกลงคืนของแถมมีคืนเงินกันไปแล้ว
ขั้นนี้มันจบไปแล้ว ถ้ามีหลักฐาน มีลายเซ็นรับของส่งของ
เพราะก่อนจะรับของคืนไฟแนนซ์คำนวนแล้วว่า เอาไปขายต่อได้กำไรไม่ขาดทุน  
แต่ๆ ดันขายไม่ได้ หรือขายขาดทุน เลยหันกลับมาจะเล่นเราซะ แบบนี้โกงเรานี่

ปรึกษาทนาย  ทนายฟรีที่ศาลมีช่วย ศาลจะพิจารณาอย่างเหมาะสมไม่ให้เราเดือดร้อน
ถึงแม้ว่าหลักฐานต่างๆ เราสู้ไม่ได้ ไม่มี ไม่ได้เก็บ ก็ตั้ง3 ปี  (เป็นกรรมของเรา)
จะไม่ถึงสามหมื่นตามที่ไฟแนนซ์จะเอา  แถมศาลให้ผ่อนได้อีก
ศาลจะพิจารณาว่าเรามีรายได้เท่าไร กินใช้เหลือเท่าไร มีเงินเหลือซิงๆ เท่าไร ก็จะกำหนดให้เราผ่อนได้ เผลอๆ 3 เดือนครั้ง

สรุปไฟแนนซ์รู้เข้าใจว่ายุ่งยากช้าได้แทบไม่คุ้มอาจแพ้ เสียค่าฟ้องค่าทนายฟรี
ฉะนั้นที่ว่าฟ้องของบริษัทคิอขู่ ถ้าเราบอกฟ้องก็ฟ้องไป   ถึงฟ้องจริงก็ไ้ไม่ต้องกลัว
เราก็บอกว่าขอทำตามคำสั่งศาล  เฉยซะ
ผมว่าไม่กล้าฟ้องหรอกครับ เดี๋ยวก็จะมาพูดขอเงินเราแบบลดลงมาอีกเท่านั้นเท่านี้