[CR] สิว + ฝ้า มาเพียบจากครีมสเตียรอยด์ เภสัชแนะ SOD

สิว+ฝ้า มาเพียบจากครีมสเตียรอยด์ เภสัชแนะ SOD ช่วยบรรเทาอาการได้ดี

‘สิวสเตียรอยด์’ และผลข้างเคียงของอาการ ‘ผิวติดสเตียรอยด์’ นับเป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด เพราะคนเป็นมักไม่รู้ตัว จากคนที่แทบไม่เคยเป็นสิว กลายเป็นคนสิวขึ้นเต็มใบหน้าชนิดแทบไม่เหลือช่องว่าง ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงดีแสนดี แพงแสนแพงขนาดไหนก็มักเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง เกิดเป็นสิวเห่อ หน้าบวมแดง มีผดผื่น แถมยังมีอาการผิวแพ้ง่าย และไวต่อแดดอีกด้วย ทำให้มีปัญหาฝ้า กระ และรอยดำตามมา คนที่เคยเป็นจะทราบดีว่าต้องทนทุกข์ทรมาณแค่ไหน และกว่าจะหายได้ต้องใช้เวลาแรมปีกันเลยทีเดียว


วันนี้ทีมงาน Sanook เลยถือโอกาสเจาะลึกถึงปัญหาของอาการผิวติดสเตียรอยด์ และวิธีดูแลผิวติดสเตียรอยด์อย่างถูกต้องจากเภสัชกร รวมไปถึงการใช้อาหารเสริมตัวใหม่อย่าง SOD (เอสโอดี) เพื่อช่วยบรรเทาสารพัดปัญหาผิวจากหนักให้กลายเป็นเบา

อาการผิวติดสเตียรอยด์เกิดจากอะไร

ใช้ครีมจากในเน็ต
ครีมที่ช่วยให้ ‘ผิวขาว’ หรือช่วย ‘ลดสิว’ หรือเป็นวิธีรักษาสิวที่มีอยู่มากมายในเน็ทนั้น มีบางยี่ห้อที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่มีการยื่นจดทะเบียน อย (รวมทั้งการใช้เลข อย ปลอม) แต่ที่อันตรายคือมักแอบผสมสเตียรอยด์ เพื่อช่วยให้สิวหายเร็วทันใจ หน้าเนียนใสได้แบบไม่น่าเชื่อ และมักจำหน่ายในราคาที่ถูกเกินห้ามใจ แต่หากใช้ต่อเนื่องจะทำให้เกิดอาการติดสเตียรอยด์ หลังหยุดใช้จะทำให้ผิวทำงานผิดเพี้ยนไปจากเดิม มีผลทำให้ผิวบางลงเรื่อยๆ จนเกิดอาการผิวแพ้ง่ายและไวต่อแดดอย่างรุนแรง ทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ รอยดำและสารพัดสิว ที่จะโจมตีผิวคุณชนิดไม่มีวันหยุด จนคุณแทบไม่อยากส่องกระจกเลยทีเดียว และใครลองเป็นแล้วยากที่ผิวจะหวนคืนกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน

ยาทารักษาสิว
ต้องยอมรับว่ายารักษาสิว ‘ชนิดผสมสเตียรอยด์’ เพราะเห็นผลเร็วทันใจ ใครได้ลองใช้เป็นต้องติดใจ แต่ควรใช้เป็นระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 7 วัน เพื่อระงับอาการสิวที่รุนแรงให้ทุเลาลงเท่านั้น หากใช้ต่อเนื่องยาวนานไม่เพียงจะไม่ลดปัญหาสิว แต่จะทำให้เกิดการสะสม จนสุดท้ายก็จะกลายเป็นสิวสเตียรอยด์ในที่สุด
6 อาการของผิวติดสเตียรอยด์ที่พบบ่อย
1. ผิวไวต่อแดด คล้ำเสียง่าย
2. เกิดฝ้า กระ ทั่วใบหน้า
3. เกิดรอยดำชนิดถาวร
4. ผิวแพ้ง่าย ใช้อะไรก็แพ้
5. เป็นสิวเห่อทั่วใบหน้า
6. มีผดผื่นขึ้น
การรักษาอาการผิวติดสเตียรอยด์เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็นเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว บางกรณีใช้เวลาในการรักษายาวนานถึง 9 ปี กว่าผิวจะคืนสมดุลกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หลังจากศึกษาข้อมูลอยู่พักใหญ่ เราตัดสินใจลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารเสริม SOD (เอสโอดี) จากเภสัชกรที่ร้านประจำอย่างสยามดรักเซ็นทรัลพระราม 3 ก็ได้รับคำตอบว่า
อาการผิวติดสเตียรอยด์เป็นอาการที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ในระยะสั้น ลูกค้าบางคนต้องทนทรมาณกับอาการข้างเคียงของสเตียรอยด์นานนับปีหรือมากกว่านั้น แนวทางการรักษานั้นเป็นไปได้ยาก ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของการบรรเทาอาการเช่นการใช้ยาลดอักเสบ หรือการใช้กรดอนุพันธ์วิตามินเอ แต่มีข้อเสียคือผลข้างเคียงค่อนข้างสูง มีผลต่อตับในระดับรุนแรง ทำให้มีอาการปากแห้ง ผิวแห้งเหี่ยว และผมแห้งเป็นต้น


ส่วนอาหารเสริม SOD (เอสโอดี) มีจำหน่ายเพียงยี่ห้อเดียว เป็นผลิตภัณฑ์สูตรลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่นชื่อ Nutriva (นูทรีวา) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม เพราะเป็นตัวเดียวที่มีส่วนผสมของ SOD สกัดจากผลไม้ ที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้จริง จึงปลอดภัยกว่าการใช้ยาเคมี ทานต่อเนื่องได้เหมือนวิตามินทั่วไปโดยไม่สะสม และไม่มีผลทำให้ตับและไตทำงานหนัก ที่สำคัญคือ SOD สามารถช่วยปกป้องผิวที่มีปัญหาไวต่อแดดได้ดี ลูกค้าทานแล้วบอกว่าโดนแดดแล้วจะไม่รู้สึกแสบผิวเหมือนปกติ ฝ้า กระ ที่เกิดจากแสงแดดลดลง
ทั้งยังมีฤทธิ์ต้านอักเสบ (Anti-inflamation) และช่วยสมานผิว (Wound Healing) จึงมีผลทำให้สิวอักเสบหายเร็ว บรรเทาอาการบวมแดง และช่วยให้รอยดำจากสิวจางลง โดยไม่ต้องอาศัยการแต้มยา ซึ่งอาจเกิดการสะสมเคมีที่ผิว ทำให้ลูกค้าที่เคยยาเริ่มหันมาใช้ Nutriva SOD ทดแทน การรับประทานอย่างต่อเนื่องยังช่วยคืนสมดุลให้กับฟิลม์เคลือบผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงเร็วขึ้น ผิวชุ่มชื้นขึ้น
มีผลทำให้อาการผิวแพ้ง่ายดีขึ้นได้ ทางเภสัชยังได้แนะนำว่าคนที่มีปัญหาผิวติดสเตียรอยด์จะมีผิวที่บอบบางแพ้ง่ายมาก ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนที่สุด ไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป ไม่ควรถูหรือขัดผิวด้วยสครับใดๆ และควรหลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิวสำหรับผิวเป็นสิว ครีมบำรุงผิวขาว ครีมแก้ฝ้า และครีมลดเลือนริ้วรอยในช่วงพักฟื้นผิวโดยเด็ดขาด
เพราะครีมดังกล่าวมักมีส่วนผสมของสารที่ช่วยกระตุ้นการลอกผิว (Peeling) ซึ่งจะทำให้ผิวที่บอบบางแพ้ง่ายและไวต่อแดดอยู่แล้ว มีอาการย่ำแย่ไปกว่าเดิม ควรใช้เพียงครีมบำรุงอ่อนๆเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเท่านั้น
1. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน

2. หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยการถูแรงๆ ขัดผิวด้วยสครับ และการใช้โทนเนอร์ หรือเคลนเซอร์ทุกชนิด

3. ไม่ควรใช้ครีมหน้าขาว ครีมลดฝ้า ครีมลดริ้วรอย และผลิตภัณฑ์แก้สิวทุกชนิด

ใครที่มีปัญหาสิว ผิวไวต่อแดด และเกิดฝ้า กระ ที่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ครีมผสมสเตียรอยด์ สามารถขอคำปรึกษาจากเภสัชกรได้ที่ร้านสยามดรักสาขาเซ็นทรัลพระราม 3 และสยามดรักสาขาพัทยา (ตรงข้าม Differ)

ที่มา: http://women.sanook.com/41601/

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาสิว วิธีรักษาสิว ได้ที่: http://women.sanook.com/tag/รักษาสิว/
ชื่อสินค้า:   ครีมสเตียรอยด์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่