แม้ว่าการก้าวลงมาทำหนังเองของ Marvel นั้นจะเรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในทุกๆเรื่องก็ตาม…โดยเฉพาะในแง่ของ รายได้…
แต่เบื้องหลังของความสำเร็จนี้…น้อยคนนักที่จะรู้ว่า มีปัญหาขัดแย้งกันภายใน โดยเฉพาะ หัวเรือใหญ่ ที่มีอำนาจในการตัดสินใจต่างๆ…จนกระทั่งมาถึงวันนี้ และ ข่าวนี้นะครับ…
เรามาย้อนถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเหล่านี้กันก่อนนะครับ…โดยเฉพาะ 2 ตัวละครหลักอย่าง Kevin Feige หรือ “ท่านประธาน” แห่ง Marvel Studios กับ Isaac Perlmutter ผู้ที่ดำรงตำแหน่ง “โคตรประธาน” แห่ง Marvel Entertainment…
Isaac Perlmutter นั้นเป็นเจ้าของร่วมแห่งบริษัทของเล่น ToyBiz ร่วมกันกับ Avi Arad…ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้มีส่วนร่วมในการล้มละลายของ Marvel ในปี 1996…และได้ช่วยกอบกู้สถานการณ์ล้มละลายของ Marvel เอาไว้ในปี 1998 นะครับ…
ส่วน Kevin Feige นั้นได้มาเริ่มงานกับ Marvel เป็นครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง X-Men (2000) ในฐานะ associate producer…และด้วยความรู้ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับ Marvel ของเขา…เลยเป็นที่ถูกใจของ Avi Arad และถูกชักชวนให้เข้ามาทำงานใน Marvel ในปีนั้น…
หลังจากที่ Marvel เริ่มมองเห็นลู่ทางของการสร้างภาพยนตร์ superhero จึงค่อยๆดำเนินการไล่ตามเก็บลิขสิทธื์ฮีโร่ทั้งหลายให้กลับมาอยู่ในมือของตัวเอง…รวมทั้งเดินหน้างานด้าน production กันเต็มตัว…ซึ่งในปี 2007 นั้น Kevin Feige ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ประธานฝ่ายงาน production ของ Marvel Studios มาจนถึงทุกวันนี้…
และหลังจากที่ Marvel Studios ได้สร้างหนังออกมาเอง และเป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ชมทั่วโลกนั้น…ทำให้ขาใหญ่อย่าง Disney อยู่เฉยไม่ได้…กำเงินมาซื้อ Marvel ไปดูแลเล่นๆในปี 2009 ด้วยมูลค่า 4 พันล้านเหรียญ…โดยที่การบริหารจัดการต่างๆนั้น Disney ก็ยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิม…ไม่ได้ลงมายุ่งวุ่นวายกับการทำงานของ Marvel เท่าไหร่นัก…
แล้วปัญหามันเกิดขึ้นจากอะไรล่ะ?
คราวนี้ก็ไม่ต้องไปมองกันไกลครับ…ท่านประธาน Kevin Feige นั่นแหละครับ!!
แม้ว่าเขาจะร่วมงานกับ Isaac Perlmutter มานาน และดูเผินๆแล้ว เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากก็ตาม…แต่รอยร้าวที่เกิดขึ้นเล็กๆในใจของเขาก็คือ…ด้วยตำแหน่งและหน้าที่นั้น เรียกได้ว่า Kevin Feige เป็นหัวใจ และ มันสมองหลักของ Marvel Cinematic Universe เลยก็ว่าได้…
แต่ทุกความคิดและไอเดียของเขา ก็ต้องส่งต่อไปให้ Isaac Perlmutter ผู้ที่ “ใหญ่กว่า” พิจารณา และ เห็นชอบด้วยเสียก่อน จึงจะยิงเรื่องไปยัง “เจ้าของเงิน” อย่าง Disney…และก็มีหลายต่อหลายครั้งที่ความคิดของ Isaac Perlmutter นั้นไม่ตรงกับเขา…
ไม่รู้ว่าเป็นที่ช่วงอายุที่ห่างกันมากของทั้ง 2 คนนี้ (Kevin Feige 42 ปี, Isaac Perlmutter 72 ปี) หรือเปล่านะครับที่ทำให้ความเห็นไม่ค่อยจะลงรอยกันบ่อย…หรืออาจจะเป็นที่ อีโก้ ส่วนตัวของใครสักคน…
แน่นอนครับว่า Kevin Feige ไม่ค่อยจะพอใจนัก เลยมีการนำเอาเรื่องนี้ไปบ่นกับ Alan Horn ประธานแห่ง Walt Disney Studios และ Bob Iger ผู้เป็น CEO ของ Disney…ซึ่งมีการจำกัดความของปัญหานี้ (ซึ่งน่าจะมาจากปากของ Kevin Feige เอง) ว่า “ช่วงเวลาหลายปีแห่งความผิดหวัง”…
และเมื่อทาง Disney มองเห็นถึงปัญหาภายในของ Marvel เช่นนี้…ก็เลยต้องมีการแก้ไขปัญหา และก็ตามสไตล์นายทุนนะครับ…ใครที่ทำเงินให้มากกว่า ก็โดนถือหางกันไป…
ล่าสุดครับ!! Disney ได้ประกาศปรับโครงสร้างภายในองค์กรครั้งล่าสุด…โดยที่แยก Marvel Studios ออกมาจากการดูแลของ Marvel Entertainment และย้ายไปอยู่ภายใต้การดูแลของ Walt Disney Studios แทนนะครับ!!
โดยการแยกออกมามาเช่นนี้ จะเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับ Pixar Animation Studios และ Lucasfilm ที่ถูกแยกออกมาดูแลในส่วนของภาพยนตร์โดย Walt Disney Studios เช่นกัน…และการบริหารงานในส่วนของภาพยนตร์นี้ ทาง Kevin Feige จะได้ส่งเรื่องขึ้นตรงไปยัง Disney ผ่านทาง Alan Horn ได้เลย โดยที่ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับทาง Isaac Perlmutter อีกต่อไป…
ซึ่งทาง Isaac Perlmutter ก็จะยังคงดูแลในส่วนของ Marvel’s TV, สื่อสิ่งพิมพ์ และ กิจกรรมอื่นๆของทาง Marvel Studios ต่อไป…
การปรับโครงสร้างเช่นนี้ เป็นอะไรที่น่าจับตามองกันพอสมควรนะครับ…ทั้งในแง่ดี และ แง่ร้าย…แง่ดีก็คือ Kevin Feige จะสามารถนำเสนอไอเดียต่างๆที่เขาคิดเอาไว้สำหรับ Marvel Cinematic Universe กันได้อย่างเต็มที่ และ ไม่น่าจะมีปัญหาต่อนายทุน (ตราบใดที่มันยังทำเงินอยู่)…
แต่ในแง่ร้าย…จากนี้ เราอาจจะได้ยินปัญหาระหว่างการสร้างหนังของ Marvel กันบ่อยครั้งมากขึ้น…เนื่องด้วยอำนาจในการตัดสินใจนั้น อยู่ในมือของ Kevin Feige อย่างเต็มที่…และอาจจะมีเหตุการณ์แบบ Ant-Man เกิดขึ้นอีกครั้ง (หรือหลายครั้ง) ก็เป็นได้…
เครดิต Chalermchai Chaichana
http://www.senseonfilms.com/
https://www.facebook.com/SenseOnFilms
ย้ายขั้ว!! Marvel Studios ถูกย้ายให้มาขึ้นตรงกับ Walt Disney Studios แล้ว…หลังหัวเรือใหญ่แอบกิน “หมี่เหลือง” มานาน!!
แต่เบื้องหลังของความสำเร็จนี้…น้อยคนนักที่จะรู้ว่า มีปัญหาขัดแย้งกันภายใน โดยเฉพาะ หัวเรือใหญ่ ที่มีอำนาจในการตัดสินใจต่างๆ…จนกระทั่งมาถึงวันนี้ และ ข่าวนี้นะครับ…
เรามาย้อนถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเหล่านี้กันก่อนนะครับ…โดยเฉพาะ 2 ตัวละครหลักอย่าง Kevin Feige หรือ “ท่านประธาน” แห่ง Marvel Studios กับ Isaac Perlmutter ผู้ที่ดำรงตำแหน่ง “โคตรประธาน” แห่ง Marvel Entertainment…
Isaac Perlmutter นั้นเป็นเจ้าของร่วมแห่งบริษัทของเล่น ToyBiz ร่วมกันกับ Avi Arad…ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้มีส่วนร่วมในการล้มละลายของ Marvel ในปี 1996…และได้ช่วยกอบกู้สถานการณ์ล้มละลายของ Marvel เอาไว้ในปี 1998 นะครับ…
ส่วน Kevin Feige นั้นได้มาเริ่มงานกับ Marvel เป็นครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง X-Men (2000) ในฐานะ associate producer…และด้วยความรู้ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับ Marvel ของเขา…เลยเป็นที่ถูกใจของ Avi Arad และถูกชักชวนให้เข้ามาทำงานใน Marvel ในปีนั้น…
หลังจากที่ Marvel เริ่มมองเห็นลู่ทางของการสร้างภาพยนตร์ superhero จึงค่อยๆดำเนินการไล่ตามเก็บลิขสิทธื์ฮีโร่ทั้งหลายให้กลับมาอยู่ในมือของตัวเอง…รวมทั้งเดินหน้างานด้าน production กันเต็มตัว…ซึ่งในปี 2007 นั้น Kevin Feige ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ประธานฝ่ายงาน production ของ Marvel Studios มาจนถึงทุกวันนี้…
และหลังจากที่ Marvel Studios ได้สร้างหนังออกมาเอง และเป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ชมทั่วโลกนั้น…ทำให้ขาใหญ่อย่าง Disney อยู่เฉยไม่ได้…กำเงินมาซื้อ Marvel ไปดูแลเล่นๆในปี 2009 ด้วยมูลค่า 4 พันล้านเหรียญ…โดยที่การบริหารจัดการต่างๆนั้น Disney ก็ยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิม…ไม่ได้ลงมายุ่งวุ่นวายกับการทำงานของ Marvel เท่าไหร่นัก…
แล้วปัญหามันเกิดขึ้นจากอะไรล่ะ?
คราวนี้ก็ไม่ต้องไปมองกันไกลครับ…ท่านประธาน Kevin Feige นั่นแหละครับ!!
แม้ว่าเขาจะร่วมงานกับ Isaac Perlmutter มานาน และดูเผินๆแล้ว เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากก็ตาม…แต่รอยร้าวที่เกิดขึ้นเล็กๆในใจของเขาก็คือ…ด้วยตำแหน่งและหน้าที่นั้น เรียกได้ว่า Kevin Feige เป็นหัวใจ และ มันสมองหลักของ Marvel Cinematic Universe เลยก็ว่าได้…
แต่ทุกความคิดและไอเดียของเขา ก็ต้องส่งต่อไปให้ Isaac Perlmutter ผู้ที่ “ใหญ่กว่า” พิจารณา และ เห็นชอบด้วยเสียก่อน จึงจะยิงเรื่องไปยัง “เจ้าของเงิน” อย่าง Disney…และก็มีหลายต่อหลายครั้งที่ความคิดของ Isaac Perlmutter นั้นไม่ตรงกับเขา…
ไม่รู้ว่าเป็นที่ช่วงอายุที่ห่างกันมากของทั้ง 2 คนนี้ (Kevin Feige 42 ปี, Isaac Perlmutter 72 ปี) หรือเปล่านะครับที่ทำให้ความเห็นไม่ค่อยจะลงรอยกันบ่อย…หรืออาจจะเป็นที่ อีโก้ ส่วนตัวของใครสักคน…
แน่นอนครับว่า Kevin Feige ไม่ค่อยจะพอใจนัก เลยมีการนำเอาเรื่องนี้ไปบ่นกับ Alan Horn ประธานแห่ง Walt Disney Studios และ Bob Iger ผู้เป็น CEO ของ Disney…ซึ่งมีการจำกัดความของปัญหานี้ (ซึ่งน่าจะมาจากปากของ Kevin Feige เอง) ว่า “ช่วงเวลาหลายปีแห่งความผิดหวัง”…
และเมื่อทาง Disney มองเห็นถึงปัญหาภายในของ Marvel เช่นนี้…ก็เลยต้องมีการแก้ไขปัญหา และก็ตามสไตล์นายทุนนะครับ…ใครที่ทำเงินให้มากกว่า ก็โดนถือหางกันไป…
ล่าสุดครับ!! Disney ได้ประกาศปรับโครงสร้างภายในองค์กรครั้งล่าสุด…โดยที่แยก Marvel Studios ออกมาจากการดูแลของ Marvel Entertainment และย้ายไปอยู่ภายใต้การดูแลของ Walt Disney Studios แทนนะครับ!!
โดยการแยกออกมามาเช่นนี้ จะเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับ Pixar Animation Studios และ Lucasfilm ที่ถูกแยกออกมาดูแลในส่วนของภาพยนตร์โดย Walt Disney Studios เช่นกัน…และการบริหารงานในส่วนของภาพยนตร์นี้ ทาง Kevin Feige จะได้ส่งเรื่องขึ้นตรงไปยัง Disney ผ่านทาง Alan Horn ได้เลย โดยที่ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับทาง Isaac Perlmutter อีกต่อไป…
ซึ่งทาง Isaac Perlmutter ก็จะยังคงดูแลในส่วนของ Marvel’s TV, สื่อสิ่งพิมพ์ และ กิจกรรมอื่นๆของทาง Marvel Studios ต่อไป…
การปรับโครงสร้างเช่นนี้ เป็นอะไรที่น่าจับตามองกันพอสมควรนะครับ…ทั้งในแง่ดี และ แง่ร้าย…แง่ดีก็คือ Kevin Feige จะสามารถนำเสนอไอเดียต่างๆที่เขาคิดเอาไว้สำหรับ Marvel Cinematic Universe กันได้อย่างเต็มที่ และ ไม่น่าจะมีปัญหาต่อนายทุน (ตราบใดที่มันยังทำเงินอยู่)…
แต่ในแง่ร้าย…จากนี้ เราอาจจะได้ยินปัญหาระหว่างการสร้างหนังของ Marvel กันบ่อยครั้งมากขึ้น…เนื่องด้วยอำนาจในการตัดสินใจนั้น อยู่ในมือของ Kevin Feige อย่างเต็มที่…และอาจจะมีเหตุการณ์แบบ Ant-Man เกิดขึ้นอีกครั้ง (หรือหลายครั้ง) ก็เป็นได้…
เครดิต Chalermchai Chaichana http://www.senseonfilms.com/
https://www.facebook.com/SenseOnFilms