ภาวะสมองเสื่อมจากการติดเชื้อ HIV

1. ภาวะสมองเสื่อมฯ คืออะไร?
ภาวะสมองเสื่อมฯ คือ ภาวะที่สมองเสื่อมที่พบในผู้ป่วยเอชไอวี โดยเกิดจากเชื้อเอชไอวีทำลายสมองโดยตรง
ข้อมูลในประเทศสหรัฐอเมริกา พบภาวะนี้ได้ 15% ของผู้ป่วยเอชไอวีทั้งหมด โดยพบบ่อยในผู้ป่วยเอชไอวีที่มีเม็ดเลือดขาวชนิดซีดี 4 (CD4) ต่ำ มีภาวะซีด ผอม อายุมาก ผู้หญิง ผู้ ใช้ยาฉีดเข้าหลอดเลือด และในผู้มีปริมาณเชื้อเอชไอวีจำนวนมากในร่างกาย
ภาวะสมองเสื่อมฯนี้เกิดจากเซลล์แมคโคฟาสต์ (Macrophage/เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง) บริเวณรอบๆหลอดเลือดมีการติดเชื้อเอชไอวี และมีการสร้างท็อกซิน/สารพิษ (Toxin) และสารเคมีที่เกิดจากกระบวนการอักเสบหลายชนิด ส่งผลให้เนื้อสมองมีการถูกทำลายทั่วไปทั้งสมอง ทำให้เนื้อสมองมีการเหี่ยวทั่วๆไป โดยเฉพาะเนื้อสมองส่วนที่เรียกว่าสมองเนื้อขาว (White matter) มีการบวม และถูกทำลายทั่วๆไป

2. ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมฯมีอาการอย่างไร?
ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมฯจะมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ในเวลาหลายๆเดือน โดยมีความจำ พฤติกรรม การเรียนรู้ และการเคลื่อนไหวผิดปกติ ระยะแรกๆจะเสียด้านความจำตอบ สนองต่อสิ่งต่างๆช้าลง อ่านหนังสือได้ช้า ความเข้าใจสมเหตุสมผลน้อยลง เฉยเมย ต่อมามีการเดินผิดปกติ สั่น ทำกิจกรรมที่มีรายละเอียดไม่ได้ ตรวจพบรีเฟล็กซ์มีความผิดปกติ สูญเสียความสามารถในด้านต่างๆ และอาจพบร่วมกับความผิดปกติของไขสันหลัง/ไขสันหลังเสื่อม และ/หรือ เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม

3. เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?
ผู้ป่วยควรพบแพทย์เมื่อมีอาการทางสมองที่ผิดปกติติดต่อกันหลายๆวัน โดยอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

4. แพทย์วินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมฯนี้ได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมฯนี้ได้จาก ประวัติติดเชื้อเอชไอวี อาการผิดปกติดังกล่าวข้างต้นในหัวข้อ อาการ การตรวจร่างกาย การตรวจทางระบบประสาท (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง วิธีตรวจวินิจฉัยโรคระบบประสาทตอน 1 และ บทความเรื่อง วิธีตรวจวินิจฉัยโรคระบบประสาทตอน 2) ร่วมกับ การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเอมอาร์ไอสมอง และการตรวจน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (CSF) ในกรณีมีไข้ร่วมด้วย เพื่อดูว่ามีภา วะติดเชื้อในสมองร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากในผู้ป่วยบางราย มีภาวะติดเชื้อราหรือเชื้อวัณโรค ในสมองที่อาจ ทำให้มีอาการคล้ายกันได้

5. ภาวะสมองเสื่อมฯนี้รักษาอย่างไร?
การรักษาหลัก คือ การให้ยาต้านไวรัส เพื่อลดจำนวนเชื้อเอชไอวี และเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดซีดี 4 ให้สูงขึ้น นอกจากนี้ยังมียาอื่นๆอีกหลายชนิดที่อยู่ระหว่างการศึกษา เช่น ยาต้านแคลเซียม แอนติออกซิแดนท์/Antioxidant (ยาในกลุ่มเป็นสารต้านอนุมูลอิสสระ) เป็นต้น

6. ภาวะสมองเสื่อมฯก่อผลข้างเคียงอย่างไร?
ผู้ป่วยสมองเสื่อมฯจะสูญเสียความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ แม้กระทั่งกิจวัตรประ จำวัน การอาบน้ำ แต่งตัว การขับถ่าย จึงส่งผลให้ผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลได้รับผลกระทบ ญาติต้องให้การช่วยเหลือในทุกๆกิจกรรม และอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่ายขึ้น เพราะการดูแลสุขภาวะต่างๆไม่ดี และการทานยาต่างๆที่แพทย์แนะนำ ก็มักทานได้ไม่สม่ำเสมอ

7. ภาวะสมองเสื่อมฯมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
ผู้ป่วยสมองเสื่อมมักมีการพยากรณ์ที่ไม่ดี เป็นภาวะที่รักษาไม่หาย และภาวะสมองเสื่อมฯมักเกิดในระยะสุดท้ายของโรคเอดส์/เอชไอวี ผู้ป่วยจึงมีอายุต่อได้อีกไม่นาน เพียงไม่กี่เดือน การรักษาจึงเป็นเพียงแค่ชะลอการดำเนินโรค

8. ผู้ป่วยควรดูแลตนเองอย่างไรเมื่อมีสมองเสื่อมฯ?
ผู้ป่วยสมองเสื่อมฯควรทานยาให้ครบ พบแพทย์ตามนัด ดูแลตนเองให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ หยุดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ และถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ไข้ ซึม ชัก มองไม่ชัด /ตามัว แขนขาอ่อนแรง ปวดขามาก ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล

9. ภาวะสมองเสื่อมฯป้องกันได้หรือไม่?
ภาวะสมองเสื่อมฯนี้ป้องกันได้ โดยการได้รับยาต้านไวรัสเมื่อมีข้อบ่งชี้ คือ เม็ดเลือดขาวชนิดซีดี 4 ต่ำกว่า 350 ตัวต่อซีซี (c.c/cubic centimeter)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก haamor.com

Report : LIV Capsule
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่