เวียดนาม เวียดนาม เวียดนาม

เมื่อถึงคราวที่จะไปเยือนประเทศนี้
ไปดูตึกสวยๆ ดูเมืองงามๆ วิถีชีวิตของผู้คน การจราจรที่คึกคึก ที่ โฮจิมินท์
อยากไปสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี พร้อมกับตึกสวยๆท่ามกลางหุบเขา ที่ดาลัท
และที่พลาดไม่ได้ทะเลทรายขาว ทะเลทรายแดง เมืองติดทะเล ที่ มุยเน่ ฟานเทียต

เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม เตรียมแพ็กกระเป๋า แบกเป้ไปลุยกันเลย
ละละละละล่ะ
แล้วที่พักของเราจะเป็นแบบไหนน้า ไปหาข้างหน้า หรือจองไว้ก่อนดี
ทริปนี้เราได้เจอที่พักแบบใหม่ ชื่อว่า Airbnb
ที่มีทั้งเจ้าของบ้านเปิดให้แขกมาพักร่วมอยู่ด้วยกัน หรือใครมีห้องว่างก็เปิดให้แขกมาพักได้
บางที่ดูเก๋ไก๋ บางที่ดูทันสมัย บางที่ได้สัมผัสชิดใกล้กับธรรมชาติ
มันเป็นอะไรที่ดูแปลกใหม่และน่าสนุกดี แถมเรายังสามารถติดต่อกับเจ้าของที่พักเองได้โดยตรง
สามารถพูดคุย หรือวางแผนทริปเที่ยวร่วมกันได้
เข้าไปดูได้ที่นี่นะฮ่ะ
www.airbnb.com

ไหนๆก็น่าสนใจซะขนาดนี้ เวียดนามครั้งนี้ลองมาพักที่พักแบบ Airbnb นี้บ้างเน้อ
ปล.ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเราจ่ายกันเอง ไม่มีส่วนได้เสียใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่เห็นว่าน่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์


เมืองแรกที่ไปนอนกัน คือ ดาลัท เมืองแห่งความโรแมนติก ที่หนาวเย็นทั้งปี
เมืองนี้เราเลือกพักกับ  "Cam ly Homestay"
มีที่พักแบบ private room และ dorm


ที่นี่เลือกนอนแบบ Dorm เผื่อจะได้นอนคุยกัน นอนด้วยกันหลายคนน่าสนุกดี
ราคาต่อคนก็ไม่แพงด้วย เป็นเงินไทยประมาณ 180 บาทต่อคนได้
แถมเจ้าของยังใจดี บริการ เทคแคร์พวกเราเป็นอย่างดี
เราไปถึงที่พักเช้าตรู่เลย 5.30 น.
อ่อ ก่อนที่เราจะไปได้ส่งข้อความไปถามก่อนว่าจะเดินทางไปที่พักได้อย่างไร
Tri ซึ่งเป็นเจ้าของที่พักบอกว่าจะมีรถไปส่งถึงที่พักเลยจากนั้นให้คนขับรถโทรไปหาแล้วเค้าจะมาเปิดประตูให้ จากเวลานั้นเค้ายังคงไม่เปิดบ้านเพราะเช้ามาก
พอพวกเราไปถึง Tri ก็มาเปิดประตูและพาเราไปยังที่นอน และให้นอนพักก่อนหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที

ที่นอนอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน เตียงที่นี่นุ่มมาก หลับสบายกันเลย


Tri ยังมีบริการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ จองตั๋วไปที่อื่นๆ หรือทัวร์ทที่ดาลัทอีก
เราได้เลือกใช้บริการเช่ามอเตอร์ และจองตั๋วจากที่นี่เลย สะดวกดี

มุมที่เคาเตอร์

ถ่ายจากหน้าเคาเตอร์


ชั้นข้างล่างยังเปิดเป็นบาร์ นั่งชิลกันได้อีก

เมืองสวยในหุบเขา ที่พักบริการดี นอนอุ่นสบาย รู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลย

----------------------------------------

คืนที่สอง เราไปนอนกันที่ "ฟานเทียต มุยเน่"
เมืองที่มีน้ำทะเล และทะเลทรายอันกว้างใหญ่
แน่นอน ต้องเลือกนอนที่มีอะไรนิดนึง
แล้วตกลงปลงใจกับที่นี่  "Papaya - Guest House & leisure "
มีห้องพักแค่ 7 ห้อง พร้อมทั้งมียิมให้เล่นด้วย
ที่นี่อยู่ใกล้ทะเลเพียงแค่ข้ามถนนไปเท่านั้น ใกล้แหล่งบันเทิง  ใกล้ย่านของกินที่มีร้านอาหารทะเลเรียงรายกันไปหมด


ราคาห้องเป็นเงินไทย ประมาณ 590 บาท ราคานี้ไม่แพงเลย ขนาดห้องนี่กว้างมาก มีทีวี ตู้เย็น มีพัดลม และแอร์


ยังมีโปรเจคเตอร์ขนาดเท่าฉายหนังกลางแปลง ให้เราเอาหนังมาเปิดดู หรือจะดูภาพที่ไปถ่ายกันมาก็ได้
หรือจะทำบาบีคิว เขาจะคอยช่วยเหลือและบริการเราทุกอย่าง


Svetlana เจ้าของฮ่ะ พร้อมลูกน้อยน่ารัก เธอเอาใจใส่ คอยช่วยเหลือเรื่องการเดินทาง การจองทริปทัวร์
ก่อนที่พวกเราจะไปถึงเเธอบอกว่า "ถ้าไปถึงแล้วไม่เจอเธอ ให้เข้าห้องได้เลย เปิดประตูเข้าไปนะ มีกุญแจวางอยู่ที่บนโต๊ะ" ช่างน่ารักจริงๆ


มุยเน่ นอกจากมีทะเลทราย ที่เป็นที่ปลาบปลื้มชื่นใจแล้ว ยังมีที่พักนี่แหละ นอนอุ่น หลับสบายเช่นเคย


---------------------------------------------------
คืนที่สามนี้ เข้าไปนอนกันที่เมืองหลวง โฮจิมินท์ ซิตี้ กันเลย
เป็นเมืองหลวงแบบนี้ ที่พักคงมีหลากหลายขนาดและราคา แล้วสำหรับเราละ จะเลือกนอนแบบไหนดี
เลือกไปมาสะดุดตาและราคากับที่นี่ ที่พักสุดชิค
"The Common Room Project"
มีทั้งที่พักแบบ private room และ dorm เช่นกัน
ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปหน้าประตู นี่ร้องอู้หูวเลย chic &cool  
สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปมีมุมน่ารักๆให้ถ่ายรูปทุกมุมของที่นี่เลย
แถมยังมีเจ้าของที่คอยดูแล พูดจาไพเราะ และบริการที่ดีๆ


เราเลือกที่พักแบบ `Dorm `อีกเช่นกัน เป็นเตียงสองชั้น ราคาคืนละ ประมาณ 590 บาท/คน
ขนาดห้องนี่กว้าง มีห้องน้ำ มีห้องครัว มีปลั๊กไฟให้ใช้สะดวกเลย



ชั้นข้างบนยังเป็นบาร์ นั่งชิลเอ้าท์ และสามารถดูพระอาทิตย์ตก หรือนอนดูแสงพระจันทร์ตอนกลางคืนได้เลย




น่านอนไหม ที่พักนี่ตั้งอยู่ย่านฟางงูเหลานะ เป็นแหล่งย่านท่องเที่ยวเลย เดินทางสะดวกสบาย


รวมๆแล้วราคาที่พักทั้งสามคืนกับ Airbnb ในเวียดนาม  ไม่ถึงหนึ่งพันบาท
เก็บเงินไว้ใช้ค่ากิน ค่าเดินทางได้สบายเลย
ได้ที่พักนอนสบาย เตียงนุ่มๆ เจ้าของเป็นกันเองใจดี  และ cool cool