สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ขอบคุณที่รับฟังคำติชมเพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาค่ะ คนบ่นอย่างน้อยก็คือคนดูนะ คนไม่ดูเลิกบ่นไปแล้ว
เรื่องจัดรักฯ เหมือนค่ายจับจุดผิดจริงๆนะ ที่บอกพยายามจะทำเป็น modern (ตอนแรกเริ่มโปรเจคท์เรายังคิดไปไกล นึกว่าจะแนวๆซีรียส์ฝรั่งไปเลยในเรื่องของบท การถ่ายทำ การดีไซน์ฉากต่างๆ) แต่เท่าที่ดูเนี่ย ความ modern มันไปกองอยู่แค่ Love scene กับการเสนอในมุมแรงๆเท่านั้นเอง (อ้ะ ลืมไป อย่างน้อยยังมีส่วนดีหน่อย ความใหม่อีกอย่างคือการกำกับบางฉากให้ดูเล่นเป็นธรรมชาติ ฉากพระนางจะเห็นชัดหน่อย คือเหมือนปล่อยให้เล่นแบบฟรีๆมากกว่ากำกับให้เป็นละคร อันนี้ไอเดียดี แต่ผกก.ดันคุมจังหวะไม่ดี บางทีเลยดูล้นนักแสดงเป็นตัวเองเกินจนดูแปลกๆ ถ้าคุมจังหวะให้ดีกว่านี้หน่อยน่าจะออกมาเข้าท่ากว่า เราไม่โทษนักแสดงนะเรื่องนี้ เพราะเพิ่งเห็นสัมภาษณ์นักแสดงบอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอาช่วงนั้นตัดมาออกอากาศ เพราะฉะนั้น ผกก.และคนตัดต่อรับไปเต็มๆเลยค่ะ)
กลับมาต่อ คือถ้าตอนแรกจะบอกว่าตั้งเป้าความ modern ไว้ในเรื่อง Love scene กับการเสนอในมุมแรงๆ อย่างที่ว่านี้เป็นไม้เด็ดเรียกความฮือฮา ส่วนตัวมองว่ามันอาจจะผิดตั้งแต่โจทย์ที่ตั้งแล้วนะ อย่างแรกเลย ยุคนี้ละครซีรียส์ที่มีเนื้อหานำสมัยมีเยอะนะ (สงสัย Exact หลังๆไม่ค่อยได้ดูงานช่องอื่นแน่ๆเลยๆคิดว่านี่คือแหวกแล้ว) มันอาจจะใหม่เข้ากับยุคสมัย แต่ไม่ได้ใหม่เอี่ยมชวนให้น่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น เอาแค่ซีรียส์ของ Workpoint กับ Club Friday ก็สู้ไม่ได้แล้วเนี่ยในแง่เนื้อหาที่ต้องการจะสะท้อน ช่องใหญ่ๆก็มีละครแนวนี้กันเยอะแล้ว (มันไม่เหมือน 10 ปีที่แล้วที่ช่องอื่นทำละครแนวเดิมๆ ในขณะที่ Exact กล้าทำละครที่เนื้อหาลักษณะนี้ มันเปลี่ยนหมดแล้ว) อีกอย่างนึงคือเรื่อง Love scene อย่างที่บอก ความ modern ที่ว่ามันเหมือนจะมีแค่การเล่นจริงจูบจริงจะให้เหมือนฝั่งเกาหลีหรือฝรั่งเท่านั้นเองนะ แต่ในขณะเดียวกันความน้ำเน่าหรือฉากซ้ำซากเดิมๆสไตล์ละครไทยยังปรากฏอยู่เต็มไปหมดเลย เช่น ฉากพระนางล้มทับกัน, ฉากพระนางจ้องตา, ความบังเอิญต่างๆในละคร, ตัวละครที่แสนดีสุดขั้ว ชั่วสุดขีด ไร้มิติ หรือมิติไม่ลึกพอ (ถ้าคิดว่าตัวละครอย่างแพตคือมีมิติแล้ว ขอบอกว่าคิดใหม่เถอะค่ะ แบนมากๆเลย เหมือนตัวละครที่ไม่ดีแต่กลับใจมากกว่าจะมีมิตินะเราว่า) ฯลฯ บางฉากนี่เรายังสงสัยว่ากล้าปล่อยออกมาได้ไง มันเชยและโบราณมาก มันออกจะขัดกันเองกับความ modern ที่ว่าๆออก เราเลยค่อนข้างงงทิศทางของละครเรื่องนี้ว่าตั้งใจจะนำเสนออะไรกันแน่ที่ว่าเป็นความแปลกใหม่
เรื่องจัดรักฯ เหมือนค่ายจับจุดผิดจริงๆนะ ที่บอกพยายามจะทำเป็น modern (ตอนแรกเริ่มโปรเจคท์เรายังคิดไปไกล นึกว่าจะแนวๆซีรียส์ฝรั่งไปเลยในเรื่องของบท การถ่ายทำ การดีไซน์ฉากต่างๆ) แต่เท่าที่ดูเนี่ย ความ modern มันไปกองอยู่แค่ Love scene กับการเสนอในมุมแรงๆเท่านั้นเอง (อ้ะ ลืมไป อย่างน้อยยังมีส่วนดีหน่อย ความใหม่อีกอย่างคือการกำกับบางฉากให้ดูเล่นเป็นธรรมชาติ ฉากพระนางจะเห็นชัดหน่อย คือเหมือนปล่อยให้เล่นแบบฟรีๆมากกว่ากำกับให้เป็นละคร อันนี้ไอเดียดี แต่ผกก.ดันคุมจังหวะไม่ดี บางทีเลยดูล้นนักแสดงเป็นตัวเองเกินจนดูแปลกๆ ถ้าคุมจังหวะให้ดีกว่านี้หน่อยน่าจะออกมาเข้าท่ากว่า เราไม่โทษนักแสดงนะเรื่องนี้ เพราะเพิ่งเห็นสัมภาษณ์นักแสดงบอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอาช่วงนั้นตัดมาออกอากาศ เพราะฉะนั้น ผกก.และคนตัดต่อรับไปเต็มๆเลยค่ะ)
กลับมาต่อ คือถ้าตอนแรกจะบอกว่าตั้งเป้าความ modern ไว้ในเรื่อง Love scene กับการเสนอในมุมแรงๆ อย่างที่ว่านี้เป็นไม้เด็ดเรียกความฮือฮา ส่วนตัวมองว่ามันอาจจะผิดตั้งแต่โจทย์ที่ตั้งแล้วนะ อย่างแรกเลย ยุคนี้ละครซีรียส์ที่มีเนื้อหานำสมัยมีเยอะนะ (สงสัย Exact หลังๆไม่ค่อยได้ดูงานช่องอื่นแน่ๆเลยๆคิดว่านี่คือแหวกแล้ว) มันอาจจะใหม่เข้ากับยุคสมัย แต่ไม่ได้ใหม่เอี่ยมชวนให้น่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น เอาแค่ซีรียส์ของ Workpoint กับ Club Friday ก็สู้ไม่ได้แล้วเนี่ยในแง่เนื้อหาที่ต้องการจะสะท้อน ช่องใหญ่ๆก็มีละครแนวนี้กันเยอะแล้ว (มันไม่เหมือน 10 ปีที่แล้วที่ช่องอื่นทำละครแนวเดิมๆ ในขณะที่ Exact กล้าทำละครที่เนื้อหาลักษณะนี้ มันเปลี่ยนหมดแล้ว) อีกอย่างนึงคือเรื่อง Love scene อย่างที่บอก ความ modern ที่ว่ามันเหมือนจะมีแค่การเล่นจริงจูบจริงจะให้เหมือนฝั่งเกาหลีหรือฝรั่งเท่านั้นเองนะ แต่ในขณะเดียวกันความน้ำเน่าหรือฉากซ้ำซากเดิมๆสไตล์ละครไทยยังปรากฏอยู่เต็มไปหมดเลย เช่น ฉากพระนางล้มทับกัน, ฉากพระนางจ้องตา, ความบังเอิญต่างๆในละคร, ตัวละครที่แสนดีสุดขั้ว ชั่วสุดขีด ไร้มิติ หรือมิติไม่ลึกพอ (ถ้าคิดว่าตัวละครอย่างแพตคือมีมิติแล้ว ขอบอกว่าคิดใหม่เถอะค่ะ แบนมากๆเลย เหมือนตัวละครที่ไม่ดีแต่กลับใจมากกว่าจะมีมิตินะเราว่า) ฯลฯ บางฉากนี่เรายังสงสัยว่ากล้าปล่อยออกมาได้ไง มันเชยและโบราณมาก มันออกจะขัดกันเองกับความ modern ที่ว่าๆออก เราเลยค่อนข้างงงทิศทางของละครเรื่องนี้ว่าตั้งใจจะนำเสนออะไรกันแน่ที่ว่าเป็นความแปลกใหม่
ความคิดเห็นที่ 5
ดูจากแฟนๆ บี้ กับหนูนา ก็น่าจะรู้แล้วนะว่าคนที่จะรอดูเรื่องนี้เป็นกลุ่มไหน
เค้าคงไม่ปลื้มเลิฟซีน บี้-แป้ง / แป้ง-ณัฐเทพ หรอก
กลุ่มที่ชอบดูเลิฟซีนหนักๆ แบบแป้ง ณัฐเทพ มันก็มี
แต่ไม่ใช่กลุ่มแฟนบี้หนูนา ที่รอคอยคู่นี้แน่ๆ
เลยงงว่าพี่บอยแกคิดไงถึงเอามารวมกัน เขียนบทเอง กำกับเองซะด้วย ใครจะยั้งแกได้ล่ะเนี่ย 555
จะทำโรแมนติกคอมมาดี้ ตลกเอิ๊กอ๊ากแบบซิทคอม แต่ดันยัดเรท R แย่งผัว เข้ามาด้วย
คนดูแต่ล่ะกลุ่มคงมึนน่าดู เวลาดูในยูทูปก็กดข้ามเอา
มันควรจะเป็นแบบนั้นมั้ยล่ะเนี่ย
เค้าคงไม่ปลื้มเลิฟซีน บี้-แป้ง / แป้ง-ณัฐเทพ หรอก
กลุ่มที่ชอบดูเลิฟซีนหนักๆ แบบแป้ง ณัฐเทพ มันก็มี
แต่ไม่ใช่กลุ่มแฟนบี้หนูนา ที่รอคอยคู่นี้แน่ๆ
เลยงงว่าพี่บอยแกคิดไงถึงเอามารวมกัน เขียนบทเอง กำกับเองซะด้วย ใครจะยั้งแกได้ล่ะเนี่ย 555
จะทำโรแมนติกคอมมาดี้ ตลกเอิ๊กอ๊ากแบบซิทคอม แต่ดันยัดเรท R แย่งผัว เข้ามาด้วย
คนดูแต่ล่ะกลุ่มคงมึนน่าดู เวลาดูในยูทูปก็กดข้ามเอา
มันควรจะเป็นแบบนั้นมั้ยล่ะเนี่ย
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
one HD (GMM)
ละครโทรทัศน์
จัดรัก วิวาห์ลวง (ละคร)
สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว (บี้ The Star 3)
หนึ่งธิดา โสภณ (หนูนา)
‘ป้อน’ น้อมรับพร้อมพัฒนา ‘จัดรัก’ โดนจวกเลิฟซีนหนัก
มีกระแสวิจารณ์ละครเรื่อง “จัดรัก” ของผู้จัด “เจี๊ยบ” โสภิตนภา ชุ่มภาณี ว่า มีฉากเลิฟซีน “จูบ” กันทั้งเรื่อง และอาจไม่สมเหตุ ล่าสุด มีโอกาสเจอตัว “ป้อน” นิพนธ์ ผิวเณร ผู้บริหาร ค่าย “เอ็กแซ็กท์” ในงานบวงสรวงละครเรื่อง “จุดนัดฝัน” สอบถามได้ความดังนี้
"เวลาทำละครต้องเข้าใจว่า บางเรื่องโดน บางเรื่องไม่โดน บางเรื่องตำหนิ บางเรื่องชม พอทำละครเราต้องน้อมรับคำติชม เพราะเราทำให้คนดู ไม่มีประโยชน์ที่เราจะไปนั่งแก้ตัว ไม่ใช่ว่าทำละครแล้วห้ามมาวิจารณ์ และไม่ใช่ว่าเราทำละคร แล้วจะเป็นอย่างที่ตั้งใจทุกเรื่อง (คนดูรู้สึกเลิฟซีนไม่สอดคล้องกับเรื่อง) น้อมรับ ในเมื่อเราเป็นสื่อ ทุกคอมเม้นท์เราต้องน้อมรับ เราเถียงไม่ได้ อะไรใช่ เราขอบคุณ เพื่อไปปรับปรุง เราอาจจะคิดผิดไป อาจไม่ได้มองในบางจุด เป็นเรื่องธรรมดาของกระบวนการเรียนรู้ (ผู้ใหญ่ที่ดูไม่ค่อยชอบ) นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่ง ตอนนี้เราทำละคร เราต้องดูว่าจะเอาสัดส่วนคนดูแบบไหนเป็นหลัก เดิมเราอาจจะคิดว่า ทำแบบโมเดิร์นไปเลย แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา แสดงว่าคนที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ก็มีพอๆ กัน พอมีเสียงติชม เราต้องยอมรับ เพราะฟรีทีวีคือแมส เราไม่ได้เป็นเพลย์ทีวีแล้ว
เมื่อถามว่า ต้องลดเลิฟซีนลงมั้ย มันมีหลายมิติ ต้องดูว่าเราควรจะเริ่มต้นงานแบบไหนมากกว่า แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว ล้วนเป็นเรื่องที่ดี (หง่าว “ยุทธนา มุกดาสนิท” เจ้าของบทประพันธ์ บัลลังก์เมฆ บอกขยายบทจนเรื่องต่างไป) พี่หง่าวเป็นอาจารย์ผม และอยู่เอ็กแซ็กท์มาก่อน พี่หง่าวแกเป็นคนตรง แต่ต้องเข้าใจว่า เมื่อทำงานชิ้นหนึ่งอยู่ที่การตีความของคนทำใหม่ ถ้าคนทำใหม่เลือกจะตีความต่างออกไป ก็ต้องขึ้นอยู่ที่ว่าเขาทำสิ่งนั้นสำเร็จหรือไม่ (บอกค่อนข้างไม่มีรสนิยม) รสนิยมเป็นเรื่องส่วนบุคคล พี่หง่าวเป็นอาจารย์ที่ทุกคนรัก เรารักกัน เพียงแต่พี่หง่าวรักบทประพันธ์นี้มาก แต่คนเขียนและคนทำ อาจจะมีมุมมองต่างไป (ได้คุยกับหง่าวมั้ย) สันต์ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับ) เป็นคนคุย ผมเป็นลูกศิษย์พี่หง่าว สันต์ก็เป็นลูกศิษย์พี่หง่าว เหมือนอาจารย์ด่าลูกศิษย์ ไม่มีอะไรหรอก เราน้อมรับทุกคำติชมอยู่แล้ว" ป้อน กล่าว
เมื่อถามต่อถึงละครเรื่อง “จุดนัดฝัน” ว่าทำไมถึงหยิบเรื่องนี้มาทำใหม่อีกครั้ง ผู้บริหารชื่อดังให้คำตอบว่า เพราะเป็นละคร สร้างแรงบันดาลใจ
“เรื่องนี้ผ่านมา 16 ปีแล้ว ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้นดังมาก เพราะเป็นละครที่โมเดิร์นของเด็กมหาวิทยาลัยเพิ่งเรียนจบใหม่ และต้องทำงาน เป็นเรื่องร่วมสมัย ให้กำลังใจ คนที่มีความฝัน บางคนฝันแล้วไม่ทำ บางคนฝันแล้วกลัว บางคนฝันผิดทิศ (ทำเรื่องนี้ในยุคที่คนชอบละครแซบ) เราต้องมีละครให้สังคมบ้าง ไม่ใช่ว่าพอเป็นช่องของเรา แล้วจะมาทำแค่ละครแซบ เรื่องนี้ไม่ใช่การรีเมก แต่เป็นละครสร้างแรงบันดาลใจ” ป้อน กล่าวทิ้งท้าย