หายไป 3 อาทิตย์ กลับมาตอนนี้ก็ยังเรื่อยๆอยู่ แถมคุยเกือบทั้งตอนเลย (แต่ก็มีช็อตเด็ดๆนะ)
ต่อจากตอนที่แล้ว มัจฉาขอให้วิริยาพาเจ้าเป็ดมาที่บ้านวิริยาด้วย และด้วยเหตุนี้ในตอนนี้ 2 สาว 1 หนุ่ม กำลังนั่งอยู่ด้วยกันภายในรถของบ้านวิริยา โดยมีวิริยาและมัจฉานั่งประกบเจ้าเป็ดที่อยู่ตรงกลางเลยทีเดียว ทำเอาเจ้าเป็ดเขินจนแทบจะตัวแข็งไปแล้ว ส่วนเหตุผลที่เด็กทั้งสามคนต้องมานั่งหลังกันหมดในรถเก๋งแบบนี้นั้นก็เพราะตอนนี้มีลุงคนหนึ่งขอติดรถไปด้วยเลยนั่งหน้าไป
งานนี้วิริยาเลยถึงกับบ่น ทำไมต้องพาเจ้าเป็ดมาด้วยยึดมือถือมาเลยก็ได้ แน่นอนเจ้าเป็ดไม่ยอมเด็ดขาด อีกอย่างคือมัจฉาคิดว่าต้องคุยอีกหลายอย่างด้วย วิริยายังบ่นต่ออีกไม่เลิกว่าทำไมไม่ให้เจ้าเป็ดเกาะล้อรถไปเลย แคบก็แคบ เหม็นเหงื่ออีก เจ้าเป็ดก็เถียงแต่ในใจก็คิดเลยว่าตอนบ่ายไม่น่าเล่นบอลจนเหงื่อออกเลย มัจฉาบอกวิริยาเลิกบ่นสักทีทนนั่งๆไปเถอะ วิริยาคิดเลยว่าตัวเองพลาดเองด้วยที่จับให้เจ้าเป็ดนั่งกลาง น่าจะให้นั่งริมมากกว่า แต่เพราะรีบๆกลัวเพื่อนจะมาเห็นตอนขึ้นรถก็เลยลืมคิดไป เจ้าเป็ดที่ถึงจะนั่งกลางแต่ก็ประหม่าตลอด ยิ่งรู้สึกกดดันเหงื่อก็ยิ่งออกอีก
ไม่นานก็มาถึงบ้านวิริยา พอลงจากรถแม่วิริยาก็ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนเรื่องปกติที่คนเป็นแม่จะออกมาต้อนรับลูกและแขกเข้าบ้าน แต่วิริยาถึงกับสำลักทันทีที่เห็นแม่ของตัวเอง เหตุผลไม่ใช่อะไรอื่นเลยนั้นก็คือ... "ชุด" ชุดที่วรวรรณใส่ตอนนี้พูดได้เลยว่าผิดวัยสุดๆ ส่วนเจ้าเป็ดที่ยังไม่รู้ก็ถึงกับใบ้กินด้วยความงงมี "?" เต็มหัวไปหมดจนมัจฉายังพูดเลยว่า "งงอะดิ" แต่ลูกสาวแท้ๆเหงื่อตกไปแล้วหน้าซีดจนถามเลยว่าทำไมแม่ต้องใส่ชุดนี้ วรวรรณบอกแม่โตแล้วจะใส่ชุดอะไรก็ได้ วิริยาเลยพูดต่อว่าประเด็นมันคือเป็นชุดของเธอนะ ด้านมัจฉาก็คิดอย่างมีเหตุผลบอกดีออกนะ จะได้ไม่ต้องซื้อชุดใหม่อีกเป็นสิบๆปีเลย วิริยาเลยพูดเลยว่าจะไม่ให้เธอโตเลยรึไง และสุดท้ายความไม่ชอบใจของวิริยาก็หายไปหมดจากการที่หม่อมแม่อัญเชิญเค้กแสนอร่อยร้านโปรดมาให้ด้วย ทำเอาวิริยาถึงกับจ้องน้ำลายไหลเลยทีเดียวจนมัจฉายังคิดเลยว่าถูกล่อด้วยของกินได้ผลเสมอ ว่าแล้ววรวรรณก็บอกอย่ามัวคุยข้างนอกเลยพาทุกคนเข้าบ้าน(จับลากเจ้าเป็ดเข้าบ้าน)ทันที
ระหว่างที่กำลังกินเค้กแสนอร่อย(โดยเฉพาะวิริยาที่ฟินไปแล้ว) วรวรรณกับมัจฉาก็ขอดูรูปที่เจ้าเป็ดถ่ายรวบรวมไว้ (เจ้าเป็ดยังมึนๆอยู่ว่าวรวรรณเป็นแฝดวิริยารึเปล่า) พอวรวรรณดูรูปสังเกตการณ์ของเจ้าเป็ดแล้วก็บอกสังหรณ์ไม่ผิดเลยที่ออลสันส่งคนมาด้อมๆมองๆ มัจฉาถึงกับแปลกใจเพราะทั้งๆที่กลุ่มของตนไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์จบเกมอันดับต้นๆแท้ๆ แต่วรวรรณคิดว่าคงโดนจับตากันหมดในหมู่คนที่มีสิทธิ์จบเกมแล้วมากกว่า ยิ่งกลุ่มของมัจฉามีกานดาที่เข้าชิงคอสมิกแกรนด์แบทเทิลรอบสี่คนสุดท้ายอยู่ จ้างคนไม่กี่ตังค์มาจับตาย่อมไม่ลำบากอะไรอยู่แล้ว เพราะยังไงซะจุดประสงค์ของออลสันคือไม่ต้องการให้มีคนจบเกม แต่วรวรรณคิดว่าคงยังไม่เล่นแรงจนกว่าใครสักคนจะทำเสียแผน
เจ้าเป็ดเริ่มสงสัยเลยถามถ้าแล้วออลสันเห็นว่าพวกเขาทำอะไรขัดขวางจะลงมืออะไร วรวรรณบอกคนที่โดนเล็งก่อนก็คงเป็นกานดาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าเล่นงานกานดาไม่ได้ก็จะเปลี่ยนไปเล่นงานคนใกล้ชิดหรือคนในกลุ่มที่สนับสนุนแทน แต่ก็คิดว่าคงทำแค่ข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายนิดหน่อยไม่ให้เรื่องราวใหญ่โต หรือจะปั่นป่วนชีวิตประจำวันหน่อยเรื่องแค่นี้จ้างใครที่ไหนทำก็ได้ อย่างมากที่สุดหากจะจบเกมได้จริงๆหรือออลสันเข้าตาจนก็คงจะจับตัวไปกักขังไม่ให้เข้าเกมได้
เจ้าเป็ดฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อเพราะคิดว่านี้มันเป็นแค่เกมเอง แต่วรวรรณบอกนี่เรื่องใหญ่เลย บอกเจ้าเป็ดคงไม่รู้หรอกว่า ESP ส่งอิทธิพลมากขนาดไหน ถ้าไม่มี ESP เกมนี้ก็มาไม่ได้ถึงขนาดนี้ แต่วรวรรณบอกจะไม่ห้ามเจ้าเป็ดเล่นเกมหรอก แต่ถามว่ารู้ว่าอันตรายแบบนี้แล้วยังจะเล่นต่อไหม เจ้าเป็ดบอกเลยใครจะไปกลัว วรวรรณก็ยิ้มบอก ดี..เธอชอบเด็กใจถึง แต่วิริยาก็ดูออกว่าเจ้าเป็ดก็แค่ทำเป็นเก่งต่อหน้ามัจฉาเท่านั้นแหละ วรวรรณเลยขอฝากเจ้าเป็ดปกป้องดอกไม้ทั้งสองของเธอด้วย เจ้าเป็ดเลยแขวะหน่อยว่า "ดอกไม้ที่ไหนเห็นมีแต่เต้าหู้" เลยโดนวิริยาปาหมอนใส่ซะหนึ่งที
ถึงจะพูดงั้นงี้ วิริยาก็คิดอยู่ว่าเรื่องความปลอดภัยจะเป็นยังไง ด้านเธอกับมัจฉาไม่ต้องห่วงอยู่แล้วเพราะที่บ้านมีการคุ้มครองอย่างดี แต่คนอื่นๆไม่ใช่ วรวรรณบอกถ้าคืยหน้าจนใกล้จบเกมจริงๆก็แนะนำให้ร่วมมือกับโจนาธานเพื่อขอรับการคุ้มครองเพิ่มเติมในฐานะผู้มีสิทธิ์จบเกมและอยู่คนละฝั่งกับออลสัน สำหรับโจนาธานแล้วต้องการให้มีการจบเกมมากกว่าโดยไม่ได้สนใจว่าจะเป็นการจบแบบไหน แต่มัจฉาบอกเรื่องการตัดสินใจแบบนั้นต้องถามหัวหน้ากลุ่มก่อน วรวรรณเลยแปลกใจเพราะคิดว่ามัจฉาเป็นหัวหน้ากลุ่มซะอีก มัจฉาบอกไว้ถ้ากานดาพิสูจน์ได้ว่าคู่ควรจะสนับสนุนเธอก็จะใช้ศักยภาพแบบเดียวกับตอนที่เธอเป็นหัวหน้าให้ วรวรรณเลยบอกงั้นรอดูผลการต่อสู้หลังจากนี้แล้วกันและขอให้คอยระวังตัวด้วย ก็เป็นอันเสร็จเรื่องที่จะพูดแค่นี้
ช่วงระหว่างรอรถบ้านมัจฉามารับ วิริยากับวรวรรณคุยกันสองคนว่าในตอนนี้คนที่เสี่ยงอันตรายที่สุดในกลุ่ม วรวรรณรู้ว่าหมายถึงกานดาและพูดเลยว่าถ้าสังหรณ์ตรงกันก็ต้องน่าเป็นห่วงมากๆ ด้านเจ้าเป็ดถึงพ่อวิริยาจะชวนกินข้าวแต่เจ้าเป็ดบอกขอตัวดีกว่าเพราะต้องไปกินกับที่บ้าน มัจฉาก็บอกให้เจ้าเปิดติดรถเธอกลับก็ได้ เจ้าเป็ดเลยไม่ขัด นอกจากนั้นมัจฉายังให้เบอร์ของเธอกับเจ้าเป็ดด้วยทำเอาเจ้าเป็ดที่คาดไม่ถึงตกใจตาแทบถล่น มัจฉาก็บอกว่า...
มัจฉา: ไม่ได้แจกเบอร์บริหารเสน่ห์หรอกน่า วางใจได้
มัจฉา: ถ้ามีธุระอะไรก็โทรมา...
เจ้าเป็ดได้ยินแบบนี้เลยยิ้มหน้าบานเลยทีเดียว แต่วิริยาที่ไหวตัวทันรีบเข้ามาขัดเลยว่าเจ้าเป็ดไม่มีธุระก็ไม่ต้องโทรมา บอกเข้าใจป่ะคนไม่ชอบคุยเล่น ทำท่าทางห่วงมัจฉาแบบสุดๆต่อหน้าเลย หม่อมแม่เลยแถมให้บอกว่า... แต่ถ้าอยากคุยเล่นก็โทรมาเบอร์นี้ได้ ว่าแล้วก็โยนเบอร์ของวิริยาให้เจ้าเป็ดในทันทีแบบที่วิริยาไม่ทั้งตั้งตัว เจ้าเป็ดที่ไม่อยากได้แต่ก็ต้องได้มาซะแล้ว แม้ดูวรวรรณจะยิ้มแย้มแต่ก็คิดห่วงพวกเด็กๆและยิ่งตัวเธอเป็นถึง NPC คนสำคัญด้วย แต่เธอก็จะไม่ยอมให้พวกเด็กๆเป็นอะไรเด็ดขาด
อีกด้าน ภายในเกม อัษฎากำลังฝึกฝนกับนักดาบชาวดาวเวอร์เท็กซ์ที่กลุ่มเรนเจอร์หามาให้ แต่ระหว่างฝึกนั้นเองนักดาบเริ่มรู้สึกได้ถึงพลังทำลายและคุณสมบัติที่ก้าวกระโดดของอัษฎา และเริ่มคิดว่าอัษฎาเริ่มจะได้เคล็ดวิชา "ดราก้อนแรมเพจ" แล้ว อัษฎาแปลกใจเพราะคิดว่าเป็นท่าไม้ตายที่จะเรียนรู้ได้จาก NPC ที่ดาวเรทิคัวลัมเท่านั้นจนตัดใจไปแล้ว นักดาบบอกไม่แน่และรีบถามเพื่อนนักดาบเพื่อยืนยันทันที เกษมเองที่อยู่ดูการฝึกก็ยืนยันว่าเห็นหางมังกรแวบๆเหมือนกัน นักดาบบอกเลยว่าถ้าเป็นจริงคงต้องขอค่าตอบแทนเป็นการสอนท่าไม้ตายแทนค่าจ้างได้เลย
[การได้ท่าไม้ตายในเกม]
ในเกมมีวิธีการได้ท่าไม้ตายหลายวิธี หลักๆคือการเรียนรู้จากอาชีพตัวเองหรือจากตำรา แต่ก็มีวิธีที่ได้จากการปราบบอสหรือภารกิจ สรุปคือแบ่งได้กว้างๆ 4 อย่าง
1.หนังสือท่าไม้ตาย
2.ท่าไม้ตายจากอาชีพ
3.ท่าไม้ตายจากภารกิจ
4.การเรียนรู้จากบอสหรือแรร์มอนสเตอร์
นักดาบบอกกรณีดราก้อนแรมเพจในตอนนี้ยังเหลืออีกสองทาง คือ แลกเปลี่ยนเคล็ดวิชากับซอร์ดมาสเตอร์ที่เก่งที่สุดให้มากที่สุด กับการโค่นมังกรที่มีสายเลือดเกี่ยวโยงกับมังกรราชันย์ แต่ก็ยังเป็นเพียงข่าวลือทั้งคู่ เลยถามอัษฎาจะเตรียมใจลองดูไหม อัษฎาเลยถึงกับคิดเพราะก็ใกล้การสู้รอบสามแล้วและต้องเผื่อเวลากลับไปให้ทันด้วย แต่อัษฎาก็ตัดสินใจไปลองเสี่ยงดู พวกกลุ่มเรนเจอร์ก็เลยช่วยด้วยจัดพาหนะด่วนให้ทันที
อีกด้าน เหล่าภูตพันธมิตรเดียวกับมัจฉาได้รับภารกิจให้มาช่วยชาวหมู่บ้านคัลไซต์ที่กำลังถูกพวกแรงกิ้งคิลเลอร์ไล่ล่า ถึงจะไม่ใช่ระดับหัวหน้ากลุ่มแต่ก็เป็นพวกสมาชิกเลเวลเฉียดร้อยที่เชี่ยวชาญโจมตีเป็นหมู่ พวกภูตเลยบอกเตือนคนๆหนึ่งในกลุ่มเลยว่าถึงเลเวลจะสูงกว่าแต่อย่าประมาท คนที่ว่านั้นก็คือ... กานดา
กานดาที่มาช่วยกับเขาด้วย แต่งานนี้แต่งตัวแปลกไปจากทุกทีจนโดนถามว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้ กานดาบอกปลอมตัวไง เจ้าหญิงภูตบอกตอนนี้ถ้ามีใครมาเห็นกานดาอยู่นอกคอสมิกมีหวังโดนไล่ล่าแน่นอน เลยต้องปกปิดตัวตนเอาไว้ กานดาเลยต้องเอาผ้าคลุมปลอมตัวตั้งแต่สมัยกลุ่มต่อต้าน GM ที่ไวพจน์เคยใส่(ตอนที่ 1) มาใช้
เมื่อลอบเข้าใกล้พวกแรงกิ้งคิลเลอร์ จากการสังเกตเห็นเลยว่าการจัดกลุ่มแรงกิ้งคิลเลอร์ตอนนี้หละหลวมกว่าแต่ก่อน คงเพราะนำกำลังจำนวนมากไปไล่ฝั่ง TOP 10 ที่ตกรอบไปแล้ว กานดาเองก็เห็นว่าตอนนี้พวกแรงกิ้งคิลเลอร์ไม่ได้ระวังตัวเท่าไรเลยๆบอกลุยเลยดีกว่า เจ้าหญิงภูตก็ขอเตือนก่อนว่าห้ามกานดาใช้จัสติสเรย์หรือดาร์คเนสโนว่าเด็ดขาดไม่งั้นโดนรู้ตัวจริงแน่
เมื่อพร้อมแล้วเหล่าภูตที่มีกานดานำลุยก็บุกลอบโจมตีทันที แต่ถึงจะบอกลอบโจมตีแต่เพราะเสียงดังเกินเหตุจากที่กานดาตะโกนลุยซะดัง พวกแรงกิ้งคิลเลอร์ก็เลยรู้ตัวก่อน แต่ถึงการลอบโจมตีล้มเหลวจนต้องลุยกันซึ่งๆหน้า แต่กานดาที่เหนือกว่าเพียงใช้อาวุธจากหีบธรรมดาๆก็วิ่งไล่จัดการพวกแรงกิ้งคิลเลอร์ได้แบบเรียงตัวสบายๆ พวกแรงกิ้งคิลเลอร์ที่เห็นท่าไม่ดีที่มีคนที่พลังโจมตีสูงอยู่ด้วยจึงเรียกให้หัวหน้ามาช่วยทันที
และหัวหน้าที่ว่าก็โผล่มาต่อหน้ากานดาทันที เป็นชายร่างสูงใหญ่หน้าโหดหัวล้าน ด้วยความตัวใหญ่เกินจนกานดาตกใจ หัวหน้าของแรงกิ้งคิลเลอร์ในกลุ่มนี้ก็คือ "จังโก้ ข่าน" อาชีพนักทำนายดวงชะตา ว่าแล้วจังโก้ก็จัดคำทำนายเลยว่ากานดาจะโดนขวานสับกบาล พูดปุ๊บก็เอาขวานมาเหวี่ยงใส่กานดาทันทีจนกานดาถึงกับต้องหลบ ตอนนั้นเองที่กำลังเสริมเหล่าภูตน้อย(หน้าโฉด)ที่มีเจ้าหญิงภูตที่แปลงร่างบินนำมา ใช้ท่าประสาน "Fairy Air raid" ลุยเสริมทัพ ทางกานดาเมื่อได้จังหวะแล้วก็งัดอาวุธลับที่เก็บไว้มานาน "ปืนเคิร์ส" เตรียมมาใช้แล้ว
จบตอน
ตอนหน้าคงได้เห็นอะไรฮาๆแน่ๆ ยิ่งตอนนี้กานดาเลเวลสูงสุดในกลุ่มนี้อีก ใช้ได้แน่นอน
ภาพเดียวตอนนี้ จะเอาภาพ 2 สาว 1 หนุ่มในรถก็ไม่เด่นเท่าไร เลยขอจัดภาพคุณแม่โลลิมุ้งมิ้งจนวิริยายังต้องสำลักให้ดูก็แล้วกัน ตอนหน้ารอ 2 อาทิตย์เช่นเดิม
[Spoil] EXEcutional - 264 # EYE OF THE TIGER
ต่อจากตอนที่แล้ว มัจฉาขอให้วิริยาพาเจ้าเป็ดมาที่บ้านวิริยาด้วย และด้วยเหตุนี้ในตอนนี้ 2 สาว 1 หนุ่ม กำลังนั่งอยู่ด้วยกันภายในรถของบ้านวิริยา โดยมีวิริยาและมัจฉานั่งประกบเจ้าเป็ดที่อยู่ตรงกลางเลยทีเดียว ทำเอาเจ้าเป็ดเขินจนแทบจะตัวแข็งไปแล้ว ส่วนเหตุผลที่เด็กทั้งสามคนต้องมานั่งหลังกันหมดในรถเก๋งแบบนี้นั้นก็เพราะตอนนี้มีลุงคนหนึ่งขอติดรถไปด้วยเลยนั่งหน้าไป
งานนี้วิริยาเลยถึงกับบ่น ทำไมต้องพาเจ้าเป็ดมาด้วยยึดมือถือมาเลยก็ได้ แน่นอนเจ้าเป็ดไม่ยอมเด็ดขาด อีกอย่างคือมัจฉาคิดว่าต้องคุยอีกหลายอย่างด้วย วิริยายังบ่นต่ออีกไม่เลิกว่าทำไมไม่ให้เจ้าเป็ดเกาะล้อรถไปเลย แคบก็แคบ เหม็นเหงื่ออีก เจ้าเป็ดก็เถียงแต่ในใจก็คิดเลยว่าตอนบ่ายไม่น่าเล่นบอลจนเหงื่อออกเลย มัจฉาบอกวิริยาเลิกบ่นสักทีทนนั่งๆไปเถอะ วิริยาคิดเลยว่าตัวเองพลาดเองด้วยที่จับให้เจ้าเป็ดนั่งกลาง น่าจะให้นั่งริมมากกว่า แต่เพราะรีบๆกลัวเพื่อนจะมาเห็นตอนขึ้นรถก็เลยลืมคิดไป เจ้าเป็ดที่ถึงจะนั่งกลางแต่ก็ประหม่าตลอด ยิ่งรู้สึกกดดันเหงื่อก็ยิ่งออกอีก
ไม่นานก็มาถึงบ้านวิริยา พอลงจากรถแม่วิริยาก็ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนเรื่องปกติที่คนเป็นแม่จะออกมาต้อนรับลูกและแขกเข้าบ้าน แต่วิริยาถึงกับสำลักทันทีที่เห็นแม่ของตัวเอง เหตุผลไม่ใช่อะไรอื่นเลยนั้นก็คือ... "ชุด" ชุดที่วรวรรณใส่ตอนนี้พูดได้เลยว่าผิดวัยสุดๆ ส่วนเจ้าเป็ดที่ยังไม่รู้ก็ถึงกับใบ้กินด้วยความงงมี "?" เต็มหัวไปหมดจนมัจฉายังพูดเลยว่า "งงอะดิ" แต่ลูกสาวแท้ๆเหงื่อตกไปแล้วหน้าซีดจนถามเลยว่าทำไมแม่ต้องใส่ชุดนี้ วรวรรณบอกแม่โตแล้วจะใส่ชุดอะไรก็ได้ วิริยาเลยพูดต่อว่าประเด็นมันคือเป็นชุดของเธอนะ ด้านมัจฉาก็คิดอย่างมีเหตุผลบอกดีออกนะ จะได้ไม่ต้องซื้อชุดใหม่อีกเป็นสิบๆปีเลย วิริยาเลยพูดเลยว่าจะไม่ให้เธอโตเลยรึไง และสุดท้ายความไม่ชอบใจของวิริยาก็หายไปหมดจากการที่หม่อมแม่อัญเชิญเค้กแสนอร่อยร้านโปรดมาให้ด้วย ทำเอาวิริยาถึงกับจ้องน้ำลายไหลเลยทีเดียวจนมัจฉายังคิดเลยว่าถูกล่อด้วยของกินได้ผลเสมอ ว่าแล้ววรวรรณก็บอกอย่ามัวคุยข้างนอกเลยพาทุกคนเข้าบ้าน(จับลากเจ้าเป็ดเข้าบ้าน)ทันที
ระหว่างที่กำลังกินเค้กแสนอร่อย(โดยเฉพาะวิริยาที่ฟินไปแล้ว) วรวรรณกับมัจฉาก็ขอดูรูปที่เจ้าเป็ดถ่ายรวบรวมไว้ (เจ้าเป็ดยังมึนๆอยู่ว่าวรวรรณเป็นแฝดวิริยารึเปล่า) พอวรวรรณดูรูปสังเกตการณ์ของเจ้าเป็ดแล้วก็บอกสังหรณ์ไม่ผิดเลยที่ออลสันส่งคนมาด้อมๆมองๆ มัจฉาถึงกับแปลกใจเพราะทั้งๆที่กลุ่มของตนไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์จบเกมอันดับต้นๆแท้ๆ แต่วรวรรณคิดว่าคงโดนจับตากันหมดในหมู่คนที่มีสิทธิ์จบเกมแล้วมากกว่า ยิ่งกลุ่มของมัจฉามีกานดาที่เข้าชิงคอสมิกแกรนด์แบทเทิลรอบสี่คนสุดท้ายอยู่ จ้างคนไม่กี่ตังค์มาจับตาย่อมไม่ลำบากอะไรอยู่แล้ว เพราะยังไงซะจุดประสงค์ของออลสันคือไม่ต้องการให้มีคนจบเกม แต่วรวรรณคิดว่าคงยังไม่เล่นแรงจนกว่าใครสักคนจะทำเสียแผน
เจ้าเป็ดเริ่มสงสัยเลยถามถ้าแล้วออลสันเห็นว่าพวกเขาทำอะไรขัดขวางจะลงมืออะไร วรวรรณบอกคนที่โดนเล็งก่อนก็คงเป็นกานดาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าเล่นงานกานดาไม่ได้ก็จะเปลี่ยนไปเล่นงานคนใกล้ชิดหรือคนในกลุ่มที่สนับสนุนแทน แต่ก็คิดว่าคงทำแค่ข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายนิดหน่อยไม่ให้เรื่องราวใหญ่โต หรือจะปั่นป่วนชีวิตประจำวันหน่อยเรื่องแค่นี้จ้างใครที่ไหนทำก็ได้ อย่างมากที่สุดหากจะจบเกมได้จริงๆหรือออลสันเข้าตาจนก็คงจะจับตัวไปกักขังไม่ให้เข้าเกมได้
เจ้าเป็ดฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อเพราะคิดว่านี้มันเป็นแค่เกมเอง แต่วรวรรณบอกนี่เรื่องใหญ่เลย บอกเจ้าเป็ดคงไม่รู้หรอกว่า ESP ส่งอิทธิพลมากขนาดไหน ถ้าไม่มี ESP เกมนี้ก็มาไม่ได้ถึงขนาดนี้ แต่วรวรรณบอกจะไม่ห้ามเจ้าเป็ดเล่นเกมหรอก แต่ถามว่ารู้ว่าอันตรายแบบนี้แล้วยังจะเล่นต่อไหม เจ้าเป็ดบอกเลยใครจะไปกลัว วรวรรณก็ยิ้มบอก ดี..เธอชอบเด็กใจถึง แต่วิริยาก็ดูออกว่าเจ้าเป็ดก็แค่ทำเป็นเก่งต่อหน้ามัจฉาเท่านั้นแหละ วรวรรณเลยขอฝากเจ้าเป็ดปกป้องดอกไม้ทั้งสองของเธอด้วย เจ้าเป็ดเลยแขวะหน่อยว่า "ดอกไม้ที่ไหนเห็นมีแต่เต้าหู้" เลยโดนวิริยาปาหมอนใส่ซะหนึ่งที
ถึงจะพูดงั้นงี้ วิริยาก็คิดอยู่ว่าเรื่องความปลอดภัยจะเป็นยังไง ด้านเธอกับมัจฉาไม่ต้องห่วงอยู่แล้วเพราะที่บ้านมีการคุ้มครองอย่างดี แต่คนอื่นๆไม่ใช่ วรวรรณบอกถ้าคืยหน้าจนใกล้จบเกมจริงๆก็แนะนำให้ร่วมมือกับโจนาธานเพื่อขอรับการคุ้มครองเพิ่มเติมในฐานะผู้มีสิทธิ์จบเกมและอยู่คนละฝั่งกับออลสัน สำหรับโจนาธานแล้วต้องการให้มีการจบเกมมากกว่าโดยไม่ได้สนใจว่าจะเป็นการจบแบบไหน แต่มัจฉาบอกเรื่องการตัดสินใจแบบนั้นต้องถามหัวหน้ากลุ่มก่อน วรวรรณเลยแปลกใจเพราะคิดว่ามัจฉาเป็นหัวหน้ากลุ่มซะอีก มัจฉาบอกไว้ถ้ากานดาพิสูจน์ได้ว่าคู่ควรจะสนับสนุนเธอก็จะใช้ศักยภาพแบบเดียวกับตอนที่เธอเป็นหัวหน้าให้ วรวรรณเลยบอกงั้นรอดูผลการต่อสู้หลังจากนี้แล้วกันและขอให้คอยระวังตัวด้วย ก็เป็นอันเสร็จเรื่องที่จะพูดแค่นี้
ช่วงระหว่างรอรถบ้านมัจฉามารับ วิริยากับวรวรรณคุยกันสองคนว่าในตอนนี้คนที่เสี่ยงอันตรายที่สุดในกลุ่ม วรวรรณรู้ว่าหมายถึงกานดาและพูดเลยว่าถ้าสังหรณ์ตรงกันก็ต้องน่าเป็นห่วงมากๆ ด้านเจ้าเป็ดถึงพ่อวิริยาจะชวนกินข้าวแต่เจ้าเป็ดบอกขอตัวดีกว่าเพราะต้องไปกินกับที่บ้าน มัจฉาก็บอกให้เจ้าเปิดติดรถเธอกลับก็ได้ เจ้าเป็ดเลยไม่ขัด นอกจากนั้นมัจฉายังให้เบอร์ของเธอกับเจ้าเป็ดด้วยทำเอาเจ้าเป็ดที่คาดไม่ถึงตกใจตาแทบถล่น มัจฉาก็บอกว่า...
มัจฉา: ไม่ได้แจกเบอร์บริหารเสน่ห์หรอกน่า วางใจได้
มัจฉา: ถ้ามีธุระอะไรก็โทรมา...
เจ้าเป็ดได้ยินแบบนี้เลยยิ้มหน้าบานเลยทีเดียว แต่วิริยาที่ไหวตัวทันรีบเข้ามาขัดเลยว่าเจ้าเป็ดไม่มีธุระก็ไม่ต้องโทรมา บอกเข้าใจป่ะคนไม่ชอบคุยเล่น ทำท่าทางห่วงมัจฉาแบบสุดๆต่อหน้าเลย หม่อมแม่เลยแถมให้บอกว่า... แต่ถ้าอยากคุยเล่นก็โทรมาเบอร์นี้ได้ ว่าแล้วก็โยนเบอร์ของวิริยาให้เจ้าเป็ดในทันทีแบบที่วิริยาไม่ทั้งตั้งตัว เจ้าเป็ดที่ไม่อยากได้แต่ก็ต้องได้มาซะแล้ว แม้ดูวรวรรณจะยิ้มแย้มแต่ก็คิดห่วงพวกเด็กๆและยิ่งตัวเธอเป็นถึง NPC คนสำคัญด้วย แต่เธอก็จะไม่ยอมให้พวกเด็กๆเป็นอะไรเด็ดขาด
อีกด้าน ภายในเกม อัษฎากำลังฝึกฝนกับนักดาบชาวดาวเวอร์เท็กซ์ที่กลุ่มเรนเจอร์หามาให้ แต่ระหว่างฝึกนั้นเองนักดาบเริ่มรู้สึกได้ถึงพลังทำลายและคุณสมบัติที่ก้าวกระโดดของอัษฎา และเริ่มคิดว่าอัษฎาเริ่มจะได้เคล็ดวิชา "ดราก้อนแรมเพจ" แล้ว อัษฎาแปลกใจเพราะคิดว่าเป็นท่าไม้ตายที่จะเรียนรู้ได้จาก NPC ที่ดาวเรทิคัวลัมเท่านั้นจนตัดใจไปแล้ว นักดาบบอกไม่แน่และรีบถามเพื่อนนักดาบเพื่อยืนยันทันที เกษมเองที่อยู่ดูการฝึกก็ยืนยันว่าเห็นหางมังกรแวบๆเหมือนกัน นักดาบบอกเลยว่าถ้าเป็นจริงคงต้องขอค่าตอบแทนเป็นการสอนท่าไม้ตายแทนค่าจ้างได้เลย
[การได้ท่าไม้ตายในเกม]
ในเกมมีวิธีการได้ท่าไม้ตายหลายวิธี หลักๆคือการเรียนรู้จากอาชีพตัวเองหรือจากตำรา แต่ก็มีวิธีที่ได้จากการปราบบอสหรือภารกิจ สรุปคือแบ่งได้กว้างๆ 4 อย่าง
1.หนังสือท่าไม้ตาย
2.ท่าไม้ตายจากอาชีพ
3.ท่าไม้ตายจากภารกิจ
4.การเรียนรู้จากบอสหรือแรร์มอนสเตอร์
นักดาบบอกกรณีดราก้อนแรมเพจในตอนนี้ยังเหลืออีกสองทาง คือ แลกเปลี่ยนเคล็ดวิชากับซอร์ดมาสเตอร์ที่เก่งที่สุดให้มากที่สุด กับการโค่นมังกรที่มีสายเลือดเกี่ยวโยงกับมังกรราชันย์ แต่ก็ยังเป็นเพียงข่าวลือทั้งคู่ เลยถามอัษฎาจะเตรียมใจลองดูไหม อัษฎาเลยถึงกับคิดเพราะก็ใกล้การสู้รอบสามแล้วและต้องเผื่อเวลากลับไปให้ทันด้วย แต่อัษฎาก็ตัดสินใจไปลองเสี่ยงดู พวกกลุ่มเรนเจอร์ก็เลยช่วยด้วยจัดพาหนะด่วนให้ทันที
อีกด้าน เหล่าภูตพันธมิตรเดียวกับมัจฉาได้รับภารกิจให้มาช่วยชาวหมู่บ้านคัลไซต์ที่กำลังถูกพวกแรงกิ้งคิลเลอร์ไล่ล่า ถึงจะไม่ใช่ระดับหัวหน้ากลุ่มแต่ก็เป็นพวกสมาชิกเลเวลเฉียดร้อยที่เชี่ยวชาญโจมตีเป็นหมู่ พวกภูตเลยบอกเตือนคนๆหนึ่งในกลุ่มเลยว่าถึงเลเวลจะสูงกว่าแต่อย่าประมาท คนที่ว่านั้นก็คือ... กานดา
กานดาที่มาช่วยกับเขาด้วย แต่งานนี้แต่งตัวแปลกไปจากทุกทีจนโดนถามว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้ กานดาบอกปลอมตัวไง เจ้าหญิงภูตบอกตอนนี้ถ้ามีใครมาเห็นกานดาอยู่นอกคอสมิกมีหวังโดนไล่ล่าแน่นอน เลยต้องปกปิดตัวตนเอาไว้ กานดาเลยต้องเอาผ้าคลุมปลอมตัวตั้งแต่สมัยกลุ่มต่อต้าน GM ที่ไวพจน์เคยใส่(ตอนที่ 1) มาใช้
เมื่อลอบเข้าใกล้พวกแรงกิ้งคิลเลอร์ จากการสังเกตเห็นเลยว่าการจัดกลุ่มแรงกิ้งคิลเลอร์ตอนนี้หละหลวมกว่าแต่ก่อน คงเพราะนำกำลังจำนวนมากไปไล่ฝั่ง TOP 10 ที่ตกรอบไปแล้ว กานดาเองก็เห็นว่าตอนนี้พวกแรงกิ้งคิลเลอร์ไม่ได้ระวังตัวเท่าไรเลยๆบอกลุยเลยดีกว่า เจ้าหญิงภูตก็ขอเตือนก่อนว่าห้ามกานดาใช้จัสติสเรย์หรือดาร์คเนสโนว่าเด็ดขาดไม่งั้นโดนรู้ตัวจริงแน่
เมื่อพร้อมแล้วเหล่าภูตที่มีกานดานำลุยก็บุกลอบโจมตีทันที แต่ถึงจะบอกลอบโจมตีแต่เพราะเสียงดังเกินเหตุจากที่กานดาตะโกนลุยซะดัง พวกแรงกิ้งคิลเลอร์ก็เลยรู้ตัวก่อน แต่ถึงการลอบโจมตีล้มเหลวจนต้องลุยกันซึ่งๆหน้า แต่กานดาที่เหนือกว่าเพียงใช้อาวุธจากหีบธรรมดาๆก็วิ่งไล่จัดการพวกแรงกิ้งคิลเลอร์ได้แบบเรียงตัวสบายๆ พวกแรงกิ้งคิลเลอร์ที่เห็นท่าไม่ดีที่มีคนที่พลังโจมตีสูงอยู่ด้วยจึงเรียกให้หัวหน้ามาช่วยทันที
และหัวหน้าที่ว่าก็โผล่มาต่อหน้ากานดาทันที เป็นชายร่างสูงใหญ่หน้าโหดหัวล้าน ด้วยความตัวใหญ่เกินจนกานดาตกใจ หัวหน้าของแรงกิ้งคิลเลอร์ในกลุ่มนี้ก็คือ "จังโก้ ข่าน" อาชีพนักทำนายดวงชะตา ว่าแล้วจังโก้ก็จัดคำทำนายเลยว่ากานดาจะโดนขวานสับกบาล พูดปุ๊บก็เอาขวานมาเหวี่ยงใส่กานดาทันทีจนกานดาถึงกับต้องหลบ ตอนนั้นเองที่กำลังเสริมเหล่าภูตน้อย(หน้าโฉด)ที่มีเจ้าหญิงภูตที่แปลงร่างบินนำมา ใช้ท่าประสาน "Fairy Air raid" ลุยเสริมทัพ ทางกานดาเมื่อได้จังหวะแล้วก็งัดอาวุธลับที่เก็บไว้มานาน "ปืนเคิร์ส" เตรียมมาใช้แล้ว
จบตอน
ตอนหน้าคงได้เห็นอะไรฮาๆแน่ๆ ยิ่งตอนนี้กานดาเลเวลสูงสุดในกลุ่มนี้อีก ใช้ได้แน่นอน
ภาพเดียวตอนนี้ จะเอาภาพ 2 สาว 1 หนุ่มในรถก็ไม่เด่นเท่าไร เลยขอจัดภาพคุณแม่โลลิมุ้งมิ้งจนวิริยายังต้องสำลักให้ดูก็แล้วกัน ตอนหน้ารอ 2 อาทิตย์เช่นเดิม