สวัสดีครับ วันนี้ผมได้มีโอกาสทำรีวิวครั้งแรก เเละครั้งเเรกที่เขียนกระทู้พันธ์ทิพย์ ด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาผมตั้งใจว่าจะทำรีวิวบ้างแบ่งปันเพื่อนๆ บ้าง แต่ก็ยังไม่มีเวลา แต่คราวนี้มีเวลาก็อยากมาแบ่งบันเรื่องราวดีๆ สนุกๆ
กับการแบกเป้ฉายเดี่ยวเที่ยวเมืองหลักของจีน 2 เมือง นานกิง เซี่ยงไฮ้ 6วัน 5 คืน ด้วยเงินเพียง 13,500 บาท ภาพถ่ายด้วยไอโฟน 5 ทั้งหมดเลยนะครับ
ไม่ได้พกกล้องถ่ายรูป ทำตัวเป็น Native
กับการตามรอย 2 ที่เที่ยวหลัก ตามรายการหนังพอไป นั้นคือ พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธ์นานกิง
เเละพิพิธภัณฑ์การพัฒนาเมืองเซี่ยงไฮ้ (shanghai urban planning exhibition center)
ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
การไปครั้งนี้ เคยอ่านกระทู้ในนี้ เค้าบอกว่าลำบากถ้าไม่ได้ภาษาจีน ผมไปครั้งนี้กับภาษาจีน 0 % เเละภาษาอังกฤษพอสื่อสารได้บ้าง
เริ่มต้นจากอยากไปเที่ยวจีนกลางๆประเทศ พอเห็นสายการบินเปิดใหม่ NokScoot ราคาแบบว่าต้องจัดเท่านั้น ชวนเพื่อน เพื่อนก็ไม่ว่างไปยาวๆได้
เลยต้องจองไปคนเดียวก่อน เเล้วค่อยไปถามเพื่อนว่าใครจะไป เเต่สุดท้ายราคาโปรก็หมด เเพง เลยไม่มีคนไปด้วย เลยต้องจำใจลุยเดี่ยว
ผมจอง รวมค่าตัดบัตร ก็3000กว่าบาท ส่วนเเพลนเที่ยวก็วางไว้คร่าวๆ เเต่ก็ตื่นเต้นมาก ค่าใช้จ่ายไปแบบแบ๊คเเพคเกอร์อย่างเเท้จริง เน้นประหยัด
เที่ยวอย่างเดี่ยว ค่าใช้จ่าย
โดยแบ่งเป็น หลักๆดังนี้
มาเริ่มรีวิวทริปนี้กันเลยครับ
เริ่มต้นกับเที่ยวบินนี้ กับสายกินบิน NOK SCOOT เที่ยวบิน XW 088 เวลา 13.40 น. ผมไปถึง 11 โมงกว่า ต่อคิวเช็คอิน
ตกใจมาก คนจีนเยอะมากๆ คนไทยเเทบไม่มีเลย แอบหวั่นๆในใจเล็กน้อย เลยถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าส่วนมาก เกือบทั้งหมดคนจีน มีคนไทยอยู่บ้าง นิดหน่อย
เครื่องใหญ่นกสกู๊ต NokScoot โบอิ้ง 777-200 ขนาด 415 ที่นั่ง
หน้าตา boarding pass เหมือนของนกแอร์เลย
ลำนี้แหละครับ ที่ต้องอยู่บนเครื่องกับทัวร์จีนร่วม 5 ชั่วโมง บอกเลยตอนอยู่บนเครื่อง มันมากครับ
คนเยอะมากเกือบเต็มลำ คนไทยน้อยมาก นับได้น่าจะ 10 กว่าคน แอร์เป็นคนไทยเป็นหลัก เลยอุ่นใจระดับนึง
บินผ่านน่าจะประเทศลาว
เห็นเมืองฮานอยอย่างชัดเจน ท้องฟ้าโปร่งมาก
หลังจากที่ อยู่กับทัวร์จีน เสียงดัง คุยกันยังกับไม่เคยเจอกันมาเป็นชาติแล้ว เครื่องดีเลย์อีก เนื่องจากฝนตกหนักลงจอดไม่ได้ ในที่สุดก็มาถึงสนามบินเมืองนานกิง เวลา เกือบ 2 ทุ่ม เวลาท้องถิ่น สนามบินที่นี่คนน้อยมากครับ เที่ยวบินต่างประเทศน้อย ส่วนใหญ่ในประเทศทั้งนั้น ผมมาถึงคนโล่งมาก แต่สนามบินโอ่โถ่ง สวยงาม ทันสมัย มีรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน อยู่ในตัวเทอมินอลเลย ราคารถไฟฟ้าเข้าเมือง แค่ 7 หยวน หรือ 35 บาทเอง ถูกมาก
เดินตามไปเพื่อไปยัง ตม.
รถไฟฟ้าเข้าเมือง
เดินเพื่อนเปแลี่ยนสายไปยัง Line 1 (สายสีเเดง)
เเผนที่รถไฟฟ้าเมืองนานกิง มีครอบคลุมพอสมควร
มาถึงสถานีปลายทางก็ปาเข้าไป เกือบ 4 ทุ่มแล้ว นอกสถานีนั้นฝนตกปรอยๆ ต้องเดินเข้าโรงแรม 800 เมตร จากสถานี เป็นโฮสเทล ตึกแถว หายากพอสมควร รู้แค่ทางไปคร่าวๆ เดินมาเรื่อยๆ เจอคนจีนวัยรุ่น พูดภาษาอังกษได้ระดับนึง เลยถามทาง สุดท้ายพาเดินหาโรงแรม ซะงั้น พนักงานโรงแรมที่นี่ พูดภาษาอังกฤษไท่ได้เลย ดีที่จองผ่าน Agoda เลยื่นเอกสารที่ปริ้นซ์จากเนตให้ แล้วให้วัยรุ่นจีนช่วยสื่อสาร ด่านแรกก็หินพอควรแล้ว คิดในใจแล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร
เดินออกจากสถานีรถไฟ ฝนตกปรอยๆ หาโรงเเรมครับ
หน้าโรงเเรมที่พักคืนนี้ ราคา จองผ่าน Agoda 700 บาท
ถ่ายหน้าโรงเเรม
สภาพห้องพักแบบ Single Room ห้องน้ำในตัว
บรรยากาศหน้าโรงเเรมยามเช้า ฝนตกปรอยๆ ครับ ตกทั้งคืน จนเช้า
===========================================================================
===========================================================================
วันที่ 2 ของทริป
เช้านี้ภารกิจ คือเดินตามหาร้านขายซิมโทรศัพท์ อยากเล่นเนตมาก ผมมาที่นี่ พอดีมีน้องที่รู้จักเรียนที่จีน แต่อยู่ที่เมืองหางโจว และฉงชิ่ง บางอย่างผมสงสัยก็วีแชทถามน้องเขาเยอะเหมือนกันนะครับ มาจีนน้องแนะนำให้โลดแอฟ Better Net เล่นไลน์ เล่นเฟสบุคได้ แต่ไลน์เล่นได้แค่วันเดียว แล้วโดนบล็อกครับ แต่เฟสบุคเล่นได้ตลอดเวลาที่อยู่จีนเลย เลยได้อัพเดทให้คนที่อยู่ไทยดูได้ตลอด
เมืองนานกิงค่อนข้างจะเป็นเมืองปิดนะครับ นักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยมาก ถึงแทบไม่มีเลย ส่วนใหญ่เป็น นักท่องเที่ยวในประเทศ แต่ร้านค้าสมัยใหม่ คนก็พูดภาษาอังกฤษได้พอควร สื่อสารได้บ้าง ผมเดินตามหาซิมการ์ดอยู่หลายร้าน เพราะที่จีนเขาอนุญาตให้ขายให้ชาวต่างชาติแค่บางร้านเท่านั้น และต้องใช้พาสปอร์ตในการซื้อซิมด้วย พนักงานแนะนำใช้ของ China Mobile เพราะจะเร็วกว่า ผมเดินอยู่ 2-3 ร้าน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซิม เลยตัดใจ จะไปซื้อที่เซี่ยงไฮ้ ในวันพรุ่งนี้ก็ได้ เพราะเย็นนี้จะนั่งรถไฟไปเซี่ยงไฮ้ครับ
น้องที่รู้จัก เเนะนำบอกว่า ถ้าอยากจะไปเซี่ยงไฮ้ ตอนเย็นวันนี้ ต้องไปจองตั๋วรถไฟไว้ก่อน เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ คนจะเดินทางเข้าเซี่ยงไฮ้เยอะมาก เเม้รถจะมี ทุกๆ 15นาที ก็ตาม ผมเลยต้องเดินทางไปจองตั๋วรถไฟเข้าเซี่ยงไฮ้ โดยน้องเป็นคนหา Code เที่ยวรถไฟให้ เเล้วเอาไปยื่นที่หน้าเค้าเตอร์ขายตั๋ว
มาถึงที่ขายตั๋ว เวลาประมาณ 11 Fโมง กว่า เห็นป้ายต่างภาษาจีนล้วนๆ มองหาอังกฤษเเทบไม่มีเวล เเต่ดีที่น้องหา Code จองรถไฟให้ เลยยื่นให้พนักงานขาเป็นยตั๋ว เลยสบายไปอีกแบบ ได้ตั๋วรอบเวลา 19.00 น.
ด้านหน้าสถานีรถไฟ มองเห็นทะเลสาป ขนาดใหญ่ของเมืองนานกิง
จองตั๋วรถไฟ ไปเซี่ยงไฮ้เสร็จ จากนั้น เข้าเมืองมาเดินเล่นชิลๆ ต่อ รอเวลา ครับ
หลังจากกลับจากสถานีรถไฟ ก็เดินเที่ยวชมเมืองมาเรื่อยๆ ถนนหนทาง ฟุตบาท ที่นานกิงสวยมากๆ
เมืองที่สะอาดมาก ร่มรื่นมากๆ เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึง พิพิธภัณฑ์เมืองนานกิง เลยเดินเเวะเข้าไปเยี่ยมชมซะหน่อยครับ
ที่นี่จัดเเสดงได้อย่างสวยงาม เเละใหญ่โตพอสมควร
มองไปข้างใน
ภายในห้องเเสดง พิพิธภัณฑ์นานกิง
หลังจากนั้นก็เดินออกมา เเล้วไปตามถนนเรื่อยๆ จนมาถึงทางขึ้นเขา เดินไปได้สักพักรู้สึกมันไกลมาก เลยเดินกลับ
เเล้วด้วยเวลา 4 โมงเย็น เเล้ว จึงต้องกลับไปเอากระเป๋าที่โรงเเรม เพื่อเตรียมไปสถานีรถไฟ ไปเซี่ยงไฮ้
เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ไปยังโรงเเรม ถนนหนทางสวยมา ต้นไม้สวยมาก
ใครที่ว่าจีนสกปรก ผมว่ากรุงเทพฯสกปรกกว่านะ ผมว่า
ถนนสวยงาม มีไฟข้ามทุกแยก
ถังขยะที่ไม่เห็นได้ในกรุงเทพ
[SR] [CR][CR]ฉายเดี่ยวเที่ยว นานกิง เซี่ยงไฮ้ 6วัน5คืน ด้วยเงินเพียง 13,500บาท(รวมทุกอย่าง)
ซึ่งที่ผ่านมาผมตั้งใจว่าจะทำรีวิวบ้างแบ่งปันเพื่อนๆ บ้าง แต่ก็ยังไม่มีเวลา แต่คราวนี้มีเวลาก็อยากมาแบ่งบันเรื่องราวดีๆ สนุกๆ
กับการแบกเป้ฉายเดี่ยวเที่ยวเมืองหลักของจีน 2 เมือง นานกิง เซี่ยงไฮ้ 6วัน 5 คืน ด้วยเงินเพียง 13,500 บาท ภาพถ่ายด้วยไอโฟน 5 ทั้งหมดเลยนะครับ
ไม่ได้พกกล้องถ่ายรูป ทำตัวเป็น Native
กับการตามรอย 2 ที่เที่ยวหลัก ตามรายการหนังพอไป นั้นคือ พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธ์นานกิง
เเละพิพิธภัณฑ์การพัฒนาเมืองเซี่ยงไฮ้ (shanghai urban planning exhibition center)
ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
การไปครั้งนี้ เคยอ่านกระทู้ในนี้ เค้าบอกว่าลำบากถ้าไม่ได้ภาษาจีน ผมไปครั้งนี้กับภาษาจีน 0 % เเละภาษาอังกฤษพอสื่อสารได้บ้าง
เริ่มต้นจากอยากไปเที่ยวจีนกลางๆประเทศ พอเห็นสายการบินเปิดใหม่ NokScoot ราคาแบบว่าต้องจัดเท่านั้น ชวนเพื่อน เพื่อนก็ไม่ว่างไปยาวๆได้
เลยต้องจองไปคนเดียวก่อน เเล้วค่อยไปถามเพื่อนว่าใครจะไป เเต่สุดท้ายราคาโปรก็หมด เเพง เลยไม่มีคนไปด้วย เลยต้องจำใจลุยเดี่ยว
ผมจอง รวมค่าตัดบัตร ก็3000กว่าบาท ส่วนเเพลนเที่ยวก็วางไว้คร่าวๆ เเต่ก็ตื่นเต้นมาก ค่าใช้จ่ายไปแบบแบ๊คเเพคเกอร์อย่างเเท้จริง เน้นประหยัด
เที่ยวอย่างเดี่ยว ค่าใช้จ่าย
โดยแบ่งเป็น หลักๆดังนี้
มาเริ่มรีวิวทริปนี้กันเลยครับ
เริ่มต้นกับเที่ยวบินนี้ กับสายกินบิน NOK SCOOT เที่ยวบิน XW 088 เวลา 13.40 น. ผมไปถึง 11 โมงกว่า ต่อคิวเช็คอิน
ตกใจมาก คนจีนเยอะมากๆ คนไทยเเทบไม่มีเลย แอบหวั่นๆในใจเล็กน้อย เลยถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าส่วนมาก เกือบทั้งหมดคนจีน มีคนไทยอยู่บ้าง นิดหน่อย
เครื่องใหญ่นกสกู๊ต NokScoot โบอิ้ง 777-200 ขนาด 415 ที่นั่ง
หน้าตา boarding pass เหมือนของนกแอร์เลย
ลำนี้แหละครับ ที่ต้องอยู่บนเครื่องกับทัวร์จีนร่วม 5 ชั่วโมง บอกเลยตอนอยู่บนเครื่อง มันมากครับ
คนเยอะมากเกือบเต็มลำ คนไทยน้อยมาก นับได้น่าจะ 10 กว่าคน แอร์เป็นคนไทยเป็นหลัก เลยอุ่นใจระดับนึง
บินผ่านน่าจะประเทศลาว
เห็นเมืองฮานอยอย่างชัดเจน ท้องฟ้าโปร่งมาก
หลังจากที่ อยู่กับทัวร์จีน เสียงดัง คุยกันยังกับไม่เคยเจอกันมาเป็นชาติแล้ว เครื่องดีเลย์อีก เนื่องจากฝนตกหนักลงจอดไม่ได้ ในที่สุดก็มาถึงสนามบินเมืองนานกิง เวลา เกือบ 2 ทุ่ม เวลาท้องถิ่น สนามบินที่นี่คนน้อยมากครับ เที่ยวบินต่างประเทศน้อย ส่วนใหญ่ในประเทศทั้งนั้น ผมมาถึงคนโล่งมาก แต่สนามบินโอ่โถ่ง สวยงาม ทันสมัย มีรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน อยู่ในตัวเทอมินอลเลย ราคารถไฟฟ้าเข้าเมือง แค่ 7 หยวน หรือ 35 บาทเอง ถูกมาก
เดินตามไปเพื่อไปยัง ตม.
รถไฟฟ้าเข้าเมือง
เดินเพื่อนเปแลี่ยนสายไปยัง Line 1 (สายสีเเดง)
เเผนที่รถไฟฟ้าเมืองนานกิง มีครอบคลุมพอสมควร
มาถึงสถานีปลายทางก็ปาเข้าไป เกือบ 4 ทุ่มแล้ว นอกสถานีนั้นฝนตกปรอยๆ ต้องเดินเข้าโรงแรม 800 เมตร จากสถานี เป็นโฮสเทล ตึกแถว หายากพอสมควร รู้แค่ทางไปคร่าวๆ เดินมาเรื่อยๆ เจอคนจีนวัยรุ่น พูดภาษาอังกษได้ระดับนึง เลยถามทาง สุดท้ายพาเดินหาโรงแรม ซะงั้น พนักงานโรงแรมที่นี่ พูดภาษาอังกฤษไท่ได้เลย ดีที่จองผ่าน Agoda เลยื่นเอกสารที่ปริ้นซ์จากเนตให้ แล้วให้วัยรุ่นจีนช่วยสื่อสาร ด่านแรกก็หินพอควรแล้ว คิดในใจแล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร
เดินออกจากสถานีรถไฟ ฝนตกปรอยๆ หาโรงเเรมครับ
หน้าโรงเเรมที่พักคืนนี้ ราคา จองผ่าน Agoda 700 บาท
ถ่ายหน้าโรงเเรม
สภาพห้องพักแบบ Single Room ห้องน้ำในตัว
บรรยากาศหน้าโรงเเรมยามเช้า ฝนตกปรอยๆ ครับ ตกทั้งคืน จนเช้า
===========================================================================
===========================================================================
วันที่ 2 ของทริป
เช้านี้ภารกิจ คือเดินตามหาร้านขายซิมโทรศัพท์ อยากเล่นเนตมาก ผมมาที่นี่ พอดีมีน้องที่รู้จักเรียนที่จีน แต่อยู่ที่เมืองหางโจว และฉงชิ่ง บางอย่างผมสงสัยก็วีแชทถามน้องเขาเยอะเหมือนกันนะครับ มาจีนน้องแนะนำให้โลดแอฟ Better Net เล่นไลน์ เล่นเฟสบุคได้ แต่ไลน์เล่นได้แค่วันเดียว แล้วโดนบล็อกครับ แต่เฟสบุคเล่นได้ตลอดเวลาที่อยู่จีนเลย เลยได้อัพเดทให้คนที่อยู่ไทยดูได้ตลอด
เมืองนานกิงค่อนข้างจะเป็นเมืองปิดนะครับ นักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยมาก ถึงแทบไม่มีเลย ส่วนใหญ่เป็น นักท่องเที่ยวในประเทศ แต่ร้านค้าสมัยใหม่ คนก็พูดภาษาอังกฤษได้พอควร สื่อสารได้บ้าง ผมเดินตามหาซิมการ์ดอยู่หลายร้าน เพราะที่จีนเขาอนุญาตให้ขายให้ชาวต่างชาติแค่บางร้านเท่านั้น และต้องใช้พาสปอร์ตในการซื้อซิมด้วย พนักงานแนะนำใช้ของ China Mobile เพราะจะเร็วกว่า ผมเดินอยู่ 2-3 ร้าน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซิม เลยตัดใจ จะไปซื้อที่เซี่ยงไฮ้ ในวันพรุ่งนี้ก็ได้ เพราะเย็นนี้จะนั่งรถไฟไปเซี่ยงไฮ้ครับ
น้องที่รู้จัก เเนะนำบอกว่า ถ้าอยากจะไปเซี่ยงไฮ้ ตอนเย็นวันนี้ ต้องไปจองตั๋วรถไฟไว้ก่อน เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ คนจะเดินทางเข้าเซี่ยงไฮ้เยอะมาก เเม้รถจะมี ทุกๆ 15นาที ก็ตาม ผมเลยต้องเดินทางไปจองตั๋วรถไฟเข้าเซี่ยงไฮ้ โดยน้องเป็นคนหา Code เที่ยวรถไฟให้ เเล้วเอาไปยื่นที่หน้าเค้าเตอร์ขายตั๋ว
มาถึงที่ขายตั๋ว เวลาประมาณ 11 Fโมง กว่า เห็นป้ายต่างภาษาจีนล้วนๆ มองหาอังกฤษเเทบไม่มีเวล เเต่ดีที่น้องหา Code จองรถไฟให้ เลยยื่นให้พนักงานขาเป็นยตั๋ว เลยสบายไปอีกแบบ ได้ตั๋วรอบเวลา 19.00 น.
ด้านหน้าสถานีรถไฟ มองเห็นทะเลสาป ขนาดใหญ่ของเมืองนานกิง
จองตั๋วรถไฟ ไปเซี่ยงไฮ้เสร็จ จากนั้น เข้าเมืองมาเดินเล่นชิลๆ ต่อ รอเวลา ครับ
หลังจากกลับจากสถานีรถไฟ ก็เดินเที่ยวชมเมืองมาเรื่อยๆ ถนนหนทาง ฟุตบาท ที่นานกิงสวยมากๆ
เมืองที่สะอาดมาก ร่มรื่นมากๆ เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึง พิพิธภัณฑ์เมืองนานกิง เลยเดินเเวะเข้าไปเยี่ยมชมซะหน่อยครับ
ที่นี่จัดเเสดงได้อย่างสวยงาม เเละใหญ่โตพอสมควร
มองไปข้างใน
ภายในห้องเเสดง พิพิธภัณฑ์นานกิง
หลังจากนั้นก็เดินออกมา เเล้วไปตามถนนเรื่อยๆ จนมาถึงทางขึ้นเขา เดินไปได้สักพักรู้สึกมันไกลมาก เลยเดินกลับ
เเล้วด้วยเวลา 4 โมงเย็น เเล้ว จึงต้องกลับไปเอากระเป๋าที่โรงเเรม เพื่อเตรียมไปสถานีรถไฟ ไปเซี่ยงไฮ้
เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ไปยังโรงเเรม ถนนหนทางสวยมา ต้นไม้สวยมาก
ใครที่ว่าจีนสกปรก ผมว่ากรุงเทพฯสกปรกกว่านะ ผมว่า
ถนนสวยงาม มีไฟข้ามทุกแยก
ถังขยะที่ไม่เห็นได้ในกรุงเทพ