ผมเชื่อว่า แมตช์ในวันนี้ระหว่าง สวอนซี กับ แมนยูไนเต็ด ก่อนแข่งนั้นเกินกว่าครึ่งค่อนข้างมั่นใจมากว่า วันนี้เราจะเอาสามแต้มกลับบ้านได้แน่ๆ ยิ่งได้เห็นไลน์อัพนักเตะด้วยแล้ว ยิ่งทวีความมั่นใจพร้อมตื่นเต้นระริกระรี้ว่า “วันนี้ที่รอคอย” ของพี่เบิร์ดมันเป็นจริงเสียที (เก่าไปไหมเนี่ยใครจะเก็ทมุกฟะ) มั่นใจคูณสองเลยล่ะ แถมวันก่อนหน้านั้น ทีมใหญ่แชมป์เก่าก็พลาดแถมคาบ้าน พร้อมด้วยอริแค้นแสนรักก็โดนไปสามเม็ดคาบ้านเช่นกัน ซึ่งแฟนบอลเราก็คงจะไปจัดพวกเขาซะสาสมกันสนุกปากมาแล้วแน่นอน ซึ่งก็รวมผมด้วย (ฮา) ก่อนแข่งวันนี้ เลยสนุกสนานเฮฮาปาจิงโกะ ใส่เสื้อแมนยูเดินเที่ยวทั้งวันอย่างสบายอกสบายใจเป็นแน่แท้ โดยที่ไม่รู้ว่า เก้าสิบนาทีให้หลัง มันจะกลายเป็นหอกร้ายที่โดนบาเรียสีขาวสะท้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเองอย่างเจ็บปวด ทั้งความพ่ายแพ้ ทั้งคำพูดบลัฟถางถากต่างๆทั้งเอาจริงและไม่เอาจริงกับเพื่อนทีมคู่แข่ง
รูปเกมส์ทั้งหมดผมคงไม่ต้องเขียนอะไรมากมาย ทุกคนคงจะเห็นพร้อมๆกันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น กับทีมชีท11คนแรกที่อยู่ในฝันของแฟนผีแดงมาตลอดว่า มันควรจะจัดตัวแบบนี้ ดีที่สุดแล้ว และวันนี้มันก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อโกล์ และแผงแบ็ค4ยังเป็นชุดเดิมที่แข็งแกร่งสุดๆ แดนกลางจะได้เห็นพลังหนุ่มของชไนเดอร์ลิน ผสานกับคลาสบอลของชไวนี่ขวัญใจผม ก่อนด้วยตัวรุกสามตัวที่ดีที่สุดในเวลานี้อย่าง เดปาย – เอเรร่า ในบทบาทของ No.10 และก็ ฮวนมาต้า โดยที่มีเสี่ยหมูยืนคำหน้าเป้าเหมือนเดิมหลังจากที่เพิ่งได้ความมั่นใจจากการกระทุ้งบอลกระซวกตาข่ายไปสามลูกหมาดๆกลางสัปดาห์ ผมเองก็คิดว่าชุดนี้ดีที่สุดแล้วเหมือนกันเท่าที่เราจะมีอยู่ ในsquadของเรา ณ ขณะนี้ ซึ่งถามว่า มันเพียงพอไหมต่อการลุ้นแชมป์ อันนี้ผมสามารถพูดได้ ก่อนที่จะแข่งแพ้วันนี้อีกว่า “มันยังไม่ดีพอ(แน่นอน) สำหรับการเป็นแชมป์” squadมันยังไม่ใหญ่พอ นักเตะทดแทนสำรอง และตัวจริงบางตัวก็ยังไม่สามารถเป็นตัวชี้ชะตาให้ทีมได้แบบจั๋งๆ
ตำแหน่งที่เราต้องการยังมีอีกเยอะ ในตอนนี้ที่ผมเขียนนี่ ด้วยความคิดเห็นของผมนั้น เรายังขาด “ผู้รักษาประตู” ที่แน่นอนอีก1ตัว สำหรับโรเมโร่ ผมว่าเขายังไม่ใช่ เพราะมีหลายๆอย่างที่เขายังไม่ดีพอสำหรับการรรับมือจังหวะชี้เป็นชี้ตายให้กับทีม ส่วนเจ้าน้องคนเก่าที่คาราคาซังนั่นขอละไว้ก่อนแล้วกัน โรเมโร่มีความคล่องตัวอยู่บ้างก็จริง แต่ 1. การสื่อสารยังไม่ดีอย่างแรง 2. ก้านสั้นเกินไป สำหรับถ้าโกล์ก้านยาวๆ แขนขายาวแล้ว จังหวะเหยียดเซฟมันจะดีกว่านี้แน่ๆ บางครั้งการยืนตำแหน่งดีๆมันก็ไม่เพียงพอเหมือนกัน 3. Kicking การเตะออกบอล บ่อยครั้งมากเกินไปตั้งแต่เห็นลงนัดแรกที่เตะบอลออกมาไม่ดี จนทีมเกือบเสียประตู เอาเป็นว่าโดยรวมผมว่า โกล์คนนี้ยังไม่เพียงพอต่อการจะพาทีมเป็นแชมป์ ต้องซื้อตัวเจ๋งๆเข้ามาหนึ่งคนล่ะ
กองหลัง 1 ตัวด้านซ้าย หรือจะไม่ต้องเท้าซ้ายก็ได้เอ้า ขอใครสักคนที่เหนียวแน่นระดับเดียว “หรือ” เหนือกว่าพี่ไมค์สมอลลิ่งเท่านั้น ถ้าหากอยากจะลุ้นแชมป์จริงๆ คือก็ไม่เข้าใจว่าตลาดใกล้ปิดแล้วยังไม่มีความคืบหน้าตำแหน่งที่แฟนผีรอคอยมานานมาก หลังจากโอตาเมนดี้โดนกระซวกไปลงทีมเพื่อนบ้านน่ามคาญไปแล้ว ส่วนรามอสนี่ รู้สึกจะโดนใช้เป็นเครื่องมืออัพค่าเหนื่อย(ฮา) ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเรื่องของข่าวการซื้อขายทั้งนั้น จริงไม่จริงอันไหนบ้าง กรองข่าวดีๆยังเชื่อยากเลย ไม่สนใจโอตาเมนดี้ แล้วพี่จะเอาใครมาเล่นกองหลังคร๊าบบบบ
คือตอนนี้ พวกพี่ปล่อยไปหมดเลย จอนนี่ แบล็คเก็ต ที่ผมเห็นควรว่าควรปล่อย แต่ดันไม่หาใครเข้ามาเสริมเลย ตอนนี้เรามีแค่ เจ้าหนูแมคแนร์1ตัวเท่านั้นที่รอแสตนด์บายไว้ ส่วนฟิลโจนส์ยังไม่รู้อนาคต แต่จะฝากทั้งฤดูกาลก็ไม่ไหวเพราะประวัติเจ็บของแกเยอะมาก โรโฮยังไม่ฟิต ซึ่ง ยังไงผมก็ยืนยันอยากได้ กองหลังเวิร์ลคลาสอีกหนึ่งคน ที่เราขาดอยู่ ช่วยกันภาวนาหน่อย
ขอพูดถึงบลินด์นิด คือเท่าที่ดูปรัชญาแทคติกของLVGแล้วนั้นเขาก็ทำตามหน้าที่ได้ดีนั่นแหละ เพราะถ้าฟานกัลต้องการกองหลังที่มีไหวพริบสายบุ๋น และเข้าใจเกมส์เป็นอย่างดี ก็คงไม่มีคนอื่นนอกจากบลินด์แล้วแหละ(เล่นได้อยู่คนเดียวอ่ะ) แต่ปัญหาคือ พรีเมียร์ลีกมันเป็นลีกที่มักจะเจอการเล่นแบบสายเสริมพลัง ชนกันด้วยpowerอยู่บ่อยครั้ง ทั้งสปีดและการเข้าปะทะอย่างหนักหน่วง ซึ่งบลินด์ไม่แกร่งพอจะรับมือตรงนี้ได้ไหวไปตลอดฤดูกาล มีกรณีเดียวคือ ยูไนเต็ดต้องครองบอลและทำเกมส์ที่เหนือกว่าคู่แข่งมาก และDMทำหน้าที่ปัดกวาดได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนไม่เหลืองานหนักมาถึงตำแหน่งของเขาเท่านั้นถึงจะเอาอยู่ แต่ถ้าหากวันไหนเจอบอลdirectแบบคมๆ เหมือนที่วันนี้เราเจอล่ะ? รวมถึงลูกโด่งด้วยที่ยังไม่โดนเปิดแผลเหวอะหวะในตอนนี้ว่า บลินด์ยังป้องกันลูกกลางอากาศได้ไม่ชัวร์เท่าไหร่ ..
เราจะดึงดันใช้สุดหล่อยืนเซ็นฯต่อไป ผมว่าไม่เป็นผลดี ยังไงก็ต้องเป็นกองหลังขนานแท้เจ๋งๆอีกตัวเท่านั้น ส่วนตัวผมอยากได้สายชนมากกว่า เพราะสมอลลิ่งในตอนนี้ผมจะฝากผีฝากไข้ได้บ้างเรื่องการดักทาง ผมอยากได้สายชน หรือไม่ก็ ตัวเก๋าที่ยังมีพลังมากพอจะฟัดอยู่ แต่คุมเกมส์ได้ดีๆ .. หรือถ้าสุดท้ายมันจะถึงช่วงปิดตลาดอยู่แล้วละก็ .. ใครก็ได้โว้ยสักคนซื้อๆมาเทอะ!!! (แมร่มเอ๊ย..)
มิดฟิลด์คู่กลาง ไม่มีอะไรพูดถึงเพราะเป็นสองตัวที่ผมชอบและอยากให้ลงคู่อยู่แล้ว แต่ผิดคาดผลงานกลับไม่โดดเด่นมากเท่าที่ควร บาสตี้ส่วนตัวผมว่าเขาทำได้ดี แต่ท้ายเกมส์พลังตก ก็แอบเห็นได้ชัดเหมือนกันว่า มีจ่ายเสียมาเรื่อยๆนั่นแหละตอนท้าย ส่วนชไนเดอลิน วันนี้หายๆบทบาทไม่เด่นมาก ส่วนหนึ่งต้องชมเจ้าโกมิสด้วยที่แข็งแกร่งเกินคน แถมเก็บบอลดีเว่อร์ แทนที่แผงหลังสวอนซีเตะสวนกลับมา จะเหมือนเตะอัดกำแพง แมนยูเก็บบอลได้แล้วบุกต่อ แต่กลับกลายเป็นว่า โกมิสแกร่งกว่าแผงตัวรับของแมนยู ชิงเก็บบอลได้ซะยังงั้น สวอนซีเลยมีจังหวะสวนต่อเนื่อง ทำให้เกมส์บุกของแมนยูไนเต็ด ไม่มีเป็นชิ้นเป็นอันเลยตลอด90นาที คือมันไม่ต่อเนื่องจนสามารถที่จะชิงโมเมนตัมของเกมส์มาได้ .. รวมถึงท้ายเกมส์ ก็เปิดแผลของแมนยูอีกหนึ่งดอกเต็มๆ นั่นก็คือ ทีมเรา โคตรรรรรลน ลนลานมากเมื่อโดนยิงขึ้นนำ พอทีมเริ่มที่จะ “หมดเวลาซาหนุกแล้วสิ” ก็เริ่มบุกสะเปะสะปะมากขึ้น จนเวลาที่เหลืออยู่ กดดันอะไรสวอนซีไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว .. อืมม์.. เอาที่พี่สบายใจเลยฮะ
ตำแหน่งสุดท้าย ที่เชื่อว่าทุกคนก็รออยู่ นั่นก็คือกองหน้า และต้องเป็นเวิร์ลคลาส ระดับที่ต้องเหนือกว่ารูนเท่านั้น .. เขียนมาตั้งขนาดนี้ ผมกำลังรอที่จะกระซวกเจ้ากัปตันเบอร์10ของเราอยู่นี่แหละ กล่าวก่อนว่า การเสียRVPไปนั้น เท่ากับว่าเราเหลือกองหน้าแท้ๆใช้งานได้อยูแค่2ตัวเท่านั้น ซึ่งมันไม่พอเลยกับการจะมาลุ้นแชมป์ปีนึงหลายๆถ้วย จะบอกว่า จะใช้เฟลไลนี่เป็นTarget man แทนการเป็นมิดฟิลด์นั้น ผมยอมให้ก็ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด เขาก็ฝากความหวังในแดนหน้าไม่ได้ .. ชิชาริโต้ที่ขาดความมั่นใจไปแล้ว ก็ควรจะเป็นตัวพลิกเกมส์ในฐานะตัวสำรองอย่างเดียว ซึ่งผมยังเชื่อมั่นเขาอยู่แม้จะหมูหกมาสองดอกใหญ่แบบน่าตบกะโหลกให้ขี้หูแดนซ์ท่าบาซูก็ตาม
ดังนั้นเมื่อนับดูแล้ว นี่เราเหลือกองหน้าในสนามโอเพ่นเพลย์สิบเอ็ดคนแรกจริงๆแค่ ไอ้หมูตัวเดียว ตัวเดียวจริงๆแบบไม่มีใครกดดัน เพราะเฟลไลนี่ลงหน้าตัวจริงไม่ได้เช่นเดียวกับชิชาที่ไม่เหมาะ .. สภาพก็เป็นอย่างที่เห็นว่า เรามีรูนคนเดียวจริงๆ ดังนั้น ไม่ว่าบอสเราจะงี่เง่ายังไงก็แล้วแต่ แต่คิดง่ายๆ การเสียกองหน้าระดับRVPไป แล้วไม่ยอมซื้อใครเข้ามาเพิ่มเลยนี่ แมร่งเป็นการกระทำที่งี่เง่าและเฟลสุดๆ ขนาดที่ว่า เด็กๆยังคิดได้เลยว่ามันควรจะต้องซื้อตัวใหม่เข้ามารึเปล่า(วะ)
ถึงรูนนี่ย์จะฟอร์มไม่เป็นแบบนี้ก็ตาม แต่คุณพี่ไม่คิดจะสลับให้คนอื่นมาช่วยมันเล่นเลยใช่ไหม ถ้ามันเจ็บขึ้นมาตัวนึงคุณ
จะทำเยี่ยงไร?? จนตลาดจะปิด สนามรบของจริงมันเริ่มแล้ว จะมารอปิดดีลวันสุดท้าย ชนิดที่ว่าดั้นด้นแบกรถฟักทองตรามือกระเหี้ยนกระหือรือบึ่งไปดักฉุดมันหน้าสนามบินฮีทโธรว์ มันจะช้าไปไหมฟะ ตัวดีๆทีมอื่นเขาเอาไปหมดแล้ว นี่ก็ได้แต่หวังว่าคำพูดจากปากของลอร์ดเอ็ดมหาราชตามข่าวมันจะเป็นจริงว่า จะทำให้ทุกคนลืมดีลเปโดรไปเลย .. (ข่าวอีน้องอีฟใช่ไหมที่ว่า ถรุ้ยยยย) ขอให้จริงนะ เอามาเหอะใครก็ได้ ที่เก่งกว่ารูน ตอนนี้จะมาเอาแค่ตัวสแตนด์บายหมูนี่ มันไม่ได้นะฮะ ผมก็ต่อต้านมาแต่แรกแล้วด้วย ขอตัวที่สดกว่าดีกว่าเลยเหอะ
ย้อนกลับมาที่แมตช์วันนี้ของเรากันต่อ ได้เวลากระซวกทีมรุกของเราบ้างแล้ว ขอเริ่มจากมาต้าและเอเรร่าก่อน จริงๆไม่มีอะไรจะให้ตำหนิมากมาย สองคนนี้ยังเคลื่อนเกมส์ได้ดีเหมือนเคย แต่ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ มาต้าของเราจะเล่นลำบากมาก เพราะได้บอลเมื่อไหร่ จะเป็นคนเดียวที่โดนคู่ต่อสู้บีบเร็วมาก และเข้ามาถึงตัวสุดๆ โดยที่จุดไม่แข็งของมาต้าที่รู้กันอยู่แล้วคือความเร็วความแข็งแกร่งของพี่ต้ายังไม่มากพอจะเอาชนะตัวที่เข้ามาบีบได้ อาจจะเลี้ยงบังบอลได้แต่เลี้ยงกินตัวคู่แข่งไม่ได้นั่นเอง บางครั้งเลยไปไม่ได้ โดนบีบจึงหมดโอกาสปั้นเกมส์ในที่สุด
ซึ่งจริงๆแล้วอันนี้ไม่ได้ตำหนินะ แต่เป็นการตั้งข้อสังเกตว่า พี่ต้าเราโดนเพรสหนักที่สุดละ เหมือนตัวคีย์แมนเลย ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆเพราะจังหวะเป็นตายหลายๆครั้ง ก็คิลเลอร์พาสของแกนี่แหละเป็นตัวตัดสิน พอโดนแบบนี้เลยลำบาก และจะลำบากแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะแกโดนแบบนี้ทุกนัดจริงๆ แต่การเล่นหน้าต่ำทางขวาของต้าก็ยังสามารถช่วยทีมผลิตสกอร์ได้เรื่อยๆ เฉกเช่นวันนี้ จะเหลือก็เพียงการประสานงานกับแบ็คฝั่งขวานี่แหละที่ยังไม่เข้าขากันเท่าที่ควร ไม่เหมือนฤดูกาลก่อนที่เล่นลิงสามเหลี่ยม ต้าเล่เวียร์กันสนุกสนาน เพราะงั้นคงต้องปรับกันต่อไป แต่ก็นะ ขนาดคนทำประตูได้ ยังโดนเปลี่ยนออก .. ขอเก็บไว้พาร์ทกระซวกmanagerทีเดียว
มีบ่นต่อ คห. ด้านล่างจ้า
ศาลาผีเศร้า ตอน สุกรอภิสิทธิ์ ยาพิษเดปาย
ผมเชื่อว่า แมตช์ในวันนี้ระหว่าง สวอนซี กับ แมนยูไนเต็ด ก่อนแข่งนั้นเกินกว่าครึ่งค่อนข้างมั่นใจมากว่า วันนี้เราจะเอาสามแต้มกลับบ้านได้แน่ๆ ยิ่งได้เห็นไลน์อัพนักเตะด้วยแล้ว ยิ่งทวีความมั่นใจพร้อมตื่นเต้นระริกระรี้ว่า “วันนี้ที่รอคอย” ของพี่เบิร์ดมันเป็นจริงเสียที (เก่าไปไหมเนี่ยใครจะเก็ทมุกฟะ) มั่นใจคูณสองเลยล่ะ แถมวันก่อนหน้านั้น ทีมใหญ่แชมป์เก่าก็พลาดแถมคาบ้าน พร้อมด้วยอริแค้นแสนรักก็โดนไปสามเม็ดคาบ้านเช่นกัน ซึ่งแฟนบอลเราก็คงจะไปจัดพวกเขาซะสาสมกันสนุกปากมาแล้วแน่นอน ซึ่งก็รวมผมด้วย (ฮา) ก่อนแข่งวันนี้ เลยสนุกสนานเฮฮาปาจิงโกะ ใส่เสื้อแมนยูเดินเที่ยวทั้งวันอย่างสบายอกสบายใจเป็นแน่แท้ โดยที่ไม่รู้ว่า เก้าสิบนาทีให้หลัง มันจะกลายเป็นหอกร้ายที่โดนบาเรียสีขาวสะท้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเองอย่างเจ็บปวด ทั้งความพ่ายแพ้ ทั้งคำพูดบลัฟถางถากต่างๆทั้งเอาจริงและไม่เอาจริงกับเพื่อนทีมคู่แข่ง
รูปเกมส์ทั้งหมดผมคงไม่ต้องเขียนอะไรมากมาย ทุกคนคงจะเห็นพร้อมๆกันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น กับทีมชีท11คนแรกที่อยู่ในฝันของแฟนผีแดงมาตลอดว่า มันควรจะจัดตัวแบบนี้ ดีที่สุดแล้ว และวันนี้มันก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อโกล์ และแผงแบ็ค4ยังเป็นชุดเดิมที่แข็งแกร่งสุดๆ แดนกลางจะได้เห็นพลังหนุ่มของชไนเดอร์ลิน ผสานกับคลาสบอลของชไวนี่ขวัญใจผม ก่อนด้วยตัวรุกสามตัวที่ดีที่สุดในเวลานี้อย่าง เดปาย – เอเรร่า ในบทบาทของ No.10 และก็ ฮวนมาต้า โดยที่มีเสี่ยหมูยืนคำหน้าเป้าเหมือนเดิมหลังจากที่เพิ่งได้ความมั่นใจจากการกระทุ้งบอลกระซวกตาข่ายไปสามลูกหมาดๆกลางสัปดาห์ ผมเองก็คิดว่าชุดนี้ดีที่สุดแล้วเหมือนกันเท่าที่เราจะมีอยู่ ในsquadของเรา ณ ขณะนี้ ซึ่งถามว่า มันเพียงพอไหมต่อการลุ้นแชมป์ อันนี้ผมสามารถพูดได้ ก่อนที่จะแข่งแพ้วันนี้อีกว่า “มันยังไม่ดีพอ(แน่นอน) สำหรับการเป็นแชมป์” squadมันยังไม่ใหญ่พอ นักเตะทดแทนสำรอง และตัวจริงบางตัวก็ยังไม่สามารถเป็นตัวชี้ชะตาให้ทีมได้แบบจั๋งๆ
ตำแหน่งที่เราต้องการยังมีอีกเยอะ ในตอนนี้ที่ผมเขียนนี่ ด้วยความคิดเห็นของผมนั้น เรายังขาด “ผู้รักษาประตู” ที่แน่นอนอีก1ตัว สำหรับโรเมโร่ ผมว่าเขายังไม่ใช่ เพราะมีหลายๆอย่างที่เขายังไม่ดีพอสำหรับการรรับมือจังหวะชี้เป็นชี้ตายให้กับทีม ส่วนเจ้าน้องคนเก่าที่คาราคาซังนั่นขอละไว้ก่อนแล้วกัน โรเมโร่มีความคล่องตัวอยู่บ้างก็จริง แต่ 1. การสื่อสารยังไม่ดีอย่างแรง 2. ก้านสั้นเกินไป สำหรับถ้าโกล์ก้านยาวๆ แขนขายาวแล้ว จังหวะเหยียดเซฟมันจะดีกว่านี้แน่ๆ บางครั้งการยืนตำแหน่งดีๆมันก็ไม่เพียงพอเหมือนกัน 3. Kicking การเตะออกบอล บ่อยครั้งมากเกินไปตั้งแต่เห็นลงนัดแรกที่เตะบอลออกมาไม่ดี จนทีมเกือบเสียประตู เอาเป็นว่าโดยรวมผมว่า โกล์คนนี้ยังไม่เพียงพอต่อการจะพาทีมเป็นแชมป์ ต้องซื้อตัวเจ๋งๆเข้ามาหนึ่งคนล่ะ
กองหลัง 1 ตัวด้านซ้าย หรือจะไม่ต้องเท้าซ้ายก็ได้เอ้า ขอใครสักคนที่เหนียวแน่นระดับเดียว “หรือ” เหนือกว่าพี่ไมค์สมอลลิ่งเท่านั้น ถ้าหากอยากจะลุ้นแชมป์จริงๆ คือก็ไม่เข้าใจว่าตลาดใกล้ปิดแล้วยังไม่มีความคืบหน้าตำแหน่งที่แฟนผีรอคอยมานานมาก หลังจากโอตาเมนดี้โดนกระซวกไปลงทีมเพื่อนบ้านน่ามคาญไปแล้ว ส่วนรามอสนี่ รู้สึกจะโดนใช้เป็นเครื่องมืออัพค่าเหนื่อย(ฮา) ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเรื่องของข่าวการซื้อขายทั้งนั้น จริงไม่จริงอันไหนบ้าง กรองข่าวดีๆยังเชื่อยากเลย ไม่สนใจโอตาเมนดี้ แล้วพี่จะเอาใครมาเล่นกองหลังคร๊าบบบบ
คือตอนนี้ พวกพี่ปล่อยไปหมดเลย จอนนี่ แบล็คเก็ต ที่ผมเห็นควรว่าควรปล่อย แต่ดันไม่หาใครเข้ามาเสริมเลย ตอนนี้เรามีแค่ เจ้าหนูแมคแนร์1ตัวเท่านั้นที่รอแสตนด์บายไว้ ส่วนฟิลโจนส์ยังไม่รู้อนาคต แต่จะฝากทั้งฤดูกาลก็ไม่ไหวเพราะประวัติเจ็บของแกเยอะมาก โรโฮยังไม่ฟิต ซึ่ง ยังไงผมก็ยืนยันอยากได้ กองหลังเวิร์ลคลาสอีกหนึ่งคน ที่เราขาดอยู่ ช่วยกันภาวนาหน่อย
ขอพูดถึงบลินด์นิด คือเท่าที่ดูปรัชญาแทคติกของLVGแล้วนั้นเขาก็ทำตามหน้าที่ได้ดีนั่นแหละ เพราะถ้าฟานกัลต้องการกองหลังที่มีไหวพริบสายบุ๋น และเข้าใจเกมส์เป็นอย่างดี ก็คงไม่มีคนอื่นนอกจากบลินด์แล้วแหละ(เล่นได้อยู่คนเดียวอ่ะ) แต่ปัญหาคือ พรีเมียร์ลีกมันเป็นลีกที่มักจะเจอการเล่นแบบสายเสริมพลัง ชนกันด้วยpowerอยู่บ่อยครั้ง ทั้งสปีดและการเข้าปะทะอย่างหนักหน่วง ซึ่งบลินด์ไม่แกร่งพอจะรับมือตรงนี้ได้ไหวไปตลอดฤดูกาล มีกรณีเดียวคือ ยูไนเต็ดต้องครองบอลและทำเกมส์ที่เหนือกว่าคู่แข่งมาก และDMทำหน้าที่ปัดกวาดได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนไม่เหลืองานหนักมาถึงตำแหน่งของเขาเท่านั้นถึงจะเอาอยู่ แต่ถ้าหากวันไหนเจอบอลdirectแบบคมๆ เหมือนที่วันนี้เราเจอล่ะ? รวมถึงลูกโด่งด้วยที่ยังไม่โดนเปิดแผลเหวอะหวะในตอนนี้ว่า บลินด์ยังป้องกันลูกกลางอากาศได้ไม่ชัวร์เท่าไหร่ ..
เราจะดึงดันใช้สุดหล่อยืนเซ็นฯต่อไป ผมว่าไม่เป็นผลดี ยังไงก็ต้องเป็นกองหลังขนานแท้เจ๋งๆอีกตัวเท่านั้น ส่วนตัวผมอยากได้สายชนมากกว่า เพราะสมอลลิ่งในตอนนี้ผมจะฝากผีฝากไข้ได้บ้างเรื่องการดักทาง ผมอยากได้สายชน หรือไม่ก็ ตัวเก๋าที่ยังมีพลังมากพอจะฟัดอยู่ แต่คุมเกมส์ได้ดีๆ .. หรือถ้าสุดท้ายมันจะถึงช่วงปิดตลาดอยู่แล้วละก็ .. ใครก็ได้โว้ยสักคนซื้อๆมาเทอะ!!! (แมร่มเอ๊ย..)
มิดฟิลด์คู่กลาง ไม่มีอะไรพูดถึงเพราะเป็นสองตัวที่ผมชอบและอยากให้ลงคู่อยู่แล้ว แต่ผิดคาดผลงานกลับไม่โดดเด่นมากเท่าที่ควร บาสตี้ส่วนตัวผมว่าเขาทำได้ดี แต่ท้ายเกมส์พลังตก ก็แอบเห็นได้ชัดเหมือนกันว่า มีจ่ายเสียมาเรื่อยๆนั่นแหละตอนท้าย ส่วนชไนเดอลิน วันนี้หายๆบทบาทไม่เด่นมาก ส่วนหนึ่งต้องชมเจ้าโกมิสด้วยที่แข็งแกร่งเกินคน แถมเก็บบอลดีเว่อร์ แทนที่แผงหลังสวอนซีเตะสวนกลับมา จะเหมือนเตะอัดกำแพง แมนยูเก็บบอลได้แล้วบุกต่อ แต่กลับกลายเป็นว่า โกมิสแกร่งกว่าแผงตัวรับของแมนยู ชิงเก็บบอลได้ซะยังงั้น สวอนซีเลยมีจังหวะสวนต่อเนื่อง ทำให้เกมส์บุกของแมนยูไนเต็ด ไม่มีเป็นชิ้นเป็นอันเลยตลอด90นาที คือมันไม่ต่อเนื่องจนสามารถที่จะชิงโมเมนตัมของเกมส์มาได้ .. รวมถึงท้ายเกมส์ ก็เปิดแผลของแมนยูอีกหนึ่งดอกเต็มๆ นั่นก็คือ ทีมเรา โคตรรรรรลน ลนลานมากเมื่อโดนยิงขึ้นนำ พอทีมเริ่มที่จะ “หมดเวลาซาหนุกแล้วสิ” ก็เริ่มบุกสะเปะสะปะมากขึ้น จนเวลาที่เหลืออยู่ กดดันอะไรสวอนซีไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว .. อืมม์.. เอาที่พี่สบายใจเลยฮะ
ตำแหน่งสุดท้าย ที่เชื่อว่าทุกคนก็รออยู่ นั่นก็คือกองหน้า และต้องเป็นเวิร์ลคลาส ระดับที่ต้องเหนือกว่ารูนเท่านั้น .. เขียนมาตั้งขนาดนี้ ผมกำลังรอที่จะกระซวกเจ้ากัปตันเบอร์10ของเราอยู่นี่แหละ กล่าวก่อนว่า การเสียRVPไปนั้น เท่ากับว่าเราเหลือกองหน้าแท้ๆใช้งานได้อยูแค่2ตัวเท่านั้น ซึ่งมันไม่พอเลยกับการจะมาลุ้นแชมป์ปีนึงหลายๆถ้วย จะบอกว่า จะใช้เฟลไลนี่เป็นTarget man แทนการเป็นมิดฟิลด์นั้น ผมยอมให้ก็ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด เขาก็ฝากความหวังในแดนหน้าไม่ได้ .. ชิชาริโต้ที่ขาดความมั่นใจไปแล้ว ก็ควรจะเป็นตัวพลิกเกมส์ในฐานะตัวสำรองอย่างเดียว ซึ่งผมยังเชื่อมั่นเขาอยู่แม้จะหมูหกมาสองดอกใหญ่แบบน่าตบกะโหลกให้ขี้หูแดนซ์ท่าบาซูก็ตาม
ดังนั้นเมื่อนับดูแล้ว นี่เราเหลือกองหน้าในสนามโอเพ่นเพลย์สิบเอ็ดคนแรกจริงๆแค่ ไอ้หมูตัวเดียว ตัวเดียวจริงๆแบบไม่มีใครกดดัน เพราะเฟลไลนี่ลงหน้าตัวจริงไม่ได้เช่นเดียวกับชิชาที่ไม่เหมาะ .. สภาพก็เป็นอย่างที่เห็นว่า เรามีรูนคนเดียวจริงๆ ดังนั้น ไม่ว่าบอสเราจะงี่เง่ายังไงก็แล้วแต่ แต่คิดง่ายๆ การเสียกองหน้าระดับRVPไป แล้วไม่ยอมซื้อใครเข้ามาเพิ่มเลยนี่ แมร่งเป็นการกระทำที่งี่เง่าและเฟลสุดๆ ขนาดที่ว่า เด็กๆยังคิดได้เลยว่ามันควรจะต้องซื้อตัวใหม่เข้ามารึเปล่า(วะ)
ถึงรูนนี่ย์จะฟอร์มไม่เป็นแบบนี้ก็ตาม แต่คุณพี่ไม่คิดจะสลับให้คนอื่นมาช่วยมันเล่นเลยใช่ไหม ถ้ามันเจ็บขึ้นมาตัวนึงคุณจะทำเยี่ยงไร?? จนตลาดจะปิด สนามรบของจริงมันเริ่มแล้ว จะมารอปิดดีลวันสุดท้าย ชนิดที่ว่าดั้นด้นแบกรถฟักทองตรามือกระเหี้ยนกระหือรือบึ่งไปดักฉุดมันหน้าสนามบินฮีทโธรว์ มันจะช้าไปไหมฟะ ตัวดีๆทีมอื่นเขาเอาไปหมดแล้ว นี่ก็ได้แต่หวังว่าคำพูดจากปากของลอร์ดเอ็ดมหาราชตามข่าวมันจะเป็นจริงว่า จะทำให้ทุกคนลืมดีลเปโดรไปเลย .. (ข่าวอีน้องอีฟใช่ไหมที่ว่า ถรุ้ยยยย) ขอให้จริงนะ เอามาเหอะใครก็ได้ ที่เก่งกว่ารูน ตอนนี้จะมาเอาแค่ตัวสแตนด์บายหมูนี่ มันไม่ได้นะฮะ ผมก็ต่อต้านมาแต่แรกแล้วด้วย ขอตัวที่สดกว่าดีกว่าเลยเหอะ
ย้อนกลับมาที่แมตช์วันนี้ของเรากันต่อ ได้เวลากระซวกทีมรุกของเราบ้างแล้ว ขอเริ่มจากมาต้าและเอเรร่าก่อน จริงๆไม่มีอะไรจะให้ตำหนิมากมาย สองคนนี้ยังเคลื่อนเกมส์ได้ดีเหมือนเคย แต่ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ มาต้าของเราจะเล่นลำบากมาก เพราะได้บอลเมื่อไหร่ จะเป็นคนเดียวที่โดนคู่ต่อสู้บีบเร็วมาก และเข้ามาถึงตัวสุดๆ โดยที่จุดไม่แข็งของมาต้าที่รู้กันอยู่แล้วคือความเร็วความแข็งแกร่งของพี่ต้ายังไม่มากพอจะเอาชนะตัวที่เข้ามาบีบได้ อาจจะเลี้ยงบังบอลได้แต่เลี้ยงกินตัวคู่แข่งไม่ได้นั่นเอง บางครั้งเลยไปไม่ได้ โดนบีบจึงหมดโอกาสปั้นเกมส์ในที่สุด
ซึ่งจริงๆแล้วอันนี้ไม่ได้ตำหนินะ แต่เป็นการตั้งข้อสังเกตว่า พี่ต้าเราโดนเพรสหนักที่สุดละ เหมือนตัวคีย์แมนเลย ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆเพราะจังหวะเป็นตายหลายๆครั้ง ก็คิลเลอร์พาสของแกนี่แหละเป็นตัวตัดสิน พอโดนแบบนี้เลยลำบาก และจะลำบากแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะแกโดนแบบนี้ทุกนัดจริงๆ แต่การเล่นหน้าต่ำทางขวาของต้าก็ยังสามารถช่วยทีมผลิตสกอร์ได้เรื่อยๆ เฉกเช่นวันนี้ จะเหลือก็เพียงการประสานงานกับแบ็คฝั่งขวานี่แหละที่ยังไม่เข้าขากันเท่าที่ควร ไม่เหมือนฤดูกาลก่อนที่เล่นลิงสามเหลี่ยม ต้าเล่เวียร์กันสนุกสนาน เพราะงั้นคงต้องปรับกันต่อไป แต่ก็นะ ขนาดคนทำประตูได้ ยังโดนเปลี่ยนออก .. ขอเก็บไว้พาร์ทกระซวกmanagerทีเดียว
มีบ่นต่อ คห. ด้านล่างจ้า