ไม่มีใครสนใจวิเคระาห์กันเลยเหรอ ว่าทำไมช่วงสิบปีมานี่ มุสลิมถึงอพยพหนีภัยสงคราม ซึ่งเกิดขึ้นทั่วไป เกือบทั้งตะวันออกกลาง แล้วรัฐบาลในแต่ละประเทศของเขาทำอะไรอยู่ และทำไมมุสลิมพวกนี้ไม่สู้เพื่อแผ่นดินเกิด  อย่างแถวอาฟริกา จับเด็กหญิงไปเป็นร้อย ๆ รัฐบาลไม่มีปัญญาหรือสมรู้ร่วมคิด เราลองวิเคราะห์เล่น ๆ
1. ความเชื่อเรื่องวันกียามะห์ (1 ในหลักศรัทธา 6 ของอิสลาม)  มีบางกลุ่มเชื่อว่า วันกียามะห์ใกล้เข้ามาเต็มที่แล้ว ต้องเร่งสร้างบุญ เพื่อจะได้ไปสวรรค์ (ไม่บรรยายหล่ะกันว่าบุญของมุสลิมคือ อะไร ที่จริง ไม่ค่ควรกับคำว่าบุญด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้จะใช้คำไหนแทน)
2. การอพยพ ภัยสงคราม การก่อการร้ายการดี ในสังคมอิสลาม คือ การทดสอบของพระเจ้า โดยเฉพาะการอพยพ เมื่อได้พบดินแดนใหม่ นั้นคือ ดินแดนที่พระเจ้าประทานให้ (ถึงแม้จะตายระหว่างการอพยพก็ได้ไปสวรรค์) ส่วนผู้คนช่วยเหลือ นั้นคือ พระเจ้าส่งบ่าวพวกนี้มาให้รับใช้ เพราะอิสลามเชืออย่างหนักแน่นว่า เผ่าพันธุ์อื่นไม่บริสุทธิ์ ล้วนต้องไปนรก เผ่าพันธุ์อิสลามเท่านั้นทีสูงส่ง  (ถ้าไทยพุทธก็จะมองว่าพวกที่มาช่วย คือ พวกที่มีบุญคุณ แต่มุสลิมมองว่าพระเจ้าส่งพวกนี้มาเป็นบ่าว จึงไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น)

เราว่าสถานการณ์ไม่มีโอกาสคลี่คลายเลย มีแต่จะรุนแรงมากขึ้น มุสลิมอพยพไปที่ไหน ที่นั่นจะลุกเป็นไฟ

มุสลิมจะครองโลก เพราะ
1. ไม่คุมกำเนิด และไปหาแต่งงานในดินแดนใหม่ และบังคับเข้ารับอิสลาม (ผู้ชายมีเมียได้ 4 คน อินเดียยังพ่ายเกมกามมาแล้ว)
2. ครอบครองดินแดนใหม่โดยการอพยพเข้าไป และทำตัวแปลกแยกกับเจ้าของถิ่นเดิม เมื่อพอมีกำลังกายกำลังใจก็สร้างความโปรดปรานแก่พระเจ้า (ทำบุญ) ด้วยการสร้างวัฒนธรรมและองค์กรทางศาสนาที่เคร่งครัด (อย่างเร็ว ๆ นี้ก็ในอิตาลี) เมือ่กลุ่มนี้เข้าไปแข็งแรงแล้ว ก็จะมีกลุ่มหัวรุนแรงตามเข้าไป พร้อมสร้างดารุสซาลามทั่วพื้นที่ ใครโลกสวยปล่อยให้มุสลิมมาตั้งมัสยิด สุเหร่า โรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่ก็ตามใจนะ  เพราะการเผยแพร่ศาสนาของเขาทำได้ง่ายๆ ก็ด้วยวิธีนี้แหล่ะ
แต่ อาจจะเกิดความตึงเครียดจนก่อสงครามก็ได้ เพราะพื้นที่และทรัพยากรมีจำกัด รวมทั้งมุสลิมไม่เคารพหรือให้เกียรติเจ้าของที่เดิม ถ้าทำอะไรรุนแรง พวกนี้จะกล่าวหาว่าถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรม