วันนี้ "ตาแว่นบอกต่อ" มีห้องอาหารหนึ่งจะมาแนะนำที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของโรงแรมแกลเลอเรียเท็น นั่นคือห้องอาหาร
"ลีพฟร็อก บาร์ แอนด์ กริลล์ Leapfrog Bar & Grill" แต่บังเอิญวันที่ผมไปเป็นวันที่มีฝนตกช่วงเย็นพอดี แถมตกหนักด้วยเลยอดได้บรรยากาศที่ต้องการจริงๆ ภาพก็ถ่ายไม่ได้ เพราะใจจริงที่อยากไปที่ห้องอาหารนี้เพราะอยากไปนั่งดื่มเครื่องดื่มแบบชิลๆพร้อมด้วยวิวกรุงเทพในตอนกลางคืน อยากได้ภาพสวยๆ มาอวด และผู้คนที่ไม่พลุกพล่านจอแจแต่อยู่ใจกลางเมือง
โปรโมชั่นน่าสนใจมีดังนี้
*Happy Hour ทุกวัน เวลา 18.00-20.00 น. เครื่องดื่มทุกประเภท ซื้อ 1 ฟรี 1
*Guys Sundown ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป เบียร์ซื้อ 1 ฟรี 2
เฉพาะแก็งค์สุภาพบุรุษ ถ้าสุภาพสตรีมาต้องสั่งเพิ่มนะแชร์กันไม่ได้ต้องแฟร์กัน ถ้าแชร์แล้วตัดสิทธิ์ทันที
*Female Dusk ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ฟรี 3 ดริ้งค์ เครื่องดื่มทุกชนิด เฉพาะแก็งค์สุภาพสตรี
(ไม่มีเงื่อนไข แค่เดินขึ้นมา ไม่ต้องสั่งอาหารยังได้ แต่ถ้าสุภาพบุรุษมาด้วยแชร์เครื่องดื่มไม่ได้นะ ไม่งั้นแล้วโดนตัดสิทธิจ่ายเต็มราคา)
*Funky Night ทุกวันเสาร์ เวลา 20.00-24.00 น. สนุกกับดีเจแนวเพลง Funky
ห้องอาหาร
"ลีพฟร็อก บาร์ แอนด์ กริลล์ Leapfrog Bar & Grill" อยู่ย่านสุขุมวิท ซอย10 เลยสวนชูวิทย์ไปประมาณ 150 เมตร ตั้งอยู่ในโรงแรมแกเลอเรียเท็น Galleria 10 ที่อยู่ในเครือของคอมปาส เดิมโรงแรมนี้มีชื่อว่า รามาด้า อังคอร์ เปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนการตกแต่งใหม่ให้เข้ากับไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ ห้องอาหารนี้เหมาะสำหรับการที่จะมาแฮงค์เอ้าท์มานั่งดริ้งกันหลังเลิกงานหลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน หากจะมาที่โรงแรมนี้ให้มาด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีนานา แล้วเดินย้อนกลับมา หากไม่อยากเดินเข้าซอยให้โทรไปที่โรงแรมก่อน หลังจากนั้นก็จะมีรถชัทเติ้ลบัสของโรงแรมมารับ สะดวกสบายไม่ต้องกลัวรถติดด้วย
ห้องอาหารวันนี้ค่อนข้างมืดเพราะไม่มีแสงจากข้างนอกเข้ามาเลย แต่มาแล้วก็อยากให้เพื่อนๆดูว่าบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มด้วยบรรยากาศภายในห้องอาหารหลักเลยก็แล้วกัน ห้องอาหารนี้มีด้วยกัน 3 โซนคือ
โซนแรก คือโซนภายในร้านที่เป็นห้องแอร์สามารถจุคนได้ 30 ที่นั่ง บรรยากาศการตกแต่งโล่งโปร่ง สบาย น่านั่ง ไม่อึดอัดเน้นโทนสีมืด พร้อมด้วยไฟสีแดง ทำให้ความรู้สึกร้อนแรง และเคร่งขรีมของสีดำ ส่วนฝาผนังมีภาพเขียนที่เป็นภาพของกบกระโดด ซี่งเป็นที่มาของชื่อห้องอาหารนี้ ออกแบบโดย มร.เควิน คริสติสัน ชาวอเมริกัน ฝาพนังแบบปูนเปลือย สามารถมองเห็นบาร์เท็นเดอร์ทำเครื่องดื่มแบบสดๆ แล้วครัวเปิดแต่กั้นด้วยกระจก ฝรั่งจะชอบไปมองดูเชฟทำอาหารมาก
โซนที่สอง คือโซนที่เป็นแบบไพรเวท แบบส่วนตัว จุคนได้ประมาณ 12ที่นั่ง สำหรับใครที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถจองห้องนี้ได้ มีสองส่วนคือส่วนที่เป็นโต๊ะและเก้าอี้ไม้ อีกส่วนหนึ่งเป็นแบบโซฟา ห้องนี้มีประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ พร้อมด้วยกระจกสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้
โซนที่สาม คือโซนที่อยู่ด้านนอก(Outdoor) บริเวณสระว่ายน้ำ สามารถจุได้ 40 ท่าน สำหรับใครที่ต้องการความผ่อนคลาย สบายๆ สูดอากาศที่สดชื่น โดยในวันนี้เป็นวันที่ฝนตกหนังไม่มีภาพมาให้ดู หากมาวันที่ฝนไม่ตกบรรยากาศของภายนอกนี้จะสวยงามเห็นวิวของกรุงเทพ ถ้าจะมาจัดงานปาร์ตี้แบบหลายคน หรือจะมาจัดงานแต่งงานที่นี่เหมาะมาก
เมื่อจะมานั่งดริ้งค์ก็ต้องสั่งเครื่องดื่มมาแต่ผมไม่ดื่มเครื่องดื่มีที่มีแอลกอฮอล์ เลยถามบาร์เทนเดอร์ว่ามีเมนูอะไรบ้าง ก็เลยได้ตัวนี้มา "เวอร์จิ้นฟร๊อคสตอรี่" ที่เรียกว่าเวอร์จิ้นนี้คงเป็นเพราะว่าไม่มีส่วนของแอลกอฮอล์ผสม รสชาติออกมาแนวเปรี้ยวหวานจี๊ดจ้าด อร่อยมาก ดื่มแล้วสดชื่น ต้องค่อยจิบเพราะออกแนวแสบคอนิดหน่อย มีความเปรี้ยวของน้ำสับปะรด และความหวานของไซรับเขียว
ต่อมาจะเป็นอีกแก้วหนึ่ง คือ"เวอร์จิ้นฮันนี่บันนี่" ไม่มีแอลกอฮอลล์เช่นเดียวกัน สำหรับใครที่ชอบมาสังสรรค์แต่ไม่อยากเมาก็สั่งเครื่องดื่มแนวนี้ได้ รสชาติที่อร่อยมาก หวานเปรี้ยวเช่นกัน แต่คนละแบบ แล้วก็มีการโรยน้ำตาลรอบปากแก้วทำให้ดื่มไปแล้วความเปรี้ยวของเครื่องดื่มลดลง
มาดูเมนูอาหารกัน ที่มาเป็นเมนูแรกเลยคือ "ทาปาส The frog’s trees" จะมีให้เลือก 2 อย่างคือ ทาปาสแบบ 3 ชั้น และทาปาสแบบ 5 ชั้น ผมสั่งมาเป็นแบบ 3 ชั้นก็จะมี Smoked Duck Spring Rolls เปาะเปี๊ยะเป็ดรมควัน , Mozzarella Cheese Bites ชีสทอด, และขนมปังสลัดอโวคาโด้ รสร้อนแรง เผ็ดจัดจ้าน วัตถุดิบที่ใช้คุณภาพสดสะอาดดี รสชาติโดยรวมทำได้ดีครบรสครบเครื่อง
ต่อมาไม่นานเมนูนี้ก็มาเสิร์ฟ เป็น "ซี่โครงหมูซอสบาร์บีคิว" เนื้อซี่โครงนุ่ม ร่วน ซอสที่เข้มข้นมีความความของซอสแอปเปิ้ลและเครื่องปรุงต่างๆ ทานคู่กับข้าวโพดต้มและผักต่าง รสชาติโดยรวมของเมนูนี้อร่อยมาก
ถัดมาเป็น "ซีฟู้ดบาร์บีคิว" อาหารทะเลที่สดมากย่างมาได้ดี พร้อมด้วยซอสรสเด็ดเผ็ดจัดจ้านออกรสหวานนำ เสิร์ฟมา 2 ไม้ย่างบนแผ่นไม้ จะมีหอยแมลงภู่ตัวใหญ่ กุ้งขนาดจัมโบ้ด้วยความสดทำให้กุ้งมีความหวาน เด้งหนึบหนับ และปลากะพงที่หั่นเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมชิ้นใหญ่นับเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำ
"พิซซ่าฮาวาเอี้ยน" พิซซ่าของที่นี่จะทำแป้งเอง อยู่ประมาณปานกลางคือจะว่าหนาก็ไม่หนา บางก็ไม่บาง คืออารมณ์ว่ารวมกันหนาปานกลางและกรอบ ส่วนหน้านี้รสชาติอร่อยมาก มีข้อเสียอย่างเดียวคือส่วนหัวจะแข็งไปหน่อยส่วนที่ตรงกลางจะพอดี
"สเต็กปลาแซลม่อน" เมนูนี้อร่อยมาก มันฝรั่งบดทำออกมาได้ดี เพียงแต่ว่าวันนี้พ่อครัวทำปลาแซลม่อนโอเวอร์คุ้กไปหน่อย โดยรวมแล้วจานนี้เป็นจานที่อร่อยใช้ได้เลย
เมนูสุดท้ายของค่ำคืนนี้เป็น "ทีรามิสุมูสชาเขียว" ส่วนตัวแล้วเป็นเค้กที่อร่อยมากเท่าที่ได้ลิ้มลองมา ตัวเค้กที่เนียน แต่เซ็ตตัวแข็งได้ดี เสิร์ฟมาพร้อมด้วยไอศครีมวานิลลา สุดยอดมากับเมนูของหวานเมนูนี้
ข้อมูลทั่วไปของ Leapfrog Bar & Grill โรงแรมแกเลอเรียเท็น :
เบอร์โทรศัพท์ : 026150999 , 026531519
เว็บไซต์ : http://www.galleriatenbangkok.com/
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 16.00 - 01.00 น.
การเดินทาง : การเดินทางก็ใช้บริการ BTS ลงสถานีอโศก หรือ นานา ก็ได้ เดินมายังปากซอยสุขุมวิท 10 จากนั้นจะเดินเล่นเข้าไปประมาณ5 นาที หรือโทรติดต่อให้ทางโรงแรมส่งรถมารับที่ปากซอยก็ได้ครับ ทางโรงแรมมีบริการรถรับส่งระหว่างโรงแรมและปากซอยสุขุมวิท 10
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของโรงแรม Galleria 10 Bangkok Hotel
ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เขียนได้ที่ :
เว็บไซต์ : http://www.dekguide.com
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/PremiumBuffet,
https://www.facebook.com/dekguide.lifestyle
อินสตาแกรม : https://instagram.com/dekguide
[SR] ลีพฟร็อก บาร์ แอนด์ กริลล์ Leapfrog Bar & Grill โรงแรมแกลเลอเรีย เท็น สุขุมวิท 10
*Happy Hour ทุกวัน เวลา 18.00-20.00 น. เครื่องดื่มทุกประเภท ซื้อ 1 ฟรี 1
*Guys Sundown ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป เบียร์ซื้อ 1 ฟรี 2
เฉพาะแก็งค์สุภาพบุรุษ ถ้าสุภาพสตรีมาต้องสั่งเพิ่มนะแชร์กันไม่ได้ต้องแฟร์กัน ถ้าแชร์แล้วตัดสิทธิ์ทันที
*Female Dusk ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ฟรี 3 ดริ้งค์ เครื่องดื่มทุกชนิด เฉพาะแก็งค์สุภาพสตรี
(ไม่มีเงื่อนไข แค่เดินขึ้นมา ไม่ต้องสั่งอาหารยังได้ แต่ถ้าสุภาพบุรุษมาด้วยแชร์เครื่องดื่มไม่ได้นะ ไม่งั้นแล้วโดนตัดสิทธิจ่ายเต็มราคา)
*Funky Night ทุกวันเสาร์ เวลา 20.00-24.00 น. สนุกกับดีเจแนวเพลง Funky
ห้องอาหาร "ลีพฟร็อก บาร์ แอนด์ กริลล์ Leapfrog Bar & Grill" อยู่ย่านสุขุมวิท ซอย10 เลยสวนชูวิทย์ไปประมาณ 150 เมตร ตั้งอยู่ในโรงแรมแกเลอเรียเท็น Galleria 10 ที่อยู่ในเครือของคอมปาส เดิมโรงแรมนี้มีชื่อว่า รามาด้า อังคอร์ เปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนการตกแต่งใหม่ให้เข้ากับไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ ห้องอาหารนี้เหมาะสำหรับการที่จะมาแฮงค์เอ้าท์มานั่งดริ้งกันหลังเลิกงานหลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน หากจะมาที่โรงแรมนี้ให้มาด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีนานา แล้วเดินย้อนกลับมา หากไม่อยากเดินเข้าซอยให้โทรไปที่โรงแรมก่อน หลังจากนั้นก็จะมีรถชัทเติ้ลบัสของโรงแรมมารับ สะดวกสบายไม่ต้องกลัวรถติดด้วย
ห้องอาหารวันนี้ค่อนข้างมืดเพราะไม่มีแสงจากข้างนอกเข้ามาเลย แต่มาแล้วก็อยากให้เพื่อนๆดูว่าบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มด้วยบรรยากาศภายในห้องอาหารหลักเลยก็แล้วกัน ห้องอาหารนี้มีด้วยกัน 3 โซนคือ
โซนแรก คือโซนภายในร้านที่เป็นห้องแอร์สามารถจุคนได้ 30 ที่นั่ง บรรยากาศการตกแต่งโล่งโปร่ง สบาย น่านั่ง ไม่อึดอัดเน้นโทนสีมืด พร้อมด้วยไฟสีแดง ทำให้ความรู้สึกร้อนแรง และเคร่งขรีมของสีดำ ส่วนฝาผนังมีภาพเขียนที่เป็นภาพของกบกระโดด ซี่งเป็นที่มาของชื่อห้องอาหารนี้ ออกแบบโดย มร.เควิน คริสติสัน ชาวอเมริกัน ฝาพนังแบบปูนเปลือย สามารถมองเห็นบาร์เท็นเดอร์ทำเครื่องดื่มแบบสดๆ แล้วครัวเปิดแต่กั้นด้วยกระจก ฝรั่งจะชอบไปมองดูเชฟทำอาหารมาก
โซนที่สอง คือโซนที่เป็นแบบไพรเวท แบบส่วนตัว จุคนได้ประมาณ 12ที่นั่ง สำหรับใครที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถจองห้องนี้ได้ มีสองส่วนคือส่วนที่เป็นโต๊ะและเก้าอี้ไม้ อีกส่วนหนึ่งเป็นแบบโซฟา ห้องนี้มีประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ พร้อมด้วยกระจกสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้
โซนที่สาม คือโซนที่อยู่ด้านนอก(Outdoor) บริเวณสระว่ายน้ำ สามารถจุได้ 40 ท่าน สำหรับใครที่ต้องการความผ่อนคลาย สบายๆ สูดอากาศที่สดชื่น โดยในวันนี้เป็นวันที่ฝนตกหนังไม่มีภาพมาให้ดู หากมาวันที่ฝนไม่ตกบรรยากาศของภายนอกนี้จะสวยงามเห็นวิวของกรุงเทพ ถ้าจะมาจัดงานปาร์ตี้แบบหลายคน หรือจะมาจัดงานแต่งงานที่นี่เหมาะมาก
เมื่อจะมานั่งดริ้งค์ก็ต้องสั่งเครื่องดื่มมาแต่ผมไม่ดื่มเครื่องดื่มีที่มีแอลกอฮอล์ เลยถามบาร์เทนเดอร์ว่ามีเมนูอะไรบ้าง ก็เลยได้ตัวนี้มา "เวอร์จิ้นฟร๊อคสตอรี่" ที่เรียกว่าเวอร์จิ้นนี้คงเป็นเพราะว่าไม่มีส่วนของแอลกอฮอล์ผสม รสชาติออกมาแนวเปรี้ยวหวานจี๊ดจ้าด อร่อยมาก ดื่มแล้วสดชื่น ต้องค่อยจิบเพราะออกแนวแสบคอนิดหน่อย มีความเปรี้ยวของน้ำสับปะรด และความหวานของไซรับเขียว
ต่อมาจะเป็นอีกแก้วหนึ่ง คือ"เวอร์จิ้นฮันนี่บันนี่" ไม่มีแอลกอฮอลล์เช่นเดียวกัน สำหรับใครที่ชอบมาสังสรรค์แต่ไม่อยากเมาก็สั่งเครื่องดื่มแนวนี้ได้ รสชาติที่อร่อยมาก หวานเปรี้ยวเช่นกัน แต่คนละแบบ แล้วก็มีการโรยน้ำตาลรอบปากแก้วทำให้ดื่มไปแล้วความเปรี้ยวของเครื่องดื่มลดลง
มาดูเมนูอาหารกัน ที่มาเป็นเมนูแรกเลยคือ "ทาปาส The frog’s trees" จะมีให้เลือก 2 อย่างคือ ทาปาสแบบ 3 ชั้น และทาปาสแบบ 5 ชั้น ผมสั่งมาเป็นแบบ 3 ชั้นก็จะมี Smoked Duck Spring Rolls เปาะเปี๊ยะเป็ดรมควัน , Mozzarella Cheese Bites ชีสทอด, และขนมปังสลัดอโวคาโด้ รสร้อนแรง เผ็ดจัดจ้าน วัตถุดิบที่ใช้คุณภาพสดสะอาดดี รสชาติโดยรวมทำได้ดีครบรสครบเครื่อง
ต่อมาไม่นานเมนูนี้ก็มาเสิร์ฟ เป็น "ซี่โครงหมูซอสบาร์บีคิว" เนื้อซี่โครงนุ่ม ร่วน ซอสที่เข้มข้นมีความความของซอสแอปเปิ้ลและเครื่องปรุงต่างๆ ทานคู่กับข้าวโพดต้มและผักต่าง รสชาติโดยรวมของเมนูนี้อร่อยมาก
ถัดมาเป็น "ซีฟู้ดบาร์บีคิว" อาหารทะเลที่สดมากย่างมาได้ดี พร้อมด้วยซอสรสเด็ดเผ็ดจัดจ้านออกรสหวานนำ เสิร์ฟมา 2 ไม้ย่างบนแผ่นไม้ จะมีหอยแมลงภู่ตัวใหญ่ กุ้งขนาดจัมโบ้ด้วยความสดทำให้กุ้งมีความหวาน เด้งหนึบหนับ และปลากะพงที่หั่นเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมชิ้นใหญ่นับเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำ
"พิซซ่าฮาวาเอี้ยน" พิซซ่าของที่นี่จะทำแป้งเอง อยู่ประมาณปานกลางคือจะว่าหนาก็ไม่หนา บางก็ไม่บาง คืออารมณ์ว่ารวมกันหนาปานกลางและกรอบ ส่วนหน้านี้รสชาติอร่อยมาก มีข้อเสียอย่างเดียวคือส่วนหัวจะแข็งไปหน่อยส่วนที่ตรงกลางจะพอดี
"สเต็กปลาแซลม่อน" เมนูนี้อร่อยมาก มันฝรั่งบดทำออกมาได้ดี เพียงแต่ว่าวันนี้พ่อครัวทำปลาแซลม่อนโอเวอร์คุ้กไปหน่อย โดยรวมแล้วจานนี้เป็นจานที่อร่อยใช้ได้เลย
เมนูสุดท้ายของค่ำคืนนี้เป็น "ทีรามิสุมูสชาเขียว" ส่วนตัวแล้วเป็นเค้กที่อร่อยมากเท่าที่ได้ลิ้มลองมา ตัวเค้กที่เนียน แต่เซ็ตตัวแข็งได้ดี เสิร์ฟมาพร้อมด้วยไอศครีมวานิลลา สุดยอดมากับเมนูของหวานเมนูนี้
ข้อมูลทั่วไปของ Leapfrog Bar & Grill โรงแรมแกเลอเรียเท็น :
เบอร์โทรศัพท์ : 026150999 , 026531519
เว็บไซต์ : http://www.galleriatenbangkok.com/
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 16.00 - 01.00 น.
การเดินทาง : การเดินทางก็ใช้บริการ BTS ลงสถานีอโศก หรือ นานา ก็ได้ เดินมายังปากซอยสุขุมวิท 10 จากนั้นจะเดินเล่นเข้าไปประมาณ5 นาที หรือโทรติดต่อให้ทางโรงแรมส่งรถมารับที่ปากซอยก็ได้ครับ ทางโรงแรมมีบริการรถรับส่งระหว่างโรงแรมและปากซอยสุขุมวิท 10
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของโรงแรม Galleria 10 Bangkok Hotel
ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เขียนได้ที่ :
เว็บไซต์ : http://www.dekguide.com
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/PremiumBuffet, https://www.facebook.com/dekguide.lifestyle
อินสตาแกรม : https://instagram.com/dekguide
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น