รีวิว The Longest Ride (2015) | ความรักต้องการความเสียสละเสมอ



เคยไหมคบกับใครแล้ววาดฝันไว้ดิบดี แต่ปรากฎว่าไม่สามารถทำอย่างฝันได้ การที่จะคบกันต่อก็คือเราต้องยอมเสียสละทิ้งความฝันดังกล่าวเพื่อจะได้อยู่กับคนที่เรารัก ถ้าใครเคยต้องเจอทางเลือกแบบนี้แนะนำให้ลองมาดูผลงานจากนิยายของนิโคลัส สปาร์คเรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งขอเตือนสักนิดว่าระหว่างทางมันโรแมนติกชวนฝันและตั้งคำถามถึงทางเลือกที่หาทางออกได้ยาก แต่กลับตกม้าตายด้วยตอนจบที่คลี่คลายง่ายดายชวนให้อยากตบกบาลคนเขียน

หนังเล่าเรื่องของ 'ลุค' (Scott Eastwood) แชมป์เปี้ยนนักขี่วัว ได้ออกเดทกับ 'โซเฟีย' (Britt Robertson) นักเรียนศิลปะ ขณะที่ทั้งคู่ทำความรู้จักกันก็ต้องพบว่าต่างคนต่างกำลังต้องแยกทาง เขาต้องการแข่งขี่วัวเพื่อเป็นสุดยอดแชมป์ ส่วนเธอต้องไปฝึกงานไกลต่างเมืองเพื่อโอกาสการงานที่ดี ความห่างไกลทำให้ทั้งคู่ยอมรับว่าคงไม่อาจคบกันได้ จนกระทั่งทั้งสองได้ช่วยชีวิต 'ไอร่า' ชายแก่คนหนึ่งจากอุบัติเหตุ ทำให้ได้อ่านจดหมายบอกเล่าความรักของไอร่ากับภรรยาซึ่งจะช่วยให้ลุคและโซเฟียทบทวนความสัมพันธ์ของตัวเองอีกครั้ง



สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนสำหรับนิยายของนิโคลัส สปาร์คก็คืองานของเขามันจะเป็นเรื่องของคนที่มีความศรัทธาในรักแท้อย่างแรงกล้า งานเขียนเขาจะเป็นรักในอุดมคติสูงทีเดียว(แม้กระทั่ง Message in a Bottle ที่ผมว่าเรียลสุดก็ยังดูชวนฝัน) พอมีคนหยิบจับไปทำหนังจึงมักจะทำออกมาให้มีความโรแมนติกสูงมาก ๆ จนบางครั้งอาจดู unrealistic ไปพอสมควร ซึ่งก็อยู่ที่จริตคนดูแล้วว่าชอบแนวชวนฝันแบบนี้ไหม ถ้าชอบก็มักจะอินไปกับความโรแมนติกของนิโคลัส สปาร์คได้ไม่ยาก

หนังทำได้ดีในการใช้คู่รักในอดีตเป็นเครื่องเตือนใจให้หนุ่มสาวยุคปัจจุบันได้ทบทวนความต้องการของตัวเอง ลุคเองก็อยากเป็นแชมป์เปี้ยน อยากเป็นสุดยอดนักขี่วัว ส่วนโซเฟียก็ได้ข้อเสนองานที่ดีไกลถึงนิวยอร์ค ทั้งสองคนต่างก็มีความฝันของตัวเอง ไม่ต่างจาก 'รูธ' ภรรยาของไอร่าที่ฝันอยากมีลูกแต่สามีกลับเป็นหมันจากสงคราม ที่สุดแล้วรูธก็ต้องยอมรับว่าเธอรักสามีมากจนยอมทิ้งความต้องการที่จะมีลูก ซึ่งการเสียสละดังกล่าวได้กลายมาเป็นข้อคิดให้ลุคและโซเฟียเริ่มต้นทบทวนว่าอยากเดินตามฝันส่วนตัวหรือจะมีคนใดคนหนึ่งเสียสละความฝันของตัวเอง



การที่หนังมันตั้งคำถามที่ตอบยาก ๆ เช่นนี้ทำให้เราคาดหวังกับตอนจบมากทีเดียวว่าจะหาทางออกอย่างไร แต่บทสรุปที่หนังตอบกลับมามันดูจะคลี่คลายง่ายดายไปมากทีเดียว[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ส่วนที่ผมชอบและเชียร์ให้ดูก็คือ ความโรแมนติกกุ๊กกิ๊กตอนทั้งคู่จีบกัน และ เคมีระหว่างบริท โรเบิร์ตสันลงตัวกับสก็อต อีสวูด


Director: George Tillman Jr.
novel: Nicholas Sparks (ผู้แต่ง A Walk to Remember, The Notebook, Dear John)
screenplay: Craig Bolotin

Genre: romance, drama
7/10

ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่น ๆ ของเพจหนังโปรดของข้าพเจ้าที่รีวิวในปี 2015 ได้ที่อัลบั้ม
http://on.fb.me/1JCUlre
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่