[CR] - TURKEY - ตุรกีหน้าหนาว! ล่องบอลลูนไปกับหิมะขาวๆ และฟ้าใสๆ ;)

ตุรกีดินแดนสองทวีปนี้ คงจะอยู่ในลิสของใครหลายๆคน ใครที่อยากไปอยู่แล้ว อย่าลังเลอีกเลย ไปเถอะ! ขอบอกว่าการได้ขึ้นบอลลูนชมธรรมชาติที่นี่ ทำให้หัวใจพองโตมาก  ;)





รีวิวกระทู้เก่า :
- GREENLAND - กรีนแลนด์ สวรรค์บนธารน้ำแข็ง  :  http://ppantip.com/topic/33909377
- INDIA - ประเทศเดียวมีหมดตั้งแต่ทะเลทรายยันภูเขาน้ำแข็ง  :  http://ppantip.com/topic/34020060
- POLAND - โปแลนด์ ประเทศใจกลางยุโรปที่ถูกลืม  :  http://ppantip.com/topic/34090712

ติดตามกันได้ที่ :
Facebook -  https://www.facebook.com/abovesealevelx
Instagram -  https://instagram.com/abovesealevelx







ตุรกี ประเทศที่มีดินแดนอยู่ทั้งเอเชียและยุโรป ล้อมรอบด้วยทะเล 3 ด้าน ธรรมชาติสวยงาม ภูมิประเทศหลากหลาย มีอารยธรรมเก่าแก่ยาวนานเป็นพันๆปี และคนไทยยังไม่ต้องขอวีซ่าอีก แถมอยู่ได้นานถึง 30 วันแหนะ!



เราเดินทางด้วยรสบัสเช่นเคย เริ่มจาก istanbul cappadocia ephesus และที่สุดท้ายคือ pamukkale จริงๆตอนแรกวางแผนไว้เยอะกว่านี้ แต่ดันมาโดนตัวต่อต่อยระหว่างทางไปซะก่อน ต้องเปลี่ยนแผนกลางคัน ทริปนี้เลยค่อนข้างสั้น ไม่ได้ไปไหนเท่าไหร่



พอลงจากเครื่องเราก็ต่อรถบัสไป Cappadocia เลยทันที
ขึ้นตอนสี่ทุ่มนั่งมาถึงก็เช้าพอดี รถบัสที่นี่ดีทีเดียวนะ มีจอให้ดูหนัง มีขนมและน้ำเสริฟ

Cappadocia อยู่ทางตอนกลางของประเทศตุรกี ที่นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเลย หลายคนต่างมาที่นี่กันเพื่อมาขึ้นบอลลูน เราเองก็เช่นกัน ;)





Cappadocia แคปปาโดเซีย คัปปาโดเกีย จริงๆอ่านได้หลายแบบ แต่ก่อนชื่อว่า Katpatuka (คัตปาตุกา) เป็นภาษาเปอร์เซียโบราณ แปลว่า ดินแดนแห่งม้าที่งดงาม



ภูมิประเทศของที่นี่สวย และแปลกตาไม่เหมือนที่อื่นนั้น เกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้ลาวาไหลออกมาปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ค่อยๆถูกกัดกร่อนนานๆไปเข้าก็เป็นอย่างที่เห็นนี้



นอกจากนั้นแล้ว ดินที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิดยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ดีต่อการเพาะปลูก เลยทำให้คนอพยพเข้ามาอยู่ที่นี่กันมาก เกิดหมู่บ้านน้อยใหญ่ตามหุบเขาเต็มไปหมด



บอลลูนขึ้นวันละหลายร้อยก็จริง แต่บอลลูนไม่ได้มีทุกวันนะ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ฟ้าไม่ได้เปิดทุกวัน ถ้าใครจะมาก็เผื่อเวลาไว้นิดนึงก็ดี จะได้ไม่พลาด คือไม่อยากให้ใครพลาดจริงๆนะ ;)



เห็นฟ้าใสแบบนี้ ข้างบนอากาศหนาวติดลบเลยนะ -11 ํ c แล้วดูในรูปบอลลูนอาจจะดูเล็ก แต่ของจริงใหญ่มากกกก เผลอๆนี่ใหญ่กว่าตึก 10 ชั้นอีก ดูคนในตระกร้าสิ เล็กนิ๊ดนึง ;D



ตอนลงจากบอลลูนแล้ว เค้าจะมีแชมเปญให้ดื่มฉลองกันด้วยนะ มีประกาศนียบัตรว่าได้ขึ้นบอลลูนแล้วด้วย เราก็ดื่มกับเค้าพอเป็นพิธี จากนั้นก็แยกย้ายกันไปเที่ยวที่อื่นๆในเมืองกันต่อ ^^



ที่นี่จะมีทัวร์รอบเมือง เค้าจะแบ่งเป็น Green Tour, Red Tour, Blue Tour, Yellow Tour  มีหลายแบบหลายราคา เราก็ดูๆว่าทัวร์เค้าไปไหนกันบ้าง รู้สึกว่าตารางแน่นและไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น เพราะขึ้นบอลลูนมาก็เห็นวิวมาทั้งเมืองแล้ว จึงตัดสินใจไปเองเลือกเฉพาะที่ๆอยากไป



วิธีเดินทางเองที่นี่มีหลายแบบ จะเช่ารถขับเอง จะเช่าจักรยานปั่น หรือรถ ATV ก็มีด้วยนะ น่าเล่นมากแต่แพงไปนิดครึ่งวันพันกว่าบาท แต่เราเลยเลือกเดินและนั่งรถเมล์ที่นั่นเอา ซึ่งตัวเมืองที่นี่เล็กมากเดินแปปเดียวก็รอบแล้ว ส่วนระหว่างเมืองไกลหน่อยก็นั่งรถเมล์เอา ซึ่งค่ารถเมล์ประมาน 30 บาทเอง



ดินที่นี่นอกจากอุดมสมบูรณ์แล้วยังนิ่มด้วยนะ ขุดเจาะง่าย ชาวบ้านเลยขุดเข้าไปอยู่อาศัยในนั้นเลย ก็ไปดูหมู่บ้านต่างๆที่พี่ที่โฮสเทลแนะนำให้ไป แต่พอดูไปสักสองสามหมู่บ้านก็รู้สึกว่าคล้ายๆกันไปหมด



มาถึง Goreme open air museum เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เกอเรเม่ ที่นี่แต่ก่อนมีหลายโบสถ์ หลายวิหารอยู่รวมกัน เรียกกันว่าดินแดนของนักบุญ เราชอบตรงที่ไม่ว่าจะบ้าน โบสถ์ วิหาร เค้าก็จะขุดเข้าไปอยู่ข้างในเหมือนกัน ทุกอย่างดูเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติเลย



ตอนแรกไม่ได้คาดหวังกับคัปปาโดเกียมาก แค่อยากมาขึ้นบอลลูน แต่พอได้มาถึงที่นี่ ของจริงสวยมากๆ สวยกว่าในรูปอีก ยิ่งมาหน้าหนาวแล้วหิมะคลุมจนต้นไม้ขาวไปหมดแบบนี้ ยอมจริงๆ



เต็มอิ่มกับคัปปาโดเกียแล้วก็นั่งรถบัสต่อมา ปามุคคาเล่
( รถบัสที่นี่แวะจอดรับคนเยอะเหมือนกันนะ อาจจะเลทชั่วโมงสองชั่วโมง เผื่อเวลากันด้วยเนอะ )

Pamukkale แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย คือชื่อภูเขาสีขาวลูกนี้ ที่เกิดมาจากแคลเซียมเกาะตัวกับหิน ชาวบ้านเชื่อว่า น้ำแร่ที่นี้ดี ใช้เป็นยารักษาโรค บำรุงผิวพรรณต่างๆ



น้ำสีฟ้าตัดกับสีขาวถ่ายรูปขึ้นทีเดียว จริงๆแล้วเราหลงรักที่นี่ผ่านรูปภาพมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แต่พอได้มาจริงๆกลับรู้สึกเฉยๆนะ ไม่รู้ทำไม



อาจเป็นเพราะเค้าปล่อยน้ำมาเป็นบางส่วน ไม่ได้ไหลทั่วทั้งเขาเหมือนแต่ก่อน บ่อที่แห้งๆเยอะเลยทีเดียว
( เราโดนต่อต่อยที่นี่ โชคดีมากที่ไม่เป็นอะไร แต่ก็เท้าบวมจนเดินไม่ได้ ใครแพ้พวก ผึ้ง ต่อ แตน เตรียมยามาเผื่อก็ดีนะ เป็นอะไรขึ้นมาไม่คุ้มเลย )



นั่งรถออกมาจากปามุคคาเล่ ประมานสามชั่วโมง ก็ถึงเอฟิซุส

Ephesus เมืองโบราณที่รุ่งเรืองมากในยุคโรมัน หลักๆที่น่าสนใจก็มีหอสมุดที่โดนเผาจนอาคารต่างๆไหม้ไปหมด แต่ด้านหน้าเป็นหินอ่อนเลยคงเหลือถึงปัจจุบัน และโรงละครกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่จุคนได้กว่า 30,000 คน และปัจจุบันยังใช้งานได้ดีอยู่ ถ้าไปยืนตะโกนตรงกลางเสียงจะสะท้อน ก้องไปทั่วเลยทีเดียว





เมืองสุดท้าย นุ่งรถกลับมาที่อิสตันบูล เมือง 2 ทวีปของตุรกี ที่มีช่องแคบบอสฟอรัสแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชีย

ในอดีตสมัยรุ่งเรือง ชื่อว่า "กรุงคอนสแตนติโนเปิล" เมืองหลวงแห่งไบเซนไทน์ จนถูกสุลต่านเข้าตี เปลี่ยนชื่อเป็น "อิสลามบูล" และกลายมาเป็น อิสตันบูลในปัจจุบัน



เนื่องจากโดนต่อต่อยมา นอนพักอยู่นานกว่าจะหาย ก่อนนั่งเครื่องบินกลับ จึงไปในเมืองแค่ไม่กี่ที่ แต่โดยรวมรู้สึกว่าเมืองนี้สวย และมีเสน่ห์สมกับที่เป็นเมืองผสมผสานจากหลายวัฒนธรรม



สุดท้าย ขอจบไว้ด้วยอาหารตุรกีที่ต้องลอง! (อาหารที่นี่อร่อยเยอะเหมือนกันนะ อยากกลับไปกินอีก) ;D



1. Turkish tea หรือ Cay (อ่านว่า ไช่) คล้ายๆชาดำ แต่หอม จริงๆที่นี่ชาอร่อยๆเยอะ ชาแอปเปิ้ล ชาทับทิม อย่าลืมลอง
2. Turkish Delights หรือ Lokum เป็นขนมหวานโบราณ คล้ายๆวุ้นแต่เหนียวหนึบกว่า มีหลายรสหลายไส้ แบบเคลือบช็อคโกแลตก็มี
3. Dondurma ไอศครีมตุรกี ทำมาจากนมแพะ เป็นไอศครีมที่แน่นเหนียวหนึบกว่าปกติ อร่อยดี เข้มข้น ไม่ค่อยหวานด้วย
4. Kebab หรือ เคบับ มาถึงถิ่นขนาดนี้จะไม่ลองก็ยังไงอยู่ มีให้เลือกหลายเนื้อ แกะ ไก่ ปลา ขอแนะนำไส้แกะย่าง(Kokoreç)
5. Stuffed Mussel หรือ Midye dolma เอาหอยแมลงภู่หมักกับข้าวแล้วเอาไปอบ เวลากินก็บีบเลม่อนใส่ลงไปนิดนึง อร่อย
6. Cig Kofte เป็นของกินเล่น หน้าตาคล้ายๆทอดมัน แต่ทำมาจากเนื้อดิบกับแป้งป่น ห่อกินกับผักและน้ำจิ้ม อร่อยกว่าหน้าตามาก
ชื่อสินค้า:   ประเทศตุรกี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่