สวัสดีครับ นี่เป็นการรีวิวท่องเที่ยวครั้งแรกของผมเลยครับ ไปเที่ยวฉงชิ่งมาแล้วค่อนข้างประทับใจ และได้เห็นอะไรแปลกๆสนุกๆเยอะเลย กระทู้นี้ไม่เน้นข้อมูลนะครับ เพราะผมก็หาข้อมูลจากในนี้ทั้งหมดเลย เอาเป็นเน้นดูรูปแล้วก็นินทาจีนแบบขำๆ (ใน spoil) แล้วกันนะครับ ฝากด้วยนะครับ
ปล. ใน Spoil เป็นเกล็ดเล็กน้อยที่ได้เจอมาครับ ลองอ่านดูนะ
ช่วงประมาณต้นมีนาคมของปีนี้ ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่ฉงชิ่ง ประเทศจีน 4วัน 3คืน ด้วยตนเองครับ ต้องบอกก่อนว่า ค่อนข้างตื่นเต้นทีเดียว เนื่องจากเดินทางไปกับเพื่อนเพียง 2 คนเท่านั้นครับ และทั้ง 2 คน ไม่มีใครพูดภาษาจีนได้เลย เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวให้ดีเรื่องการเดินทาง เตรียมรูปหรือ ชื่อสถานที่เป็นตัวอักษรจีน เผื่อเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร ซึ่งสามารถรอดมาได้อย่างสบายๆเลยครับ
——————– Day 1 ——————–
ตอนนี้มีเพียงแอร์เอเชียเท่านั้นที่มีไฟล์ทประจำ บินตรงจาก กรุงเทพฯ ไปยังฉงชิ่ง ซึ่งเราเดินทางในช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่อากาศค่อนข้างหนาวทีเดียว สำหรับตั๋วถือว่าได้ราคาถูกจากการจองล่วงหน้าเป็นปีนั่นคือ ไปกลับ 4,000 บาทพอดีครับ เครื่องบินใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมงเอง ก็ถึงสนามบิน Jiangbei ของฉงชิ่ง Terminal สำหรับ international flight ที่นี่เล็กนิดเดียวเอง แต่ถ้าเป็น Terminal ที่เป็น Domestic ของเค้าจะใหญ่มากและมีรถไฟใต้ดินเชื่อม
ส่วนรถไฟใต้ดินเรียกว่า CRT มีรถไฟ 4 สาย (ณ มีค 58 ) โดยมีสาย 1 และสาย 6 เป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่วนสาย 2 และ สาย3 เป็นรถไฟฟ้า Monorail ซึ่งแต่ละสายวิ่งไกลมาก สายละ 30 – 40 สถานี และยังคงขยายเพิ่มเรื่อยๆ รถไฟฟ้าฉงชิ่งเป็นเส้นทางที่มีระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลยาวที่สุดในโลก
เราใช้เวลานั่ง CRT เข้ากลางเมือง เพื่อไปยังที่พักประมาณ 1 ชม.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมาท์จีน
– คนไทยดูจะยังไม่ค่อยฮิตไปเที่ยวมากเท่าไหร่ ขาไปบนเครื่องล้วนเต็มไปคนจีน มีคนไทยน้อยมาก ส่วนขากลับ มีคนไทยอยู่ 5 คน
– นี่คุณแอร์ยังตกใจว่า อุ้ย นี่ผู้โดยสารไทย หรือคะ
– คนจีนเดินสวนสนามตลอดเวลาบนเครื่อง เดินไปยืนคุยกัน คนอยู่ริมทางเดินลุกขึ้นยืนเพื่อดูวิวริมหน้าต่าง หัวหน้าทัวร์จีนเดินคุยกับลูกทัวร์ พอเครื่องบินประกาศจะลง ก็จะกรูกันมาต่อแถวเข้าห้องน้ำ
– ทันทีที่เครื่องแตะพื้น (แตะคือแตะจริงๆ ยังวิ่งอยู่บนรันเวย์ด้วยความเร็ว) ก็มีคนลุกขึ้นมาทันที แอร์จึงต้องทำหน้าขึงขังเดินมาวีน และประกาศว่าให้นั่งลงเพื่อความปลอดภัย แต่เค้าก็เชื่อฟังดีนะครับ
– แอร์สจ๊วตของแอร์เอเชียดูจะต้องทำงานเหนื่อยมาก กับการต้องรับมือกับคนจีนทั้งลำ ซึ่งต้องขอชมเชยว่าพวกเค้าทำได้ดีมากครับ
– ทุกสถานีรถไฟ และรถบัสต้องเอากระเป๋าเข้าเครื่องแสกนตรวจหาอาวุธ
– หากมีขวดน้ำ จะมีเครื่องตรวจขวดน้ำแยกโดยเฉพาะ ซึ่งอะเมซิ่งมาก เพียงวางไว้และรอไฟเขียวขึ้น และยังที่ตรวจขวด metallic โดยเฉพาะอีกตะหาก

ขอบคุณภาพจาก 9gag
Chongqing Great Hall ศาลาประชาคม
เดินทางโดยรถไฟ CRT สถานี Zeng Jia Yan (Line 2) และเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร
เวลาเปิดปิด 09:00-17:00 น.

เด็กน้อยเล่นกับเราด้วย
Ci Qi Kou Ancient Town
เดินทางโดย CRT สายสีแดง สถานี ciqikou ออก exit 1 แล้วเดินต่อประมาณ 500 เมตร
เวลาเปิดปิด 07:00-22:00 น.
ที่นี่เป็นตลาดโบราณ พื้นที่ใหญ่ทีเดียว ลักษณะเป็นตึกแถวแบบบ้านจีนโบราณเรียงๆกันไป จะมีร้านขายของกินเต็มไปหมดเลย และถ้าเดินไปจนสุดตลาดก็จะเป็นริมแม่น้ำ เดินไปถ่ายรูปไปกินไปเพลินๆ
——————– Day 2 ——————–
วันนี้เราจะไปเที่ยวนอกเมืองกัน คือการไปยังเมือง Wulong เพื่อไปเที่ยวอุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปกัน โดยเราจะต้องนั่งรถบัสไปกัน เริ่มต้นจาก Sigongli – สถานีรถบัส
เดินทางโดยรถไฟ CRT สายสีน้าเงินลงสถานี sigongli ออกexit 4A
เข้าไปภายใน เพื่อซื้อตั๋วที่ช่องเคาน์เตอร์ บอกเค้าว่า อู่หลง ได้เลย รสบัสจะใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ก็จะถึงที่สถานีรถของ Wulong ซึ่งช่วงที่เราเดินทางคือต้นเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่ต้น rapeseed หรือว่า canola กำลังออกดอกพอดี เราจะเห็นทุ่ง rapeseed สีเหลืองบานในฝั่งสองข้างทาง นั่งมองไปสวยเพลินทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมาท์จีน
– ที่สถานีบัสไม่มีเครื่องตรวจขวดน้ำ เราโดนตำรวจไม่ให้เข้าไปในอาคาร
– การที่เราจะเข้าไปได้คือต้องเปิดขวดกินน้ำโชว์ ว่าเป็นน้ำปกติจ้า ซึ่งใช้เวลานานมากกว่าเราจะเข้าใจว่าภาษามือนั้นคือให้เรากระดกขวด
– เราเข้าไปซื้อตั๋วตอนก่อน 9 โมงเช้า หลังจากได้ตั๋ว เราพบว่าที่ตั๋วเขียนว่ารถออก 19:40
– ต่อแถวใหม่ เขียนให้จนท.ดูว่าช้านจะไป 9 โมงเช้า
– นางปรึกษากับเหล่าเพื่อนในเคาเตอร์หมายเลขต่างๆ และได้ภาษาอังกฤษ 1 คำคือ Now Now
– เดินไปขึ้นบัส พบว่าไฟวิ่งตรงทางออกบอกว่าเป็นรอบ 8.27 ซึ่งขณะนั้น จะ 9 โมงละ และประตูทางออกยังไม่เปิดให้ขึ้นรถ
– บนตั๋วบอกว่า ที่นั่งคือ 157 ซึ่งรถมันไม่ได้จุคนได้ขนาดนั้นมะ
– ใช่แล้ว ทุกคนนั่งมั่วตามใจ
– จากนั้นมีการแจกถุงพลาสติก สำหรับผู้ที่ต้องขาก
และมีถังขยะในระยะทุกๆ 3 แถว
– รถสภาพดี สะอาด เบาะดี ปรับเอนได้
– บนรถบัสมี wifi ฟรีให้ใช้ แต่ต้องลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือ
จนมาถึงก็เกือบๆเที่ยงแล้ว Wulong bus station จากที่เราศึกษามาที่อุทยานจะหาของกินค่อนข้างยาก เราเลยหาของกินที่ฝั่งตรงข้ามของสถานีก่อน ได้เป็นเกี๊ยวน้ำ กับก๋วยเตี๋ยว ซึ่งชามใหญ่มากๆ
จากนั้นก็เข้าไปซื้อตั๋วด้านในอีกทีเพื่อไปยังทางเข้าอุทยานซึ่งเรียกว่า Wulong Karst โดยรถตู้ประมาณ 40 นาที เราเปิดรูปตึกที่เป็นทรงพีระมิดให้เค้าดูเลย สบายไม่ต้องสื่อสาร โดยสภาพภายในของสถานีก็คนเยอะมาก และอาจจะไม่ได้สะอาดมากเท่าไหร่ ก็เพราะแถวนี้ก็ถือว่าเป็นบ้านนอกอะนะ

ได้เกี๊ยวน้ำชามโตมา ขออาเจ๊ไม่ใส่พริกนะ ยังไม่อยากลิ้นชา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมาท์จีน
– เราโชคดีได้พบห้องน้ำแบบ original ที่สถานีรถบัสอู่หลง ที่ๆ พื้นเปียก และสกปรกอย่างที่ทุกคนพอจะนึกภาพได้
– แน่นอนว่าส่วนของห้องส้วมไม่มีประตูปิด และผนังกั้นแต่ละห้องนั้นสูงแค่เอว
– ใช่แล้ว เห็นคนนั่งขรี้เต็มเลย
– และเขาเหล่านั้น สูบบุหรี่ไปบ้าง อ่านหนังสือพิมพ์ไปบ้างอย่างสบายใจ
– ขอบคุณสวรรค์ที่เราเป็นเพียงผู้ชายที่ปวดฉี่เท่านั้น
– ที่ฝั่งตรงข้ามของสถานีมีร้านอาหารเป็นตึกแถวติดกันประมาณเกือบสิบห้อง
– ทุกร้านขายเหมือนกันหมดเลยคือ ก๋วยเตี๋ยวและเกี๊ยว
– เราตั้งใจจะเดินดูทุกร้านก่อน ซึ่งแต่ละร้านก็จะรีบพุ่งตัวมาชวนเราเข้าร้านเมื่อเราเดินผ่าน
– ร้านที่เราเลือก เป็นเพราะความพยายามของอาเจ้ ที่นั่งปั้นเกี๊ยวอยู่หน้าร้าน และเธอละทิ้งทุกอย่างเพื่อมาชวนเราเข้าไปกิน
– จริงๆร้านอาหารแถวนี้ ก็ดูสะอาดใช้ได้ทีเดียว แม้จะเป็นเมืองต่างจังหวัด
Three Natural Bridges – อุทยานหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ – เทียนเชิงซานเฉียว
จากนั้นเข้าไปซื้อตั๋วเข้าอุทยาน แล้สเราก็ต้องไปขึ้นรถบัสของอุทยานเข้าไปยังด้านในอีกประมาณครึ่ง ชม.
มาถึงทางเข้าจริงๆแล้ว จะพบนี่เลย Bumblebee มารอต้อนรับ เนื่องจากที่นี่ก็เป็นฉากหนึ่งใน Transformer 4 : Age of extinction
จากนั้นจะต้องลงลิฟท์ไปยังใต้หุบเขาที่ลึกมากๆ
จีนจัดให้ Three natural bridges เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA ซึ่งคือสูงที่สุด โดยที่นี่ก็ได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกด้วย ส่วนสะพานฟ้าที่นี่เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่ด้านล่าง ซึ่งที่นี่จะมีสะพานลักษณะนี้สามจุด เรียกว่า สะพานมังกรฟ้า สะพานมังกรเขียว และสะพานมังกรดำ สะพานหินธรรมชาติ 3 แห่งที่นี่นับว่าเป็น “กลุ่มสะพานหินธรรมชาติ” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
[CR] ฉงชิ่ง Chongqing เที่ยวมรดกโลก แบบเที่ยวไปเมาท์ไป ไปเองได้ไม่ยากเลย
ปล. ใน Spoil เป็นเกล็ดเล็กน้อยที่ได้เจอมาครับ ลองอ่านดูนะ
ช่วงประมาณต้นมีนาคมของปีนี้ ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่ฉงชิ่ง ประเทศจีน 4วัน 3คืน ด้วยตนเองครับ ต้องบอกก่อนว่า ค่อนข้างตื่นเต้นทีเดียว เนื่องจากเดินทางไปกับเพื่อนเพียง 2 คนเท่านั้นครับ และทั้ง 2 คน ไม่มีใครพูดภาษาจีนได้เลย เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวให้ดีเรื่องการเดินทาง เตรียมรูปหรือ ชื่อสถานที่เป็นตัวอักษรจีน เผื่อเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร ซึ่งสามารถรอดมาได้อย่างสบายๆเลยครับ
——————– Day 1 ——————–
ตอนนี้มีเพียงแอร์เอเชียเท่านั้นที่มีไฟล์ทประจำ บินตรงจาก กรุงเทพฯ ไปยังฉงชิ่ง ซึ่งเราเดินทางในช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่อากาศค่อนข้างหนาวทีเดียว สำหรับตั๋วถือว่าได้ราคาถูกจากการจองล่วงหน้าเป็นปีนั่นคือ ไปกลับ 4,000 บาทพอดีครับ เครื่องบินใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมงเอง ก็ถึงสนามบิน Jiangbei ของฉงชิ่ง Terminal สำหรับ international flight ที่นี่เล็กนิดเดียวเอง แต่ถ้าเป็น Terminal ที่เป็น Domestic ของเค้าจะใหญ่มากและมีรถไฟใต้ดินเชื่อม
ส่วนรถไฟใต้ดินเรียกว่า CRT มีรถไฟ 4 สาย (ณ มีค 58 ) โดยมีสาย 1 และสาย 6 เป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่วนสาย 2 และ สาย3 เป็นรถไฟฟ้า Monorail ซึ่งแต่ละสายวิ่งไกลมาก สายละ 30 – 40 สถานี และยังคงขยายเพิ่มเรื่อยๆ รถไฟฟ้าฉงชิ่งเป็นเส้นทางที่มีระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลยาวที่สุดในโลก
เราใช้เวลานั่ง CRT เข้ากลางเมือง เพื่อไปยังที่พักประมาณ 1 ชม.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Chongqing Great Hall ศาลาประชาคม
เดินทางโดยรถไฟ CRT สถานี Zeng Jia Yan (Line 2) และเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร
เวลาเปิดปิด 09:00-17:00 น.
เด็กน้อยเล่นกับเราด้วย
Ci Qi Kou Ancient Town
เดินทางโดย CRT สายสีแดง สถานี ciqikou ออก exit 1 แล้วเดินต่อประมาณ 500 เมตร
เวลาเปิดปิด 07:00-22:00 น.
ที่นี่เป็นตลาดโบราณ พื้นที่ใหญ่ทีเดียว ลักษณะเป็นตึกแถวแบบบ้านจีนโบราณเรียงๆกันไป จะมีร้านขายของกินเต็มไปหมดเลย และถ้าเดินไปจนสุดตลาดก็จะเป็นริมแม่น้ำ เดินไปถ่ายรูปไปกินไปเพลินๆ
——————– Day 2 ——————–
วันนี้เราจะไปเที่ยวนอกเมืองกัน คือการไปยังเมือง Wulong เพื่อไปเที่ยวอุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปกัน โดยเราจะต้องนั่งรถบัสไปกัน เริ่มต้นจาก Sigongli – สถานีรถบัส
เดินทางโดยรถไฟ CRT สายสีน้าเงินลงสถานี sigongli ออกexit 4A
เข้าไปภายใน เพื่อซื้อตั๋วที่ช่องเคาน์เตอร์ บอกเค้าว่า อู่หลง ได้เลย รสบัสจะใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ก็จะถึงที่สถานีรถของ Wulong ซึ่งช่วงที่เราเดินทางคือต้นเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่ต้น rapeseed หรือว่า canola กำลังออกดอกพอดี เราจะเห็นทุ่ง rapeseed สีเหลืองบานในฝั่งสองข้างทาง นั่งมองไปสวยเพลินทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนมาถึงก็เกือบๆเที่ยงแล้ว Wulong bus station จากที่เราศึกษามาที่อุทยานจะหาของกินค่อนข้างยาก เราเลยหาของกินที่ฝั่งตรงข้ามของสถานีก่อน ได้เป็นเกี๊ยวน้ำ กับก๋วยเตี๋ยว ซึ่งชามใหญ่มากๆ
จากนั้นก็เข้าไปซื้อตั๋วด้านในอีกทีเพื่อไปยังทางเข้าอุทยานซึ่งเรียกว่า Wulong Karst โดยรถตู้ประมาณ 40 นาที เราเปิดรูปตึกที่เป็นทรงพีระมิดให้เค้าดูเลย สบายไม่ต้องสื่อสาร โดยสภาพภายในของสถานีก็คนเยอะมาก และอาจจะไม่ได้สะอาดมากเท่าไหร่ ก็เพราะแถวนี้ก็ถือว่าเป็นบ้านนอกอะนะ
ได้เกี๊ยวน้ำชามโตมา ขออาเจ๊ไม่ใส่พริกนะ ยังไม่อยากลิ้นชา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Three Natural Bridges – อุทยานหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ – เทียนเชิงซานเฉียว
จากนั้นเข้าไปซื้อตั๋วเข้าอุทยาน แล้สเราก็ต้องไปขึ้นรถบัสของอุทยานเข้าไปยังด้านในอีกประมาณครึ่ง ชม.
มาถึงทางเข้าจริงๆแล้ว จะพบนี่เลย Bumblebee มารอต้อนรับ เนื่องจากที่นี่ก็เป็นฉากหนึ่งใน Transformer 4 : Age of extinction
จากนั้นจะต้องลงลิฟท์ไปยังใต้หุบเขาที่ลึกมากๆ
จีนจัดให้ Three natural bridges เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA ซึ่งคือสูงที่สุด โดยที่นี่ก็ได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกด้วย ส่วนสะพานฟ้าที่นี่เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่ด้านล่าง ซึ่งที่นี่จะมีสะพานลักษณะนี้สามจุด เรียกว่า สะพานมังกรฟ้า สะพานมังกรเขียว และสะพานมังกรดำ สะพานหินธรรมชาติ 3 แห่งที่นี่นับว่าเป็น “กลุ่มสะพานหินธรรมชาติ” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก