จิงๆแล้วเราเป็นคนชอบอ่าน ชอบดูเรื่อยเปื่อย
วันนี้ก็เกิดอาการคัน อยากลองแชร์ประสบการณ์ดูบ้าง
เราไม่ได้บอกรายละเอียดแต่ละสถานที่เยอะ
ต้องหาข้อมูลเพิ่มจะแน่ชัดกว่าค่ะ เพราะเราไม่ค่อยได้วางแผนอะไรมาก
ไม่ได้ทำงบอะไรขนาดนั้น เน้นเที่ยวชิวๆ กินนุ้น แวะนี้
ชวนใครไปก็ไม่ไปกับเราเลย ก็เลยไปคนเดียวนี่แหละค่ะ
เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ อิอิ ปลอบใจตัวเอง ^^
เมื่อคิดอยากจะไปก็ไปเลย เราไปช่วงเดินมิถุนา ร้อนนิดหน่อย ค่ะ
เราจองตั๋วของ การบินไทย ได้ราคา 15900 บาท
* เราเลือกลงที่สนามบินฮาเนดะ
- คนน้อยไม่วุ่นวาย
- ไกล้เมืองมากกว่า
- แต่เวลาบินไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะค่ะ
พร้อมแล้วก็ฟิ้ววววววววว
ตม. สำหรับเราไม่หวั่นเลยค่ะ
ชิววววววววว มาก ^^ ไม่ต้องกังวลเลยจ้า
** สำหรับตั๋วต่างๆเราไม่ได้มีการเตรียมอะไรเลยค่ะ
ก็พอถึงสนามบินก็ซื้อ บัตร Suica หรือจะ passmo ก็ได้นะค่ะ ไช้งานเหมือนกัน ** และก็ซื้อซิม แบบนี้น่าา ไช้ได้ 7 วัน เหลือๆค่ะ เน็ตก็โอเคเลย
(แบบนี้ไช้เฉพาะเล่นเน็ตนะค่ะ)
** จากนั้นก็เข้าเว็ป Hyperdia เป็นเว็ปบอกว่าเราจะไปสถานที่ต่างๆได้กี่เส้นทาง ใช้เวลาเท่าไหร่ และราคาเท่าไหร่
ลองศึกษาการใช้ได้เพิ่มเติมนะค่ะ มีแค่เว็ปนี้ก็เที่ยวได้ชิวๆ แล้วจ้า
ที่พักเรานอนที่ Ikebukuro ตกคืนละประมาณ 1700
ด้วยความขี้เกียดหาโฮสเทล เพราะเราไปคนเดียว โอสเทลส่วนมากจะชอบอยู่ในซอยซับซ้อน
ก็เลยตัดสินใจนอนโรงแรมค่ะ
- ไกล้สถานีรถไฟ
- ราคาไม่แพงมาก
- สะอาดสะดวกและปลอดภัยค่ะ
หน้าตาห้องนอนก็จะเป็นแบบนี้
วันแรก 1/6/58 มาถึงก็ค่ำแล้วค่ะ ก็เอาของไปเก็บที่พัก
แล้วก็ออกไปหาไรกิน แฮร่ *-*
กินเสร็จเราก็หาเดินเล่น ดูนั้นนี้เรื่อยเปื่อย
คนเดียวดึกๆก็ไม่น่ากลัวเลยค่ะ บ้านเมืองเขาค่อนข้างปลอดภัย และ นิสัยน่ารักมีน้ำใจ
แล้วก็กลับห้องมากินขนมแล้วก็นอน อิอิ
วันที่ 2/6/58
ตื่นแบบชิวๆ ไม่เร่งรีบค่ะ วันนี่เราจะไป Asakusa , Tokyo skytree
*ตลอดเส้นทางนั้นก็จะมีร้านค้าขายขนมของฝากต่างๆ ที่มันดูน่าลองทุกร้านเลย
ว่าแล้วก็อย่าไปรอค่ะ เดินสายกิน กินมันทุกร้าน อิอิ
*แนะนำอันนี้ค่ะ แต่ลืมชื่อ น่าจะอยุ่ร้านต้นๆเลย ไส้ซากุระ อร่อยมากๆค่ะ
*อันนี้ก็เป็นขนมแปลกๆ จะมีน้ำชาให้ด้วยค่ะ
แล้วก็เดินไป โตเกียสกายที ต่อเลยค่า
ไม่มีรูปตอนขึ้นไปนะค่ะ ไม่มีคนถ่าย แง่งง T-T'
วันที่ 3/6/58
ไม่มีการวางแผนใดๆทั้งสิ้น อิอิ วันนี้เราไป Disney sea
ค่าเข้าจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่รู้ว่าคุ้มกับการเสียตัง ^^'
ภายในก็จะมีเครื่องเล่นวาดเสียวๆ สนุกดีค่ะ
แล้วเราประทับใจการแสดงตอนค่ำมาก เริ่ดดดดดดดด ค่ะ อิอิ
1 2 ซั่ม อะไรเอ่ย .. ไม่เข้าพวก ^^'
** วันนี้ก็อยู่ดิสนีย์ทั้งวันร่างจะพังค่ะ ก็แวะกินอะไรแถวๆที่พัก
วันที่ 4 /06/58
เนื่องด้วยเมื่อวานร่างพังมาก ก็ตื่นสายๆ
ก็หาไรรองท้อง หาซื้อไรกุ้กกิ้กตามภาษาผู้หญิง
พอตกเย็นเราก็ไปแรดต่อแถว Odaiba
ไปช้อปปิ้งเส็ด ก็เดินไปเรื่อย
** และวันนี้ก็เป็นวันที่ประทับใจเป็นพิเศษค่ะ ด้วยความบังเอิญทำไห้เราได้พบ
เพื่อนไหม่ ซึ่งเป็นผู้ชาย 2 คน เดินส่วนทางกับเรา นางก็มองหน้าแล้วก็เดินมาหาเรา
ถามเราเป็นภาษา English ประมาณว่าคุณไปทางนั้นมาแล้วไช่ไหม มีอะไรเที่ยวบ้าง
เราก็เลยตอบว่า คนไทยหรือป่าว เพราะสำเนียงมันบอก 55555
ก็เลยอ่าวเห่ยยย !! คนไทยเหมือนกัน ก็เลยชวนกันเที่ยว แบ่งขนมกันกิน
คุยไปคุยมา โลกดันกลม เป็นรุ่นน้องที่โรงเดียวเดียวกัน สมัยมัธยม
ทุกวันนี้กลับไทย ก็ยังติดต่อกันอยู่ ก็เลยเป็นหนึ่งวันที่มีคนถ่ายรูปให้ อิอิ
*และนี่คือโฉมหน้าไอลิง 2 ตัว
(ด้านซ้ายมือในรูปนะค่ะ) เวลามันเห็น ฉาวๆญีปุ่น มันจะชอบให้เราขอให้สาวๆ ถ่ายรูปกะมัน เพลียยยยยยยยยย มากค่ะ
วันที่ 5/06/58
อยากไปอะไรธรรมชาติๆ บ้าง ก็เลยตามหัวใจไป
ส่วนใหญ่เราเห็นคนชอบไปดูฟูจิ ที่ Kawaguchiko
จิงๆ ที่ Hakone สามารถดูฟูจิได้เหมือนกันน้าาา แถมไม่ได้แค่ไปดูฟูจิ
ที่เที่ยวก็ค่อนข้างเยอะกว่า คาวากูชิโก๊ะ ด้วยซ้ำ เพียงแต่การเดินทางมันจะยากกว่า เพราะมันต้องนั่งรถขึ้นภูเขา อิอิ
ว่าแล้วก็อย่าไปรอ ค่ะ
ขณะที่เรานั่งรถไฟนั้น ก็ทำการหาที่พักค่ะ
** วันนี้ถ้างบน้อยสามารถตัดไปที่อื่นได้น้าค่ะ มันค่อนข้างราคาสูง
เปรียบเหมือนเขาใหญ่ ง่ะ คล้ายๆว่า Hakone เป็นรีสอร์ทพักผ่อนสำหรับครอบครัวอะค่ะ
ไม่ค่อยจะมีโฮสเทล ส่วนมากเป็น รีสอร์ท กับโรงแรม (ราคาแพงเพราะส่วนใหญ่มันมีออนเซนในตัว)
แต่เราได้งบเพิ่มจากพ่อ ก็เลยลองเลยค่ะ อยากแช่ออนเซน อิอิ เราพักที่ - - " เราลืมชื่อโรงแรม
แต่จำราคาได้ ตกคืนละ 15000 บาทไทย มีอาหารบุฟเฟ่ และ ออนเซน
เก็บของเสร็จก็แหลกสิค่ะ แพงขนาดนี้เอาให้คุ้ม 5555
กินเสร็จเราก็จะไปแช่ออนเซนให้สาสมใจ
** การแช่ออนเซนต้องแก้ผ้าหมดทั้งตัวนะค่ะ แล้วก็งดเอาโทรศัพท์เข้าไปด้วย
ตอนแรกก็เกร็งๆ หวิวๆ แต่ดูหุ่นป้าๆแต่ละคนแล้ว เราก็พร้อมจะไฟว์ค่ะ เป็นไงเป็นกัน
ไป ลุยยยยยยยยยยยยยย กัน !! *-*
เช้าวันที่ 6/06/58
ก็ตื่นมาเดินเล่น กับอากาศดีดี้
** เราไม่ได้ถ่ายภูเขาฟูจิ นะค่ะ แบตหมด :'(
แล้วก็กลับมาถึงโตเกียวเย็นๆ ก็เลยไป ชินจูกุ ต่อเลย
แนะนำ ร้านนี้ข้าวหน้าปลาไหล่ อร่อยที่สุดที่เคยกินมา ฟินที่สุด 新宿うな鐵(うなぎ料理専門店) - Eel Restaurant
แต่เราก็ไม่สามารถบอกทางไปได้ 555555
วันที่ 7/06/58 วันนี้ฝนตก เป็นวันที่ดูเหงาๆ เนอะ
แต่ไม่ไช่อุปสรรคในการกินของเราเท่าไหร่ 5555
*วันนี้ก้ฟรีสไตล์ เหมือนทุกๆวัน
อยากไปไหนก็ไปเรื่อยเปื่อยค่ะ เราไปหาเดินซื้อของฝากที่ Tokyo station
จะมีโตเกียวบ่าน่าน่า และขนมของฝากเยอะไปหมด ในสถานีเลยค่ะ
*เสร็จเราก็ไปสถานี Akihabara ของไช้ไฮเทค และ ของเล่น ต่างๆ เพียบเลยค่ะ
เราเมื่อยเท้ามากเดินทั้งวัน 555555555
พักก่อนแปป ตอนที่พักเราก้นั่งเมาส์กับเพื่อนไปเรื่อยว่ามืงน่าจะมา กูเหงาาาาาา มากเลย
ไม่มีคนถ่ายรูปไห้กูเลย และมันก็ลากเพื่อนที่เรียนอยู่ญีปุ่นมาในแชทไลน์ เขาสามารถพูดอังกฤษได้ดีพอสมควรค่ะ เพื่อนเราก็เลยให้เขาแนะนำสถานที่เที่ยวแปลกๆ เขาก็ไม่สามารถอธิบายว่ามันไปยังไง พอดีเขาหยุดงานวันนี้ เราก็เลยบอกมาาาาาาาา เลยนะ พาเที่ยวหน่อย เราค่อนข้างเป็นคนเฟรนลี้ ก็จะเข้ากับคนได้ง่าย เจอกันก็สนิทกันเลยค่ะ ฮ่าๆ ^^
จากนั้นก็นัดเจอกันที่ สถานี Takanobaba อะไรสักอย่าง ที่เขาทำงานอยุ่
** อันนี้เราไม่รู้ว่ามันคือที่ไหนอะค่ะ ตอนเขาพามาก็ไม่ได้จำอะไรเลย
รู้แค่มันเป็นร้านเหล้า น่ารักมาก เป็นเหมือนบ้านคนแคระ อะค่ะ
ในร้านจะมีโต๊ะเหล้าแค่ 1 โต๊ะ แปลกดีค่ะ
*สรุปนะค่ะ ชอบประเทศนี้ค่ะ ไปกี่ครั้งก็คงจะไม่เบื่อถ้ามีเพื่อนไปด้วยก็คงจะดีกว่านี้ จะได้มีตัวหาร
ผู้หญิงคนเดียวสำหรับเรา สามารถเที่ยวได้สบายๆ
แต่รถไฟญีปุ่นค่อนข้างจะล้ำมาก ก็อาจจะหลงบ้างแรกๆ
พอมองออกก็จะพบทางออกแน่นอนค่ะ :')
ไปละน้าาาาา Byee
[SR] รีวิว ญีปุ่น (โตเกียว) คนเดียวชิวๆ ^^'
วันนี้ก็เกิดอาการคัน อยากลองแชร์ประสบการณ์ดูบ้าง
เราไม่ได้บอกรายละเอียดแต่ละสถานที่เยอะ
ต้องหาข้อมูลเพิ่มจะแน่ชัดกว่าค่ะ เพราะเราไม่ค่อยได้วางแผนอะไรมาก
ไม่ได้ทำงบอะไรขนาดนั้น เน้นเที่ยวชิวๆ กินนุ้น แวะนี้
ชวนใครไปก็ไม่ไปกับเราเลย ก็เลยไปคนเดียวนี่แหละค่ะ
เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ อิอิ ปลอบใจตัวเอง ^^
เมื่อคิดอยากจะไปก็ไปเลย เราไปช่วงเดินมิถุนา ร้อนนิดหน่อย ค่ะ
เราจองตั๋วของ การบินไทย ได้ราคา 15900 บาท
* เราเลือกลงที่สนามบินฮาเนดะ
- คนน้อยไม่วุ่นวาย
- ไกล้เมืองมากกว่า
- แต่เวลาบินไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะค่ะ
พร้อมแล้วก็ฟิ้ววววววววว
ตม. สำหรับเราไม่หวั่นเลยค่ะ
ชิววววววววว มาก ^^ ไม่ต้องกังวลเลยจ้า
** สำหรับตั๋วต่างๆเราไม่ได้มีการเตรียมอะไรเลยค่ะ
ก็พอถึงสนามบินก็ซื้อ บัตร Suica หรือจะ passmo ก็ได้นะค่ะ ไช้งานเหมือนกัน ** และก็ซื้อซิม แบบนี้น่าา ไช้ได้ 7 วัน เหลือๆค่ะ เน็ตก็โอเคเลย
(แบบนี้ไช้เฉพาะเล่นเน็ตนะค่ะ)
** จากนั้นก็เข้าเว็ป Hyperdia เป็นเว็ปบอกว่าเราจะไปสถานที่ต่างๆได้กี่เส้นทาง ใช้เวลาเท่าไหร่ และราคาเท่าไหร่
ลองศึกษาการใช้ได้เพิ่มเติมนะค่ะ มีแค่เว็ปนี้ก็เที่ยวได้ชิวๆ แล้วจ้า
ที่พักเรานอนที่ Ikebukuro ตกคืนละประมาณ 1700
ด้วยความขี้เกียดหาโฮสเทล เพราะเราไปคนเดียว โอสเทลส่วนมากจะชอบอยู่ในซอยซับซ้อน
ก็เลยตัดสินใจนอนโรงแรมค่ะ
- ไกล้สถานีรถไฟ
- ราคาไม่แพงมาก
- สะอาดสะดวกและปลอดภัยค่ะ
หน้าตาห้องนอนก็จะเป็นแบบนี้
วันแรก 1/6/58 มาถึงก็ค่ำแล้วค่ะ ก็เอาของไปเก็บที่พัก
แล้วก็ออกไปหาไรกิน แฮร่ *-*
กินเสร็จเราก็หาเดินเล่น ดูนั้นนี้เรื่อยเปื่อย
คนเดียวดึกๆก็ไม่น่ากลัวเลยค่ะ บ้านเมืองเขาค่อนข้างปลอดภัย และ นิสัยน่ารักมีน้ำใจ
แล้วก็กลับห้องมากินขนมแล้วก็นอน อิอิ
วันที่ 2/6/58
ตื่นแบบชิวๆ ไม่เร่งรีบค่ะ วันนี่เราจะไป Asakusa , Tokyo skytree
*ตลอดเส้นทางนั้นก็จะมีร้านค้าขายขนมของฝากต่างๆ ที่มันดูน่าลองทุกร้านเลย
ว่าแล้วก็อย่าไปรอค่ะ เดินสายกิน กินมันทุกร้าน อิอิ
*แนะนำอันนี้ค่ะ แต่ลืมชื่อ น่าจะอยุ่ร้านต้นๆเลย ไส้ซากุระ อร่อยมากๆค่ะ
*อันนี้ก็เป็นขนมแปลกๆ จะมีน้ำชาให้ด้วยค่ะ
แล้วก็เดินไป โตเกียสกายที ต่อเลยค่า
ไม่มีรูปตอนขึ้นไปนะค่ะ ไม่มีคนถ่าย แง่งง T-T'
วันที่ 3/6/58
ไม่มีการวางแผนใดๆทั้งสิ้น อิอิ วันนี้เราไป Disney sea
ค่าเข้าจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่รู้ว่าคุ้มกับการเสียตัง ^^'
ภายในก็จะมีเครื่องเล่นวาดเสียวๆ สนุกดีค่ะ
แล้วเราประทับใจการแสดงตอนค่ำมาก เริ่ดดดดดดดด ค่ะ อิอิ
1 2 ซั่ม อะไรเอ่ย .. ไม่เข้าพวก ^^'
** วันนี้ก็อยู่ดิสนีย์ทั้งวันร่างจะพังค่ะ ก็แวะกินอะไรแถวๆที่พัก
วันที่ 4 /06/58
เนื่องด้วยเมื่อวานร่างพังมาก ก็ตื่นสายๆ
ก็หาไรรองท้อง หาซื้อไรกุ้กกิ้กตามภาษาผู้หญิง
พอตกเย็นเราก็ไปแรดต่อแถว Odaiba
ไปช้อปปิ้งเส็ด ก็เดินไปเรื่อย
** และวันนี้ก็เป็นวันที่ประทับใจเป็นพิเศษค่ะ ด้วยความบังเอิญทำไห้เราได้พบ
เพื่อนไหม่ ซึ่งเป็นผู้ชาย 2 คน เดินส่วนทางกับเรา นางก็มองหน้าแล้วก็เดินมาหาเรา
ถามเราเป็นภาษา English ประมาณว่าคุณไปทางนั้นมาแล้วไช่ไหม มีอะไรเที่ยวบ้าง
เราก็เลยตอบว่า คนไทยหรือป่าว เพราะสำเนียงมันบอก 55555
ก็เลยอ่าวเห่ยยย !! คนไทยเหมือนกัน ก็เลยชวนกันเที่ยว แบ่งขนมกันกิน
คุยไปคุยมา โลกดันกลม เป็นรุ่นน้องที่โรงเดียวเดียวกัน สมัยมัธยม
ทุกวันนี้กลับไทย ก็ยังติดต่อกันอยู่ ก็เลยเป็นหนึ่งวันที่มีคนถ่ายรูปให้ อิอิ
*และนี่คือโฉมหน้าไอลิง 2 ตัว
(ด้านซ้ายมือในรูปนะค่ะ) เวลามันเห็น ฉาวๆญีปุ่น มันจะชอบให้เราขอให้สาวๆ ถ่ายรูปกะมัน เพลียยยยยยยยยย มากค่ะ
วันที่ 5/06/58
อยากไปอะไรธรรมชาติๆ บ้าง ก็เลยตามหัวใจไป
ส่วนใหญ่เราเห็นคนชอบไปดูฟูจิ ที่ Kawaguchiko
จิงๆ ที่ Hakone สามารถดูฟูจิได้เหมือนกันน้าาา แถมไม่ได้แค่ไปดูฟูจิ
ที่เที่ยวก็ค่อนข้างเยอะกว่า คาวากูชิโก๊ะ ด้วยซ้ำ เพียงแต่การเดินทางมันจะยากกว่า เพราะมันต้องนั่งรถขึ้นภูเขา อิอิ
ว่าแล้วก็อย่าไปรอ ค่ะ
ขณะที่เรานั่งรถไฟนั้น ก็ทำการหาที่พักค่ะ
** วันนี้ถ้างบน้อยสามารถตัดไปที่อื่นได้น้าค่ะ มันค่อนข้างราคาสูง
เปรียบเหมือนเขาใหญ่ ง่ะ คล้ายๆว่า Hakone เป็นรีสอร์ทพักผ่อนสำหรับครอบครัวอะค่ะ
ไม่ค่อยจะมีโฮสเทล ส่วนมากเป็น รีสอร์ท กับโรงแรม (ราคาแพงเพราะส่วนใหญ่มันมีออนเซนในตัว)
แต่เราได้งบเพิ่มจากพ่อ ก็เลยลองเลยค่ะ อยากแช่ออนเซน อิอิ เราพักที่ - - " เราลืมชื่อโรงแรม
แต่จำราคาได้ ตกคืนละ 15000 บาทไทย มีอาหารบุฟเฟ่ และ ออนเซน
เก็บของเสร็จก็แหลกสิค่ะ แพงขนาดนี้เอาให้คุ้ม 5555
กินเสร็จเราก็จะไปแช่ออนเซนให้สาสมใจ
** การแช่ออนเซนต้องแก้ผ้าหมดทั้งตัวนะค่ะ แล้วก็งดเอาโทรศัพท์เข้าไปด้วย
ตอนแรกก็เกร็งๆ หวิวๆ แต่ดูหุ่นป้าๆแต่ละคนแล้ว เราก็พร้อมจะไฟว์ค่ะ เป็นไงเป็นกัน
ไป ลุยยยยยยยยยยยยยย กัน !! *-*
เช้าวันที่ 6/06/58
ก็ตื่นมาเดินเล่น กับอากาศดีดี้
** เราไม่ได้ถ่ายภูเขาฟูจิ นะค่ะ แบตหมด :'(
แล้วก็กลับมาถึงโตเกียวเย็นๆ ก็เลยไป ชินจูกุ ต่อเลย
แนะนำ ร้านนี้ข้าวหน้าปลาไหล่ อร่อยที่สุดที่เคยกินมา ฟินที่สุด 新宿うな鐵(うなぎ料理専門店) - Eel Restaurant
แต่เราก็ไม่สามารถบอกทางไปได้ 555555
วันที่ 7/06/58 วันนี้ฝนตก เป็นวันที่ดูเหงาๆ เนอะ
แต่ไม่ไช่อุปสรรคในการกินของเราเท่าไหร่ 5555
*วันนี้ก้ฟรีสไตล์ เหมือนทุกๆวัน
อยากไปไหนก็ไปเรื่อยเปื่อยค่ะ เราไปหาเดินซื้อของฝากที่ Tokyo station
จะมีโตเกียวบ่าน่าน่า และขนมของฝากเยอะไปหมด ในสถานีเลยค่ะ
*เสร็จเราก็ไปสถานี Akihabara ของไช้ไฮเทค และ ของเล่น ต่างๆ เพียบเลยค่ะ
เราเมื่อยเท้ามากเดินทั้งวัน 555555555
พักก่อนแปป ตอนที่พักเราก้นั่งเมาส์กับเพื่อนไปเรื่อยว่ามืงน่าจะมา กูเหงาาาาาา มากเลย
ไม่มีคนถ่ายรูปไห้กูเลย และมันก็ลากเพื่อนที่เรียนอยู่ญีปุ่นมาในแชทไลน์ เขาสามารถพูดอังกฤษได้ดีพอสมควรค่ะ เพื่อนเราก็เลยให้เขาแนะนำสถานที่เที่ยวแปลกๆ เขาก็ไม่สามารถอธิบายว่ามันไปยังไง พอดีเขาหยุดงานวันนี้ เราก็เลยบอกมาาาาาาาา เลยนะ พาเที่ยวหน่อย เราค่อนข้างเป็นคนเฟรนลี้ ก็จะเข้ากับคนได้ง่าย เจอกันก็สนิทกันเลยค่ะ ฮ่าๆ ^^
จากนั้นก็นัดเจอกันที่ สถานี Takanobaba อะไรสักอย่าง ที่เขาทำงานอยุ่
** อันนี้เราไม่รู้ว่ามันคือที่ไหนอะค่ะ ตอนเขาพามาก็ไม่ได้จำอะไรเลย
รู้แค่มันเป็นร้านเหล้า น่ารักมาก เป็นเหมือนบ้านคนแคระ อะค่ะ
ในร้านจะมีโต๊ะเหล้าแค่ 1 โต๊ะ แปลกดีค่ะ
*สรุปนะค่ะ ชอบประเทศนี้ค่ะ ไปกี่ครั้งก็คงจะไม่เบื่อถ้ามีเพื่อนไปด้วยก็คงจะดีกว่านี้ จะได้มีตัวหาร
ผู้หญิงคนเดียวสำหรับเรา สามารถเที่ยวได้สบายๆ
แต่รถไฟญีปุ่นค่อนข้างจะล้ำมาก ก็อาจจะหลงบ้างแรกๆ
พอมองออกก็จะพบทางออกแน่นอนค่ะ :')
ไปละน้าาาาา Byee