หลังจากอ่านคนนั้นคนนี้รีวิวมาก็เยอะ วันนี้นั่งว่างๆอู้งานไปเรื่อย
แล้วก็มีความคิดแว๊ปเข้ามาในหัว ว่าเราน่าจะทำประโยชน์ให้กับหมู่มวลมนุษย์ไบท์เกอร์ผู้ที่กำลังลังเลได้บ้าง ก็เลยเกิดเป็นกระทู้รีวิวอันนี้ขึ้นมา ข้อมูลต่างๆมาจากการใช้งานจากผมโดยตรง เทียบเอากับความรู้สึกของตัวเองล้วนๆ ไม่มีมาตรฐานใดๆทั้งสิ้น
2 ล้อ ด้วยกันผมเรียกมอเตอร์ไซค์หมด ฝนตกก็เปียกด้วยกัน แดดออกก็ร้อนด้วยกัน ไม่แบ่งแยก ไม่แบ่งค่ายนะครับ
ตอนแรกพิมพ์ไว้ยาวมาก อ่านไปอ่านมาแล้วมันเยอะไปหมด คือพอนึกถึงมันก็มีความทรงจำต่างๆเข้ามาเต็มเลย มีความสุขดีเหมือนกันนะครับ แต่ตัดออกบ้าง เพื่อจะได้ไม่ยาวเกิน
ก่อนอื่นเลย ทำไมถึงอยากจะมีมอเตอร์ไซค์
ปกติขับรถไปทำงานเช้า – กลับเย็น แล้วรถมันก็ติดมากๆๆๆ ผมพักอยู่แถวกัลปพฤกษ์ ทำงานแถวคลองเตย สะพานทุกสะพานรถติดนรก แล้วระหว่างรถติด ผมก็เห็นมอเตอร์ไซค์ทั้งเล็กทั้งใหญ่ วิ่งลัดเลาะไปอย่างชิลๆ เห็นแล้วอิจฉาสุดๆ
ก็เลยเริ่มมองหามอเตอร์ไซค์บ้าง จะได้ปรื้ดๆๆ ดูไปดูมา จากคันเล็กก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมาสะดุดที่ ER6N เพราะมีรุ่นพี่ที่รู้จักใช้อยู่ และเริ่มคิดว่า middle weight นี่แหละคงเหมาะ เพราะไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป
เลือกคันไหนดี
ผมเชื่อว่าหลายคนมีคำถามเดียวกันนี้ในหัว ตอนนั้นผมมีตัวเลือกแค่ไม่เท่าไหร่ใน ไปลองมาหลายตัว ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ Ninja 300, Z250, CB500, ER6N, Monster 795 (ตอนนั้น CBR650F ยังไม่ออก) ใจค่อนข้างไปทาง Naked bike ตัดสินใจอยู่พักใหญ่ ก็ว่า Motor Expo 2014 นี่จะไปจอง M795 แน่ๆ แต่!!! ก่อนงานไม่นาน ทาง Kawa ก็เปิดตัว Z800 โผล่มาให้เลือกอีก 1 รุ่น โอโห้ มันใช่เลย ชอบมาก มาพร้อมหนังเรื่อง Pacific Rim เห็นแล้วถูกใจสุดๆ ตอนนั้นไม่มีรู้เรื่องเลย 4สูบอะไรยังไงเนี่ย ทำให้รู้สึกว่าต้องศึกษาซะหน่อยแล้ว อ่านเอาตามเวปต่างๆที่มีข้อมูลมาให้ ใจเลยเริ่มเองอียงไปทาง 4สูบ ถึงแม้จะไม่เคยขี่ก็ตาม
พองาน Motor Expo มาถึง ทาง Honda ก็เปิดตัว CBR650F มาอีก เห็นในรูปตอนแรกมองว่าธรรมดามากครับ สวยมั้ย มันก็โอเคอ่ะ แต่มันไม่เตะตาเหมือน Z800 เลย
แต่!!! แต่อีกแล้ว (มันแต่เยอะเนอะ) พอไปดูตัวจริง กลับรู้สึกชอบ CBR650F ทั้งๆที่ปกติชอบ Naked อันนี้งงตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆทีตั้งใจจะไปจอง Z800 ไม่ก็ M795 ถึงกับสตั้น 3วิ แล้วขอกลับมาเปรียบเทียบก่อน คิดหนักมากอยู่ 1คืนเต็มๆ พยายาม weight ข้อดีข้อเสียต่างๆ ปรึกษาคนที่พอมีความรู้ ตอนนี้ 3 ตัวเลือกของผมมันคะแนนเท่ากันมากๆ รักทุกคัน รักทุกค่าย ตัดใจไม่ได้เลย
Ducati สำหรับผมมันคือ Ducati มันไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้นที่จะเลือกแบรนด์นี้ มันใจล้วนๆ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก่อนราคาแพงมาก ตอนนี้พอจะเอื้อมไหว มันก็เลยเข้ามาอยู่ในตัวเลือกแบบชิลๆ ไม่ต้องแก่งแย่งกับใคร ชื่อมันติดอยู่ในใจตลอด
Kawa Z800 ตัวนี้ชอบมากที่หน้าตาดุดัน เครื่องแรง และ 4สูบ ได้โช้คหัวกลับ ปรับได้ แต่ที่ไปลองๆดูสั้นๆ ติดนิดเดียวคือรถหนัก และไม่มี ABS มาให้ ซึ่งไม่มีผลต่อการตัดสินใจของผม 555 คือจะเอาอ่ะ
Honda CBR650F ตัวนี้ม้ามืดมาก มาหลังสุด แต่เข้าวิน เพราะถ้าเอาเหตุผลมาคิด คือมันคุ้มมากๆ เหตุผลหลักๆของผมคือ ผมเองไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน คันแรกเอาที่ถูกๆหน่อย เพราะราคาห่างกับ M795 และ Z800 มากพอสมควร รวมถึงถ้าเกิดเอาไปล้มหรือไรมา ซ่อมจะได้ไม่หนักมาก อีกอย่างเหลือเงินซื้ออุปกรณ์ safety อีกเยอะเลย หลังจากทุกอย่างลงตัวและพร้อมกว่านี้ ducati ต้องมาแน่ๆ

ตัดกลับมาที่งาน Motor Expo อีกครั้ง ไปครั้งที่ 2 ก็เดินไปรับบัตรคิวจอง CBR650F สีดำ เสียเงิน ไป 5พัน น้องที่รับจองบอกได้รถประมาณ เมษา (อีก4-5 เดือนโน้น) จบ กลับบ้านแบบมึนๆ ทำรอนานจังฟ่ะ
ทำงานไปเรื่อยๆ ลืมวันลืมคืน แป๊บเดียวปลายเดือนมีนา ทางศูนย์ Bigwing โทรมาบอกว่าให้มารับรถได้แล้ว อัยยะ ไวกว่าที่คิด วันแรกที่ไปรับรถเรียกว่าจัดเต็มมากๆ เสื้อการ์ด รองเท้า ครบ แดดตอนบ่าย 2 ของเดือนมีนา ขี่กลับจากเลียบด่วน ไปกัลปพฤกษ์ ถึงคอนโดนี้เกือบเป็นลม ถอดเสื้อมานี่เปียกทั้งตัว
ขับยากมั้ย สำหรับมือใหม่
บอกได้เลยว่าง่ายมากๆ มันไม่กระชาก คือนุ่มนวลสุดๆ Basic มอเตอร์ไซค์ผมพอมีบ้าง แต่ไม่เยอะ เพราะงั้นหลายคนที่ชอบถามว่าไม่เคยขับรถมีครัชมาก่อนขับได้มั้ย ตอบว่าได้ สบายมาก จะมีเกร็งๆ ช่วงแรกเท่านั้น หลังจากใช้งานบ่อยๆ จะชินและห้าวขึ้นเองตามลำดับ
แต่ด้วยความนุ่มนวล อาจจะไม่ถูกใจสายโหด เพราะถ้าเทียบกับ อันนั้นทอร์คโหดมาก

เรื่องความสูง ส่วนสูงผม 172 cm นน 76 kg ยืนได้ไม่เต็มฝ่าเท่า แต่ไม่ใช่ปัญหา รถไม่ได้หนักขนาดนั้น ไหวแน่นอน แต่ถ้าสูงน้อยกว่านี้อาจจะต้องปรับแต่ง หรือปาดเบาะช่วย น่าจะสบายขึ้น
ความแรงเป็นยังไง
รถผมไม่ได้แต่งอะไรเลย เดิมๆ มีแค่ท้ายสั้น กันดีดด้านหลัง แล้วก็การ์ดหม้อน้ำ แค่นั้น รถเดิมๆก็แรงมากแล้วครับ ผมเคยไปถึงประมาณ 220 km/h แล้วก็ผ่อน เพราะใจมันไม่กล้า กลัวมาก แต่อยากลอง เลยเอาแค่นั้นพอละ ไว้พอได้โม้กับคนนั้นคนนี้ได้ประมาณนึง เทียบกับ ER และ 795 ช่วงต้นทั้ง ER และ 795 ทอร์คมาเต็ม ดุดัน ออกตัวพร้อมกันไม่เคยขึ้นนำได้ แต่พอรอบมาแล้วก็ไล่แซงได้ ยิ่งที่ความเร็วปลายๆนี่นำสบาย ไม่รู้เพื่อนอ่อยให้รึเปล่า แต่ความเร็วเดินทาง ประมาณ 80-150 อันนี้โอเค ตามขบวนไปกับเค้าได้ ไม่เหนื่อย ตามตัว 1000 ไหว ถ้าเค้าไม่ใช่สายโหด เพราะที่เคยออกทริป ใช้ความเร็วกันประมาณนี้ ในกลุ่มมีตัว 300 ก็ตามได้ แต่เหนื่อยหน่อย และสุดท้ายก็รอกันอยู่ดี เพราะไม่งั้นไม่รู้จะไปด้วยกันทำไม
กับรถเก๋งเคยลองตาม EVO 500 ม้า ก็พอได้ ไม่รู้ EVO เค้าเหยียบเต็มขนาดไหน ส่วนถ้ารถบ้านทั่วไปแซงได้ทุกคัน แต่!!! การแช่ที่ความเร็วสูงๆ นานๆ มันเครียด ต้องระวังมากๆๆๆๆ เหนื่อย ลมก็แรง ซักพักก็ต้องผ่อน จอดพักบ่อย เพราะมันล้า
ในเมือง ไหวมั้ย
การขับขี่ในเมืองผมสามารถจะแทรกไปตามการจราจรที่ติดขัดได้ ไม่ยากนะครับ เส้นทางที่ใช้ประจำ สาทร พระราม 3 พระราม 4 สยาม วิทยุ รัชดา ก็ชิลๆ เค้าไปกันได้ ผมก็ตามไปกับเค้าได้ อาจต้องพับกระจกมองข้างช่วย แต่ยืนยันว่าไปได้ครับ จะมีปัญหาก็ตอนถ้าต้องหักเลี้ยวทางแคบๆ แค่นั้น หลังๆพอเริ่มมีประสบการณ์จะคาดการณ์ล่วงหน้าเลย ว่าต้องไปช่องนั้นช่องนี้ ส่วนครัชไม่แข็งนะครับ รถติดๆ กำครัชไม่เมื่อยมาก แรกๆนี่เกร็ง กำแน่นสุดๆ กลับบ้านมาปวดมือเลย หลังเริ่มรู้จังหวะ เรื่องของตำแหน่งแฮนด์ที่ต้องก้มนิดหน่อยเทียบกับสาย Naked ก็มีเมื่อยบ้าง ไม่รู้คันอื่นเป็นยังไง
ค่าบำรุงรักษาละ
ค่าบำรุงรักษา ตอนนี้รถผม 1 หมื่นกิโลกว่าๆ เพิ่งเอาเข้าไปเช็ค 12,000 km ที่ Bigwing พระราม 3 จริงๆยังไม่ถึง แต่อยากเปลี่ยนก่อน ฮ่าฮ่า รายการค่าใช้จ่ายก็ตามรูป เข้าศูนย์ครั้งแรกตอน 1000 กิโล เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พันกว่าบาท อีกครั้งตอน 6 พันกิโล เขาไปเช็คเฉยๆ แล้วก็ที่เพิ่งผ่านมา 12000กิโล อีกพันกว่าบาท ชิลสุดๆ รอบหน้าเช็คอีกครั้ง ตอน 18000 กิโล
ยาง Dunlop ติดรถตอนนี้หมื่นกว่ากิโล สภาพยังโอเคครับ ที่ไปฝึกที่ศูนย์ตรงสุขา 3 เข้าโค้งผมลงได้ไม่สุดนะ เหลืออีกประมาณ 1 ชม ฝีมือได้แค่นี้ เกาะถนนดี ไม่แฉลบน้ำ ปัญหาคือไม่รู้จะเปรียบเทียบกับตัวไหน เพราะคันนี้คันแรก ยางชุดนี้ชุดแรก เอาเป็นว่าสำหรับมือใหม่ ผมว่าคุณภาพโอเคแล้วครับ ตัวต่อไปผมมอง angle GT หรือ rosso II ไว้ แต่คงอีกซักพัก ไม่อยากเสียตังค์ 555
ศูนย์บริการเป็นยังไง
Honda Bigwing ดูแลได้ดีครับ ได้ตามมาตรฐาน เข้าไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใช้เวลาประมาณเกือบๆชั่วโมง ช่างทั้งที่เลียบด่วนและพระราม 3 ให้ข้อมูลดี คำแนะนำดี แล้วก็มีแถมคอร์สให้ไปลงเรียนขับขี่ปลอดภัย ผมไปมาแล้ว 3 ครั้ง ฝึกทักษะเบสิคต่างๆ ถือว่าดีมาก ที่อยากไปแต่ยังไม่มีเวลาคือคอร์ส advance กับคอร์ส racing (ต้องมีชุดแข่ง)
ส่วนทริปไปเที่ยวก็ไปบุรีรัมย์กับศูนย์พระราม 3 มา 2 ครั้ง ขี่กันไปเป็นขบวน มีตำรวจนำทางให้ คอยกันรถให้ มีครูฝึกอีกหลายคนคอยดูแล มีรถเซอร์วิสวิ่งตามเผื่อมีปัญหา กระเป๋าสัมภาระฝากไปกับรถของศูนย์ เติมน้ำมันให้ตลอดทริป อาหารที่พัก จัดการให้หมด อันนี้ขอชมเชยครับ
ประหยัดน้ำมันขนาดไหน
การเติมน้ำมัน ผมใช้ app จด คิดคร่าวๆได้ประมาณ20กว่ากิโลต่อลิตร ทางไกล ได้ถึง 30กว่ากิโลต่อลิตร ลักษณะคือขับไม่ได้เน้นประหยัด ขับเอามันส์ 555
รูปข้างล่าง app มัน plot มาให้ พอเติมเต็มถังทีนึง มันก็จะเฉลี่ยให้ที ว่าใช้กี่กิโลต่อลิตร ถ้าเติมไม่เต็มมันก็จะยังไม่คิดให้
กราฟจะมีช่วงที่เป็นเส้นตรงยาวๆ นั้นคือผมเติมไม่เต็มถัง มันก็ยังไม่คิดให้ พอเติมเต็มถังทีมันก็เฉลี่ยรวมเลย ก็เลยเป็นเส้นตรงเลย
ดูคร่าวๆละกันครับ อย่าคิดมาก เอาเป็นว่าเฉลี่ยๆแบบสบายใจก็ 20กิโลกว่าๆต่อลิตรเนอะ
ข้อเสียกันบ้าง
กรอบเรือนไมล์ของผมเวลาขับช้าๆ มันจะมีเสียงดังนิดๆ เหมือนเสียงพลาสติกไม่แน่นแล้วมันกระทบกัน เอาเข้าไปแก้ที่ศุนย์รามอินทรามา 1 รอบ ก็ดีขึ้น แต่ไม่หายขาด แต่อยู่ๆตอนนี้เงียบไปแล้ว ไม่ได้ทำไรกับมันเลย งง เหมือนกัน แต่เงียบก็ดีแล้ว ปัญหาคือไม่รู้มันจะกลับมาดังอีกรึเปล่า
อีกอย่างคือเบาะนั่ง ขี่ทางไกลนี่เมื่อยตูดมากๆ ช่วงแรกๆตูดยังไม่ระบม ก็จะเริ่มเมื่อยๆ ช่วงซัก2ร้อยกิโล หลังจากนั้นจะเริ่มเมื่อยเร็วขึ้น ต้องพักบ่อย บริหารตูด รถผมเบาะเดิมไม่ได้ทำอะไรกับมันนะครับ ท่านไหนที่ทำเบาะมาแล้วรบกวนแชร์หน่อย
จบละครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะกับหลายๆท่าน
ไม่รู้ตกหล่นอะไรไปบ้าง ถ้านึกออกจะมาเพิ่มให้นะครับ
ครั้งหน้าจะมารีวิวหมวกกันน็อคแบบเปรียบเทียบแต่ละรุ่นที่ผมมีนะครับ โปรยไว้ก่อน ฮ่าฮ่า
(Shoei RF1100, HJC Rpha10+, CL-17, ICON airmanda, Bell Vortex, revolver evo,, AGV K3)
[CR] 1 ปีกว่าๆ กับ CBR650F
หลังจากอ่านคนนั้นคนนี้รีวิวมาก็เยอะ วันนี้นั่งว่างๆอู้งานไปเรื่อย
แล้วก็มีความคิดแว๊ปเข้ามาในหัว ว่าเราน่าจะทำประโยชน์ให้กับหมู่มวลมนุษย์ไบท์เกอร์ผู้ที่กำลังลังเลได้บ้าง ก็เลยเกิดเป็นกระทู้รีวิวอันนี้ขึ้นมา ข้อมูลต่างๆมาจากการใช้งานจากผมโดยตรง เทียบเอากับความรู้สึกของตัวเองล้วนๆ ไม่มีมาตรฐานใดๆทั้งสิ้น
2 ล้อ ด้วยกันผมเรียกมอเตอร์ไซค์หมด ฝนตกก็เปียกด้วยกัน แดดออกก็ร้อนด้วยกัน ไม่แบ่งแยก ไม่แบ่งค่ายนะครับ
ตอนแรกพิมพ์ไว้ยาวมาก อ่านไปอ่านมาแล้วมันเยอะไปหมด คือพอนึกถึงมันก็มีความทรงจำต่างๆเข้ามาเต็มเลย มีความสุขดีเหมือนกันนะครับ แต่ตัดออกบ้าง เพื่อจะได้ไม่ยาวเกิน
ก่อนอื่นเลย ทำไมถึงอยากจะมีมอเตอร์ไซค์
ปกติขับรถไปทำงานเช้า – กลับเย็น แล้วรถมันก็ติดมากๆๆๆ ผมพักอยู่แถวกัลปพฤกษ์ ทำงานแถวคลองเตย สะพานทุกสะพานรถติดนรก แล้วระหว่างรถติด ผมก็เห็นมอเตอร์ไซค์ทั้งเล็กทั้งใหญ่ วิ่งลัดเลาะไปอย่างชิลๆ เห็นแล้วอิจฉาสุดๆ
ก็เลยเริ่มมองหามอเตอร์ไซค์บ้าง จะได้ปรื้ดๆๆ ดูไปดูมา จากคันเล็กก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมาสะดุดที่ ER6N เพราะมีรุ่นพี่ที่รู้จักใช้อยู่ และเริ่มคิดว่า middle weight นี่แหละคงเหมาะ เพราะไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป
เลือกคันไหนดี
ผมเชื่อว่าหลายคนมีคำถามเดียวกันนี้ในหัว ตอนนั้นผมมีตัวเลือกแค่ไม่เท่าไหร่ใน ไปลองมาหลายตัว ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ Ninja 300, Z250, CB500, ER6N, Monster 795 (ตอนนั้น CBR650F ยังไม่ออก) ใจค่อนข้างไปทาง Naked bike ตัดสินใจอยู่พักใหญ่ ก็ว่า Motor Expo 2014 นี่จะไปจอง M795 แน่ๆ แต่!!! ก่อนงานไม่นาน ทาง Kawa ก็เปิดตัว Z800 โผล่มาให้เลือกอีก 1 รุ่น โอโห้ มันใช่เลย ชอบมาก มาพร้อมหนังเรื่อง Pacific Rim เห็นแล้วถูกใจสุดๆ ตอนนั้นไม่มีรู้เรื่องเลย 4สูบอะไรยังไงเนี่ย ทำให้รู้สึกว่าต้องศึกษาซะหน่อยแล้ว อ่านเอาตามเวปต่างๆที่มีข้อมูลมาให้ ใจเลยเริ่มเองอียงไปทาง 4สูบ ถึงแม้จะไม่เคยขี่ก็ตาม
พองาน Motor Expo มาถึง ทาง Honda ก็เปิดตัว CBR650F มาอีก เห็นในรูปตอนแรกมองว่าธรรมดามากครับ สวยมั้ย มันก็โอเคอ่ะ แต่มันไม่เตะตาเหมือน Z800 เลย
แต่!!! แต่อีกแล้ว (มันแต่เยอะเนอะ) พอไปดูตัวจริง กลับรู้สึกชอบ CBR650F ทั้งๆที่ปกติชอบ Naked อันนี้งงตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆทีตั้งใจจะไปจอง Z800 ไม่ก็ M795 ถึงกับสตั้น 3วิ แล้วขอกลับมาเปรียบเทียบก่อน คิดหนักมากอยู่ 1คืนเต็มๆ พยายาม weight ข้อดีข้อเสียต่างๆ ปรึกษาคนที่พอมีความรู้ ตอนนี้ 3 ตัวเลือกของผมมันคะแนนเท่ากันมากๆ รักทุกคัน รักทุกค่าย ตัดใจไม่ได้เลย
Ducati สำหรับผมมันคือ Ducati มันไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้นที่จะเลือกแบรนด์นี้ มันใจล้วนๆ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก่อนราคาแพงมาก ตอนนี้พอจะเอื้อมไหว มันก็เลยเข้ามาอยู่ในตัวเลือกแบบชิลๆ ไม่ต้องแก่งแย่งกับใคร ชื่อมันติดอยู่ในใจตลอด
Kawa Z800 ตัวนี้ชอบมากที่หน้าตาดุดัน เครื่องแรง และ 4สูบ ได้โช้คหัวกลับ ปรับได้ แต่ที่ไปลองๆดูสั้นๆ ติดนิดเดียวคือรถหนัก และไม่มี ABS มาให้ ซึ่งไม่มีผลต่อการตัดสินใจของผม 555 คือจะเอาอ่ะ
Honda CBR650F ตัวนี้ม้ามืดมาก มาหลังสุด แต่เข้าวิน เพราะถ้าเอาเหตุผลมาคิด คือมันคุ้มมากๆ เหตุผลหลักๆของผมคือ ผมเองไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน คันแรกเอาที่ถูกๆหน่อย เพราะราคาห่างกับ M795 และ Z800 มากพอสมควร รวมถึงถ้าเกิดเอาไปล้มหรือไรมา ซ่อมจะได้ไม่หนักมาก อีกอย่างเหลือเงินซื้ออุปกรณ์ safety อีกเยอะเลย หลังจากทุกอย่างลงตัวและพร้อมกว่านี้ ducati ต้องมาแน่ๆ
ตัดกลับมาที่งาน Motor Expo อีกครั้ง ไปครั้งที่ 2 ก็เดินไปรับบัตรคิวจอง CBR650F สีดำ เสียเงิน ไป 5พัน น้องที่รับจองบอกได้รถประมาณ เมษา (อีก4-5 เดือนโน้น) จบ กลับบ้านแบบมึนๆ ทำรอนานจังฟ่ะ
ทำงานไปเรื่อยๆ ลืมวันลืมคืน แป๊บเดียวปลายเดือนมีนา ทางศูนย์ Bigwing โทรมาบอกว่าให้มารับรถได้แล้ว อัยยะ ไวกว่าที่คิด วันแรกที่ไปรับรถเรียกว่าจัดเต็มมากๆ เสื้อการ์ด รองเท้า ครบ แดดตอนบ่าย 2 ของเดือนมีนา ขี่กลับจากเลียบด่วน ไปกัลปพฤกษ์ ถึงคอนโดนี้เกือบเป็นลม ถอดเสื้อมานี่เปียกทั้งตัว
ขับยากมั้ย สำหรับมือใหม่
บอกได้เลยว่าง่ายมากๆ มันไม่กระชาก คือนุ่มนวลสุดๆ Basic มอเตอร์ไซค์ผมพอมีบ้าง แต่ไม่เยอะ เพราะงั้นหลายคนที่ชอบถามว่าไม่เคยขับรถมีครัชมาก่อนขับได้มั้ย ตอบว่าได้ สบายมาก จะมีเกร็งๆ ช่วงแรกเท่านั้น หลังจากใช้งานบ่อยๆ จะชินและห้าวขึ้นเองตามลำดับ
แต่ด้วยความนุ่มนวล อาจจะไม่ถูกใจสายโหด เพราะถ้าเทียบกับ อันนั้นทอร์คโหดมาก
เรื่องความสูง ส่วนสูงผม 172 cm นน 76 kg ยืนได้ไม่เต็มฝ่าเท่า แต่ไม่ใช่ปัญหา รถไม่ได้หนักขนาดนั้น ไหวแน่นอน แต่ถ้าสูงน้อยกว่านี้อาจจะต้องปรับแต่ง หรือปาดเบาะช่วย น่าจะสบายขึ้น
ความแรงเป็นยังไง
รถผมไม่ได้แต่งอะไรเลย เดิมๆ มีแค่ท้ายสั้น กันดีดด้านหลัง แล้วก็การ์ดหม้อน้ำ แค่นั้น รถเดิมๆก็แรงมากแล้วครับ ผมเคยไปถึงประมาณ 220 km/h แล้วก็ผ่อน เพราะใจมันไม่กล้า กลัวมาก แต่อยากลอง เลยเอาแค่นั้นพอละ ไว้พอได้โม้กับคนนั้นคนนี้ได้ประมาณนึง เทียบกับ ER และ 795 ช่วงต้นทั้ง ER และ 795 ทอร์คมาเต็ม ดุดัน ออกตัวพร้อมกันไม่เคยขึ้นนำได้ แต่พอรอบมาแล้วก็ไล่แซงได้ ยิ่งที่ความเร็วปลายๆนี่นำสบาย ไม่รู้เพื่อนอ่อยให้รึเปล่า แต่ความเร็วเดินทาง ประมาณ 80-150 อันนี้โอเค ตามขบวนไปกับเค้าได้ ไม่เหนื่อย ตามตัว 1000 ไหว ถ้าเค้าไม่ใช่สายโหด เพราะที่เคยออกทริป ใช้ความเร็วกันประมาณนี้ ในกลุ่มมีตัว 300 ก็ตามได้ แต่เหนื่อยหน่อย และสุดท้ายก็รอกันอยู่ดี เพราะไม่งั้นไม่รู้จะไปด้วยกันทำไม
กับรถเก๋งเคยลองตาม EVO 500 ม้า ก็พอได้ ไม่รู้ EVO เค้าเหยียบเต็มขนาดไหน ส่วนถ้ารถบ้านทั่วไปแซงได้ทุกคัน แต่!!! การแช่ที่ความเร็วสูงๆ นานๆ มันเครียด ต้องระวังมากๆๆๆๆ เหนื่อย ลมก็แรง ซักพักก็ต้องผ่อน จอดพักบ่อย เพราะมันล้า
ในเมือง ไหวมั้ย
การขับขี่ในเมืองผมสามารถจะแทรกไปตามการจราจรที่ติดขัดได้ ไม่ยากนะครับ เส้นทางที่ใช้ประจำ สาทร พระราม 3 พระราม 4 สยาม วิทยุ รัชดา ก็ชิลๆ เค้าไปกันได้ ผมก็ตามไปกับเค้าได้ อาจต้องพับกระจกมองข้างช่วย แต่ยืนยันว่าไปได้ครับ จะมีปัญหาก็ตอนถ้าต้องหักเลี้ยวทางแคบๆ แค่นั้น หลังๆพอเริ่มมีประสบการณ์จะคาดการณ์ล่วงหน้าเลย ว่าต้องไปช่องนั้นช่องนี้ ส่วนครัชไม่แข็งนะครับ รถติดๆ กำครัชไม่เมื่อยมาก แรกๆนี่เกร็ง กำแน่นสุดๆ กลับบ้านมาปวดมือเลย หลังเริ่มรู้จังหวะ เรื่องของตำแหน่งแฮนด์ที่ต้องก้มนิดหน่อยเทียบกับสาย Naked ก็มีเมื่อยบ้าง ไม่รู้คันอื่นเป็นยังไง
ค่าบำรุงรักษาละ
ค่าบำรุงรักษา ตอนนี้รถผม 1 หมื่นกิโลกว่าๆ เพิ่งเอาเข้าไปเช็ค 12,000 km ที่ Bigwing พระราม 3 จริงๆยังไม่ถึง แต่อยากเปลี่ยนก่อน ฮ่าฮ่า รายการค่าใช้จ่ายก็ตามรูป เข้าศูนย์ครั้งแรกตอน 1000 กิโล เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พันกว่าบาท อีกครั้งตอน 6 พันกิโล เขาไปเช็คเฉยๆ แล้วก็ที่เพิ่งผ่านมา 12000กิโล อีกพันกว่าบาท ชิลสุดๆ รอบหน้าเช็คอีกครั้ง ตอน 18000 กิโล
ยาง Dunlop ติดรถตอนนี้หมื่นกว่ากิโล สภาพยังโอเคครับ ที่ไปฝึกที่ศูนย์ตรงสุขา 3 เข้าโค้งผมลงได้ไม่สุดนะ เหลืออีกประมาณ 1 ชม ฝีมือได้แค่นี้ เกาะถนนดี ไม่แฉลบน้ำ ปัญหาคือไม่รู้จะเปรียบเทียบกับตัวไหน เพราะคันนี้คันแรก ยางชุดนี้ชุดแรก เอาเป็นว่าสำหรับมือใหม่ ผมว่าคุณภาพโอเคแล้วครับ ตัวต่อไปผมมอง angle GT หรือ rosso II ไว้ แต่คงอีกซักพัก ไม่อยากเสียตังค์ 555
ศูนย์บริการเป็นยังไง
Honda Bigwing ดูแลได้ดีครับ ได้ตามมาตรฐาน เข้าไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใช้เวลาประมาณเกือบๆชั่วโมง ช่างทั้งที่เลียบด่วนและพระราม 3 ให้ข้อมูลดี คำแนะนำดี แล้วก็มีแถมคอร์สให้ไปลงเรียนขับขี่ปลอดภัย ผมไปมาแล้ว 3 ครั้ง ฝึกทักษะเบสิคต่างๆ ถือว่าดีมาก ที่อยากไปแต่ยังไม่มีเวลาคือคอร์ส advance กับคอร์ส racing (ต้องมีชุดแข่ง)
ส่วนทริปไปเที่ยวก็ไปบุรีรัมย์กับศูนย์พระราม 3 มา 2 ครั้ง ขี่กันไปเป็นขบวน มีตำรวจนำทางให้ คอยกันรถให้ มีครูฝึกอีกหลายคนคอยดูแล มีรถเซอร์วิสวิ่งตามเผื่อมีปัญหา กระเป๋าสัมภาระฝากไปกับรถของศูนย์ เติมน้ำมันให้ตลอดทริป อาหารที่พัก จัดการให้หมด อันนี้ขอชมเชยครับ
ประหยัดน้ำมันขนาดไหน
การเติมน้ำมัน ผมใช้ app จด คิดคร่าวๆได้ประมาณ20กว่ากิโลต่อลิตร ทางไกล ได้ถึง 30กว่ากิโลต่อลิตร ลักษณะคือขับไม่ได้เน้นประหยัด ขับเอามันส์ 555
รูปข้างล่าง app มัน plot มาให้ พอเติมเต็มถังทีนึง มันก็จะเฉลี่ยให้ที ว่าใช้กี่กิโลต่อลิตร ถ้าเติมไม่เต็มมันก็จะยังไม่คิดให้
กราฟจะมีช่วงที่เป็นเส้นตรงยาวๆ นั้นคือผมเติมไม่เต็มถัง มันก็ยังไม่คิดให้ พอเติมเต็มถังทีมันก็เฉลี่ยรวมเลย ก็เลยเป็นเส้นตรงเลย
ดูคร่าวๆละกันครับ อย่าคิดมาก เอาเป็นว่าเฉลี่ยๆแบบสบายใจก็ 20กิโลกว่าๆต่อลิตรเนอะ
ข้อเสียกันบ้าง
กรอบเรือนไมล์ของผมเวลาขับช้าๆ มันจะมีเสียงดังนิดๆ เหมือนเสียงพลาสติกไม่แน่นแล้วมันกระทบกัน เอาเข้าไปแก้ที่ศุนย์รามอินทรามา 1 รอบ ก็ดีขึ้น แต่ไม่หายขาด แต่อยู่ๆตอนนี้เงียบไปแล้ว ไม่ได้ทำไรกับมันเลย งง เหมือนกัน แต่เงียบก็ดีแล้ว ปัญหาคือไม่รู้มันจะกลับมาดังอีกรึเปล่า
อีกอย่างคือเบาะนั่ง ขี่ทางไกลนี่เมื่อยตูดมากๆ ช่วงแรกๆตูดยังไม่ระบม ก็จะเริ่มเมื่อยๆ ช่วงซัก2ร้อยกิโล หลังจากนั้นจะเริ่มเมื่อยเร็วขึ้น ต้องพักบ่อย บริหารตูด รถผมเบาะเดิมไม่ได้ทำอะไรกับมันนะครับ ท่านไหนที่ทำเบาะมาแล้วรบกวนแชร์หน่อย
จบละครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะกับหลายๆท่าน
ไม่รู้ตกหล่นอะไรไปบ้าง ถ้านึกออกจะมาเพิ่มให้นะครับ
ครั้งหน้าจะมารีวิวหมวกกันน็อคแบบเปรียบเทียบแต่ละรุ่นที่ผมมีนะครับ โปรยไว้ก่อน ฮ่าฮ่า
(Shoei RF1100, HJC Rpha10+, CL-17, ICON airmanda, Bell Vortex, revolver evo,, AGV K3)