ขอเอ่ยเกี่ยวกับชื่อกลุ่มพวกเรานิดนึงว่า ก่อนหน้านั้นเราใช้ชื่อว่า Team Vader ชื่อรุ่นหน้ากากดำน้ำที่พวกเราในกลุ่มใส่ทุกครับ
แต่หลังจากที่พวกเราได้ครอบครอง Vader พร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆแล้วนั้นพวกเราก็ตระหนักได้ว่า
เงินเก็บในธนาคารที่อุส่าห์ทำงานมาตั้งเป็นปีมันหายไปไหนว้ะ!!! Team Vader ของเราถูกเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ
เอ้า เข้าเรื่อง!!!
“ไปดำน้ำกันเถอะ” ประโยคเริ่มต้นง่ายๆของการรวมตัวกลุ่มของพวกเรา หลังจากหาวันว่างกันมาอย่างเนิ่นนาน (เป็นปี)
จึงสรุปได้ว่ามันว่างไม่ตรงกันเลย !! ต่างคนต่างแยกย้ายไปเรียนแล้วกัน แล้วเราค่อยกลับมาพบกันหลังจากทุกคนบรรลุเส้นทาง
ยกสุราหนึ่งจอกเป็นเครื่องยืนยันร่วมสาบานก่อกำเนิดทีมดำน้ำเล็กๆขึ้น ต่างคนต่างแยกย้ายไปร่ำเรียนวิชาตามเส้นทางของตัวเอง
และนี่คือเส้นทางการเรียน Advance openwater (ขอย่อว่า AOW )ของสีฟ้า บนเรือ MV Scubnet
(ห้ามห่ามมม ห้ามห้ามห่ามมมมม : bgm กระบี่ไร้เทียมทาน)
โดยทั่วไปผู้คนจะนิยมเรียน OW และ AOW พร้อมกันในทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/34093799 ติดตามการเดินทางของสมาชิกชมรมในการเรียน open water ตามลิงค์ครับ
เพราะสะดวกในการลางานรวดเดียวยาวๆไปเลยมากกว่า แต่เนื่องจากพวกเราต้องขายวิญญาณให้กับการโค้ดดิ้งทำให้ไม่มีเวลาว่างยาวขนาดนั้น
พอจบโปรเจคนึงเห็นเวลาว่างอยู่ช่วงนึงสั้นๆ ผมจึงรีบทำการยกหูหา instructor เพื่อทำ AOW ทันที
ผลที่ได้คือการชักชวนไปเรียน AOW บนเรือ liveabord ชื่อว่า MV Scubanet แล้วมันคืออะไรกันว้ะ!!!
ไม่รอช้าที่ปรึกษาส่วนตัวของคนกว่าค่อนโลกได้ถูกเรียกมาสอบถามทันที “Google” หลังจากค้นหาข้อมูลประมาณหนึ่งแล้ว ก็เริ่มเดินทางกันได้เลย
ขอข้ามช่วงการเดินทางทั้งหมดไป (หลับยาว) และบู้ม เราก็มาอยู่บนเรือ Scubanet แล้ววว
บนเรือก็จะมีสามชั้น
ชั้นบนสุดเป็นดาดฟ้าไว้นอนอาบแดด เบิร์นปอด(สูบบุหรี่) แอบคุยโทรศัพท์กับแฟน หรือ ถ่ายรูป
ชั้นสองก็จะเป็นส่วนกินข้าว นั่งชิว สังสรรค์หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการดำน้ำ
ชั้นล่างสุด ก็จะเป็นแพลตฟอร์มไว้โดดลงน้ำ ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องนอน
หลังจากเรือออก ทุกคนเก็บของเรียบร้อยแล้วมานั่งรวมกันตรงส่วนกินข้าว ก็ได้ทำการแนะนำตัวกันเรียบร้อย
เท่านี้เราก็ไม่ตัวคนเดียวบนเรืออีกต่อไป รู้จักกันหมดแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับคนที่กลัวการที่จะต้องไปดำน้ำหรือเรียนคนเดียว ติดต่อหลังไมค์ได้ครับ พวกเราพร้อมพามารู้จักกับสมาคม แล้วคุณจะไม่เหงาอีกต่อไป ไป ไป ไป ……
หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อรอ เช็คไดฟ์กันในวันรุ่งขึ้น
Dive 1 เกาะง่ามใหญ่
ด้วยความโชคดีที่บุญนำหนุนส่งมาแต่กาลก่อน น้ำใสอุ่นเอื่อยๆ ช่วยวอร์มอัพตอนเช้าอย่างชิวๆ
แวะทำสกิลซักเล็กน้อย
ก่อนจะเริ่มดำเล่นชิวๆ แต่ที่ไหนได้ลงไปสักพักก็เจอ Thermocline กระแสน้ำเย็นวูบเสียวมาถึงท้องน้อย พร้อมความขุ่นคลั่ก
แต่ไม้ได้แอ้มหรอก ฝึกจากพัทยามาเยอะเว้ยยย ขุ่นแค่นี้ไม่หลงจาก dive lead แน่นอน
ดำชิวๆเพลินๆ ผ่านไป40กว่านาทีก็ขึ้นสู้ผิวน้ำ ขึ้นมาเจอของว่าง!!! อีกหนึ่งความสบายปนความทุกข์ของการอยู่บน liveaboard คือ
คุณจะมีของกินหลังจบทุก Dive แถมยังอร่อยจนสวาปามเข้าไปอย่างมากมายอีกต่างหาก!!!
Dive 2 เรือหลวงปราบ
Wreck dive คราวนี้เราโดดลงน้ำมาชิวๆที่เรือหลวงปราบ ลึกสุดอยู่ที่ราวๆ 24 เมตร เรายังคงเจอน้ำใสมาก
จนสามารถมองเห็นเรือปราบได้ทั้งลำเช่นเดิม
แลนด์มาร์คเรือปราบ ต้องมาถ่ายกับปืน
เพื่อนรักหอยเม่น ผู้ทดสอบ buoyancy
หลังจากดำวนรอบเรือปราบราวๆ 35 นาทีเราก็กลับขึ้นมาบนเรือ เพื่อเจอกับ
อาหารเที่ยงงงงงง
หลังจากเราอิ่มอร่อยกับมือเที่ยงเรียบร้อย พักน้ำ พักพุง พักผ่อน เป็นที่เรียบร้อย เราก็พร้อมจะโดดลงน้ำแล้ว อ้อออ อีกหนึ่งความสะดวกสบายของ liveaboard คือ ตอนคนเรือจะมีพี่คนเรือโดดลงมาช่วยเราถอดิน แถมด้วย เราไม่ต้องเปลี่ยนแทงค์อากาศเอง ขึ้นมาปั๊ปถอดอุปกรณ์ เปิดแน่บขึ้นไปหาของกินได้เลย อะไรมันจะสบายใจขนาดนั้น
Dive 3 หินแพ
ไดฟ์นี้เราเสียเวลาและอากาศส่วนใหญ่ไปกับการทำ peak performnce buoyancy หลังจากแวะเล่นกับปลาวัวที่เข้ามาคลอเคลียตามฟินเราเล็กน้อยแล้วนั้น
ประจวบรวม 41 นาทีไวเหมือนโกหก เราก็กลับขึ้นมาบนเรือเพื่อหาของกินอีกตามเคย
จริงๆคืนนี้เรามี night dive ด้วย แต่ว่ามีฝนตกลงมาเล็กน้อยถึงปานกลาง ลมเย็นๆพัดเอื่อย คลอด้วยเสียงกีต้าร์เบาๆ เพราะงั้นจะลงไปในน้ำทำไมหล่ะครับ อบอุ่นร่างกายกันซะเลยดีกว่า
และนี่ก็เป็นประสบการณ์แรกของนักดำน้ำหน้าใหม่อย่างผมในการ
“Skip dive”
วันสอง
ตื่นมาด้วยเสียงกริ่งปลุกขึ้นมาบรีฟก่อนลงได์แรก ผนวกกับเครื่องดื่มเบาบางที่ดื่มไปเมื่อคืน แดดเช้านี้ช่างแสบตาเสียจริงๆ
แต่ก็ไม่รอช้าครับ คว้าขนมปังเข้าปากเสริมพลังรอลงไดฟ์แรกกันเลย
Dive 4 หินใบ
ไดฟ์นี้เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่แนะนำให้นักดำน้ำท่านอื่นทำตามนะครับ ควรพักผ่อนให้เพียงพอและดื่มแต่พอดี เวลาแฮงค์แล้วลงมาในน้ำนั้นปวดหัวไม่เบาเลยทีเดียว แต่ว่าสังขารแค่นี้หยุดเราไม่ได้หรอก โดดตู้มลงมาที่ไดฟ์ไซต์นี้ เราก็ได้ประสบพบเจอฝูงปลามากมาย ว่ายวนไปมาอยู่ไกลๆ
จากนั้นทางด้านน้ำลึกก็มีฝูงบาราคุดา พี่น้องปากยื่น ว่ายผ่านไปจำนวนมาก น่ากลัวไม่หยอก
ว่ายผ่านกระแสน้ำเย็นวูบหนึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลงไป เราก็ไปเจอฝรั่งมุง!! หลังจากลอยตัวรอจนฝรั่งมุงกันเสร็จแล้วก็ถึงได้เห็นว่ามันคือ มอเรย์ ขนาดประมานต้นขาของชายหนุ่มเลยทีเดียว อ้าปากงับๆ โชว์ฟันขาวๆ วูบวาป 45 นาที
ผ่านไป อากาศเหลือ 50 ก็ทำเซฟตี้สตอปขึ้นเรือไปหาอะไรกินกันดีกว่า
Dive 5 หินใบ
หลังจากโหวตกันบนเรือแล้ว พวกเราก็ตัดสินใจโดดลงซ้ำกันที่เดิม คราวนี้อาการปวดหัวได้ผ่อนคลายลงไปจนเกือบหมดแล้ว ก็ทำให้เราเห็นโลกอันสวยงามนี้ชัดเจนมากขึ้น
นูดี้ก้มาโผล่มาให้เรายลโฉมกันซักที หลังจากตามหามันไม่เป็นอยู่นาน
ระหว่างที่เรามุงถ่ายนูดี้อยู่หันหลังมาก็เจอพี่ใหญ่นอนรอลงหม้อ เอ้ยย นอนจ้องเราอยู่นิ่งๆ
แวะชมนูดี้อีกซักตัว
โชว์สเตปกันไป 47 นาที อากาศแตะถึง 50 ก็ส่งสัญญาณขอขึ้นด้านบนกันตามระเบียบ
DIve 6 กงทรายแดง
ไดฟ์นี้เป็นไดฟ์ที่เจอกระแสพอสมควร ทำให้เราไม่ต้องตีฟินมากลอยชิวๆไปเรื่อย
เจอแก๊งนี้ไปไม่ขอสู้
ลอยผ่านฝูงนี้เกือบเก็บภาพไม่ทัน
เห็นหอยเม่นไม่ได้ เพื่อนรักทั้งนั้น
ด้วยความที่เจอน้ำแรงๆเข้าทำให้ไม่ได้รูปอะไรมาเท่าไรซะนี่
ขึ้นไปโซ้ยมื้อเย็น จะบอกว่ามื้อนี้พ่อครัวทำกับข้าวได้ถึงเครื่องมาก แสบท้องแสบไส้กันไปทีเดียว
Dive 7 อ่าวลึก 31
หลังจากตะวันลับขอบฟ้าแล้ว เพื่อให้ครบโปรแกรม พวกเราก็เลยโดด night dive กันซักหน่อยก่อนที่จะขึ้นไปอบอุ่นร่างกายกันด้านบน
ฮึบ เจอตัวไรแอบอย่เนี่ย
เจอตัวนี้แอบอยู่อีกตัว
แล้วก็เหลือบไปเห็นลูกมะพร้าวเดินได้อยู่ลิบๆ เลยว่ายเข้าไปดู ที่ไหนได้กลายเป็นเจ้าตัวนี้
ว่ายวนไปสักพักเนื่องจาน้ำค่อนข้างเย็น ทนความหนาวไม่ไหว พวกเราเลยตัดสินใจขึ้นมาจิบเครื่องดื่มสร้างความอบอุ่นซะดีกว่า
วันสาม
Dive 8 กงทรายแดง 57
ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส จับใจความเค้าคุยกันได้ว่าเราจะกลับไปซ้ำที่กงทรายแดงซักหน่อย
ความสดใสยามเช้าทำให้เราเจอเข้ากับเจ้า xeno crab มองเห็นเค้ากันมั้ย?
ผ่านไปอีกนิดก็ยังคงมีตัวแอบอยูาเหมือนกัน
พบนูดี้เข้าอีกแล้ว!!
หลังจากนั้น กล้องก็แบตหมดลง….. เมื่อคืนลืมชาร์ต!!!
เราแวะไปดำ 2 ไดฟ์สุดท้ายที่ กองหินชุมพร หวังว่าจะเจอพี่จุด แต่พวกเราก็ต้องผิดหวังกลับกทม.
ไม่เป็นไรคราวหน้ามาใหม่!! เราต้องได้พบกันสักครั้งแหละหน่า
สำหรับพาทนี้ก็ยังไม่ค่อยจะมีรูปน่าสนใจอีกเช่นเคย พวกเราชาวสมาคมจะฝึกฝีมือเพื่อจะหารูปสวยๆมาลงให้ได้สักวันหนึ่ง ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามความไร้สาระของกระผมมาจนถึงจุดนี้
พบกันใหม่ใน part หน้า กระผม สีฟ้า จาก สมาคมนักดำน้ำผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ขอลาไปก่อน
หากท่านใดสนใจจะเริ่มออกผจญภัยในโลกใต้น้ำกับผู้เริ่มต้นอย่างพวกเรา ติดต่อได้นะครับ ~
สวัสดีครับ ~
[CR] [หนีโค้ดไปโดดน้ำ] เกาะเต่านอนเรือแบบธรรมดา ไม่มีจุดไร้เงาแมนต้า คราวหน้าไว้มาอีก
แต่หลังจากที่พวกเราได้ครอบครอง Vader พร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆแล้วนั้นพวกเราก็ตระหนักได้ว่า
เงินเก็บในธนาคารที่อุส่าห์ทำงานมาตั้งเป็นปีมันหายไปไหนว้ะ!!! Team Vader ของเราถูกเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ
เอ้า เข้าเรื่อง!!!
“ไปดำน้ำกันเถอะ” ประโยคเริ่มต้นง่ายๆของการรวมตัวกลุ่มของพวกเรา หลังจากหาวันว่างกันมาอย่างเนิ่นนาน (เป็นปี)
จึงสรุปได้ว่ามันว่างไม่ตรงกันเลย !! ต่างคนต่างแยกย้ายไปเรียนแล้วกัน แล้วเราค่อยกลับมาพบกันหลังจากทุกคนบรรลุเส้นทาง
ยกสุราหนึ่งจอกเป็นเครื่องยืนยันร่วมสาบานก่อกำเนิดทีมดำน้ำเล็กๆขึ้น ต่างคนต่างแยกย้ายไปร่ำเรียนวิชาตามเส้นทางของตัวเอง
และนี่คือเส้นทางการเรียน Advance openwater (ขอย่อว่า AOW )ของสีฟ้า บนเรือ MV Scubnet
(ห้ามห่ามมม ห้ามห้ามห่ามมมมม : bgm กระบี่ไร้เทียมทาน)
โดยทั่วไปผู้คนจะนิยมเรียน OW และ AOW พร้อมกันในทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพราะสะดวกในการลางานรวดเดียวยาวๆไปเลยมากกว่า แต่เนื่องจากพวกเราต้องขายวิญญาณให้กับการโค้ดดิ้งทำให้ไม่มีเวลาว่างยาวขนาดนั้น
พอจบโปรเจคนึงเห็นเวลาว่างอยู่ช่วงนึงสั้นๆ ผมจึงรีบทำการยกหูหา instructor เพื่อทำ AOW ทันที
ผลที่ได้คือการชักชวนไปเรียน AOW บนเรือ liveabord ชื่อว่า MV Scubanet แล้วมันคืออะไรกันว้ะ!!!
ไม่รอช้าที่ปรึกษาส่วนตัวของคนกว่าค่อนโลกได้ถูกเรียกมาสอบถามทันที “Google” หลังจากค้นหาข้อมูลประมาณหนึ่งแล้ว ก็เริ่มเดินทางกันได้เลย
ขอข้ามช่วงการเดินทางทั้งหมดไป (หลับยาว) และบู้ม เราก็มาอยู่บนเรือ Scubanet แล้ววว
บนเรือก็จะมีสามชั้น
ชั้นบนสุดเป็นดาดฟ้าไว้นอนอาบแดด เบิร์นปอด(สูบบุหรี่) แอบคุยโทรศัพท์กับแฟน หรือ ถ่ายรูป
ชั้นสองก็จะเป็นส่วนกินข้าว นั่งชิว สังสรรค์หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการดำน้ำ
ชั้นล่างสุด ก็จะเป็นแพลตฟอร์มไว้โดดลงน้ำ ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องนอน
หลังจากเรือออก ทุกคนเก็บของเรียบร้อยแล้วมานั่งรวมกันตรงส่วนกินข้าว ก็ได้ทำการแนะนำตัวกันเรียบร้อย
เท่านี้เราก็ไม่ตัวคนเดียวบนเรืออีกต่อไป รู้จักกันหมดแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อรอ เช็คไดฟ์กันในวันรุ่งขึ้น
Dive 1 เกาะง่ามใหญ่
ด้วยความโชคดีที่บุญนำหนุนส่งมาแต่กาลก่อน น้ำใสอุ่นเอื่อยๆ ช่วยวอร์มอัพตอนเช้าอย่างชิวๆ
แวะทำสกิลซักเล็กน้อย
ก่อนจะเริ่มดำเล่นชิวๆ แต่ที่ไหนได้ลงไปสักพักก็เจอ Thermocline กระแสน้ำเย็นวูบเสียวมาถึงท้องน้อย พร้อมความขุ่นคลั่ก
แต่ไม้ได้แอ้มหรอก ฝึกจากพัทยามาเยอะเว้ยยย ขุ่นแค่นี้ไม่หลงจาก dive lead แน่นอน
ดำชิวๆเพลินๆ ผ่านไป40กว่านาทีก็ขึ้นสู้ผิวน้ำ ขึ้นมาเจอของว่าง!!! อีกหนึ่งความสบายปนความทุกข์ของการอยู่บน liveaboard คือ
คุณจะมีของกินหลังจบทุก Dive แถมยังอร่อยจนสวาปามเข้าไปอย่างมากมายอีกต่างหาก!!!
Dive 2 เรือหลวงปราบ
Wreck dive คราวนี้เราโดดลงน้ำมาชิวๆที่เรือหลวงปราบ ลึกสุดอยู่ที่ราวๆ 24 เมตร เรายังคงเจอน้ำใสมาก
จนสามารถมองเห็นเรือปราบได้ทั้งลำเช่นเดิม
แลนด์มาร์คเรือปราบ ต้องมาถ่ายกับปืน
เพื่อนรักหอยเม่น ผู้ทดสอบ buoyancy
หลังจากดำวนรอบเรือปราบราวๆ 35 นาทีเราก็กลับขึ้นมาบนเรือ เพื่อเจอกับ
อาหารเที่ยงงงงงง
หลังจากเราอิ่มอร่อยกับมือเที่ยงเรียบร้อย พักน้ำ พักพุง พักผ่อน เป็นที่เรียบร้อย เราก็พร้อมจะโดดลงน้ำแล้ว อ้อออ อีกหนึ่งความสะดวกสบายของ liveaboard คือ ตอนคนเรือจะมีพี่คนเรือโดดลงมาช่วยเราถอดิน แถมด้วย เราไม่ต้องเปลี่ยนแทงค์อากาศเอง ขึ้นมาปั๊ปถอดอุปกรณ์ เปิดแน่บขึ้นไปหาของกินได้เลย อะไรมันจะสบายใจขนาดนั้น
Dive 3 หินแพ
ไดฟ์นี้เราเสียเวลาและอากาศส่วนใหญ่ไปกับการทำ peak performnce buoyancy หลังจากแวะเล่นกับปลาวัวที่เข้ามาคลอเคลียตามฟินเราเล็กน้อยแล้วนั้น
ประจวบรวม 41 นาทีไวเหมือนโกหก เราก็กลับขึ้นมาบนเรือเพื่อหาของกินอีกตามเคย
จริงๆคืนนี้เรามี night dive ด้วย แต่ว่ามีฝนตกลงมาเล็กน้อยถึงปานกลาง ลมเย็นๆพัดเอื่อย คลอด้วยเสียงกีต้าร์เบาๆ เพราะงั้นจะลงไปในน้ำทำไมหล่ะครับ อบอุ่นร่างกายกันซะเลยดีกว่า
และนี่ก็เป็นประสบการณ์แรกของนักดำน้ำหน้าใหม่อย่างผมในการ
“Skip dive”
วันสอง
ตื่นมาด้วยเสียงกริ่งปลุกขึ้นมาบรีฟก่อนลงได์แรก ผนวกกับเครื่องดื่มเบาบางที่ดื่มไปเมื่อคืน แดดเช้านี้ช่างแสบตาเสียจริงๆ
แต่ก็ไม่รอช้าครับ คว้าขนมปังเข้าปากเสริมพลังรอลงไดฟ์แรกกันเลย
Dive 4 หินใบ
ไดฟ์นี้เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่แนะนำให้นักดำน้ำท่านอื่นทำตามนะครับ ควรพักผ่อนให้เพียงพอและดื่มแต่พอดี เวลาแฮงค์แล้วลงมาในน้ำนั้นปวดหัวไม่เบาเลยทีเดียว แต่ว่าสังขารแค่นี้หยุดเราไม่ได้หรอก โดดตู้มลงมาที่ไดฟ์ไซต์นี้ เราก็ได้ประสบพบเจอฝูงปลามากมาย ว่ายวนไปมาอยู่ไกลๆ
จากนั้นทางด้านน้ำลึกก็มีฝูงบาราคุดา พี่น้องปากยื่น ว่ายผ่านไปจำนวนมาก น่ากลัวไม่หยอก
ว่ายผ่านกระแสน้ำเย็นวูบหนึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลงไป เราก็ไปเจอฝรั่งมุง!! หลังจากลอยตัวรอจนฝรั่งมุงกันเสร็จแล้วก็ถึงได้เห็นว่ามันคือ มอเรย์ ขนาดประมานต้นขาของชายหนุ่มเลยทีเดียว อ้าปากงับๆ โชว์ฟันขาวๆ วูบวาป 45 นาที
ผ่านไป อากาศเหลือ 50 ก็ทำเซฟตี้สตอปขึ้นเรือไปหาอะไรกินกันดีกว่า
Dive 5 หินใบ
หลังจากโหวตกันบนเรือแล้ว พวกเราก็ตัดสินใจโดดลงซ้ำกันที่เดิม คราวนี้อาการปวดหัวได้ผ่อนคลายลงไปจนเกือบหมดแล้ว ก็ทำให้เราเห็นโลกอันสวยงามนี้ชัดเจนมากขึ้น
นูดี้ก้มาโผล่มาให้เรายลโฉมกันซักที หลังจากตามหามันไม่เป็นอยู่นาน
ระหว่างที่เรามุงถ่ายนูดี้อยู่หันหลังมาก็เจอพี่ใหญ่นอนรอลงหม้อ เอ้ยย นอนจ้องเราอยู่นิ่งๆ
แวะชมนูดี้อีกซักตัว
โชว์สเตปกันไป 47 นาที อากาศแตะถึง 50 ก็ส่งสัญญาณขอขึ้นด้านบนกันตามระเบียบ
DIve 6 กงทรายแดง
ไดฟ์นี้เป็นไดฟ์ที่เจอกระแสพอสมควร ทำให้เราไม่ต้องตีฟินมากลอยชิวๆไปเรื่อย
เจอแก๊งนี้ไปไม่ขอสู้
ลอยผ่านฝูงนี้เกือบเก็บภาพไม่ทัน
เห็นหอยเม่นไม่ได้ เพื่อนรักทั้งนั้น
ด้วยความที่เจอน้ำแรงๆเข้าทำให้ไม่ได้รูปอะไรมาเท่าไรซะนี่
ขึ้นไปโซ้ยมื้อเย็น จะบอกว่ามื้อนี้พ่อครัวทำกับข้าวได้ถึงเครื่องมาก แสบท้องแสบไส้กันไปทีเดียว
Dive 7 อ่าวลึก 31
หลังจากตะวันลับขอบฟ้าแล้ว เพื่อให้ครบโปรแกรม พวกเราก็เลยโดด night dive กันซักหน่อยก่อนที่จะขึ้นไปอบอุ่นร่างกายกันด้านบน
ฮึบ เจอตัวไรแอบอย่เนี่ย
เจอตัวนี้แอบอยู่อีกตัว
แล้วก็เหลือบไปเห็นลูกมะพร้าวเดินได้อยู่ลิบๆ เลยว่ายเข้าไปดู ที่ไหนได้กลายเป็นเจ้าตัวนี้
ว่ายวนไปสักพักเนื่องจาน้ำค่อนข้างเย็น ทนความหนาวไม่ไหว พวกเราเลยตัดสินใจขึ้นมาจิบเครื่องดื่มสร้างความอบอุ่นซะดีกว่า
วันสาม
Dive 8 กงทรายแดง 57
ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส จับใจความเค้าคุยกันได้ว่าเราจะกลับไปซ้ำที่กงทรายแดงซักหน่อย
ความสดใสยามเช้าทำให้เราเจอเข้ากับเจ้า xeno crab มองเห็นเค้ากันมั้ย?
ผ่านไปอีกนิดก็ยังคงมีตัวแอบอยูาเหมือนกัน
พบนูดี้เข้าอีกแล้ว!!
หลังจากนั้น กล้องก็แบตหมดลง….. เมื่อคืนลืมชาร์ต!!!
เราแวะไปดำ 2 ไดฟ์สุดท้ายที่ กองหินชุมพร หวังว่าจะเจอพี่จุด แต่พวกเราก็ต้องผิดหวังกลับกทม.
ไม่เป็นไรคราวหน้ามาใหม่!! เราต้องได้พบกันสักครั้งแหละหน่า
สำหรับพาทนี้ก็ยังไม่ค่อยจะมีรูปน่าสนใจอีกเช่นเคย พวกเราชาวสมาคมจะฝึกฝีมือเพื่อจะหารูปสวยๆมาลงให้ได้สักวันหนึ่ง ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามความไร้สาระของกระผมมาจนถึงจุดนี้
พบกันใหม่ใน part หน้า กระผม สีฟ้า จาก สมาคมนักดำน้ำผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ขอลาไปก่อน
หากท่านใดสนใจจะเริ่มออกผจญภัยในโลกใต้น้ำกับผู้เริ่มต้นอย่างพวกเรา ติดต่อได้นะครับ ~
สวัสดีครับ ~