- บทโทรทัศน์ นักแสดง โปรดักชั่น-

     บทโทรทัศน์  เป็นสิ่งแรกที่เราต้องขอชื่นชม ว่าเขียนบทออกมาได้เฉียบ ทันสมัย และไม่เวิ่นเว้อ
ให้ความสำคัญในทุกๆตัวละคร โดยแต่ละตัวละครล้วนมีเหตุมีผลในการกระทำ ทำให้นึกถึงชีวิตความเป็นอยู่ปัจจุบันที่มันมีอยู่จริงๆ
ในสังคมไทย และสอดแทรกข้อคิดคติสอนใจในหลายๆ อย่างอีกด้วย

ดร.นครินทร์ :  เป็นตัวละครที่ฉีกกฏของ พระเอกไทย ฉลาด อบอุ่น มีความคิดวิเคราะห์ และตัดสินใจด้วยตัวเอง
                       ซึ่งต่างจาก พระเอกในยุคเก่าๆ ที่งี่เง่า หลงเชื่ออะไรง่ายๆ ดูแล้วขัดใจ พาลปิดทีวีนอน 555+
                       นิว ถ่ายทอด ตัวละคร นครินทร์ ออกมาดี ทั้งสายตา ท่าทาง ชวนหลง อยากมีผู้ชายแบบนีไกล้ตัวบ้าง
                  
พาไล           :  เด็กกำพร้า ที่ชีวิตหักเหเข้าสู่ด้านมืดตั้งแต่วัยรุ่น แต่ก้อกลับมาได้เพราะความมานะพยายาม อยากพิสูจน์ตัวเอง
                      ไม่ค่อยได้ดูละครแซมมี่เล่นนะ แต่เรื่องนี้ต้องขอชมว่า นางถ่ายทอดออกมาได้ดี จนทำให้เชื่อว่านางเป็นพาไลจริงๆ
                      เป็นนักแสดงที่มีฝีมืออีกคนนึงของช่อง 7 ถ้ามีโอกาส คงดูละครที่แซมมี่เล่นอีกแน่นอน

ดร.ปิ่นปัก       :  มีพร้อมทุกอย่าง ชีวิตคู่เป็นจุดกำเนิดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รถเมลล์เป็นนักแสดงที่เล่น
                     ได้หลากหลายบทบาท และทำออกมาได้ดีเยี่ยม ทำให้คนดูอินไปกับตัวละครนั้นได้
                      ต้องบอกว่าบทละครเรื่องนี้ส่งให้รถเมล์เจิดจริงๆ  แต่ตินิดนึงพอเข้าซีนดราม่า เสียงนางจะแหบไปหน่อย

เพรียว             :  ซื่อ แสนดี รักปิ่นปักมานานมากก แบงค์เป็นนักแสดง ที่ควรผลักดัน ให้เป็นพระเอกนำเดี่ยวได้แล้วนะ
                       เพราะมีออร่า และฝีมือการแสดงไม่ธรรมดา จับลงเล่นละครบทส่งๆ สักเรื่อง ปังแน่นอน
ศก                 :  เป็นอีกตัวละครที่เลวววววมากก มีความเห็นแก่ตัวในตัวเองสูงสุด และ แมทธิวถ่ายทอดออกมาได้แบบน่าหมั่นใส้
                       จนถึงเกลียดไปเลย แมทธิวนี่เหมาะกับบทแบบนี้จริงๆ 555+


- ฝน ที่ทะเยอทะยาน อยากมีอยากได้จนต้องสูญเสียลูกตัวเอง  
- มิ้น เป็นเพื่อนที่ดีจนหลายๆคนอยากให้มีเพื่อนดีดีแบบนี้บ้างในชีวิตจริง ก็เล่นดีทุกคน
- คุณยอด คุณโปรย สองสามีภรรยาที่รักลูก จนลืมมองเห็นความสุขที่ลูกต้องการอยากจะมีในชีวิตจริงๆ
- บัวทอง หลานคุณเชื่อม ที่คอยอิจฉาริษยา พาไล ตลอดเวลา  
- คุณขจี คุณเศียร ที่เอาแต่ตัวเอง รักหน้าตาในสังคม ไม่สนใจความรุ้สึกคนอื่น
- และนักแสดงท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ (เพราะนึกไม่ออก 55+)

ตัวละครทุกตัว  พิสูจน์ให้เห็นเราว่า มันมีอยู่จริงในสังคม  มีทั้งดี และไม่ดี
บวกกับนักแสดงถ่ายทอดออกมาดี มันเลยทำให้ดูเรียล สมจริง และจับต้องได้


เราชอบ ซีนที่พาไล เตือนสติปิ่นปัก ซีนนี้มาก (ก๊อปมาจากเว็บไทยรัฐ)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันนี้ พาไลมาเยี่ยมปิ่นปักที่ห้องคอนโดพร้อมดอกไม้สีขาวที่เธอชอบ ปิ่นปักถามว่าเธอเข้ามาได้ยังไง

“ฉันขออนุญาตคุณรินทร์เข้ามาดูแลคุณค่ะ ดอกไม้นี่มิ้มฝากมาเยี่ยมคุณ” ปิ่นปักมองดอกไม้อย่างสะเทือนใจ “คุณไม่ต้องเป็นห่วงมิ้มหรือว่ารู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยนะคะ มิ้มหายดี เหลือแค่รอรักษาขาที่หักให้หายสนิทเท่านั้นเอง และมิ้นก็ไม่โกรธคุณเลยด้วย”

ปิ่นปักโล่งใจแต่เก็บอาการ เมื่อพาไลยกขนมคุกกี้มายื่นให้บอกว่าคุณแม่ตนทำมาฝาก ปิ่นปักพูดอย่างเย็นชาว่าวางไว้ตรงนั้นและเธอกลับไปได้แล้วตนอยากอยู่คนเดียว แต่พอพาไลติงว่าเธอผอมมาก ก็ถูกตวาด “ฉันบอกว่าฉันอยากอยู่คนเดียว”แล้วปัดจานคุกกี้ในมือพาไลจานตกแตก ทั้งสองต่างมองหน้ากันแล้วปิ่นปักก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง

พาไลไม่โกรธ เดินตามไปโพล่งขึ้นว่า

“ไม่มีคนชนะที่ไหนเขาจะทำตัวอ่อนแอแบบคุณ ถ้าคุณอยากเอาชนะคุณศก อยากได้ลูกกลับคืนมา คุณต้องลุกขึ้นมาสู้ไม่ใช่ทำตัวเป็นคนไร้วิญญาณประชดชีวิตไปวันๆแบบนี้”

“เธอไม่ได้เป็นฉัน เธอไม่รู้หรอกว่าฉันรู้สึกยังไง”

“ก็แค่ชีวิตคู่พัง พ่อแม่ไม่ชื่นชมเหมือนเดิม แม่แฟนใหม่ดูถูก ถูกกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อย ลูกถูกแย่งไป จะบอกให้นะคะว่าปัญหาแค่นี้กระจอกมาก”

ปิ่นปักหันตบพาไลจนหน้าหัน แต่พาไลก็ยังหันกลับมาพูดต่ออย่างไม่สะทกสะท้านว่า

“ส่วนฉัน...ถูกพ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่เกิด ทำตัวเป็นเด็กใจแตกตั้งแต่อายุสิบห้า เรียนหนังสือไม่จบ แท้งลูกเพราะถูกพ่อเด็กผลักตกบันได เพราะมันไม่อยากรับผิดชอบฉันกับลูก จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก็ถูกกลั่นแกล้งต่างๆนานา ถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นผู้หญิงขายตัว ไม่มีค่า ไม่ คู่ควรจะรักกับผู้ชายที่ฉันรักหมดหัวใจ คุณคิดว่า สิ่งที่ฉันกับคุณเจอ ใครหนักหนาสาหัสกว่ากัน อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณเจอมันหนักหนาที่สุด มีคนที่เขาทุกข์กว่าคุณเยอะค่ะ”

ปิ่นปักร้องไห้บอกว่าตนไม่เข้าใจ ตนทำอะไรผิด ชีวิตถึงต้องเป็นแบบนี้ พาไลน้ำเสียงอ่อนลงอย่างปลอบโยนว่า

“ความผิดของคุณ มีนิดเดียวเองค่ะ คือคุณไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด แต่คุณไปโทษคนอื่น คุณโทษพ่อแม่ที่เลี้ยงคุณมาดีเกินไป คุณถึงไม่รู้จักอะไรเลย คุณโทษคุณศกว่าทำให้ชีวิตคู่ของคุณพัง คุณโทษคุณเพรียวว่าอ่อนแอไม่กล้าห้ามแม่เขาที่ต่อว่าคุณ คุณโทษโชคชะตาที่ทำร้ายคุณมากเกินไป”

ปิ่นปักยิ่งฟังก็ยิ่งร้องไห้กับความจริงที่พาไลพูด

“คุณต้องกลับมามองย้อนดูตัวเองบ้าง ว่าคุณทำอะไรผิดพลาด แล้วให้อภัยตัวเองเสีย ไม่อย่างนั้นคุณจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้”

ปิ่นปักมองพาไลนิ่ง นึกถึงที่ตัวเองเคยพูดดูถูกพาไลและพาไลเตือนว่า...

“ฉันกำลังเตือนสติคุณอย่าประมาทคิดว่าตัวเองอยู่เหนือทุกอย่าง เพราะถ้าวันหนึ่งคุณพลาดพลั้งตกลงมา คุณจะได้ไม่โดนคนอื่นเหยียบซ้ำเหมือนฉันตอนนี้”

“ถ้าฉันพลาด ฉันก็ไม่มีวันตกลงมาต่ำเท่าที่เธออยู่ตอนนี้หรอกพาไล”

“งั้นคอยดูต่อไปแล้วกัน ว่าชีวิตใครจะอยู่ต่ำอยู่สูงกว่ากัน!”

คิดถึงการตอบโต้ท้าทายกันวันนั้นแล้ว วันนี้ ปิ่นปักมองพาไลอย่างชื่นชม ยอมรับว่า

“ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ว่าเธออยู่สูงกว่าฉัน ชีวิตเธอดีกว่าฉัน พาไล”

“ไม่มีชีวิตใครดีกว่าใครหรอกค่ะ มีแต่ใครจะแก้ปัญหาที่ผ่านเข้ามาได้ดีกว่ากัน เริ่มต้นชีวิตใหม่นะคะคุณปิ่นปัก”

น้ำเสียงและคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจของพาไล ทำให้ปิ่นปักร้องไห้ พยักหน้ารับ พาไลเข้าไปกอดเธอไว้อย่างให้กำลังใจ ปิ่นปักกอดตอบด้วยความซาบซึ้งใจ



โปรดักชั่น : เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่โปรดักชั่นดี ฉาก แสง สี และซาวประกอบ มันไหลลื่น
ส่งเสริมนักแสดงและตัวบทละคร และเป็นส่วนเติมเต็มจินตนาการของคนดูให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น  
เหมือนเคยอ่านผ่านๆ เป็นค่ายของคุณเติ้ล ตะวัน ที่ทำละครหลังข่าวเรื่องแรกด้วย  น่ากลัวนะ ถ้าทำออกมาได้ดีขนาดนี้
ค่ายเก่าๆ คงหนาวแน่


โดยรวมแล้ว ละครเรื่องนี้มันสมบูรณ์ และลงตัว แม้นักแสดงไม่ได้ดึงดูดอะไร แต่สามารถเอาคนดูอยู่ได้
สนุก อิน และลุ้นไปกับตัวละคร  เรายกให้ "บทละคร" เป็นตัวชูโรง และนักแสดงทุกคนส่งเสริมสร้างอารมณ์ให้ละครมีมิติ
มีสีสัน พร้อมทั้งโปรดักชั่นที่คอยเกื้อหนุน ผสมกันแล้ว อิ่ม แบบไม่ต้องเพิ่มเติมอะไร คือดีอ่ะะะะะะ

อยากให้ "เลื่อมสลับลาย" เป็นแบบอย่างในการพัฒนา ละครครของช่อง 7 ในเรื่องต่อๆไป
++บทส่ง โปรดักชั่นดี นักแสดงเล่นถึง แค่นี้ก้อคุ้มกับเวลา 2 ช.ม.ที่เสียไปแล้วค่ะ++

ปล. ไม่เคยคิดว่า นิว-แซมมี่ จะเคมีกันขนาดนี้  เข้าฉากทีไรเจอสายตาวิ้งๆ ของนิว มองแซมมี่แล้ว ฟินนนนนน ทุกที น่ารักดี




^{**ขอบคุณเจ้าของภาพ}