สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
สินค้า 300 บาท ค่าส่ง 300 บาท ถ้ามองอย่างนี้ ค่าส่งแพงมาก จะต่อรองราคาค่าส่ง ก็ต้องมีปริมาณไปต่อรองกับบริษัทรับส่ง
แต่ถ้า สินค้า 450 บาท ค่าส่ง 150 บาท รับมา 600 เท่ากัน แต่ลูกค้ามองว่าค่าส่งถูก โจทย์ จะเปลี่ยนจากการที่เราจะส่งยังไงให้ราคาถูก ไปอยู่ที่จะขายยังไงให้ได้แพง ถ้าสินค้าคุณ ยังเหมือน ๆ กันกับคนอื่น ไม่มีทางขายได้แพง กำไร จะเกิดจากการที่คุณต้นทุนถูกกว่าคนอื่น
ขายสินค้า 500 บาท ค่าส่ง 100 บาท - เสื้อขายแพงกว่านี้ ยังมีขายกันได้ ก็ต้องไปลองดู ว่าเขาทำกันยังไง
ขายสินค้า 600 บาท ส่งฟรี - ถ้าลูกค้า มองว่า เงิน 600 บาท ($19.95 แถมลดได้อีก 10%) ผมว่า เสื้อราคานี้ ที่โน่นก็มีขายนะ แต่ถ้าตอบได้ว่าทำไมเขาถึงจะซื้อจากเรา
แต่ถ้า สินค้า 450 บาท ค่าส่ง 150 บาท รับมา 600 เท่ากัน แต่ลูกค้ามองว่าค่าส่งถูก โจทย์ จะเปลี่ยนจากการที่เราจะส่งยังไงให้ราคาถูก ไปอยู่ที่จะขายยังไงให้ได้แพง ถ้าสินค้าคุณ ยังเหมือน ๆ กันกับคนอื่น ไม่มีทางขายได้แพง กำไร จะเกิดจากการที่คุณต้นทุนถูกกว่าคนอื่น
ขายสินค้า 500 บาท ค่าส่ง 100 บาท - เสื้อขายแพงกว่านี้ ยังมีขายกันได้ ก็ต้องไปลองดู ว่าเขาทำกันยังไง
ขายสินค้า 600 บาท ส่งฟรี - ถ้าลูกค้า มองว่า เงิน 600 บาท ($19.95 แถมลดได้อีก 10%) ผมว่า เสื้อราคานี้ ที่โน่นก็มีขายนะ แต่ถ้าตอบได้ว่าทำไมเขาถึงจะซื้อจากเรา
ความคิดเห็นที่ 10
ขอเข้ามาแชร์นะค่ะ ในฐานะผู้ที่เคยซื้อสินค้าในเวปต่างประเทศนะค่ะ คือส่วนใหญ่เค้าจะแจ้งราคาเป็นราคาสินค้า
บวกค่าขนส่งมาเลยแบบนี้อ่ะค่ะ และทำเป็น step มาว่าถ้าซื้อ 1-5 ชิ้น ราคารวมส่งเท่านี้ ถ้า 6-10 ชิ้น ราคาเท่านี้ ประมาณนี้อ่ะค่ะ
โดยราคารวมส่งนี้ เค้าจะบอกกำหนดเวลามาด้วยว่ากี่วัน เช่น 15 วัน หรืออยากได้เร็วกว่านี้ ก็แพงขึ้นค่ะ
เช่น สินค้าที่เราเคยซื้อ ก็ Himalayan form แบบหลอดๆ ราคาเบื้องต้นเรารู้อยู่แล้วว่าหลอดละไม่ถึงร้อยบาทไทย
แต่ก็ซื้อยกโหลมา รวมส่งก็ตกหลอดละสองร้อยต้นๆอ่ะค่ะ
ถ้าเป็นฐานะผู้ขาย อันนี้ก็เคยขายค่ะ แต่ขายรูปบริษัทนะค่ะ ส่วนใหญ่สินค้าที่เราขาย ราคาก็จะระบุเป็นราคาสินค้าอย่างเดียว
จะซื้อกี่ชิ้นก็ได้ไม่มีขั้นต่ำ แต่ค่าส่งลูกค้ารับผิดชอบเอง โดยเราจะบอกลูกค้าว่า สินค้า packing มีขนาดไซด์และน้ำหนักเท่าไร
เพื่อให้ลูกค้าเช็คราคาค่าขนส่งก่อน หรือถ้าจะให้เราเช็คให้ก็ได้ และส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะใช้ forwarder เราค่ะ เพราะราคาถูกกว่ามาก
ประมาณนี้ค่ะ
ส่วนใหญ่ลูกค้าเค้าจะไม่ค่อยได้มาคิดว่า สินค้าต่อชิ้นราคาเท่าไร และค่าขนส่งเท่าไร แต่เค้าจะคิดจากทั้งหมดที่ต้องจ่าย
ต่อการสั่งซื้อ 1 ครั้ง และหารจำนวนชิ้น ออกมาเป็นราคาต่อชิ้น ถ้าเค้ารับได้เค้าก็ซื้อค่ะ ลองดูค่ะ
บวกค่าขนส่งมาเลยแบบนี้อ่ะค่ะ และทำเป็น step มาว่าถ้าซื้อ 1-5 ชิ้น ราคารวมส่งเท่านี้ ถ้า 6-10 ชิ้น ราคาเท่านี้ ประมาณนี้อ่ะค่ะ
โดยราคารวมส่งนี้ เค้าจะบอกกำหนดเวลามาด้วยว่ากี่วัน เช่น 15 วัน หรืออยากได้เร็วกว่านี้ ก็แพงขึ้นค่ะ
เช่น สินค้าที่เราเคยซื้อ ก็ Himalayan form แบบหลอดๆ ราคาเบื้องต้นเรารู้อยู่แล้วว่าหลอดละไม่ถึงร้อยบาทไทย
แต่ก็ซื้อยกโหลมา รวมส่งก็ตกหลอดละสองร้อยต้นๆอ่ะค่ะ
ถ้าเป็นฐานะผู้ขาย อันนี้ก็เคยขายค่ะ แต่ขายรูปบริษัทนะค่ะ ส่วนใหญ่สินค้าที่เราขาย ราคาก็จะระบุเป็นราคาสินค้าอย่างเดียว
จะซื้อกี่ชิ้นก็ได้ไม่มีขั้นต่ำ แต่ค่าส่งลูกค้ารับผิดชอบเอง โดยเราจะบอกลูกค้าว่า สินค้า packing มีขนาดไซด์และน้ำหนักเท่าไร
เพื่อให้ลูกค้าเช็คราคาค่าขนส่งก่อน หรือถ้าจะให้เราเช็คให้ก็ได้ และส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะใช้ forwarder เราค่ะ เพราะราคาถูกกว่ามาก
ประมาณนี้ค่ะ
ส่วนใหญ่ลูกค้าเค้าจะไม่ค่อยได้มาคิดว่า สินค้าต่อชิ้นราคาเท่าไร และค่าขนส่งเท่าไร แต่เค้าจะคิดจากทั้งหมดที่ต้องจ่าย
ต่อการสั่งซื้อ 1 ครั้ง และหารจำนวนชิ้น ออกมาเป็นราคาต่อชิ้น ถ้าเค้ารับได้เค้าก็ซื้อค่ะ ลองดูค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ขายของให้กับลูกค้าต่างประเทศยังไง ในเมื่อค่าส่งมันช่างแพนแสนแพง
แต่ผมก็เหนคนขายของในอีเบย์ กระจุกกระจิกก็มี เช่น ตุ๊กตาเปเปอร์มาเช่ หรือจะเป็นเสื้อผ้าราคาถูก เลยสงสัยมากๆ
รบกวนถามผู้รู้หน่อยนะครับ ว่าเค้าขายกันยังไงครับ ขอบคุณมากนะครับ