ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยค่ะว่า นี่คือกระทู้แรกของเรา และขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า
มาเริ่มกันเล้ยยย......

ทริปนี้วางแผนแบบกระทันหันมาก ๆ จึงเลือกจังหวัดกาญจน์ เพราะใกล้ และคิดว่าคงเหมาะกับหน้าฝนแบบนี้ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย
และแผนของเราก็เกิดขึ้นคือ วันเสาร์ที่ 22 - 24 สิงหา 58 (ทริปนี้เราไปกับแฟนสองคน เน้น Backpack)

เป้าหมายของเราคือที่นี่


เมื่อมาถึงวันเดินทาง
วันแรก : จุดขึ้นรถคือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เราใช้บริการรถตู้ชื่อ วินแฮปปี้ จะเป็นสัญลักษณ์หน้ายิ้มสีเหลือง ซึ่งจุดขึ้นรถอยู่ด้านหลังเซเว่นข้างห้าง Century




รอ รอ รอ เวลาขึ้นรถ และเวลาต่อมา

ได้ยินเสียง นายท่าตะโกน.... อ้าว รถตู้ไปกาญจน์รอบ 7 โมง 15 ขึ้นรถเลยค้าบบบ เรากะแฟนวิ่ง วิ่ง วิ่ง
เสมือนว่ารถจะหนี ป่าวเล้ย ในใจนี่ตื่นเต้นกับทริปว่าจะเจออะไรบ้างน้า...

และก็ใช้เวลา 2 ชม. ในการเดินทาง และก็ถึงจุดหมายโดยรถก็มาจอดที่ บขส. กาญจน์
หลังจากลงจากรถเราก็ไม่รอช้า รีบหาอาหารรองท้อง เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง (ข้ออ้าง ประเด็นคือ หิวมว้ากก)
เดิน เดิน เดิน..... เย้ย เจอแล้วร้านนี้แหละ ตัวเลือกเยอะดี ซึ่งไม่มีชื่อร้าน แต่ขายครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้าวหมูแดง หมูกรอบ ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยว มีครบ

เราก็ได้เมนูนี้มา ด้วยราคาจานละ 40 บาท

ร้านตั้งอยู่หน้าทางเข้า บขส. พอดี หาง่าย สบายกระเป๋า

อิ่มมมม แล้ววววววว ลุยยยยยยยยย!!!!
หลังจากสถานที่แรกเราก็เริ่มขึ้น เอ๊ะ!!! เดี๋ยวนะ เรากะแฟนหันหน้าหากัน เราจะไปไหนดี เอ้อ...เนอะ งั้นไปป่าช้าอังกฤษละกัน
อ้าวได้เป้าหมายแรกแล้ว ก็หารถสิ....
และเราก็เดินถาม ๆ คนมาเรื่อย ๆ ว่ารถสองแถวสายไหนไปป่าช้าอังกฤษบ้างคะ ได้คำตอบว่า สาย 2 เลยหนู และคำถามจากคนขับสองแถวก็ได้ปรากฎอย่างต่อเนื่องว่า
คนขับ : ไม่เหมาหรอหนู
เรา : เหมาเท่าไหร่คะ
คนขับ : 800 บาท ไปมั้ย
เรา : หันไปหาแฟน เอิ่มมม! จริงดิ ไม่ดีกว่ามั้ง ไปเรื่อย ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ รถสองแถวนี่แหละ เจอที่ไหนก็เที่ยวที่นั่น
คนขับ : สนมั้ย ไม่สนไม่เป็นไรนะ งั้นรอก่อน เดี๋ยวอีกแปปนึงออก
เรา : โอเคค่ะ

ต่อจากนั้นประมาณ 15 นาที สองแถวก็เดินทาง เราก็นึกดีใจ รอไม่นาน โอเคทนได้ ๆ และแล้วก็มาถึงป่าช้าอังกฤษ

สถานที่แรก : สุสานทหารพันธมิตร (ป่าช้าอังกฤษ) ฟรีค่าเข้า เพลิดเพลิน ถ่ายภาพกับธรรมชาติได้ตามสบายใจเล้ยยยย



บรรยากาศกำลังดี แดดร้อน แต่ลมแรงได้อยู่ค่าาาา


อากาศดี๊ ดี


นั่งพักกับแฟนที่มุมด้านหลัง ก็ชิลได้ไปอีกแบบค่ะ
เวลาต่อมา..... เราก็ได้เดินออกจากป่าช้าอังกฤษ

ออกมาเจอหน้าสุสานป้าขายขนมไข่หงษ์ ได้บทสนทนา...
เรา : ป้าคะ ที่เที่ยวแถวนี้มีที่ไหนอีกบ้างคะ ที่ใกล้
ป้า : หยิบแผนที่มาให้เราดู
เรา : อู้ว หูว แต่ละที่ห่างกันไกลจัง
ป้า : ใช่หนู ไม่มีรถส่วนตัวหรอ
เรา : ไม่มีค่ะ หนูอาศัยรถประจำทางเอา งั้นไม่เป็นไรค่ะป้า ง้นเอาไข่หงษ์ป้ามากินเล่นดีกว่า
งั่ม งั่ม งั่ม..... อาหย่อย
เดิน เดิน เดิน... ไปยืนรอรถสองแถวหน้าร้านชำ ข้าง ๆ ป่าช้าอังกฤษ
รอนานมากกกกก.... คิดในใจไปไหนดี
แฟน : ไปค่ายสุรสีห์มั้ย
เรา : อยู่ตรงไหนอ่ะ ไกลป่ะ
แฟน : ไม่รู้ว่าไกลมั้ย แต่เห็นป้ายด้านข้างรถสองแถว ตอนมาถึงบขส น่าจะไม่ไกลม้ง
เรา : งั้นก็รอสองแถวไปค่ายสุรสีห์ละกันเนอะ มันมีอะไรน่าสนป่ะ
แฟน : ก็มีตลาดน้ำ กับกองถ่ายหนังเรื่อง พระนเรศวร
เรา : Ok งั้นป่ะ

รอประมาณ ครึ่ง ชม. ได้ เริ่มกระหายน้ำ .....
เดินไปยังร้านชำ และถามลุงเจ้าของร้าน
เรา: มีรถไปค่ายสุรสีห์มั้ยคะ
ลุง: มี ๆ หนูรอก่อนนะ รถบัสที่เขียนว่าไปด่านช้าง
สักพัก รถมาพอดี
เอ๊า!!! รออะไรล่ะ วิ่ง วิ่ง วิ่ง ขึ้นรถกัน

บนรถบัส กาญจนบุรี - ด่านช้าง
เรา : ป้าคะไปกองถ่ายค่ายสุรสีห์ คนละเท่าไหร่คะ
ป้า  : คนละ 20 บาท แต่ไปไม่ถึงนะหนู ต้องไปหารถเข้าไปเอง
เรา : (นึกในใจ) เอาแล้วไงตู งานกล้าต้องมา

และนั่งรถประมาณ 45 นาที (รถหวานเย็นมากก ชิลสุด ๆ )
และเมื่อถึงหน้าทางเข้ากองถ่ายค่ายสุรสีห์
ลุงคนขับ : ถึงแล้วหนู รถอะไรผ่าน ก็ไปหาโบกรถเอาละกันเนอะ
เราสองคน : ค่ะ ขอบคุณมากนะคะลุง (หน้าเสีย)

เดิน เดิน เดิน ไปตรงทางโค้งเข้ากองถ่าย ระหว่างนั้น 5 นาทีผ่านไป
รถกระบะสีดำ ผ่านมา
เรา: น้าคะ แถวนี้มีรถสองแถวไปกองถ่ายมั้ยคะ (ทำหน้าเศร้า) แล้วเข้าไปลึกมั้ยคะ
น้าคนขับ : ไม่มีอ่ะครับ หนูจะไปหรอ ระยะทางประมาณ 2-3 กิโล
เรา : ใช่ค่ะ รอสองแถวนานมากเลย ไม่มาสักคัน T_T
น้าคนขับ : ป่ะ เดี๋ยวน้าขับเข้าไปส่ง ขึ้นหลังกระบะเลย
เรากะแฟน : (ในใจ) เย้ เย้ เย้ ไม่ต้องเดินแล้ววววว 2 กิโล รอ อะไรล่ะคะคุ๊ณณณณณณณณณณ กระโดดขึ้นหลังกระบะเล้ยยย


และแล้วความกล้าของเราก็พามาถึงที่นี่
ตลาดน้ำค่ายสุรสีห์






ย้อนยุค ให้อารมณ์แบบสบ๊าย สบาย โล่ง


ไหว้พระขอพรกันก่อนค้าาาา



หลังจากเดิน ๆ กิน ๆ เสร็จ ก็มาซื้อตั๋วเข้าชมกองถ่าย สนนราคาที่คนละ 50 บาท (จากปกติ 100 บาท)


และฝนก็ตกหนักมาก รอก่อนน้าาาา เดี๋ยวพาไปชมกองถ่าย......
และเมื่อฝนเริ่มซา เริ่มออกเดินทางกันเล้ยยย (โดยรถรางของกองถ่าย พร้อมไกด์)


จุดแรก:



และต่อด้วยจุดที่ 2


และต่อด้วยจุดที่ 3



ระหว่างทาง....

และก็มาถึงจุดสุดท้าย สวยสุด ๆ





และก็เสร็จสิ้นการเที่ยวชมกองถ่ายพร้อมมิตร(กองถ่ายสมเด็จพระนเรศวร)
เดิน เดิน เดิน... ข้ามสะพานมายังตลาดน้ำต่อ
เอ๊ะ!!! เสียงท้องร้อง
เรา: หาของกินกัน
แฟน: ป่ะ รองท้องก่อน เดี๋ยวต้องหารถออกไปหน้าปากทางอีก
เรา : ห๊าาาาาา ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเข้ามายังไง ผมนี่เพลียยยยย!!!
แฟน: โน้น ๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ น่ากิน
เรา : ไม่รีรอ เดินเข้าไป พี่คะเส้นเล็กต้มยำ ชามนึงค่ะ

สิ่งที่ได้ คือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ ร้านน้องเซน The Voice ชามละ 30 บาท


อิ่มแย้ววววววววว
แต่ แต่ แต่ เดี๋ยวนะ รถออกไปล่ะ
เรา: ป่ะ ๆ เราไปยืนรอใต้ต้นไม้ตรงโน้นกัน เผื่อขอใครติดรถออกไป เธอช่วยดูด้วยนะ ขอเป็นรถกระบะ
แฟน: เค ๆ โบกอีกสักรอบคงไม่เป็นไรเนอะ ตอนเข้ายังเข้ามาได้เลย
เราสองคน เดิน เดิน เดิน ไปยังใต้ต้นไม้

เวลาผ่านไปประมาณ ครึ่ง ชั่วโมง ไม่มีรถผ่านมาสักคัน เอาไงดี ๆ ๆ
เสียงตะโกน พร้อมโบกมือจากป้อมทหาร
ลุงทหาร: หนู ๆ สองคนน่ะ ยืนทำไรกัน ไม่มาหลบร้อนตรงนี้ก่อน เดี๋ยวก็เป็นลมหรอก
เราสองคน: อ่อค่ะ ๆ

ลุงทหาร: รอรถอะไรกันล่ะ
เรา: รอโบกรถออกไปปากทางอ่าค่ะ พอดีตอนมาก็โบกรถเข้ามา ไม่คิดว่าจะไม่มีรถ
ลุงทหาร: อ่อ ๆ เดี๋ยวลุงหาคนไปส่งให้นะ
เรา: (ในใจ) ทำไมลุงใจดีจังงงงงงง สวรรค์มาโปรด
สักพักลุงทหารก็ให้คุณลุงอีกคนออกมาส่งเราสองคนหน้าปากทาง ขอบคุณมาก ๆ นะคะ

โล่งไปอีก 1
แต่ ประเด็นคือ ยังค่ะ ยัง จุดหมายต่อไปคือ กลับไปยังสะพานข้ามแม่น้ำแคว เราต้องรอรถสายเดิมคือ กาญจนบุรี - ด่านช้าง
เพื่อไปยังสะพานข้ามแม่น้ำแคว

และ 1 ชั่วโมงผ่านไป ไม่มีวี่แววว่าจะมา เริ่มกังวลใจ เอาไงดี
และอีกสักพัก มีสองแถวคันหนึ่ง ประหนึ่งว่าไปไหนมาสักที่ขับผ่าน เราก็วิ่งไปโบกอย่างรวดเร็ว
เรา: ลุงคะ เข้าเมืองมั้ยคะ
ลุง: หนูจะไปไหนล่ะ เหมาลุงไปก็ได้
เรา: หนูจะไปสะพานข้ามแม่น้ำแควค่ะ เท่าไหร่คะ
ลุง: เหมาลุงไป 100 นึงละกันไปส่งถึงสะพานเลย
เราสองคน: โอเคค่า ไป ๆ (เท่าไหร่ก็ยอมแล้วตอนนั้น)


45 นาทีผ่านไป เลี้ยวเข้าสู่สะพานข้ามแม่น้ำแคว



เมื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำแควกันอย่างเต็มที่ เราก็เตรียมหารถเข้าที่พักกัน เพราะที่พักอยู่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำแควค่ะ
ที่พักชื่อ No.25 Hostel & Restaurant
และก็มาถึงที่พักโดยพี่วิน ราคา 30 บาท


จองไว้เป็นห้องเตียงคู่ ราคาคืนละ 500 บาท (พร้อมอาหารเช้า)
แต่มีเหตุบางอย่าง จึงได้ห้องแบบเตียงสองชั้น
เรากะแฟน: เอาไงดีๆๆ ไม่เป็นไรเนอะ นอนแปปเดียว คืนเราเน้นเที่ยว ไม่ต้องคิดไรมาก
โอเคค่ะพี่ ห้องนี้ก็ได้