สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
เกือบสิบปีก่อนผมมาสอบโรงเรียนนี้ตามเพื่อนๆที่แห่กันมา
จำได้ว่าไม่ได้มีความรู้สึกร่วมอะไรกับพวกมันที่ตั้งหน้าตั้งตาจะเข้าเรียนที่นี่ให้ได้
ไม่ได้รู้จักด้วยซ้ำว่าโรงเรียนนี้ดียังไง กระทั่งสงสัยยังขี้เกียจจะสงสัย ว่าทำไมถึงมีใครๆอยากเข้า
ชีวิตวัยรุ่นแบบเด็กๆตอนนั้นมันอิ่มตัว ติดเพื่อน ติดโรงเรียนเก่าไปแล้ว ไม่คิดว่าตัวเองต้องทะเยอทะยานอะไรอีก
แต่โชคช่วยหรือบุญเก่าก็ไม่รู้ได้ ที่ว่าไปสอบเล่นๆ เลือกสายไปมั่วๆด้วยซ้ำ กลับเป็นว่าสอบติดแผนกภาษา-เยอรมัน
เป็นคนเดียวหัวเดียวกระเทียมลีบด้วยในหมู่เพื่อนที่สอบติด
วันจะไปรายงานตัว (ก็คือวันถัดมาจากที่รู้ว่าสอบติดนั่นแหละ) ก็ลังเลอยู่นาน นอนไม่หลับตลอดคืน
ในใจประท้วงตลอด บอกตลอดว่าไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนที่เรียนเลย สอบติดได้อย่างไร หนังสือหนังหาก็ไม่ได้อ่าน
คิดไม่ตก ประวิงเวลาจนสาย ท้ายที่สุด ไม่รู้อะไรดลใจ ยอมเปลี่ยนชุดไปรายงานตัว กลายเป็นเด็กเตรียมฯไปต่อจากนั้น
ลำพังตัวเองไม่ใช่เด็กเรียนเลย ปกตินั่งหลังห้องด้วยซ้ำ พอแค่คิดว่าต้องไปอยู่ในสังคมเด็กเรียน สังคมเด็กโรงเรียนสห ก็แย่แล้ว
กลัวไปหมด กลัวปรับตัวไม่ได้ กลัวไม่ได้เจอะเจอเพื่อนอีก อาลัยอาวรณ์อยู่หลายอย่าง
แต่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในปีนั้นสร้างแต่ความประทับใจ และความทรงจำที่มีคุณค่าหลายอย่างให้แก่ผมมากๆจนถึงทุกวันนี้
ที่ว่ากลัวไปก่อน ที่เข้าไปก่อน เอาเป็นว่าผิดหมด
อคติเกี่ยวกับว่าเด็กเรียนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โรงเรียนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เป็นว่าผิดหมด
โรงเรียนเตรียมฯรวมเด็กเรียนเก่า เด็กฉลาด และผู้คนหลากหลายประเภทเข้ามาไว้ด้วยกัน
เอาตั้งแต่เด็กเก่งแบบขยัน เด็กฉลาดแบบเนิร์ด เด็กกระตือรือร้น เด็กกิจกรรม เด็กหัวไว เด็กซน เด็กดื้อ เด็กซื่อบื้อ
มีคนทุกฐานะตั้งแต่ลูกรัฐมนตรี นายพล จนกระทั่งลูกพ่อค้าแม่ขาย (อย่างผมเอง)
นิสัยก็หลากหลายคละเคล้า หาเด็กได้ทุกแบบ ทุกมุมเมืองทั่วประเทศ
เราอาจพบเจอเด็กที่ชอบหนีเรียน หน้าตาไม่น่าไว้วางใจ แต่สอบได้คะแนนติดอันดับต้นๆของห้องตลอดโดยไม่ต้องเรียนพิเศษได้ก็ที่นี่
เราอาจพบเด็กเรียนเก่งจากโรงเรียนอื่นที่มาเฟล มาผิดหวัง มาเละเทะก็หาได้จากที่นี่
เราอาจพบตัวเราหลงอยู่ในแสงสี หลงอยู่ในอิสรภาพที่โรงเรียนนี้มอบให้
หรืออาจค้นพบตัวเอง ค้นพบศักยภาพข้างในของเรา ที่ถูกหนุนส่งจากปัจจัยที่เอื้อหนุนทั้งหลายก็จากที่นี่
โรงเรียนเตรียมฯมีข้อดีที่สุดก็ตรงนี้ ตรงที่โรงเรียนนี้เปิดโอกาสกว้างขวางให้เราได้พบปะผู้คนทุกประเภท
เราสามารถสร้างสัมพันธ์ เติบโตร่วมไปกับคนเก่งๆแบบนี้ และมีอนาคตที่ดีงาม
เราสามารถใช้สังคมที่มีพลวัตสูงแบบนี้ ในการผลักดัน และกระตุ้นเตือนตัวเองให้สู้ ให้ประสบความสำเร็จต่อไป
การเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเตรียมฯ เป็นการเพิ่มต้นทุนทางสังคมที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม
เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่พาให้ผมเจอคนหลายแบบ เติบโตขึ้นไปเป็นคนที่สมบูรณ์มากขึ้น
ผมอาจไม่ได้เรียนเก่งขึ้น (คิดๆดูแล้วอาจเก่งน้อยลงด้วยซ้ำ) แต่ผมได้รับโอกาสจากสังคมมากขึ้น
โรงเรียนเตรียมฯก็เป็นเช่นจุฬาฯและมหาวิทยาลัยมีชื่อทั้งหลาย
เราสามารถสะสมต้นทุนทางสังคม ฉวยคว้าโอกาสดีๆหลายอย่าง ที่โรงเรียนอื่นๆอาจไม่ได้มอบให้
ความได้เปรียบแบบนี้ ฟังแล้วไม่เป็นยุติธรรมเท่าไรในสังคมภาพกว้าง
แต่มันก็เป็นรางวัลชนิดหนึ่งที่มอบให้แก่เด็กนักเรียนที่ตั้งใจเรียน พยายามต่อสู้เพื่อพัฒนาตนเองมาจนถึงจุดที่ประสบความสำเร็จนี้ได้
ถ้าหนูมีโอกาส และอยากลองดู โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาอาจเป็นโอกาสใหม่ๆในการพัฒนาชีวิตของเราได้
เราไม่ต้องเกิดมาร่ำรวยหรือมีอะไรมากในมือ ผมก็มือเปล่าเล่าเปลือยมาแต่ก่อน
แต่ความพยายาม และความสำเร็จจากโอกาสที่ผมได้รับจากโรงเรียนนี้ เป็นสิ่งมีค่าที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้
(ในด้านวิชาการนั้น ผมเห็นว่าจะเรียนที่ไหนอย่างไร ถ้าคิดตั้งใจแล้ว ก็เรียนสำเร็จได้ เรียนให้ฉลาดได้ ไม่ผิดกันมาก
เรื่องกวดวิชาก็เช่นกันครับ ตามแต่ความถนัด ความต้องการเลย เด็กเตรียมฯก็มีทุกแบบ ตั้งแต่เรียนมากจนเป็นบ้า กระทั่งไม่เรียนเลยก็มี)
ความสำเร็จเป็นรางวัลของคนที่พยายามอยู่แล้วครับ
โรงเรียนเตรียมฯเป็นเพียงถ้วยรางวัลถ้วยแรกๆที่มอบให้เรา เพื่อแผ้วถางทางไปสู่รางวัลที่ใหญ่กว่าสำหรับความพยายามของเราต่อไปครับ
ถ้าอยากลองฉวยคว้าดู ก็เอาครับ แต่ถ้าไม่อยากได้ ก็ไม่เป็นไรครับ บนโลกนี้ยังมีถ้วยรางวัลเหลืออีกมากให้เราพร้อมจะคว้ามาครับ
หวังว่าจะได้คำตอบบ้างครับจากประสบการณ์
ปล. นอกเหนือจากการเป็นนักเรียนเตรียมฯแล้ว
ชีวิตผกผันของผม ทำให้วันนี้ได้มาเป็นครูที่นี่ด้วย ก็เป็นรางวัลชีวิตที่ดียอดเยี่ยมอีกประการครับ
จำได้ว่าไม่ได้มีความรู้สึกร่วมอะไรกับพวกมันที่ตั้งหน้าตั้งตาจะเข้าเรียนที่นี่ให้ได้
ไม่ได้รู้จักด้วยซ้ำว่าโรงเรียนนี้ดียังไง กระทั่งสงสัยยังขี้เกียจจะสงสัย ว่าทำไมถึงมีใครๆอยากเข้า
ชีวิตวัยรุ่นแบบเด็กๆตอนนั้นมันอิ่มตัว ติดเพื่อน ติดโรงเรียนเก่าไปแล้ว ไม่คิดว่าตัวเองต้องทะเยอทะยานอะไรอีก
แต่โชคช่วยหรือบุญเก่าก็ไม่รู้ได้ ที่ว่าไปสอบเล่นๆ เลือกสายไปมั่วๆด้วยซ้ำ กลับเป็นว่าสอบติดแผนกภาษา-เยอรมัน
เป็นคนเดียวหัวเดียวกระเทียมลีบด้วยในหมู่เพื่อนที่สอบติด
วันจะไปรายงานตัว (ก็คือวันถัดมาจากที่รู้ว่าสอบติดนั่นแหละ) ก็ลังเลอยู่นาน นอนไม่หลับตลอดคืน
ในใจประท้วงตลอด บอกตลอดว่าไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนที่เรียนเลย สอบติดได้อย่างไร หนังสือหนังหาก็ไม่ได้อ่าน
คิดไม่ตก ประวิงเวลาจนสาย ท้ายที่สุด ไม่รู้อะไรดลใจ ยอมเปลี่ยนชุดไปรายงานตัว กลายเป็นเด็กเตรียมฯไปต่อจากนั้น
ลำพังตัวเองไม่ใช่เด็กเรียนเลย ปกตินั่งหลังห้องด้วยซ้ำ พอแค่คิดว่าต้องไปอยู่ในสังคมเด็กเรียน สังคมเด็กโรงเรียนสห ก็แย่แล้ว
กลัวไปหมด กลัวปรับตัวไม่ได้ กลัวไม่ได้เจอะเจอเพื่อนอีก อาลัยอาวรณ์อยู่หลายอย่าง
แต่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในปีนั้นสร้างแต่ความประทับใจ และความทรงจำที่มีคุณค่าหลายอย่างให้แก่ผมมากๆจนถึงทุกวันนี้
ที่ว่ากลัวไปก่อน ที่เข้าไปก่อน เอาเป็นว่าผิดหมด
อคติเกี่ยวกับว่าเด็กเรียนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โรงเรียนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เป็นว่าผิดหมด
โรงเรียนเตรียมฯรวมเด็กเรียนเก่า เด็กฉลาด และผู้คนหลากหลายประเภทเข้ามาไว้ด้วยกัน
เอาตั้งแต่เด็กเก่งแบบขยัน เด็กฉลาดแบบเนิร์ด เด็กกระตือรือร้น เด็กกิจกรรม เด็กหัวไว เด็กซน เด็กดื้อ เด็กซื่อบื้อ
มีคนทุกฐานะตั้งแต่ลูกรัฐมนตรี นายพล จนกระทั่งลูกพ่อค้าแม่ขาย (อย่างผมเอง)
นิสัยก็หลากหลายคละเคล้า หาเด็กได้ทุกแบบ ทุกมุมเมืองทั่วประเทศ
เราอาจพบเจอเด็กที่ชอบหนีเรียน หน้าตาไม่น่าไว้วางใจ แต่สอบได้คะแนนติดอันดับต้นๆของห้องตลอดโดยไม่ต้องเรียนพิเศษได้ก็ที่นี่
เราอาจพบเด็กเรียนเก่งจากโรงเรียนอื่นที่มาเฟล มาผิดหวัง มาเละเทะก็หาได้จากที่นี่
เราอาจพบตัวเราหลงอยู่ในแสงสี หลงอยู่ในอิสรภาพที่โรงเรียนนี้มอบให้
หรืออาจค้นพบตัวเอง ค้นพบศักยภาพข้างในของเรา ที่ถูกหนุนส่งจากปัจจัยที่เอื้อหนุนทั้งหลายก็จากที่นี่
โรงเรียนเตรียมฯมีข้อดีที่สุดก็ตรงนี้ ตรงที่โรงเรียนนี้เปิดโอกาสกว้างขวางให้เราได้พบปะผู้คนทุกประเภท
เราสามารถสร้างสัมพันธ์ เติบโตร่วมไปกับคนเก่งๆแบบนี้ และมีอนาคตที่ดีงาม
เราสามารถใช้สังคมที่มีพลวัตสูงแบบนี้ ในการผลักดัน และกระตุ้นเตือนตัวเองให้สู้ ให้ประสบความสำเร็จต่อไป
การเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเตรียมฯ เป็นการเพิ่มต้นทุนทางสังคมที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม
เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่พาให้ผมเจอคนหลายแบบ เติบโตขึ้นไปเป็นคนที่สมบูรณ์มากขึ้น
ผมอาจไม่ได้เรียนเก่งขึ้น (คิดๆดูแล้วอาจเก่งน้อยลงด้วยซ้ำ) แต่ผมได้รับโอกาสจากสังคมมากขึ้น
โรงเรียนเตรียมฯก็เป็นเช่นจุฬาฯและมหาวิทยาลัยมีชื่อทั้งหลาย
เราสามารถสะสมต้นทุนทางสังคม ฉวยคว้าโอกาสดีๆหลายอย่าง ที่โรงเรียนอื่นๆอาจไม่ได้มอบให้
ความได้เปรียบแบบนี้ ฟังแล้วไม่เป็นยุติธรรมเท่าไรในสังคมภาพกว้าง
แต่มันก็เป็นรางวัลชนิดหนึ่งที่มอบให้แก่เด็กนักเรียนที่ตั้งใจเรียน พยายามต่อสู้เพื่อพัฒนาตนเองมาจนถึงจุดที่ประสบความสำเร็จนี้ได้
ถ้าหนูมีโอกาส และอยากลองดู โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาอาจเป็นโอกาสใหม่ๆในการพัฒนาชีวิตของเราได้
เราไม่ต้องเกิดมาร่ำรวยหรือมีอะไรมากในมือ ผมก็มือเปล่าเล่าเปลือยมาแต่ก่อน
แต่ความพยายาม และความสำเร็จจากโอกาสที่ผมได้รับจากโรงเรียนนี้ เป็นสิ่งมีค่าที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้
(ในด้านวิชาการนั้น ผมเห็นว่าจะเรียนที่ไหนอย่างไร ถ้าคิดตั้งใจแล้ว ก็เรียนสำเร็จได้ เรียนให้ฉลาดได้ ไม่ผิดกันมาก
เรื่องกวดวิชาก็เช่นกันครับ ตามแต่ความถนัด ความต้องการเลย เด็กเตรียมฯก็มีทุกแบบ ตั้งแต่เรียนมากจนเป็นบ้า กระทั่งไม่เรียนเลยก็มี)
ความสำเร็จเป็นรางวัลของคนที่พยายามอยู่แล้วครับ
โรงเรียนเตรียมฯเป็นเพียงถ้วยรางวัลถ้วยแรกๆที่มอบให้เรา เพื่อแผ้วถางทางไปสู่รางวัลที่ใหญ่กว่าสำหรับความพยายามของเราต่อไปครับ
ถ้าอยากลองฉวยคว้าดู ก็เอาครับ แต่ถ้าไม่อยากได้ ก็ไม่เป็นไรครับ บนโลกนี้ยังมีถ้วยรางวัลเหลืออีกมากให้เราพร้อมจะคว้ามาครับ
หวังว่าจะได้คำตอบบ้างครับจากประสบการณ์
ปล. นอกเหนือจากการเป็นนักเรียนเตรียมฯแล้ว
ชีวิตผกผันของผม ทำให้วันนี้ได้มาเป็นครูที่นี่ด้วย ก็เป็นรางวัลชีวิตที่ดียอดเยี่ยมอีกประการครับ
ความคิดเห็นที่ 15
เตรียมเป็นโรงเรียนที่เด็กสนใจการเรียนแต่ไม่เนิร์ดค่ะ คนข้างนอกมักจะมองว่าเด็กเตรียมต้องเนิร์ด วันๆอ่านหนังสืออย่างเดียว
แต่จริงๆคือ มันเป็นสังคมแบบเพื่อนช่วยกันเรียนมากกว่า ตอนเข้ามหาลัยก็ติดไปด้วยกัน
ข้อสอบโรงเรียนจะยากมาก ยากกว่าข้อสอบเข้าอีก แต่มันเป็นการฝึกฝนให้เราชินกับความยาก จนรู้สึกว่าข้อสอบยากประมาณนั้นเป็นเรื่องปกติ
และเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำได้เยอะบ้างน้อยบ้าง คนที่เคยเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดก็สอบตกได้
คนที่เกรดไม่ดีก็ติดคณะดีๆ มหาลัยดีๆได้
กิจกรรมในโรงเรียนเยอะ รุ่นพี่รุ่นน้องสนิทกันมาก มีสายรหัสหลายสาย
สังเกตว่าเด็กเตรียมหลายคนเวลาเข้ามหาลัยไป จะเป็นนักกิจกรรม ทำงานคณะ งานมหาลัยเยอะมากๆ มันเหมือนเป็นนิสัยเด็กเตรียมอย่างนึง
ก็อย่างที่บอกแหละ สังคมเตรียมไม่ได้มีแต่เรียน
บอกได้เลยว่า สังคมเตรียมมันแตกต่างจากโรงเรียนม.ปลายอื่นมาก
เป็นบรรยากาศที่เรียนยากสอบยาก แต่ทุกคนผ่านมันไปด้วยกัน เพื่อนในห้องสนิทกัน
ช่วงสอบก็อ่านหนังสือ ช่วงไม่สอบก็เล่น เที่ยว ทำกิจกรรมเยอะแยะ เป็นสังคมที่ทุกคนจะเคารพความสามารถของเพื่อนจริงๆ
คุณจะมีเพื่อนเป็นนักเรียนม.ปลายที่สามารถจัดคอนเสิร์ตในโรงเรียนเองได้ พิมพ์นิตยสารถ่ายแบบได้ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ โต้วาทีเก่ง
รู้ข้อกฎหมายเยอะแยะมากมาย พูดภาษาอื่นได้ เข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ เป็นนักกีฬาทีมชาติ เป็นหลีด เป็นนักดนตรีนักร้อง
ที่สำคัญคนพวกนี้ไม่ได้แค่เก่งเรื่องกิจกรรม เรื่องเรียนก็เก่งด้วย
แต่จริงๆคือ มันเป็นสังคมแบบเพื่อนช่วยกันเรียนมากกว่า ตอนเข้ามหาลัยก็ติดไปด้วยกัน
ข้อสอบโรงเรียนจะยากมาก ยากกว่าข้อสอบเข้าอีก แต่มันเป็นการฝึกฝนให้เราชินกับความยาก จนรู้สึกว่าข้อสอบยากประมาณนั้นเป็นเรื่องปกติ
และเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำได้เยอะบ้างน้อยบ้าง คนที่เคยเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดก็สอบตกได้
คนที่เกรดไม่ดีก็ติดคณะดีๆ มหาลัยดีๆได้
กิจกรรมในโรงเรียนเยอะ รุ่นพี่รุ่นน้องสนิทกันมาก มีสายรหัสหลายสาย
สังเกตว่าเด็กเตรียมหลายคนเวลาเข้ามหาลัยไป จะเป็นนักกิจกรรม ทำงานคณะ งานมหาลัยเยอะมากๆ มันเหมือนเป็นนิสัยเด็กเตรียมอย่างนึง
ก็อย่างที่บอกแหละ สังคมเตรียมไม่ได้มีแต่เรียน
บอกได้เลยว่า สังคมเตรียมมันแตกต่างจากโรงเรียนม.ปลายอื่นมาก
เป็นบรรยากาศที่เรียนยากสอบยาก แต่ทุกคนผ่านมันไปด้วยกัน เพื่อนในห้องสนิทกัน
ช่วงสอบก็อ่านหนังสือ ช่วงไม่สอบก็เล่น เที่ยว ทำกิจกรรมเยอะแยะ เป็นสังคมที่ทุกคนจะเคารพความสามารถของเพื่อนจริงๆ
คุณจะมีเพื่อนเป็นนักเรียนม.ปลายที่สามารถจัดคอนเสิร์ตในโรงเรียนเองได้ พิมพ์นิตยสารถ่ายแบบได้ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ โต้วาทีเก่ง
รู้ข้อกฎหมายเยอะแยะมากมาย พูดภาษาอื่นได้ เข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ เป็นนักกีฬาทีมชาติ เป็นหลีด เป็นนักดนตรีนักร้อง
ที่สำคัญคนพวกนี้ไม่ได้แค่เก่งเรื่องกิจกรรม เรื่องเรียนก็เก่งด้วย
ความคิดเห็นที่ 3
จบเตรียมฯ นะ
มันไม่เหมือนโรงเรียนอื่นจริงๆ ไม่เหมือนเลย อธิบายไม่ถูก ไม่ใช่ว่าดีกว่าหรอกนะ แต่ไม่เหมือน แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเลย
ยกตัวอย่างที่เห็นชัดๆ นะ อย่างโรงเรียนรัฐทั่วไป เด็กสายศิลป์มักจะโดนดูถูกว่าเป็นพวกอ่อน ไม่มีปัญญาสอบเข้าสายวิทย์ แต่ที่เตรียมฯ นี่ไม่ใช่ เด็กทุกสายคือเด็กเก่งที่ถนัดไม่เหมือนกัน เป็นต้น (อันนี้พูดจริงๆ เลย อย่างรร.เก่าพี่ตอนม.ต้น เด็กศิลป์มีแต่พวกนักกีฬาที่เรียนไม่เก่ง กับพวกสก็อยอ่ะ ส่วนรร.น้องพี่นี่เด็กสายศิลป์คือพวกเข้าสายวิทย์ไม่ได้)
เรื่องเรียนพิเศษ แล้วแต่คน ส่วนตัวพี่ พี่ไม่เรียน ไม่ชอบ
ความต่างจากโรงเรียนอื่นที่ชัดมากคือตอนเลือกมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหนูจะมีแค่สองตัวเลือกหลักคือจุฬาฯ กับมธ. หรือ มหิดลสำหรับพวกอยากเป็นหมอ และทุนต่างๆ ถามว่าเรียนม.อื่นมีไหม ก็มี แต่สองม.+มหิดล+ทุนคือตัวเลือกหลัก หลุดจากนี้ไปหนูจะโดนมองแปลกๆ นิดนึง แต่ไม่มีใครดูถูกใครนะ มันแค่แปลกอะ
การเรียนการสอน ไม่เหมือนที่อื่นแน่ๆ ข้อสอบวิเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ อ.บางวิชากวนมาก ชอบออกปรนัยโจทย์แปลกๆ แต่ถ้าไม่ใช่ไฟนอล ส่วนใหญ่จะออกอัตนัย ชื่อเรียกข้อสอบก็ไม่เหมือนที่อื่น ที่นี่จะมี for กับ sum (formative 1-2, summative)
กิจกรรมเยอะมาก ทั้งปีทั้งชาติ
ตอนสอบเข้ายากไหม?
กดดัน คนสอบมันเยอะ แล้วเค้าตัดแบบอิงกลุ่ม ไม่ได้มีเส้นผ่านไง เก่งให้ตายยังไงถ้าเจอคนเก่งกว่ามาสอบด้วย คุณก็มีสิทธิ์แห้ว มันกดดันนะ
ตอนสอบเตรียมฯ จำได้ว่ากดดันกว่ามหา'ลัยอีก ตอนสอบมหา'ลัย คำนวณคะแนนมาอะไรมายังมั่นใจว่ามีลุ้นติด แต่ตอนสอบเตรียมฯ นี่เราไม่รู้อะไรเลย
เตรียมฯ เป็นสังคมที่ดีมาก ครูมีความรู้และถ่ายทอดได้ดี สิ่งแวดล้อมก็ดี วันนี้ก็ยังคิดถึงเตรียมฯ อยู่ จริงอยู่ที่เตรียมฯ เป็นโรงเรียนทั่วๆ ไป แต่มันไม่เหมือนที่อื่นแน่ๆ ไม่เหมือนจริงๆ
อธิบายยากนะ เขียนห้วนๆ งงๆ ด้วย ขอโทษที พิมพ์ในโทรศัพท์ ขี้เกียจเปิดคอม
มันไม่เหมือนโรงเรียนอื่นจริงๆ ไม่เหมือนเลย อธิบายไม่ถูก ไม่ใช่ว่าดีกว่าหรอกนะ แต่ไม่เหมือน แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเลย
ยกตัวอย่างที่เห็นชัดๆ นะ อย่างโรงเรียนรัฐทั่วไป เด็กสายศิลป์มักจะโดนดูถูกว่าเป็นพวกอ่อน ไม่มีปัญญาสอบเข้าสายวิทย์ แต่ที่เตรียมฯ นี่ไม่ใช่ เด็กทุกสายคือเด็กเก่งที่ถนัดไม่เหมือนกัน เป็นต้น (อันนี้พูดจริงๆ เลย อย่างรร.เก่าพี่ตอนม.ต้น เด็กศิลป์มีแต่พวกนักกีฬาที่เรียนไม่เก่ง กับพวกสก็อยอ่ะ ส่วนรร.น้องพี่นี่เด็กสายศิลป์คือพวกเข้าสายวิทย์ไม่ได้)
เรื่องเรียนพิเศษ แล้วแต่คน ส่วนตัวพี่ พี่ไม่เรียน ไม่ชอบ
ความต่างจากโรงเรียนอื่นที่ชัดมากคือตอนเลือกมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหนูจะมีแค่สองตัวเลือกหลักคือจุฬาฯ กับมธ. หรือ มหิดลสำหรับพวกอยากเป็นหมอ และทุนต่างๆ ถามว่าเรียนม.อื่นมีไหม ก็มี แต่สองม.+มหิดล+ทุนคือตัวเลือกหลัก หลุดจากนี้ไปหนูจะโดนมองแปลกๆ นิดนึง แต่ไม่มีใครดูถูกใครนะ มันแค่แปลกอะ
การเรียนการสอน ไม่เหมือนที่อื่นแน่ๆ ข้อสอบวิเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ อ.บางวิชากวนมาก ชอบออกปรนัยโจทย์แปลกๆ แต่ถ้าไม่ใช่ไฟนอล ส่วนใหญ่จะออกอัตนัย ชื่อเรียกข้อสอบก็ไม่เหมือนที่อื่น ที่นี่จะมี for กับ sum (formative 1-2, summative)
กิจกรรมเยอะมาก ทั้งปีทั้งชาติ
ตอนสอบเข้ายากไหม?
กดดัน คนสอบมันเยอะ แล้วเค้าตัดแบบอิงกลุ่ม ไม่ได้มีเส้นผ่านไง เก่งให้ตายยังไงถ้าเจอคนเก่งกว่ามาสอบด้วย คุณก็มีสิทธิ์แห้ว มันกดดันนะ
ตอนสอบเตรียมฯ จำได้ว่ากดดันกว่ามหา'ลัยอีก ตอนสอบมหา'ลัย คำนวณคะแนนมาอะไรมายังมั่นใจว่ามีลุ้นติด แต่ตอนสอบเตรียมฯ นี่เราไม่รู้อะไรเลย
เตรียมฯ เป็นสังคมที่ดีมาก ครูมีความรู้และถ่ายทอดได้ดี สิ่งแวดล้อมก็ดี วันนี้ก็ยังคิดถึงเตรียมฯ อยู่ จริงอยู่ที่เตรียมฯ เป็นโรงเรียนทั่วๆ ไป แต่มันไม่เหมือนที่อื่นแน่ๆ ไม่เหมือนจริงๆ
อธิบายยากนะ เขียนห้วนๆ งงๆ ด้วย ขอโทษที พิมพ์ในโทรศัพท์ ขี้เกียจเปิดคอม
แสดงความคิดเห็น
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเป็นอย่างไร