การพิสูจน์หรือวิธีคิดในฌานสูตร

จากพระสูตรนี้

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต

ฌานสูตร

  [๒๔๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
เพราะอาศัยปฐมฌานบ้าง ทุติยฌานบ้าง ตติยฌานบ้าง จตุตถฌานบ้าง อากาสนัญจายตนฌานบ้าง ฯลฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย เพราะอาศัยเนวสัญญานาสัญญายตนฌานบ้าง ฯ
             ก็ข้อที่เรากล่าวว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
เพราะอาศัยปฐมฌานบ้าง ดังนี้นั้น เราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
สงัดจากกาม ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน เธอย่อมพิจารณาเห็นธรรมทั้งหลาย คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
อันมีอยู่ในขณะแห่งปฐมฌานนั้น โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นโรคเป็นดังหัวฝี เป็นดังลูกศร
ไม่มีสุข เป็นอาพาธ เป็นของผู้อื่น เป็นของชำรุด ว่างเปล่า เป็นอนัตตา
เธอย่อมยังจิตให้ตั้งอยู่ด้วยธรรมเหล่านั้น ครั้นแล้ว เธอย่อมโน้มจิตไปเพื่ออมตธาตุว่า
นั่นสงบ นั่นประณีต คือ ธรรมเป็นที่สงบแห่งสังขารทั้งปวง ความสละคืนอุปธิทั้งปวง ความสิ้นตัณหา
ความคลายกำหนัด ความดับ นิพพาน เธอตั้งอยู่ในปฐมฌานนั้น ย่อมถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
ถ้ายังไม่ถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย เธอย่อมเป็นอุปปาติกะจักปรินิพพานในภพนั้น
มีอันไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา เพราะโอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕ สิ้นไป ฯลฯ

ศึกษาพระสูตรเต็มๆได้ที่ http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=23&A=9041&Z=9145

จากพระสูตรนี้ เราจะมีวิธีขั้นการพิสูจน์หรือวิธีคิดเพื่อเชื่อได้ว่า
๑ แปลจากบาลีมาถูกต้องจริงหรือไม่อย่างไรได้บ้าง
๒ พระพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้จริงหรือไม่อย่างไรได้บ้าง
๓ สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสนั้นจริงหรือไม่อย่างไรได้บ้าง

และใช้วิธีขั้นตอนพิสูจน์หรือวิธีคิดนั้นๆ กับพระสูตรอื่นหรือกรณีอื่นๆได้หรือไม่

จะตอบตามหลักวิชาการ วิทยาศาสตร์ ตามใจฉัน ตามใจเมียยังไงก็ได้ครับ ไม่จำกัด
หรือจะทะเลาะกันก็ได้

ผมมีใจที่เปิดกว้างว่า สิ่งที่พิสูจน์ได้ อาจจะไม่จริง
สิ่งที่จริง อาจจะพิสูจน์ไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่