$$$$$TFD’ถึงเวลาเทิร์นอะราวด์ กางแผนซื้อหุ้นคืน-แจกวอร์$$$$$$$$

28 กรกฎาคม 2558 09:20

  
‘TFD’ถึงเวลาเทิร์นอะราวด์ กางแผนซื้อหุ้นคืน-แจกวอร์



ทันหุ้น-TFD ถึงเวลาแรง คอนเฟิร์มปี 2558 พลิกมีกำไร หลังมีสินทรัพย์-นิคมฯชั้นพีเมี่ยมรอบุ๊กเป็นกำไรและรายได้เพียบ พร้อมการรันตีปี 2559 โชว์กำไรก้าวกระโดด “อภิชัย เตชะอุบล” กางแผนซื้อหุ้นคืน 10% -ลดทุน-แถมแจกวอแรนต์ โวราคาหุ้นถูกสวนทางพื้นฐานเทริ์นอะราวด์ ฟากโบรกแนะสอย TFD ซ่อนมูลค่ากำไรรอรับรู้กว่า 1 หมื่นล้านบาท เคาะราคาเบื้องต้น6บาท

                นายอภิชัย เตชะอุบล รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD เปิดเผยว่า ปี 2558 มั่นใจจะพลิกทำกำไรสุทธิ จากปี 2557 ที่ขาดทุนสุทธิ 169.15 ล้านบาท และ ปี 2559 กำไรสุทธิจะเติบโตก้าวกระโดด

                ซื้อหุ้นคืน10%-ขายที่1.8พันไร่

                ดังนั้นเมื่อบริษัทพลิกมีกำไร บริษัทมีแผนที่จะพิจารณาซื้อหุ้นคืนประมาณ 10% หลังจากนั้นจะทำการลดทุนจดทะเบียนและจะพิจารณาเพิ่มสภาพคล่องด้วยการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrants) เป็นอันดับต่อไป เนื่องจากราคาหุ้นของ TFD ในขณะนี้ค่อนข้างถูกมาก เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่เป็นจริง        

                สำหรับตัวแปรสำคัญที่จะผลักดันให้ปี 2558 พลิกเป็นกำไร และ ปี 2559 เป็นต้นไปเติบโตก้าวกระโดด อาทิ 1. นิคมฯทีเอฟดี เฟส 2 บนเนื้อที่ 1.8 พันไร่ คาดว่าจะประกาศเปลี่ยนพื้นที่จากสีเขียวเป็นสีม่วงอย่างเป็นทางการภายใน 2 สัปดาห์นี้  โดยหลังจากนั้นจะทำการขอพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งเอกสารได้เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะผ่าน EIA ประมาณ 3-4 เดือนข้างหน้า และจะพิจารณาเร่งปรับปรุงและพัฒนาพร้อมขายทันที

                โดยพื้นที่ในนิคมฯทีเอฟดี เฟส 2 ติดริมถนนมอเตอร์เวย์ 4 กิโลเมตร สามารถขยายได้ถึง 2.8 พันไร่ ต้นทุนเฉลี่ยที่ 3 ล้านบาทต่อไร่ แต่บริษัทตั้งเป้าเสนอขายเฉลี่ย 9 ล้านบาทต่อไร่ ดังนั้นพื้นที่ดังกล่าวจะสร้างกำไรและรายได้ให้บริษัทสูงมาก โดยนิคมฯทีเอฟดี เฟส 2 จะเริ่มขายและรับรู้รายได้ในปี 2558 ทันที อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 30-35% ล่าสุดมีกลุ่มทุนต่างประเทศเข้ามาจองซื้อกว่า 200 ไร่แล้ว

                ทุนจีนดอดซื้อที่650ล.

                ส่วน 2. ภายในไตรมาส 3/2558 บริษัทจะนำโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าใน “โครงการ Green Park” เฟส 1 ของบริษัทย่อย “บริษัท โทเทิลอินดัสเตรียล เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ TISCOM” ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมฯทีเอฟดี เฟส 2 จำนวน 8 โรง ขนาดพื้นที่ 57,057 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท ขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT

                อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันมีกลุ่มทุนรายใหญ่จากประเทศจีน เข้ามาเจรจาขอซื้อโรงงานใน “โครงการ Green Park” เฟส 1 จำนวน 2 โรง มูลค่า 650 ล้านบาท เพื่อสร้าง  “โรงงานผลิตแผงโซลาร์” คาดว่าจะสรุปเซ็นสัญญญาณซื้อขายภายในเดือน สิงหาคม 2558 ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2558 เช่นเดียวกัน ดังนั้นทำให้เหลือโรงงานเพื่อขายเข้ากอง REIT จำนวน 6 โรง มูลค่า 1.2-1.3 พันล้านบาท มาร์จิ้น 30-35%

                โซ้ยกำไรเกินหมื่นล.

                สำหรับ 3. “โครงการ Green Park” เฟส 2 บางเสาธง บนที่ 16,400 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นพื้นที่สีม่วง โดยบริษัทจะทำเป็นโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าเพื่อเช่าและขายจำนวน 10 โรง ปัจุบันอยู่ระหว่างตอกเสาเข็มคาดก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 5-6 เดือนข้างหน้า โดยพร้อมเปิดขายและรับรู้รายได้ภายในปี 2558  นอกจากนี้ 4. “โครงการ Green Park” เฟส 3 บางเสาธง บนที่ 23,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เป็นพื้นที่สีม่วง ปัจจุบันตอกเสาเข็มแล้ว

                นอกจากนี้ 5. ลงทุนในประเทศอังกฤษ 2 โครงการ โดย 1. ชื่อ Barnley Warehouse อาคารคลังสินค้าพื้นที่ 15,816 ตารางเมตร ผู้เช่าระยะยาวเต็ม 100% อัตราผลตอบแทน 12.49% รายได้ค่าเช่า 37.05 ล้านบาทต่อปี และ 2. ชื่อ Bognor Regis Warehouse อาคารคลังสินค้าพื้นที่ 27,628 ตารางเมตร ผู้เช่าระยะยาวเต็ม 100% อัตราผลตอบแทน 12.94% รายได้ค่าเช่า 92.65 ล้านบาทต่อปี

                อีกทั้ง 6. โครงการอสังหาฯในประเทศ อาทิ  โครงการสุขุมวิท 15 มูลค่าโครงการที่เหลือ 2 พันล้านบาท มาร์จิ้น 30-35% พร้อมโอนและรับรู้รายได้ในปี 2558  , 7. โครงการใหม่ "The Harbour Residence " เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรูเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยารอบด้าน มีจำนวน 512 ยูนิต มูลโครงการรวม 2 พันล้านบาท เริ่มเปิดจองเดือน สิงหาคม 2558 ใช้เวลาก่อสร้าง 1ปีครึ่ง และ 8. ยังมี Office Building ให้เช่า 2 แห่ง คือ SG TOWER  และ MILLENIUM  TOWER  ซึ่งทั้ง 2 แห่งคืนทุนทั้งหมดแล้ว

                นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า  ฝ่ายวิจัยคาดว่า TFD จะขายกอง REIT มูลค่า 1.2-1.3 พันล้านบาท ภายในไตรมาส 3/2558 นี้ โดยให้ Net Margin ประมาณ 35% ซึ่งจะทำให้ปี 2558 TFD จะมีกำไรพิเศษจากการขายกองทุนฯเข้ามาประมาณ 350 ล้านบาท ,ขายโรงงานให้กลุ่มทุนจีนคาดมีกำไร 200 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมพื้นที่ในนิคมทีทีเอฟดี เฟส 2 ที่ 2.8 พันไร่ กำไร6 บาทต่อไร่  ดังนั้นเท่ากับว่าในอนาคต TFD มีกำไรที่ต้องรับรู้กว่า 1 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นแนะนำ "ซื้อ" เป้าหมาย 6.00 บาท





http://www.thunhoon.com/colum/24834/24834.html

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่