"เห้ยแกนัดกันเหอะ ไม่เจอนานแล้ว"
"ไปไหนดีอ่ะ"
"ไปบางกระเจ้ามะ ใกล้ๆอยากปั่นจักรยาน"
"หรือไปThe jam factory ดี อยากกินกาแฟชิลๆ"
"ท่ามหาราชก็อยากไปอะ อยากไปถ่ายรูป"
"งั้นไปสามที่เลยปะ เอาให้คุ้ม"
"โอเค ดีล"
และบทสนทนาอันแสนสั้น คุยจบภายในสิบนาทีก็สรุปได้ว่าเรากับเพื่อนจะไปเที่ยวกันสามที่ คือ บางกระเจ้า The Jam Factory และ ท่ามหาราช
(ส่วนสนามหลวงเป็นที่แถมมาก่อนกลับบ้านค่ะ)
และวันที่เราจะไปเที่ยวก็มาถึง เจ้าของกระทู้นัดกับเพื่อนสาวที่ท่าน้ำพระประแดงเวลา 08.30 แต่ก็เลทไป 09.00
และเราก็ออกเดินทางด้วยรถกระป๋อง(ซูบารุ) คันเล็กคันนี้ จะจอดอยู่ที่หน้าอำเภอ หาง่ายมากเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง
ราคาค่าเดินทางเข้าตลาดน้ำด้วยรถกระป๋องอยู่ที่ 10 บาทค่ะ
เรามาถึงตลาดน้ำเสร็จยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยขอหาอะไรมาเติมท้องให้อิ่มก่อน
ร้านที่เราเลือกเป็นร้านแบบนั่งกินกับพื้นค่ะ มีหลายร้านให้เลือกเลย เรากับเพื่อนตัดสินใจเลือกร้านก๋วยเตี๋ยว(แต่ไม่ได้กินแค่ก๋วยเตี๋ยว 55)
ประทับใจก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่สุด ไม่ต้องปรุง ราคาก็ไม่แพง 40 บาท(พิเศษใส่ไข่) ขนมจีบก็อร่อยราคาไม่แพงด้วยค่ะ 6 ลูก 20 บาท
หลังจากท้องอิ่มเราทั้งสองคนก็เดินเล่นในตลาดไปเรื่อยๆให้ย่อยก่อนเตรียมตัวไปปั่นจักรยานค่ะ
ซึ่งความเป็นจริงเราทั้งคู่ก็ไม่ได้หยุดแค่ก๋วยเตี๋ยวหรอกค่ะ
เพราะทั้งอาหาร ขนม ที่วางขายในตลาด มันทำให้อดใจไม่ไหวจริงๆ ต้องไปลองเดินดูค่ะ และจะรู้ว่าทำไมถึงอดใจไม่ได้ 55
หลังจากที่เรารู้สึกอิ่มกันพอใจแล้วเราก็ไปเช่าจักรยานกันที่ ร้านลุงแดง เช่าจักรยาน ค่ะ
ราคาเช่าชั่วโมงละ 30 บาท ทั้งวันคิด 80 บาท
เราสองคนเช่า 2 ชั่วโมงค่ะ เพราะต้องไปต่ออีกที่ The Jam Factory และ ท่ามหาราช กลัวเวลาไม่พอ
หลังจากเช่าจักรยานแล้วก็ลุยกันเลยค่ะ เริ่มจากขับออกจากร้านตรงมาทางถนนที่จะเข้ามาตลาดน้ำ(คือขับสวนกับทางที่เข้าตลาดน้ำค่ะ)
แล้วก็เลี้ยวขวาเพื่อออกถนนใหญ่ พอถึงถนนใหญ่เราก็เลี้ยวขวาค่ะ ขับตรงไปเรื่อยๆ มองหาซอยเพชรหึงส์ 33 แล้วก็เลี้ยวเข้าเลยค่ะ
ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆค่ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เส้นทางก่อนไปถึงบางกระเจ้า สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ก็จะมีต้นไม้ตลอดทางค่ะ
และเราก็มาถึงแล้วค่ะที่ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ (บางกระเจ้า)
พอเราเข้ามาถึงภายในสวนแล้ว อากาศดีมากๆค่ะ เย็นสบายต่างจากตอนก่อนเข้ามาเลยค่ะ
เราปั่นจักรยาน และแวะถ่ายรูปในบางกระเจ้าประมาณ 1 ชั่วโมงได้ค่ะ และเราก็ปั่นจักรยานกลับไปคืนที่ร้าน
รวมเป็นเวลา 2 ชั่วโมงพอดี
และเราก็แวะทานอาหารกลางวันที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก่อนที่จะเดินทางไปต่อที่ The Jam Factory ใกล้ๆกับตลาดนัดคลองสานค่ะ
ขากลับจากตลาดน้ำเราก็ใช้วิธีกลับแบบขามาค่ะ คือรถกระป๋อง 10 บาท และความโชคดีคือท่าน้ำพระประแดงเป็นท่ารถสาย 6 ที่ต้องผ่านคลองสาน
เรากับเพื่อนเลยกระโดดขึ้นรถไปต่อเลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็มาถึงป้ายรถเมล์ตลาดนัดคลองสานค่ะ (ต้องข้ามถนนมาอีกฝั่งที่ลงรถนะคะ)
The Jam Factory อยู่ใกล้ๆกับตลาดนัดคลองสาน สามารถเดินทะลุกันได้ค่ะ คือให้เลี้ยวซ้ายตรงซอยที่มีร้านวัตสันอยู่ตรงหัวมุม
ก็จะเจอกับป้าย The Jam Factory สีเหลือง ป้ายชัดเจนไม่หลงแน่นอนค่ะ
ภายใน The Jam Factory จะมีลานกว้างๆที่มีต้นไม้ให้ความร่มรื่นกับคนที่มาแวะเวียน
รูปโทนสีนี้เพราะลืมปรับกล้องค่ะ (แหะแหะ แต่ก็ดูอาร์ตๆเหมาะกับสถานที่ดีเนาะ)
และถ้าใครชอบนั่งจิบกาแฟชิลๆไปทำงานไป หรือเล่นโซเชียลไปตามสไตล์ Hipster
ก็ห้ามพลาดร้านกาแฟ Library ที่ตกแต่งร้านได้โปร่งน่านั่ง ไม่อึดอัด มี wifi ให้บริการด้วยค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มที่เราสั่งในวันนี้คือ Strawberry Smoothie รสชาติเปรี้ยวหวาน ชื่นใจดีค่ะ
และก็อย่าลืมสั่ง Library Waffle นะคะ เราเห็นว่าเกือบทุกโต๊ะสั่งกันทั้งนั้นค่ะ
รสชาติอร่อยค่ะ หวานๆมันๆ คล้ายกับขนมครกสิงคโปร์สีเขียวๆ แต่ทำออกมาในรูปแบบวาฟเฟิล กรอบๆ
และถ้าใครชอบอ่านหนังสือ และตามหาหนังสือดีดี ที่ The Jam Factory ก็มีร้านหนังสือ Candide Books
รวมทั้งที่จัดแสดงภาพอาร์ต แกลลอรี่ เล็กๆด้วยค่ะ
ในวันที่เราไป มีจัดแสดงภาพถ่ายฟิล์มของ คุณแพร นัดดา คุณแม่ของน้องโรมันค่ะ
ใครสนใจก็สามารถไปชมกันได้นะคะ จัดถึง 6 กันยายน 2558 ค่ะ
หลังจากที่เราสองคนถ่ายรูปกันหนำใจที่ The Jam Factory แล้ว เราก็ไปกันต่อที่ ท่ามหาราช
และเราก็ได้เพื่อร่วมทางเพิ่มมาอีกหนึ่งคน คือ พี่สาวที่เห็นว่าเรามาที่ The Jam Factory ก็เลยอยากมา
และก็บังเอิญเจอกัน เราเลยชวนพี่เค้าไปกับเราด้วย เป็นสามสาวเล่าเรื่อง 555
เราข้ามเรือจากท่าเรือคลองสานไปลงที่ท่าเรือสี่พระยา และเดินไปที่ท่าเรือกรมเจ้าท่า และต่อเรือด่วนธงเหลืองไปลง ท่ามหาราช
ท่ามหาราช เรารู้สึกว่าเหมือนกับเดิน Community mall ที่ใกล้แม่น้ำ ได้เปรียบตรงเรื่องของนักท่องเที่ยวที่แวะมาวัดพระแก้ว
หรือวัดรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ก็แวะมาที่นี่ได้ ลมเย็นสบาย แต่ก็ยังเหมือนไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% แต่นักท่องเที่ยวก็มีมาเยอะทีเดียวค่ะ
เหมาะกับคนที่ชอบอากาศเย็นๆ ถ่ายรูปริมแม่น้ำ
เราอยู่ที่มหาราชไม่นานค่ะ เรากลับผู้ร่วมทริปตกลงกันว่าไปสนามหลวงกันดีกว่าก่อนกลับบ้าน
สนามหลวงจึงเป็นที่สุดท้ายที่ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่ก็สร้างความประทับใจให้เราได้มากไม่แพ้สามที่ที่เราไปมา
ระหว่างทางที่จะถึงสนามหลวง เราก็ได้เก็บภาพท้องฟ้า และ วัดพระแก้วมาด้วยค่ะ
ท้องฟ้าในวันนี้สดใสมาก มองแล้วสบายตาดีจริงๆ
เรามาถึงสนามหลวงก็นั่งพักกันครู่หนึ่ง แอบเมาท์คนโน้นคนนี้ไป 555
แต่ที่ประทับใจคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็มาถ่ายรูป ทำท่าน่ารักๆ กันเป็นหมู่คณะกันที่สนามหลวงด้วย
หันไปอีกกลุ่มก็เป็นน้องๆบัณฑิตจบใหม่ที่กำลังถ่ายรูปกันอยู่
และก็มีคนมาออกกำลังกายกันเยอะเลยค่ะ
สำหรับการไปเที่ยวแบบ one day trip ของเราในครั้งนี้ก็ถือว่าสนุกได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างในวันเดียว
และได้มารีวิวที่พันทิปเป็นครั้งแรกแบบนี้ และเราคิดว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ให้ใครหลายๆคนได้นะคะ
ติดตามการเที่ยวตามใจของเราแบบนี้เพิ่มได้ที่ เพจ Facebook กลิ้งตามใจ นะคะ
www.facebook.com/klingtarmjai
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
[CR] รีวิว จากบางกระเจ้า>>The Jam Factory>>ท่ามหาราช>>สนามหลวง (one day trip)
"ไปไหนดีอ่ะ"
"ไปบางกระเจ้ามะ ใกล้ๆอยากปั่นจักรยาน"
"หรือไปThe jam factory ดี อยากกินกาแฟชิลๆ"
"ท่ามหาราชก็อยากไปอะ อยากไปถ่ายรูป"
"งั้นไปสามที่เลยปะ เอาให้คุ้ม"
"โอเค ดีล"
และบทสนทนาอันแสนสั้น คุยจบภายในสิบนาทีก็สรุปได้ว่าเรากับเพื่อนจะไปเที่ยวกันสามที่ คือ บางกระเจ้า The Jam Factory และ ท่ามหาราช
(ส่วนสนามหลวงเป็นที่แถมมาก่อนกลับบ้านค่ะ)
และวันที่เราจะไปเที่ยวก็มาถึง เจ้าของกระทู้นัดกับเพื่อนสาวที่ท่าน้ำพระประแดงเวลา 08.30 แต่ก็เลทไป 09.00
และเราก็ออกเดินทางด้วยรถกระป๋อง(ซูบารุ) คันเล็กคันนี้ จะจอดอยู่ที่หน้าอำเภอ หาง่ายมากเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง
ราคาค่าเดินทางเข้าตลาดน้ำด้วยรถกระป๋องอยู่ที่ 10 บาทค่ะ
เรามาถึงตลาดน้ำเสร็จยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยขอหาอะไรมาเติมท้องให้อิ่มก่อน
ร้านที่เราเลือกเป็นร้านแบบนั่งกินกับพื้นค่ะ มีหลายร้านให้เลือกเลย เรากับเพื่อนตัดสินใจเลือกร้านก๋วยเตี๋ยว(แต่ไม่ได้กินแค่ก๋วยเตี๋ยว 55)
ประทับใจก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่สุด ไม่ต้องปรุง ราคาก็ไม่แพง 40 บาท(พิเศษใส่ไข่) ขนมจีบก็อร่อยราคาไม่แพงด้วยค่ะ 6 ลูก 20 บาท
หลังจากท้องอิ่มเราทั้งสองคนก็เดินเล่นในตลาดไปเรื่อยๆให้ย่อยก่อนเตรียมตัวไปปั่นจักรยานค่ะ
ซึ่งความเป็นจริงเราทั้งคู่ก็ไม่ได้หยุดแค่ก๋วยเตี๋ยวหรอกค่ะ
เพราะทั้งอาหาร ขนม ที่วางขายในตลาด มันทำให้อดใจไม่ไหวจริงๆ ต้องไปลองเดินดูค่ะ และจะรู้ว่าทำไมถึงอดใจไม่ได้ 55
หลังจากที่เรารู้สึกอิ่มกันพอใจแล้วเราก็ไปเช่าจักรยานกันที่ ร้านลุงแดง เช่าจักรยาน ค่ะ
ราคาเช่าชั่วโมงละ 30 บาท ทั้งวันคิด 80 บาท
เราสองคนเช่า 2 ชั่วโมงค่ะ เพราะต้องไปต่ออีกที่ The Jam Factory และ ท่ามหาราช กลัวเวลาไม่พอ
หลังจากเช่าจักรยานแล้วก็ลุยกันเลยค่ะ เริ่มจากขับออกจากร้านตรงมาทางถนนที่จะเข้ามาตลาดน้ำ(คือขับสวนกับทางที่เข้าตลาดน้ำค่ะ)
แล้วก็เลี้ยวขวาเพื่อออกถนนใหญ่ พอถึงถนนใหญ่เราก็เลี้ยวขวาค่ะ ขับตรงไปเรื่อยๆ มองหาซอยเพชรหึงส์ 33 แล้วก็เลี้ยวเข้าเลยค่ะ
ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆค่ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เส้นทางก่อนไปถึงบางกระเจ้า สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ก็จะมีต้นไม้ตลอดทางค่ะ
และเราก็มาถึงแล้วค่ะที่ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ (บางกระเจ้า)
พอเราเข้ามาถึงภายในสวนแล้ว อากาศดีมากๆค่ะ เย็นสบายต่างจากตอนก่อนเข้ามาเลยค่ะ
เราปั่นจักรยาน และแวะถ่ายรูปในบางกระเจ้าประมาณ 1 ชั่วโมงได้ค่ะ และเราก็ปั่นจักรยานกลับไปคืนที่ร้าน
รวมเป็นเวลา 2 ชั่วโมงพอดี
และเราก็แวะทานอาหารกลางวันที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก่อนที่จะเดินทางไปต่อที่ The Jam Factory ใกล้ๆกับตลาดนัดคลองสานค่ะ
ขากลับจากตลาดน้ำเราก็ใช้วิธีกลับแบบขามาค่ะ คือรถกระป๋อง 10 บาท และความโชคดีคือท่าน้ำพระประแดงเป็นท่ารถสาย 6 ที่ต้องผ่านคลองสาน
เรากับเพื่อนเลยกระโดดขึ้นรถไปต่อเลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็มาถึงป้ายรถเมล์ตลาดนัดคลองสานค่ะ (ต้องข้ามถนนมาอีกฝั่งที่ลงรถนะคะ)
The Jam Factory อยู่ใกล้ๆกับตลาดนัดคลองสาน สามารถเดินทะลุกันได้ค่ะ คือให้เลี้ยวซ้ายตรงซอยที่มีร้านวัตสันอยู่ตรงหัวมุม
ก็จะเจอกับป้าย The Jam Factory สีเหลือง ป้ายชัดเจนไม่หลงแน่นอนค่ะ
ภายใน The Jam Factory จะมีลานกว้างๆที่มีต้นไม้ให้ความร่มรื่นกับคนที่มาแวะเวียน
รูปโทนสีนี้เพราะลืมปรับกล้องค่ะ (แหะแหะ แต่ก็ดูอาร์ตๆเหมาะกับสถานที่ดีเนาะ)
และถ้าใครชอบนั่งจิบกาแฟชิลๆไปทำงานไป หรือเล่นโซเชียลไปตามสไตล์ Hipster
ก็ห้ามพลาดร้านกาแฟ Library ที่ตกแต่งร้านได้โปร่งน่านั่ง ไม่อึดอัด มี wifi ให้บริการด้วยค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มที่เราสั่งในวันนี้คือ Strawberry Smoothie รสชาติเปรี้ยวหวาน ชื่นใจดีค่ะ
และก็อย่าลืมสั่ง Library Waffle นะคะ เราเห็นว่าเกือบทุกโต๊ะสั่งกันทั้งนั้นค่ะ
รสชาติอร่อยค่ะ หวานๆมันๆ คล้ายกับขนมครกสิงคโปร์สีเขียวๆ แต่ทำออกมาในรูปแบบวาฟเฟิล กรอบๆ
และถ้าใครชอบอ่านหนังสือ และตามหาหนังสือดีดี ที่ The Jam Factory ก็มีร้านหนังสือ Candide Books
รวมทั้งที่จัดแสดงภาพอาร์ต แกลลอรี่ เล็กๆด้วยค่ะ
ในวันที่เราไป มีจัดแสดงภาพถ่ายฟิล์มของ คุณแพร นัดดา คุณแม่ของน้องโรมันค่ะ
ใครสนใจก็สามารถไปชมกันได้นะคะ จัดถึง 6 กันยายน 2558 ค่ะ
หลังจากที่เราสองคนถ่ายรูปกันหนำใจที่ The Jam Factory แล้ว เราก็ไปกันต่อที่ ท่ามหาราช
และเราก็ได้เพื่อร่วมทางเพิ่มมาอีกหนึ่งคน คือ พี่สาวที่เห็นว่าเรามาที่ The Jam Factory ก็เลยอยากมา
และก็บังเอิญเจอกัน เราเลยชวนพี่เค้าไปกับเราด้วย เป็นสามสาวเล่าเรื่อง 555
เราข้ามเรือจากท่าเรือคลองสานไปลงที่ท่าเรือสี่พระยา และเดินไปที่ท่าเรือกรมเจ้าท่า และต่อเรือด่วนธงเหลืองไปลง ท่ามหาราช
ท่ามหาราช เรารู้สึกว่าเหมือนกับเดิน Community mall ที่ใกล้แม่น้ำ ได้เปรียบตรงเรื่องของนักท่องเที่ยวที่แวะมาวัดพระแก้ว
หรือวัดรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ก็แวะมาที่นี่ได้ ลมเย็นสบาย แต่ก็ยังเหมือนไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% แต่นักท่องเที่ยวก็มีมาเยอะทีเดียวค่ะ
เหมาะกับคนที่ชอบอากาศเย็นๆ ถ่ายรูปริมแม่น้ำ
เราอยู่ที่มหาราชไม่นานค่ะ เรากลับผู้ร่วมทริปตกลงกันว่าไปสนามหลวงกันดีกว่าก่อนกลับบ้าน
สนามหลวงจึงเป็นที่สุดท้ายที่ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่ก็สร้างความประทับใจให้เราได้มากไม่แพ้สามที่ที่เราไปมา
ระหว่างทางที่จะถึงสนามหลวง เราก็ได้เก็บภาพท้องฟ้า และ วัดพระแก้วมาด้วยค่ะ
ท้องฟ้าในวันนี้สดใสมาก มองแล้วสบายตาดีจริงๆ
เรามาถึงสนามหลวงก็นั่งพักกันครู่หนึ่ง แอบเมาท์คนโน้นคนนี้ไป 555
แต่ที่ประทับใจคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็มาถ่ายรูป ทำท่าน่ารักๆ กันเป็นหมู่คณะกันที่สนามหลวงด้วย
หันไปอีกกลุ่มก็เป็นน้องๆบัณฑิตจบใหม่ที่กำลังถ่ายรูปกันอยู่
และก็มีคนมาออกกำลังกายกันเยอะเลยค่ะ
สำหรับการไปเที่ยวแบบ one day trip ของเราในครั้งนี้ก็ถือว่าสนุกได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างในวันเดียว
และได้มารีวิวที่พันทิปเป็นครั้งแรกแบบนี้ และเราคิดว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ให้ใครหลายๆคนได้นะคะ
ติดตามการเที่ยวตามใจของเราแบบนี้เพิ่มได้ที่ เพจ Facebook กลิ้งตามใจ นะคะ
www.facebook.com/klingtarmjai
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ