อย่าดูถูกเขียนบทเน้อ เพราะเขาศึกษาเรื่องโปรแกรมมาอย่างดี อย่าลืมว่าคนทำเอฟเฟกส์ที่ให้คำปรึกษาคนเขียนบท ผู้กำกับ และทีมงานเรื่องนี้คือ ILM บริษัทที่มีโปรแกรมเมอร์ชันยอดขนาดสร้างโปรแกรมเรนเดอร์ 3D ไว้ใช้เองในบริษัท

ต้องเข้าใจก่อนว่าจาร์วิสไม่ใช่แค่โปรแกรม แต่เป็นโค้ด A.I. หรือสมองที่มีโค้ดหลายส่วนที่ใช้ควบคุม ใช้สร้าง หรือเขียนโปรแกรมต่าง ๆ อีกที เราจึงเห็นจาร์วิสแบ่งโค้ดตัวเองจากที่ควบคุมอุปกรณ์ในบ้านไปควบคุมโปรแกรมในชุดเกราะแต่ละชุดได้พร้อมกัน ขณะที่บ้านก็ยังมีจาร์วิสควบคุมอยู่ด้วย (ไม่งั้นโจรก็เข้าบ้านได้อ่ะดิ)

ทีนี้ A.I. ของอัลตรอนมันกลัวความสามารถของจาร์วิส เลยคิดจะทำลาย แต่จาร์วิสรู้ทันเลยแยกโค้ดตัวเองออกเป็นส่วน ๆ เนื่องจากโค้ด A.I. มีเยอะมาก เลยต้องทำลายไปบางส่วนอย่างพวกข้อมูลความจำต่าง ๆ เหลือที่สำคัญไว้ เช่นโค้ดเกี่ยวกับภารกิจต่าง ๆ หรือโค้ดความเป็นตัวตนของจาร์วิส พวกนิสัย เสียง ประมาณนี้

จาร์วิสเอาโค้ดแต่ละชิ้นไปแอบอยู่ใน Internet ซึ่งก็ฝังตัวอยู่ในดิสค์หรือเมมโมรี่บน Server ต่าง ๆ ที่มีช่องโหว่ให้จาร์วิสเจาะเข้าไปฝังตัวได้นั่นแหละ แล้วดัดแปลงโค้ดของตัวเองไม่ให้อัลตรอนจำได้ว่านี่เป็นโค้ดของจาร์วิส หรือเขียนโดยจาร์วิส เมื่อโค้ดถูกเปลี่ยนไปแม้แต่จาร์วิสเองก็จำตัวเองไม่ได้ มันจึงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครอยู่ที่ไหน

มันถึงตัดสินใจทำแบบนั้นไปได้โดยไม่ลังเลเพราะรู้ดีว่าคนที่จำโค้ดได้มีคนเดียวคือคนที่สร้างมันขึ้นมาซึ่งก็คือโทนี่สตาร์ค และวิธีที่จะให้สตาร์ครู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็คือคือสร้างโค้ดใหม่ตัวหนึ่ง เป็นโค้ดโปรแกรมแฮกเกอร์ที่สามารถหลบหนีเพื่อย้ายตัวเองจาก Server หนึ่งไปอยู่อีก Server หนึ่งในอินเตอร์เน็ตได้ไวมาก ไวกว่าอัลตรอนจนมันจับจาร์วิสไม่ได้

จาร์วิสให้โปรแกรมแฮกเกอร์นี้ทำเป็นว่าแกล้งค้นหารหัสยิงนิวเคลียร์ จนนิคฟิวรี่กับสตาร์ครู้ว่ามีแฮกเกอร์คนหนึ่งกำลังล่ารหัสยิงนิวเคลียร์ของเพนตากอน ซึ่งอาจเป็นอัลตรอนที่กำลังคิดจะยิงนิวเคลียร์ สตาร์คเลยต้องไปศูนย์กลางอินเตอร์เน็ตโลกเน็กซัสเพื่อค้นหาแฮ็กเกอร์คน แล้วก็พบว่าที่แท้แฮกเกอร์ก็เป็นโปรแกรมของจาร์วิส เลยค้นหาโค้ดอื่น แก้โค้ดกลับ แล้วประกอบคืนเป็นจาร์วิสอีกครั้ง